บทที่ 240 เศรษฐกิจโดยรอบหอคอยเทพสงคราม
เยี่ยฉิงชางเป็นคนระดับใด?
เขาคือจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ที่อยู่มานานมากกว่าหนึ่งหมื่นปี
เขาชำเลืองตามองจางหลงหยวนกับฉู่หรงเหอแวบเดียวก็รู้ว่าเจ้าสองคนนี้คิดอะไร
เขาพูดนิ่งๆ “หอคอยเทพสงครามยอมรับเสิ่นเทียนเป็นนายแล้ว เช่นนั้นเจ้าหนูเสิ่นเทียนอยู่ที่ใด หอคอยก็อยู่ที่นั่น หากเสิ่นเทียนยินดี ลูกศิษย์แดนศักดิ์สิทธิ์ของพวกเจ้าก็เข้าไปฝึกฝนในหอคอยได้ตามสบาย แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ว่าให้กันเฉยๆ
เห็นแก่หน้าเทียนเอ๋อร์ ศิษย์แดนศักดิ์สิทธิ์รวมถึงพวกเจ้าสองคนเข้าไปฝึกฝนได้ไม่จำกัด และของเดิมพันในการประลองเทพสงคราม ข้าจะลดให้เจ้ามากสุดสามส่วน นอกจากนี้ ก่อนหน้านี้เทียนเอ๋อร์บอกข้าว่าอยากจะให้หอคอยเทพสงครามเปิดกว้างกับทั้งดินแดนบูรพาและสี่ดินแดน
นี่ก็ใช่ว่าจะไม่ได้ แต่ข้ามีเงื่อนไข นั่นคือคนนอกที่เข้ามาฝึกฝนในหอคอยจะต้องจ่ายของเดิมพันเพิ่มเติม ผลประโยชน์ที่ได้มาห้าส่วนจะต้องแลกเป็นศิลาวิญญาณเพื่อใช้ในการซ่อมแซมหอคอยเทพสงคราม ห้ามยักยอกเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง อีกห้าส่วนที่เหลือให้เสิ่นเทียน จะแบ่งกับแดนศักดิ์สิทธิ์พวกเจ้าอย่างไรนั่นเป็นเรื่องของเขา”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พยักหน้า “ในเมื่อหอคอยเทพสงครามยอมรับเทียนเอ๋อร์เป็นนาย เช่นนั้นก็เป็นสมบัติของเทียนเอ๋อร์ ผู้อาวุโสยินดีลดค่าฝึกให้ศิษย์ฝ่ายข้าสามส่วนนั่นถือว่าเอาใจใส่ฝ่ายเรามากแล้ว เราจะไปหน้าด้านขอแบ่งผลประโยชน์อีกได้อย่างไร
ตรงนี้ข้าตัดสินใจให้ได้ หากผู้อาวุโสไม่รังเกียจก็วางหอคอยเทพในโลกเล็กเทพสวรรค์ได้ ข้าสามารถใช้นามของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เชิญชวนห้าดินแดนและโอรสสวรรค์มากันได้ สมบัติล้ำค่าที่เหล่าโอรสสวรรค์ใช้ต่อสู้เดิมพันจะเป็นของผู้อาวุโสและเทียนเอ๋อร์ทั้งหมด”
คำพูดของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ทำให้เยี่ยฉิงชางอดตกใจมิได้
เขาไม่เชื่อว่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จางหลงหยวนจะโง่ถึงขั้นไม่รู้ว่านี่หมายถึงผลประโยชน์ที่น่ากลัวเพียงใด
พึงรู้ไว้ว่า หอคอยเทพสงครามคือสุดยอดอาวุธในห้าดินแดน หมื่นปีมานี้มีคนมากมายเสี่ยงอันตรายมาที่สนามรบบรรพกาลก็เพื่อตามหามัน
หากหอคอยเทพสงครามมาอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ จะต้องดึงดูดโอรสวรรค์จากแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ๆ ให้แย่งกันเข้ามาฝึกฝนแน่นอน
ถึงตอนนั้นรายนามเทพสงครามจะเทียบเท่ากับ ‘รายนามแก่นพลังทอง’ ‘รายนามดวงจิตดรุณ’ กลายเป็นตัววัดสำคัญถึงความแข็งแกร่งและอ่อนแอของโอรสสวรรค์แดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ๆ
และของเดิมพันที่โอรสสวรรค์พวกนั้นนำเข้ามาเดิมพันในการประลองเทพสงครามจะต้องเป็นทรัพย์สินที่ทำให้แดนศักดิ์สิทธิ์ใจสั่นไหวอย่างแน่นอน
ทว่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จางหลงหยวนกลับทิ้งผลประโยชน์ตรงนี้ไปอย่างไม่ลังเลเลย
เยี่ยฉิงชางอดอึ้งไปมิได้ เจ้านี่ฝึกคัมภีร์เสริมวิถีฟ้าจนถึงระดับใดกันแน่
แม้แต่เงินทองก็ไม่ชอบแล้วรึ
……
นักพรตชรามองสีหน้าของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ที่ไม่ย่อท้อต่อความถูกต้อง พลางเจ็บปวดใจจนหน้าเขียว
บัดซบๆๆ!
เหตุใดตอนนั้นข้าถึงไม่รับเจ้าหนูนี่เป็นศิษย์กัน
ถ้าข้ารับเจ้าหนูนี่ ตอนนี้ข้าก็จะมีสิทธิ์ได้แบ่งถ้วยน้ำแกงแล้ว
จางหลงหยวนเจ้าสมองมีปัญหากลับไม่รู้จักแบ่งเงิน ทำให้ข้าแค้นใจที่เขาไม่ได้ดีจริงๆ!
ทางด้านผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวมองเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ด้วยใบหน้าเลื่อมใสและศรัทธา เลื่อมใสในคุณธรรมสูงส่งของเขา
เสิ่นเทียนพูดด้วยความเกรงใจ “อาจารย์ รบกวนให้แดนศักดิ์สิทธิ์ประกาศให้เทพสงคราม แต่ไม่แบ่งผลประโยชน์ให้เลย แบบนี้ไม่ดีกระมัง!”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ส่ายหน้าเล็กน้อย “เจ้าเด็กโง่ ไร้กฎเกณฑ์ก็จะไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย แดนศักดิ์สิทธิ์ย่อมไม่รับเงินเดิมพันในหอคอยเทพสงครามอยู่แล้ว แต่เจ้าคิดว่าหอคอยเทพสงครามจะมีรายได้แค่ของเดิมพันของโอรสสวรรค์ที่เข้าไปฝึกในหอคอยแค่นั้นหรือ
เจ้าผิดแล้ว หากหอคอยเทพสงครามอยู่ฝ่ายเราจริงๆ ผลประโยชน์จะไม่ได้มีแค่นี้”
ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สั่นไหวเบาๆ ก่อนจะพูดจาฉะฉานให้ทุกคนฟัง
“อันดับแรกหอคอยเทพสงครามเป็นของจากโลกเซียน ตัวมันเป็นหนึ่งในสุดยอดสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดในห้าดินแดน มีมูลค่าด้านการชื่นชมสูงมาก
เชื่อว่าหากฝ่ายเราเปิดกว้างกับภายนอก ลำพังแค่ผู้ฝึกบำเพ็ญที่มาชื่นชมชื่อเสียงของหอคอยเทพสงครามก็มีไม่น้อยแล้ว คนพวกนี้อาจจะไม่ใช่โอรสสวรรค์ และไม่มีสิทธิ์เข้าไปฝึกฝนในหอคอย แต่นี่ไม่สำคัญ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน