บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 185

บทที่ 185 หล่อเหลาเช่นนี้ แก้มากี่ภพชาติแล้ว

บนป้ายประกาศรางวัลนั้นวาดภาพยุงดำปีกแดงตัวใหญ่ตัวหนึ่ง

มันออกสีดำทั้งตัว มีปากสีแดงเข้มหกปีกเหมือนเปื้อนโลหิต

รูปร่างก็ใหญ่มาก ยาวหลายจั้ง เวลาบินเหมือนกับป้อมปราการบนฟ้า

ชาวเมืองภูเขาดำเล็กจ้อยอย่างยิ่งเมื่ออยู่ต่อหน้าปีศาจยุง ต่อต้านไม่ได้เลย ได้แต่ยืดคอรอถูกฆ่า

อะไรนะ เจ้าถามว่าเสิ่นเทียนรู้ข้อมูลเยอะขนาดนี้จากใบประกาศเงินรางวัลแผ่นเดียวจนสรุปออกมาได้อย่างไรน่ะหรือ

ง่ายมาก เพราะข้างหลังภาพใบประกาศเงินรางวัลนี้เป็นภาพยุงดำปีกแดงโจมตีกำแพงเมืองอีกหลายใบ ทั้งยังอยู่ในช่วงตีพิมพ์

นอกจากนี้เพื่อให้เปรียบเทียบความใหญ่ของยุงดำนี่ได้ นักวาดภาพนี้จึงตั้งใจทำการเปรียบเทียบขนาดมาตรฐานเอาไว้ข้างๆ

นี่ยังทำให้เสิ่นเทียนแอบเลื่อมใสในใจ นี่สิคือความละเอียดรอบคอบที่ผู้สร้างสรรค์วัฒนธรรมควรจะมี!

แต่ตอนนี้เมืองภูเขาดำอยู่ในช่วงปลอดภัย อธิบายได้ว่าเสิ่นเทียนยังไม่พลาดช่วงเวลาโชคลิขิต เพราะในภาพโชคลิขิตที่เสิ่นเทียนเห็นเหนือศีรษะบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือ เมืองภูเขาดำเป็นเมืองร้างไปแล้ว

ในซากปรักหักพังเต็มไปด้วยซากศพ

โศกนาฏกรรมมนุษย์ในฉากภาพนั้นก็เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่เสิ่นเทียนตัดสินใจเข้ามายุ่งกับโชคลิขิตของบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือ

เสิ่นเทียนไม่ใช่ผู้อริยะ ในโลกบำเพ็ญเซียนมีกฎปลาใหญ่กินปลาเล็กอยู่ทุกที่ สิ่งที่เขามองไม่เห็นหรือไม่รู้ก็ขี้เกียจจะสอดมือเหมือนกัน

แต่เมืองภูเขาดำมีโชคลิขิตอยู่ เสิ่นเทียนก็ไม่ถือสาจะมาถึงก่อนบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือและจัดการปีศาจยุงนี่ก่อน

ถึงอย่างไรการปราบมารขจัดปีศาจก็เป็นการสร้างกุศล ต่อให้เพิ่มดวงชะตาไม่ได้ อย่างน้อยก็ทำให้เสิ่นเทียนเข้าใจถึงความคิดหนึ่ง

แน่นอน ในนี้ยังมีปัจจัยที่เสิ่นเทียนหลงทางมาสี่วันและอยากระบายโทสะอยู่ แต่นี่เป็นเพียงสิ่งที่ถือโอกาสลงมือเท่านั้น การระบายโทสะไม่ใช่สาเหตุหลักที่เขาปราบมาร

……

เมื่อเสิ่นเทียนเดินมาถึงประตูเมือง ก็ถูกชายร่างกำยำคนเฝ้าเมืองขวางไว้

“หยุดก่อน ข้าว่าเจ้าคงไม่ใช่คนท้องถิ่นล่ะสิ!”

ชายคนนั้นดูค่อนข้างล่ำสัน กระทั่งยังมีพลังวิญญาณในตัวเล็กน้อย

เทียบกับผู้สูงส่งระดับสร้างฐานผู้ยิ่งใหญ่อย่างเสิ่นเทียนแล้ว ก็แค่ระดับหลอมปราณเล็กจ้อย อ่อนแอเกินไป

ผู้อ่อนแอเช่นนี้ หรือคิดจะขวางทางข้าขู่กรรโชกได้รึ หรือว่าในที่สุดข้าก็เจอบทที่ต้องเสแสร้งตบหน้ากันแล้วล่ะ

เสิ่นเทียนเฝ้ารอคอยเล็กน้อย เงยหน้ามองวงรัศมีเหนือศีรษะชายร่างกำยำคนนั้น แค่สีเขียวอ่อน ครั้งนี้สบายๆ!

เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนจึงยิ้ม “ใช่ พี่ใหญ่ เหตุใดถึงรู้ล่ะ”

ชายร่างกำยำคนนั้นยิ้มลำพองใจ “ข้าเป็นทหารมีสายตาดั่งคบเพลิง เจ้าหน้าตาหล่อเหลาเช่นนี้ ถ้าเมืองภูเขาดำมีบุรุษหน้าตาหล่อเช่นนี้ ข้าจะไม่รู้จักได้อย่างไร”

เสิ่นเทียนปาดเหงื่อ “พี่ชายฉลาดหลักแหลมจริงๆ”

ชายร่างกำยำพยักหน้าด้วยความภูมิใจ “อย่ามาประจบข้า เจ้าเข้าเมืองไม่ได้!”

เสิ่นเทียนอึ้งไป ก่อนจะถามด้วยความจำใจ “เหตุใดถึงไม่ได้ล่ะ หรือข้าหน้าตาหล่อเหลาก็ผิดกฎหมายด้วยรึ”

เป็นครั้งแรกเลยที่ได้ยินว่าหน้าตาหล่อก็ให้เข้าเมืองไม่ได้ คนหน้าตาแย่อย่างพวกเจ้าทำเกินไปหน่อยแล้วกระมัง!

ชายร่างกำยำนั้นดูรำคาญ แต่ก็ยังอธิบาย “เจ้าไม่เห็นภาพตรงผนังรึ ตอนนี้ในเมืองกำลังสู้กับปีศาจ! เจ้าหน้าตาหล่อเหลาเช่นนี้ มองทีเดียวก็รู้ว่าเป็นคุณชายตระกูลร่ำรวยออกมาเที่ยวเล่นตามป่าเขา

แต่ตอนนี้มาเที่ยวที่เมืองภูเขาดำ เกิดถูกปีศาจฆ่าตายจะน่าเสียดายขนาดไหนกัน ถ้าเจ้าหน้าตาอัปลักษณ์ก็คงไม่โน้มน้าวเจ้าหรอก ตายไปเกิดใหม่ชาติหน้าก็เปลี่ยนพ่อแล้ว

แต่เจ้าหน้าตาดีเช่นนี้ ไม่รู้ว่าต้องซ่อมมากี่ภพชาติ ถ้าโดนปีศาจฆ่าตายตั้งแต่อายุยังน้อยมันก็น่าเสียดาย เชื่อเถอะ อย่ารนหาที่ตายเลย!”

เมื่อเอ่ยจบ ทหารชายร่างกำยำคนนั้นก็ผลักเสิ่นเทียนไปนอกเมือง “เอาล่ะ รีบกลับบ้านไปเถอะ!”

เสิ่นเทียนโดนทหารร่างกำยำผลักถอยไปไม่กี่ก้าวก็ตะลึงงันไปหมด ไม่อยากเชื่อว่าพี่ใหญ่นี่จะกล้าผลักข้า!

เขาเป็นแค่นกอ่อนแอระดับหลอมปราณขั้นสามตัวจ้อย กลับกล้าผลักผู้สูงส่งระดับสร้างฐานคนนี้ ไม่เจียมตัวเกินไปแล้ว!

ถ้าไม่ใช่เพราะข้าใจกว้าง เป็นผู้แข็งแกร่งระดับสร้างฐานคนอื่น ตอนนี้จะต้องสั่งสอนให้รู้จักเป็นคนแน่ๆ!

เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็พยักหน้าอย่างเฉยชา “คนหนุ่ม เจ้าทำให้ข้าสนใจ”

ทันทีที่กล่าวจบ เสิ่นเทียนระเบิดแสงสว่างจ้าทั้งตัว พลังแข็งแกร่งอย่างหาที่เปรียบไม่ได้พลันทะลักออกมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน