บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 266

บทที่ 266 ดินที่ให้บุตรแห่งโชคเติบโต

เรื่องการปิดล้อมวิหารเจ็ดสังหาร เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไม่ได้คิดจะรับประโยชน์เพียงคนเดียว

ด้านหนึ่งคือแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกก็รู้เรื่องสาวกวิญญาณร้ายจู่โจม จะไม่แบ่งถ้วยน้ำแกงไม่ได้

อีกด้าน ลัทธิวิญญาณร้ายอยู่รอดมาหมื่นปีภายใต้การร่วมมือกันปิดล้อมของห้าดินแดน ย่อมมีศักยภาพแฝงลึกไม่อาจคาดเดาได้

จากในระดับหนึ่งไม่ใช่สิ่งที่ฝ่ายเดียวจะทำได้ง่ายๆ แต่เหมือนเป็นพันธมิตรของฝ่ายชั่วร้ายมากมายเสียมากกว่า

หากแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ทุ่มกำลังเต็มที่เพื่อทำลายล้างวิหารย่อยเจ็ดสังหารเล็กๆ ก็ไม่เหมาะสมเท่าไร

แต่หากเสียกำลังไปจนถึงศักยภาพแฝงของแดนศักดิ์สิทธิ์เพราะเหตุนี้ หรืออาจจะถูกลัทธิวิญญาณร้ายล้างแค้นอย่างบ้าคลั่ง ก็ไม่คุ้มค่าเลย

แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เมื่อหมื่นปีก่อนแสดงออกให้เห็นว่าแข็งแกร่งมากเกินไป ดังนั้นจึงถูกปิดล้อมในผลึก เกือบจะถูกล้างบาง

ตอนนี้แดนศักดิ์สิทธิ์ได้บุตรแห่งโชคเสิ่นเทียนมาไม่ใช่ง่ายๆ มีหวังจะยิ่งใหญ่ขึ้นแล้ว

จางหลงหยวนไม่อยากให้เกิดเหตุไม่คาดคิดในช่วงเวลาสำคัญ

เขาจึงมอบผลประโยชน์ครึ่งหนึ่งของการปิดล้อมครั้งนี้ไปอย่างใจกว้าง แดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกได้สามส่วน แดนเทวาแดนผาสุกอื่นๆ ได้สองส่วน

แน่นอนว่าผลประโยชน์พวกนี้จะให้กับสำนักที่ออกแรงช่วยเท่านั้น

หลังผ่านการหารือกัน ในพันธมิตรการปิดล้อมวิหารเจ็ดสังหารครั้งนี้จึงมีสองแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ หกแดนเทวารวมถึงสิบสองแดนผาสุก

สองแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ในนั้นมีเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กับเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกสองผู้อริยะเป็นผู้นำ

นอกจากนี้แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยังส่งผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์อย่างผู้อาวุโสบัวมรกต ผู้อาวุโสบัวขาวและผู้อาวุโสบัวแดงและผู้สูงศักดิ์ดวงจิตดรุณอีกสิบแปดคนมา

แดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกส่งผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์อย่างผู้อาวุโสเสวี่ยอู่ ผู้อาวุโสหลิงอู่และผู้อาวุโสตันอู่กับผู้สูงศักดิ์ดวงจิตดรุณอีกสิบแปดคนมาเช่นกัน

ทางด้านหกแดนเทวาใหญ่ก็ส่งผู้สูงศักดิ์สวรรค์หนึ่งคน ผู้สูงศักดิ์หกคนและผู้จริงแท้ระดับแก่นพลังทองสิบแปดคน

สิบสองแดนผาสุกต่างส่งจุดสูงสุดระดับดวงจิตดรุณสามคนรวมถึงผู้จริงแท้ระดับแก่นพลังทองสิบแปดคน

รวมกันแล้วมีผู้อริยะสองคน ผู้สูงศักดิ์สวรรค์สิบสองคน ผู้สูงศักดิ์หนึ่งร้อยแปดคน ผู้จริงแท้สามร้อยหกสิบคน

กองกำลังผู้บำเพ็ญเซียนยิ่งใหญ่เช่นนี้มากพอจะกวาดล้างสี่ทิศ

ต่อให้เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์เผชิญหน้ากับพันธมิตรเช่นนี้ก็ต้องเลี่ยงหลบไปชั่วคราว

นี่คือพลังของความสามัคคี!

…….

หลังจากงานเลี้ยงในวิหารแสวงบุญจบลง จางหลงหยวนไม่ได้ให้เวลาชนชั้นสูงของแดนเทวาและแดนผาสุกเตรียมตัวมากนัก

เพราะยามศึกต้องลงมือไม่ให้ข้าศึกทันระวังตัว เรื่องที่ประมุขเสวี่ยซาถูกจับคงจะไปถึงหูลัทธิวิญญาณร้ายในอีกไม่นาน

หากคนของวิหารเจ็ดสังหารรู้ข่าวนี้ก็อาจจะคิดเชื่อมโยงไปถึงอะไรบางอย่าง

หนูที่ซ่อนอยู่ในเงามืดพวกนี้ก็จะระวังตัวกันมากขึ้น หากไม่รีบลงมือจะมีโอกาสคว้าน้ำเหลวสูงมาก!

มิหนำซ้ำ ไม่มีใครรู้ว่าในแดนเทวาแดนผาสุกจะมีหนอนของลัทธิวิญญาณร้ายหรือไม่ ก่อนเริ่มปฏิบัติการ จะไว้ใจใครไม่ได้เด็ดขาด!

“เทียนเอ๋อร์ การปิดล้อมวิหารเจ็ดสังหารครั้งนี้เป็นโอกาสดีในการหาประสบการณ์ เจ้าก็ไปด้วยเถอะ!”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ตบบ่าเสิ่นเทียน “เจ้าคือบุตรแห่งโชคที่สวรรค์ดูแล หากมีเจ้าอยู่ ศึกนี้จะต้องมีชัยอย่างแน่นอน!”

เมื่อสัมผัสได้ถึงความสำคัญที่ ‘ไร้ที่สิ้นสุด’ ในคำพูดของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ต่อเสิ่นเทียนแล้ว อัจฉริยะหนุ่มสาวจากแดนเทวาและแดนผาสุกต่างอิจฉาอยู่ในใจ

หึ มีแต่คนบอกว่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จางหลงหยวนเป็นผู้เหี้ยมโหดที่ยากจะพานพบได้ในหลายพันปี กระทั่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ที่ตกต่ำทุกคืนวันก็รุ่งเรืองขึ้นอีกครั้งภายใต้การนำของเขา

ไม่นึกเลยว่าวันนี้จะได้เห็นคนที่เอาแต่พึ่งดวงชะตา

แม้ต้องยอมรับว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เสิ่นเทียนมีดวงชะตาใช้ได้ หามรดกกับหอคอยเทพสงครามมาให้แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์

แต่เจ้ามองเสิ่นเทียนเป็นสิ่งมงคลของแดนศักดิ์สิทธิ์เพราะเหตุนี้ กระทั่งพาเดินทางไปปราบลัทธิวิญญาณร้ายด้วย นี่ก็อาจจะเล่นตลกกันเกินไปหน่อย!

ไม่กลัวว่าถึงตอนนั้นมีผู้แข็งแกร่งลัทธิวิญญาณร้ายบางคนคิดร้ายส่งศิษย์เจ้าไปแดนสุขาวดีหรือ

ความจริงแล้วจางหลงหยวนก็ไม่กลัวจริงๆ ถึงอย่างไรเสิ่นเทียนศิษย์เขาก็เป็นบุตรแห่งโชค!

บุตรแห่งโชคบ้านใครสู้กับคนใหญ่คนโตในการตะลุมบอนบ้าง เขามีแต่เก็บศีรษะ เก็บโชคลิขิตพัฒนาตัวเองไป!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน