บทที่ 197 ท่านคู่ควรให้ปลอมเป็นศิษย์พี่เสิ่นเอ้ารึ!
ณ ตำหนักกระบี่ประกายพรึก
รอบนอกสนามรบบรรพกาล ตำหนักนอกเมืองอันเป็นที่พักของศิษย์แดนเทวาดาวประกายพรึก
ภายในสวนดอกไม้ข้างหลัง ชายชุดคลุมขาวคนหนึ่งกำลังกวัดแกว่งกระบี่
ไอกระบี่สีแดงสว่างจ้ารวมที่คมกระบี่ สะท้อนไปสามฉื่อ ตัดสลับกันร้ายแรงเป็นหนึ่ง
ในความเลือนรางยังเหมือนเห็นร่างเงาตะวันสีแดงดวงหนึ่งรวมขึ้นกลางคมกระบี่
“เคล็ดกระบี่อรุโณทัยรูปแบบที่สอง…ธารรุ้งทะลวงตะวัน!”
ชายคนนั้นแค่นเสียงขึ้นจมูก ไอกระบี่สามฉื่อในตอนแรกพลันเพิ่มขึ้นหลายเท่าจนมีความยาวจั้งกว่า
ไอกระบี่ยักษ์พลันตกลงมา ฟันใส่พื้นเป็นร่องชัดเจน
อานุภาพของกระบี่นี้มากพอจะทำให้ปุถุชนต้องกราบไหว้!
หลังกวัดแกว่งกระบี่นี้ออกไป ใบหน้าเขาก็ซีดขาวเล็กน้อย ดูเสียพลังไปไม่น้อย
เขาเดินมาหน้านักกระบี่ชุดคลุมม่วงช้าๆ ก่อนโค้งตัว “อาจารย์ ศิษย์แสดงจบแล้วขอรับ”
ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางพยักหน้าเล็กน้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยความปลื้มใจ “ไม่เลวๆ ในครึ่งเดือนกว่าสั้นๆ ก็ฝึกเคล็ดกระบี่อรุโณทัยรูปแบบสองสำเร็จแล้ว
เอ้าเอ๋อร์ เจ้าคือหน่ออ่อนดีแห่งวิถีกระบี่จริงๆ แน่นอน หลักๆ เห็นเพราะศิษย์พี่ธารนิรันดร์สอนดี ศิษย์พี่ประเมินเจ้าไว้ใช้ได้เช่นกัน ภายภาคหน้าถ้าว่างก็ไปฝึกภูเขาข้างหลังเยอะๆ จะต้องรู้นะว่าคมกระบี่ล้ำค่ามาจากการลับคม จะเกียจคร้านไม่ได้!”
เสิ่นเอ้ามีสีหน้าหวาดกลัว อะไรคือจากนี้ให้ไปฝึกภูเขาข้างหลังเยอะๆ
ตาแก่นี่แย่มาก รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองไม่อยากไปภูเขาข้างหลัง ก็เลยจะหาแพะรับบาป!
เสิ่นเอ้าไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิตว่าช่วงเวลาครึ่งเดือนมานี้ตนผ่านอะไรมาบ้าง นี่มันใช่การฝึกบำเพ็ญเซียนถามมรรคที่ไหนกัน!
นี่มันทารุณตัวเองชัดๆ!
แต่พอนึกได้ว่าตอนนี้ศิษย์พี่หลี่ฉางเกอยังถูกทารุณอยู่ เสิ่นเอ้าก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก
ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ใช่คนที่อนาถที่สุด!
ภายในใจพูดแขวะอาจารย์ไร้คุณธรรมของตนอย่างบ้าคลั่ง แต่ปากกลับพูดประจบ
เสิ่นเอ้ายิ้ม “ขอรับ อาจารย์”
ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางพยักหน้าอย่างพอใจ เขาพอใจศิษย์คนนี้ที่เพิ่งรับมามาก
เติบโตในวังตั้งแต่เยาว์วัย แต่ไม่มีนิสัยเลวทรามของราชนิกุลส่วนใหญ่ นิสัยยังคงสุขุม รอบคอบ ไม่ต้อยต่ำหรือโอหัง
อีกทั้งตอนฝึกกระบี่ยังทนลำบากได้ พึงรู้ไว้ว่าคนหนุ่มสาวที่รับการฝึกของศิษย์พี่ธารนิรันดร์ได้มีไม่มาก
ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางเชื่อว่าขอแค่เสิ่นเอ้ารักษามาตรฐานแบบนี้ต่อไป ภายภาคหน้าต้องมีหวังทุบแก่นเป็นดรุณ เป็นผู้สูงศักดิ์ระดับดวงจิตดรุณที่น่าเคารพคนหนึ่งแน่นอน
ถึงตอนนั้นก็อาจจะไม่แพ้ให้น้องชายบุตรศักดิ์สิทธิ์นั่น
ถึงอย่างไรเส้นทางเซียนก็ยาวไกล เบื้องหลังยากจะเป็นตัวแทนของทุกอย่าง ผู้แข็งแกร่งที่ผงาดขึ้นจากขุมอำนาจเล็กๆ ก็มีไม่น้อย
ผู้ฝึกบำเพ็ญเซียนที่เกิดจากครอบครัวธรรมดาอย่างผู้สูงศักดิ์จื่อหยางส่วนใหญ่ก็เชื่อมั่นกันเช่นนี้!
เมื่อคิดได้ดังนั้น ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางก็คิดว่าควรจะให้กำลังใจเสิ่นเอ้าลูกศิษย์ของตนหน่อย
เขาพูดนิ่งๆ ว่า “เอ้าเอ๋อร์ วันนี้อาจารย์จะถ่ายทอดความจริงแห่งวิถีกระบี่ให้เจ้า!
ชาตินี้ผู้บำเพ็ญกระบี่เยี่ยงข้าก็มีความทระนง กระบี่สามฉื่อยอมหักไม่ยอมงอ!
ขอเพียงใจมีกระบี่ก็จะส่องคมไปทั่วเก้าแดนดิน!
แม้พรสวรรค์ของเจ้าจะไม่ถือว่าสูงส่ง แต่ถ้าพยายามมากพอก็จะก้าวหน้าในวิถีกระบี่ เหนือกว่าโอรสสวรรค์พวกนั้น!
เจ้าเข้าใจหลักการนี้หรือไม่”
ในสายตาผู้สูงศักดิ์จื่อหยาง คุณสมบัติอย่างเสิ่นเอ้าคงใช้ได้แค่คำว่าไม่เลว ยังห่างไกลกับคำว่าโอรสสวรรค์ ถึงอย่างไรเมื่อเทียบอาณาจักรต้าเหยียนกับทั้งดินแดนบูรพาแล้ว มันเล็กจนไม่มีค่าให้เอ่ยถึงจริงๆ!
จุดนี้เสิ่นเอ้าได้เข้าใจในช่วงครึ่งเดือนมานี้แล้ว
และยังเคยกระทบกระเทือนถึงจิตใจเพราะเรื่องนี้ ถึงกับหมดอาลัยตายอยาก
แต่ตอนนี้พอได้ฟังบทความสวยหรูของอาจารย์แล้ว ภายในใจเสิ่นเอ้าจุดความมุ่งมั่นในการต่อสู้ขึ้นมาใหม่ พลังปราณเดิมเปี่ยมล้น
เขาฉุกคิดอะไรได้ ดวงตาเปล่งประกายแสงออกมา “ขอบคุณที่อาจารย์สั่งสอน ศิษย์เข้าใจแล้ว! ศิษย์จะฝึกฝนกระบี่ต่อไป! สักวันหนึ่ง กระบี่จะเปิดประตูสวรรค์ ผ่าฟ้าดินส่องสว่าง!”
ตอนนี้เสิ่นเอ้าเหมือนจะเข้าใจแล้ว
ทันใดนั้นเองมีศิษย์คนหนึ่งวิ่งเข้ามาในสวนดอกไม้ข้างหลัง “เรียนอาจารย์ลุงจื่อหยาง ศิษย์จากแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกมาขอรับ”
ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางขมวดคิ้วเล็กน้อย “ศิษย์จากแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกมาทำอะไร ฝ่ายเรามีคนไปก่อเรื่องรึ”
ศิษย์คนนั้นส่ายหน้า “ไม่ใช่ขอรับ คนที่มาคือท่านหญิงเซียนเซียวหลิงแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยก บอกว่ามาขอพบศิษย์พี่เสิ่นเอ้า อีกทั้ง…อีกทั้งศิษย์ยังได้ยินศิษย์น้องหญิงคนนั้นจากแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกบอกว่า ท่านหญิงเซียนเซียวหลิงเหมือนจะเป็นคนอาณาจักรต้าเหยียนเช่นกัน
นางเลื่อมใสศิษย์พี่เสิ่นเอ้ามาตลอด ตั้งแต่เข้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกมาก็ให้คนไปสืบข่าวเกี่ยวกับศิษย์พี่เสิ่นเอ้าอยู่ตลอด”
ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางดวงตาเป็นสมาธิเล็กน้อย “เจ้าหมายความว่า ท่านหญิงเซียนเซียวหลิงชอบเสิ่นเอ้ารึ”
ศิษย์คนนั้นเกาหัวก่อนแสยะปากยิ้ม “ศิษย์ได้ยินมาเช่นนี้ก็น่าจะเชื่อถือได้ขอรับ”
ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางลูบเคราตน ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “เชิญท่านหญิงเซียนเซียวหลิงกับเหล่าศิษย์พี่หญิงน้องหญิงของนางไปโถงใหญ่รับแขก ต้อนรับอย่างดีห้ามเอื่อยเฉื่อย”
ศิษย์น้อมรับคำสั่งแล้วก็หมุนตัวจากไป
เสิ่นเอ้าขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาจำไม่ได้จริงๆ ว่าตนเคยรู้จักคนชื่อเซียวหลิงด้วย
แต่ด้วยบารมีในอาณาจักรต้าเหยียนของตนในตอนนั้น มีเด็กสาวมาแอบเลื่อมใสก็เป็นเรื่องปกติมาก
พอคิดได้ดังนั้น เสิ่นเอ้าก็เผยอมุมปากนิดๆ “อาจารย์ ท่านหญิงเซียนเซียวหลิงนี่ ศิษย์ควรจะจัดการอย่างไรดี”
ดวงตาผู้สูงศักดิ์จื่อหยางมีประกายเร่าร้อนพุ่งออกมา “เลีย! เลียให้อาจารย์!”
เสิ่นเอ้าผงะไป “เลียรึ หมายความว่าอย่างไร เหตุใดต้องเลียด้วย”
ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางมองเสิ่นเอ้าด้วยความโมโหที่เห็นเขาไม่ได้ดี “เอ้าเอ๋อร์ เจ้ารู้หรือไม่ว่านางเป็นใคร ท่านหญิงเซียนเซียวหลิงเป็นผู้มีกายวิญญาณเดิมสวรรค์ประทานที่แดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกหาเจอในเร็วๆ นี้ เป็นธิดาสวรรค์ที่สุดแห่งยุค!
คุณสมบัติของนางเหนือธรรมดา มีหวังแย่งชิงฐานะสตรีศักดิ์สิทธิ์ธารหยก ภายภาคหน้ามีโอกาสสูงยิ่งที่จะบรรลุระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์หลอมรวมเทพ
หากดวงดี กระทั่งฝ่าด่านเคราะห์เป็นผู้อริยะ ปกครองแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกในพันปีให้หลังนี้ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้! ธิดาสวรรค์ที่สุดแห่งยุคเช่นนี้กว่าจะตาบอดถูกใจเจ้าไม่ใช่ง่ายๆ เจ้าไม่สนใจรึ”
เสิ่นเอ้างุนงง “แต่ว่าอาจารย์ เมื่อครู่ท่านเพิ่งบอกว่าขอแค่พยายามมากพอก็จะเหนือกว่าโอรสสวรรค์พวกนี้ไม่ใช่รึ”
ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางตบบ่าเสิ่นเอ้า “อาจารย์ของอาจารย์ในตอนนั้นก็พูดกับอาจารย์เช่นนี้ เขาก็แค่พูดให้อาจารย์ฟังไปอย่างนั้น เจ้าก็ฟังๆ ไปเถอะ อย่าไปคิดว่าเรื่องจริงเด็ดขาด
ไม่อย่างนั้นจนถึงตอนที่เจ้าเจออัจฉริยะที่แท้จริงแล้ว เจ้าจะเป็นบ้าเอา ตอนนั้นถ้าอาจารย์มีนางฟ้าแห่งยุคเช่นนี้มาชอบละก็ ไฉนจะต้องพยายามอีกล่ะ
สรุปคือฟังอาจารย์นะ อาศัยตอนที่แม่นางคนนี้ยังไม่เคยพบโอรสสวรรค์ที่แท้จริงสักเท่าไร ยังตาบอดอยู่นี้รีบเอานางให้อยู่หมัด จะให้ดีที่สุดคือชิงสุกก่อนห่ามไปเลย ให้มีลูกให้ได้! ไม่อย่างนั้นถ้ารอจนเป็ดบินไปแล้ว เจ้าจะสำนึกเสียใจภายหลัง!”
เสิ่นเอ้างุนงง
เขามองอาจารย์ที่ก่อนหน้านี้ยังตะโกนอย่างยิ่งใหญ่ว่า ‘ขอแค่พยายามก็จะเหนือกว่าโอรสสวรรค์’ แต่กลับปลุกปั่นให้ตนไปเกาะผู้หญิงกิน เขาถึงกับตะลึงงันไปเลย
สารภาพตามตรง เขาสงสัยในชีวิตเล็กน้อย
พยายามฝึกฝนจะเหนือกว่าโอรสสวรรค์ได้จริงๆ หรือ
แล้วถ้าโอรสสวรรค์ก็พยายามมากเหมือนกันล่ะ!
หรือว่าจะเลือกอยู่กับสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกคนนั้น จากนี้ไม่ต้องดิ้นรนอีกล่ะ
เสิ่นเอ้าเดินเหม่อลอยไปห้องรับแขก อารมณ์ภายในใจหลากหลาย อุดมการณ์ของการบำเพ็ญเซียนกับความเป็นจริงกำลังตีกัน
ในใจเขามีสองเสียงทะเลาะกัน หนึ่งดื้อรั้นไม่ยอม แสดงให้เห็นว่าจะขายตัวไม่ได้!
อีกหนึ่งกำลังมอมเมาเขา ‘ธิดาสวรรค์ที่สุดแห่งยุคของแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยก นางไม่น่าสนใจหรือ’
……..
โถงใหญ่รับแขกอยู่ตรงหน้าไกลๆ ภายในใจเสิ่นเอ้าเป็นกังวล
เขารู้สึกว่ามือตนมีเหงื่อซึมออกมา ตอนนี้เขาตึงเครียดมาก ท่านหญิงเซียนแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกคนนั้นสูงเท่าไร อายุเท่าไร ใหญ่เท่าไร สวยหรือไม่
ถ้าไม่ใช่แบบที่ข้าชอบ ข้าจะยอมนางหรือไม่ แต่แบบนั้นก็ไม่มีความสุขสิ!
เสิ่นเอ้าเดินไปโถงใหญ่ช้าๆ วินาทีที่เขามาถึงหน้าห้องโถง เขาถึงกับผงะไปเลย!
พบว่าที่นั่งรับแขกทางซ้ายของโถงใหญ่มีสตรีชุดคลุมเขียวนั่งอยู่ ผิวนางดั่งหิมะ ใบหน้าเหมือนดอกท้อ แผ่กระจายเสน่ห์ที่ไม่มีความปลอดภัยเลยและสมควรตายออกมา
หากโลกนี้มีคนที่เป็นที่รักของฟ้าดิน มอบคำศัพท์ที่งดงามให้ทั้งหมดจริงๆ เช่นนั้น…ก็น่าจะเป็นคนนี้
ทันทีที่เห็นนาง เสิ่นเอ้ารู้สึกว่าในความคิดตน…
จิตวิญญาณที่ดื้อรั้นไม่ยอมนั้นถูกกำราบลงแล้ว!
เกาะผู้หญิงกินก็เอา น่าสนใจจริงๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน