บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 244

บทที่ 244 ความจำใจของผู้สูงศักดิ์จื่อหยาง!

พิธีมอบรางวัลกำลังดำเนินไปอย่างเป็นขั้นเป็นตอน

ทุกแดนศักดิ์สิทธิ์ แดนเทวาและแดนผาสุกต่างนำสมบัติล้ำค่าออกมา

โอรสสวรรค์ทั้งหมดยี่สิบคน ทุกคนได้รับรางวัลที่มีมูลค่าไม่เบา ใบหน้ายิ้มแย้มกัน แน่นอนว่านี่ต้องมองข้ามเด็กหนุ่มจากอาณาจักรต้าเหยียนบางคน ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความสับสนและอยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา

“น้องสิบสาม เจ้าว่าถ้าข้าจะไปศึกษาแลกเปลี่ยนที่แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พวกเจ้าสักระยะจะได้หรือไม่”

เสิ่นเอ้าทำหน้าเศร้า สีหน้าหลากหลายอารมณ์มาก

ช่วยไม่ได้ แม้การเกาะคนอื่นเช่นนี้จะน่าขายหน้าไปบ้าง แต่ก็รั้งเขาไว้ไม่อยู่!

เห็นๆ อยู่ว่าติดตามน้องสิบสามจะได้เกาะโชคลิขิตบินขึ้นไปสบายๆ เหมือนขี่ดอกไม้ไฟ และเสิ่นเอ้าเองก็ไม่ใช่คนเขลา ไฉนจะต้องไปฝึกพิเศษกับตาแก่เจ้ากระบี่ธารนิรันดร์นั่นด้วย

เขาจะไม่ยอมถูกทารุณอีก!

เมื่อเห็นเสิ่นเอ้าทำท่าทีน่าสงสาร เสิ่นเทียนยังอึ้งไป

ถึงอย่างไรเขาก็ไม่เคยฝึกกับเจ้ากระบี่ธารนิรันดร์ ไม่เหมือนพวกเถ้าแก่ซ่งหลิวไท่อี่ ที่วันๆ เอาแต่มั่วสุมกับหลี่อวิ๋นเฟิง จึงรู้เหนือใต้ออกตกดี

ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ตำนานต้องห้ามเกี่ยวกับเจ้ากระบี่ธารนิรันดร์ในแดนเทวาดาวประกายพรึก

แต่ตอนแรกที่เจอร่างแยกของเจ้ากระบี่ธารนิรันดร์ในตำหนักไร้พรมแดนอาณาจักรต้าเหยียน ศักยภาพของเขาก็ถึงขอบเขตระดับหลอมรวมเทพแล้ว

แค่คิดก็รู้แล้วว่าพลังบำเพ็ญของร่างจริงเจ้ากระบี่ธารนิรันดร์จะต้องแข็งแกร่งมากแน่นอน

หากไม่ใช่เพราะหลี่เหลียนเอ๋อร์ เสิ่นเทียนก็อยากจะไปเรียนกระบี่กับเจ้ากระบี่ธารนิรันดร์ในแดนเทวาดาวประกายพรึกเช่นกัน

ถึงอย่างไรชื่อเสียงวิชากระบี่อันดับหนึ่งในสามพันปีมานี้ของดินแดนบูรพาก็ไม่ใช่สิ่งที่เจ้ากระบี่ธารนิรันดร์โม้ขึ้นมาเอง แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนยอมรับ

แม้เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จางหลงหยวนจะชำนาญวิชากระบี่เช่นกัน กระทั่งพลังบำเพ็ญสูงกว่าเจ้ากระบี่ธารนิรันดร์ แต่เขาก็ยังชำนาญวิชาอัสนีมากที่สุด

ถ้าวัดกันที่วิชากระบี่ เจ้ากระบี่ธารนิรันดร์หลี่ชางหลันต่างหากคือตัวแทนของดินแดนบูรพา!

เสิ่นเทียนที่มีกายเทพกระบี่ฟ้าแปลกใจในกระบี่ของเขามาก

“พี่หกยินดีมาเป็นแขกแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ข้าย่อมยินดีต้อนรับ เพียงแต่พี่หกได้รับรางวัลเจ้ากระบี่ธารนิรันดร์ชี้แนะสามเดือนแล้ว นี่เป็นมหาโชควาสนาจริงๆ”

เสิ่นเทียนหยิบผลใจกระบี่ลูกหนึ่งออกมาจากแหวนเวหา “ก่อนหน้านี้พี่หกใช้ผลใจกระบี่ไปผลหนึ่ง พรสวรรค์วิถีกระบี่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ตอนนี้ผ่านไปหลายวันแล้ว ก็น่าจะดูดซับฤทธิ์ยาผลใจกระบี่นั่นไปพอประมาณแล้ว ถ้าใช้อีกผลจะเพิ่มพรสวรรค์ยิ่งขึ้นไปอีก

มีผลใจกระบี่สองผลนี้ช่วย เห็นทีพี่หกจะต้องได้รับความสนใจจากเจ้ากระบี่ธารนิรันดร์ ได้เป็นโอรสสวรรค์วิถีกระบี่ที่สุดแห่งยุคแน่นอน! สู้รอท่านเรียนกระบี่จบสามเดือนแล้วค่อยมาเป็นแขกแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ดีหรือไม่”

เมื่อเห็นเสิ่นเอ้าทำหน้าแปลกมากขึ้น เหมือนกำลังเครียดอะไรบางอย่าง

เสิ่นเทียนก็ยัดผลใจกระบี่ใส่มือเสิ่นเอ้า ก่อนจะพูดให้กำลังใจ “พี่หก เชื่อมั่นว่าตัวเองต้องทำได้สิ! ถึงอย่างไรท่านก็เป็นอดีตอัจฉริยะที่แกร่งที่สุดของตระกูลเสิ่นอาณาจักรต้าเหยียนเรา!”

เสิ่นเทียนพูดพลางยกนิ้วโป้ง ยิ้มเผยฟันงามสองแถว

…….

อัจฉริยะที่แกร่งที่สุดรึ

เสิ่นเอ้ามองเสิ่นเทียน ยังอดชะงักงันไปมิได้

สองสามเดือนมานี้เขามีชีวิตอยู่ใต้เงาของเสิ่นเทียนมาตลอด

‘อดีตอัจฉริยะที่แกร่งที่สุด’ คำเรียกนี้เหมือนเป็นการเย้ยเยาะอย่างไร้เสียงสำหรับเขามากกว่า

เพราะเมื่อเทียบกับเสิ่นเทียน สิ่งที่เขาเป็นในตอนแรกนั่นเรียกว่าอัจฉริยะหรือ ไม่ได้โดดเด่นในโลกบำเพ็ญเซียนอันยิ่งใหญ่เลย

เสิ่นเอ้ามองเสิ่นเทียน เดิมทีคิดว่าน้องสิบสามคนนี้กำลังเยาะเย้ยตน แต่ก็พบว่าเขามีสีหน้าที่จริงใจมาก เหมือนว่าในสายตาน้องสิบสาม ตนเป็นพี่ชายที่สนิทสนมคนนั้นเสมอมา

เวลานี้ เสิ่นเอ้ารู้สึกเหมือนมีธารสายอุ่นไหลผ่านในใจ

เขาอดด่าตัวเองในใจมิได้ ‘นี่มันหยอกเล่นกันเฉยๆ ปลุกใจบ้านน้องเจ้าสิ!’

ไม่รู้ว่าการฝืนปลุกใจเป็นสิ่งที่น่าเบื่อที่สุดหรือ

วันนี้ต่อให้เทพเซียนต้าหลัวมา ข้าก็จะหาทางเลี่ยงการฝึกพิเศษสามเดือนนี้ไปให้ได้

“น้องสิบสาม ข้าไม่อยากไปฝึกพิเศษ การฝึกของเจ้ากระบี่ธารนิรันดร์ไม่มีประโยชน์อะไรเลย ทั้งยังน่าเบื่อมาก ลำบากมากด้วย!”

เสิ่นเอ้ามองเสิ่นเทียนอย่างน่าสงสารพลางพูดเสียงเบา “ตอนนี้เจ้าเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ หาทางช่วยพี่ได้หรือไม่…ส่งพี่ไปแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ให้ผ่านช่วงสามเดือนนี้ไปก่อนได้หรือไม่”

เอ่อ อย่างนั้นเองหรือ

เสิ่นเทียนครุ่นคิด “ข้าจะลองดู”

เสิ่นเทียนพูดจบก็ทะยานมาหน้าผู้สูงศักดิ์จื่อหยาง ก่อนโค้งตัวแสดงความเคารพ “เสิ่นเทียนของคารวะอาจารย์อาจื่อหยาง”

เมื่อสัมผัสได้ถึงแรงกดดันรุนแรงจากตัวเสิ่นเทียน ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางยังแอบตกใจ

เห็นๆ อยู่ว่าเมื่อสองเดือนก่อนในตำหนักไร้พรมแดนอาณาจักรต้าเหยียน เจ้าหนูนี่ยังเป็นเพียงไก่อ่อนเท่านั้น

ไม่นึกเลยว่าสองเดือนสั้นๆ เจ้านี่จะกลายเป็นผู้แข็งแกร่งระดับกายทองแก่กล้า อีกทั้ง…

อีกทั้งพลังที่แผ่มาจากตัวเขายังทำให้ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางอกสั่นขวัญหาย เห็นได้ชัดมากว่านี่หมายถึงศักยภาพที่แท้จริงของเสิ่นเทียนมากพอจะคุกคามถึงผู้สูงศักดิ์จื่อหยางได้สบายๆ

นี่คือพรสวรรค์ของโอรสสวรรค์ที่แท้จริงหรือ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน