บทที่ 265 ว่างก็มานั่งเล่นที่ธารหยก – ตอนที่ต้องอ่านของ บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน
ตอนนี้ของ บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน โดย novelones ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 265 ว่างก็มานั่งเล่นที่ธารหยก จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่ 265 ว่างก็มานั่งเล่นที่ธารหยก
“ศิษย์พี่หญิง ท่านเข้าใจศิษย์พี่ฉู่เหอผิดไปแล้ว”
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่ส่งกระแสจิตไป “ครั้งก่อนที่ลัทธิวิญญาณร้ายลอบโจมตี ตันอู่เกือบเจอหายนะ ดีที่ศิษย์พี่ฉู่เหอรีบมา ถึงช่วยข้าไว้ทัน
ข้าเชื่อว่าในใจศิษย์พี่ฉู่เหอยังมีข้าอยู่ ขอแค่ข้าพยายามต่อไปจะต้องทำให้เขาซาบซึ้งใจได้แน่!”
พูดจบผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่ก็มองฉู่เหอ แววตาเต็มไปด้วยความเลื่อมใสและศรัทธา
เจ้าคนหน้าด้านนี่ตั้งใจมาช่วยเจ้าหรือ
ศิษย์น้องหญิง เป็นหญิงอายุพันกว่าปีแล้ว อย่าไร้เดียงสาเช่นนี้ได้หรือไม่
ประกายเซียนเมฆเรืองรองสั่นไหวอย่างรุนแรง เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกแค่นเสียงขึ้นจมูก “เช่นนั้นมารร้ายแห่งลัทธิวิญญาณร้ายนั่นอยู่ที่ใด”
เห็นได้ชัดว่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกก็เป็นคนจงเกลียดจงชังคนเข้ากระดูกดำเช่นกัน ไม่รู้สึกดีกับลัทธิวิญญาณร้ายแม้แต่น้อย
“ประมุขแห่งวิหารโลหิตสังหารถูกข้าขังไว้ในคุกเทพสายฟ้า ไม่มีทางเกิดความผิดพลาดเด็ดขาด”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยิ้ม “เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ชิวเยวี่ยเดินทางมาเหนื่อยๆ ข้าได้เตรียมผลไม้เซียนและสุราดีไว้แล้ว ขอเชิญทุกท่านเข้างานเลี้ยงต้อนรับก่อนเถอะ!”
แม้จะเผชิญหน้ากับเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยก เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จางหลงหยวนก็ยังคงวางตัวเท่าเทียม รุกและถอยอย่างพอดี แสดงบุคลิกและเอกลักษณ์ของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ออกมาทั้งหมด
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวด้านข้างมองด้วยตาเป็นประกาย
“เช่นนั้นก็รบกวนสหายหลงหยวนด้วย”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกพยักหน้าอย่างเฉยชา ในใจแอบปลงอนิจจังเงียบๆ
ได้รับการสั่งสอนมาจากอาจารย์คนเดียวกัน เคยเป็นสุดยอดโอรสสวรรค์เหมือนกัน สุดท้ายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์รุ่นก่อนก็เลือกจางหลงหยวนรับตำแหน่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ ถือว่ามองการณ์ไกลจริงๆ
เทียบกับฉู่หรงเหอแล้ว เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ตอนนี้แกร่งกว่าทุกด้าน สมกับเป็นเจ้าแห่งความรุ่งเรือง!
…….
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เหยียบสายฟ้าลงพื้นมาช้าๆ
วินาทีนั้นก็มีพรมไหมสีแดงปูมาจากบันไดทางเข้าโลกเล็กเทพสวรรค์จนมาถึงหน้ายอดเขาเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์
สีแดงหล่อหลอมใบไม้โปรยปรายร้อยลี้ ทุกย่างก้าวเกิดดอกบัวต้อนรับธารหยก
พิธีต้อนรับทั้งยิ่งใหญ่และงดงาม
“สหายหลงหยวนเตรียมการอย่างดีเลย”
เสียงของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกดังมาจากประกายเซียนเมฆเรืองรองอย่างเย็นชา ก่อนจะย่างก้าวดอกบัวบนพรม
นางก้าวไม่ยาว แต่กลับเหมือนมีอิทธิฤทธิ์ย่อแผ่นดิน หนึ่งก้าวเดินไปพันจั้ง
ไม่นานทุกคนก็มาถึงยอดเขาเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ หยุดอยู่หน้าวิหารโอ่อ่าแห่งหนึ่ง
ประตูวิหารแห่งนี้มีเด็กหนุ่มสวมเกราะศักดิ์สิทธิ์สีทองยืนอยู่คนหนึ่ง
เขามีคิ้วกระบี่ดวงตาดารา ผมยาวประบ่า สะโอดสะองดั่งเซียนลงมาเยือน และยังมีความองอาจห้าวหาญของเด็กหนุ่ม โดยเฉพาะดวงตา ช่วงที่กะพริบตายังมีความเฉยเมยหลายส่วน และยังเหมือนลึกล้ำจนเข้าใจทุกสิ่ง
ในความเลือนรางนั้นยังคลับคล้ายกับมีมหาสมุทรดาราและธารเมฆกว้างใหญ่ลอยอยู่ตรงกลาง
เหนือชั้น เหนือชั้นมากจริงๆ!
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกกับเจ้าสำนักใหญ่ทุกคนล้วนผ่านอะไรมามากมาย ตอนนี้เห็นเด็กหนุ่มคนนี้ก็ยังอดตกใจมิได้
ไม่อยากเชื่อว่าโลกนี้จะมีบุรุษรูปงามเหนือธรรมดาเช่นนี้อยู่!
เมื่อเห็นพวกเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มา เด็กหนุ่มก็โค้งตัวเล็กน้อย “อาจารย์ งานเลี้ยงต้อนรับเตรียมพร้อมแล้ว”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พยักหน้าเล็กน้อย “เทียนเอ๋อร์ทำอะไรอาจารย์วางใจเสมอ เชิญทุกท่านเข้าไปกันเถอะ”
เมื่อเอ่ยจบ วิหารแสวงบุญข้างวิหารเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ก็เปิดออก กลิ่นหอมแปลกๆ ลอยโชยมา
ทุกคนเข้าไปนั่งในวิหาร พบว่าทุกโต๊ะวางผลไม้วิญญาณและอาหารล้ำค่าและสุราชั้นเลิศ
นี่คือสิ่งที่แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สั่งสมไว้ หากนำผลไม้วิญญาณทุกผลไปไว้ข้างนอก ก็มากพอจะขายได้ราคาเท่าฟ้า
สุราดีในเหยือกก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน เป็นสุราวิญญาณอัสนีที่ใช้ผลไม้วิญญาณกับพลังแห่งสายฟ้าบ่มไว้หลายร้อยปี สามารถขัดเกลากายและจิตได้
สำหรับผู้ฝึกบำเพ็ญปกติแล้ว สุราแก้วหนึ่ง ผลไม้ผลหนึ่งก็มากพอจะชะล้างกระดูก กระทั่งยกระดับคุณสมบัติ
…..
เจ้าสำนักใหญ่และผู้อาวุโสทุกคนต่างนั่งประจำตำแหน่งของตน
รุ่นเยาว์ของพวกเขายืนอยู่ข้างหลังด้วยความเคารพ ไม่มีสิทธิ์นั่งร่วมโต๊ะด้วย
ทว่าสิ่งที่ทำให้เสิ่นเทียนจนปัญญาคือ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กลับกดให้เขานั่งลงข้างบัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์
ใช่ คนรุ่นเดียวกันคนอื่นยืน แต่เขานั่ง!
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกมองเสิ่นเทียน ประกายเซียนเมฆเรืองรองบนผิวกายกระเพื่อมเบาๆ “หนุ่มคนนี้คือบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รึ”
จะว่าไป อาจารย์จัดงานเลี้ยงคนใหญ่คนโตระดับเจ้าสำนักและเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ เหตุใดต้องให้ข้ามาอยู่ด้วยล่ะ
คนใหญ่คนโตระดับสุดยอดพวกนี้กินข้าว แล้วจะให้ไก่อ่อนระดับกายทองอย่างข้านั่งอยู่ด้วย ไม่เหมาะสมกระมัง!
เกิดในงานเลี้ยงต้อนรับมีคนแค้นข้า กลับไปลอบทำร้ายข้าจะทำอย่างไร
ถึงอย่างไรการลอบกัดในที่ลับก็ป้องกันยาก ต้องอยู่เงียบๆ ต่างหากคือราชธรรม!
อาจารย์ ไฉนท่านถึงไม่ให้ศิษย์ใช้ชีวิตไปวันๆ กันนะ!
เสิ่นเทียนนั่งตรงตำแหน่งนี้ รู้สึกนั่งไม่ติดพื้นแล้ว
โชคดีที่การพูดคุยก่อนงานเลี้ยงจบลงอย่างรวดเร็ว เจ้าสำนักฝ่ายเซียนใหญ่ๆ ต่างเริ่มคุยเรื่องจริงจังกัน
“ความจริง ครั้งนี้ข้าใช้นามของหอคอยเทพสงครามเชิญทุกท่านมา ไม่ใช่แค่เพราะเรื่องหอคอยเทพสงคราม”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จางหลงหยวนประกายสายฟ้าไหลเชี่ยว “สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือข้ารู้ตำแหน่งแม่นยำของวิหารเจ็ดสังหารของลัทธิวิญญาณร้ายแล้ว
พรุ่งนี้ยามเที่ยงคืนจะเป็นวันที่มารสวรรค์พุ่งชนดาวชิกสัวะในรอบสามพันปี เหมาะจะให้สาวกลัทธิวิญญาณร้ายหลอมอาวุธวิญญาณร้ายมากที่สุด
ข้าหวังว่าจะรวมพลังของทุกคนลงมือทำลายวิหารเจ็ดสังหารอย่างฉับพลันก่อนมารสวรรค์พุ่งชนดาวชิกสัวะ ไม่เช่นนั้นหากปีศาจแห่งวิหารเจ็ดสังหารกระจัดกระจายกันไปสร้างความเดือดร้อนสี่ทิศและหลอมอาวุธวิเศษชั่วร้ายขึ้น ต่อให้ทุกฝ่ายเซียนจะมีพลังรวมกันเหนือกว่าลัทธิชั่วร้าย ก็เกรงว่ายังเหลือบ่ากว่าแรง”
แม้จางหลงหยวนจะพูดเสียงเฉยชา แต่คำพูดเขากลับทำให้ผู้สูงศักดิ์และผู้สูงศักดิ์สวรรค์ในวิหารตื่นตกใจ
ตั้งแต่โบราณมา ลัทธิวิญญาณร้ายซ่อนตัวลึกยิ่ง
พวกเขาโจมตีและเปลี่ยนที่ไป ยากจะตามรอยได้
ปกติการทำลายแหล่งกบดานเล็กหนึ่งถึงสองแห่งของลัทธิวิญญาณร้ายก็ถือว่าเป็นคุณูปการยิ่งใหญ่แล้ว
ไม่นึกเลยว่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จางหลงหยวนจะสืบเจอวิหารย่อยหนึ่งในนั้น!
พึงรู้ไว้ว่าวิหารย่อยจำนวนมากของลัทธิวิญญาณร้ายนั้น อย่างอ่อนแอที่สุดก็มากพอจะต่อต้านกับแดนเทวาแดนผาสุกธรรมดาได้
หลายวิหารย่อยที่แข็งแกร่งที่สุดในนั้นถึงขั้นกล้าง้างมือใส่แดนศักดิ์สิทธิ์ที่ค่อนข้างอ่อนแอ เพียงแค่ศักยภาพแฝงเป็นรองเท่านั้น
หากทำลายวิหารย่อยส่วนหนึ่งของลัทธิวิญญาณร้ายได้จริงๆ จะไม่ได้แค่เสริมบารมีของฝ่ายเซียนดินแดนบูรพาอย่างมากเท่านั้น
โชคลิขิต โอกาสวาสนา และสมบัติที่วิหารย่อยนั้นสะสมมาเป็นหมื่นปี…ก็มากพอดูเช่นกัน แม้แต่แดนศักดิ์สิทธิ์ยังใจสั่น!
……………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน