บทที่ 267 ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตถูกปฏิเสธ
ในร้อยล้านลี้ในเขตดินแดนบูรพา อาณาประชาราษฎร์บางตาไปไม่รู้เท่าไร
ในโลกบำเพ็ญเซียนแห่งนี้ ไม่มีปัญหาเรื่องจำนวนประชากรมากเกิน
เพราะในป่าเขาลึกจะปรากฏปีศาจน้อยบ่อยครั้ง คนธรรมดาขยายจำนวนประชากรกันไม่ได้เลย
เมื่อออกจากอาณาจักรมนุษย์มาก็จะเป็นการส่งอาหารให้ปีศาจ
ดังนั้นในดินแดนบูรพาจึงเกิดเหตุการณ์ไม่เห็นผู้คนในระยะหมื่นลี้บ่อยครั้ง มีซ่อนตัวอยู่ในถ้ำรกร้างมากมายนับไม่ถ้วน
และเพราะเหตุนี้เอง ฐานที่มั่นใหญ่ๆ ของลัทธิวิญญาณร้ายและวิหารย่อยถึงได้ซ่อนตัวกันลึกมากได้
ต่อให้เป็นผู้อริยะก็ไม่มีทางกวาดจิตสัมผัสไปทั้งดินแดนบูรพา
แต่หากรู้ตำแหน่งก่อน นั่นก็เป็นอีกเรื่องแล้ว
…..
เรือเหาะเทพสวรรค์เคลื่อนผ่านช่องมิติ ผ่านไปที่ใดจะมีเพียงคลื่นมิติเบาๆ ไม่เป็นที่สนใจของคน
หลายชั่วยามต่อมา บางแห่งในดินแดนบูรพา
มิติฉีกออกช้าๆ สร้างเป็นประตูมิติมหึมาบานหนึ่ง เรือเหาะเทพสวรรค์ลำใหญ่พุ่งออกมาจากประตู ทุกส่วนถูกปกคลุมด้วยหมอกควัน
หมอกควันชั้นนี้กลบกลิ่นอายพลังทั้งหมดที่ออกมาจากเรือเหาะ ทำให้ผู้ฝึกบำเพ็ญใกล้ๆ ไม่รู้สึกถึง และบนดาดฟ้าเรือเหาะก็มีผู้แข็งแกร่งฝ่ายเซียนยืนอยู่หลายคน ทุกคนมีสีหน้าเคร่งขรึมและจริงจัง
การปิดล้อมลัทธิวิญญาณร้ายไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
สาวกวิญญาณร้ายพวกนี้เป็นพวกเดนตาย กล้าสู้ตายกับแดนศักดิ์สิทธิ์
โดยเฉพาะอาวุธวิเศษที่สาวกวิญญาณร้ายส่วนใหญ่หลอมขึ้น มีความชั่วร้ายอย่างยิ่ง ทำให้คนยากจะป้องกันได้
หากโดนลัทธิวิญญาณร้ายลอบเล่นงานจริงๆ อย่างเช่นวิญญาณร้ายรุกเข้าสู่ร่างหรือโดนพิษร้ายแรง ก็อาจจะทรมานจนตาย!
ต่อให้ช่วยกลับมาได้ก็อาจจะยังมีพิษหลงเหลือยากจะเอ่ยปาก
อย่างเช่นกำลังวังชาห่อเหี่ยว ไตล้มเหลว เสื่อมสมรรถนะทางเพศเป็นต้น
หากโดนเข้าย่อมทุกข์เสียยิ่งกว่าตาย!
ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ผู้ฝึกบำเพ็ญทุกคนที่มีสมบัติสุดยอดที่ต้านสถานะลบทุกอย่างได้แบบดินบริสุทธิ์วัฏจักร
ยามที่เผชิญหน้ากับลัทธิวิญญาณร้าย พวกเขาได้แต่ต้องระวังตัวกันให้มากที่สุด
……..
“จากข่าวกรองที่เชื่อถือได้ วิหารเจ็ดสังหารแห่งลัทธิวิญญาณร้ายอยู่ในซากปรักหักพักของอาณาจักรโบราณอู๋เลี่ยง”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยืนหัวเรือเหาะเทพสวรรค์ด้วยความโอหัง มองอาณาจักรที่ถูกปกคลุมด้วยหมอกพิษไกลๆ พลางเอ่ยเนิบนาบ
อาณาจักรโบราณอู๋เลี่ยงเป็นอาณาจักรเมื่อหมื่นปีก่อนในดินแดนบูรพา เดิมทีเป็นอาณาจักรที่อยู่สุดยอดของทั้งดินแดนบูรพา กระทั่งไม่ด้อยไปกว่าแดนผาสุกส่วนใหญ่
บรรพบุรุษที่แกร่งที่สุดในราชวงศ์บรรลุถึงระดับหลอมรวมเทพ วางไว้ในตอนนี้ก็ถือว่าเป็นผู้แข็งแกร่งสุดยอดของดินแดนบูรพา ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้สูงศักดิ์สวรรค์
แต่เมื่อหมื่นปีก่อนช่วงที่วิญญาณร้ายรุกราน แม้แต่ผู้อริยะยังตายตกกันไปทีละคนๆ
กับอีแค่ระดับหลอมรวมเทพ อีกทั้งยังเป็นเพียงหลอมรวมเทพตอนต้นจึงยืนหยัดไม่ไหวเลย
ในสงครามครั้งนั้น วิญญาณร้ายที่ชำนาญวิชาพิษร้ายสำแดงวิชาชั่วร้ายปกคลุมทั้งอาณาจักรโบราณอู๋เลี่ยง
แม้สุดท้ายวิญญาณร้ายนั้นจะตายด้วยน้ำมือเซียนแท้จริงจากโลกเซียน แต่อาณาจักรโบราณอู๋เลี่ยงก็กลายเป็นแดนร้าง เขตแดนในระยะหมื่นลี้โดยรอบกลายเป็นซากปรักหักพัง
และเนื่องจากวิญญาณร้ายนั้นตายตกไปแล้ว กายแห่งพิษร้ายได้แพร่กระจายไปทั่วอาณาจักร ทำให้สิ่งมีชีวิตที่เหมาะกับพิษร้ายแรงในละแวกนั้นเข้ามาอยู่อาศัย
พืชพิษร้ายแรงจำนวนมากขยายพันธุ์กันอย่างบ้าคลั่งในซากแห่งนี้ หนอนแมลงมีพิษมากมายก็เกิดขึ้นเพราะเหตุนี้
ไม่นาน แม้แต่ฝ่ายเซียนพวกนั้นในดินแดนบูรพายังเลือกทิ้งอาณาจักรแห่งนี้
ไม่นึกเลยว่าวิหารเจ็ดสังหารแห่งลัทธิวิญญาณร้ายจะเลือกสร้างฐานใหญ่ของตนที่นี่
……..
“หมอกที่กระจายในอาณาจักรโบราณอู๋เลี่ยงมีพิษร้ายแรง ทุกคนอย่าสูดเข้าตัวจะดีที่สุด”
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวหยิบลูกกลอนออกมาจากแหวนเวหาทีละขวดและแบ่งให้ทุกคนบนเรือ “นี่คือ ‘ลูกกลอนวิญญาณขจัดพิษ’ ช่วยให้ทุกคนไม่รับผลจากหมอกพิษ”
โอสถที่ให้ไปเปล่าๆ ย่อมเพิ่มพูนคุณความดีขึ้นมาก
มิหนำซ้ำวิชาการหลอมโอสถของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวยังเป็นที่ยอมรับในดินแดนบูรพา
การมีโอสถวิญญาณเพิ่มมาเม็ดหนึ่งในแดนพิษร้ายอย่างอาณาจักรโบราณอู๋เลี่ยงเช่นนี้ เท่ากับมีเกราะป้องกันหนึ่งชั้น
เวลานี้ ทุกคนต่างส่งเสียงชื่นชมผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวด้วยความซาบซึ้งใจ
“บุตรศักดิ์สิทธิ์เสิ่นเทียน เจ้าไม่ต้องใช้โอสถขจัดพิษรึ”
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่เดินมาหน้าเสิ่นเทียนช้าๆ ก่อนจะพูดด้วยความเป็นห่วง “ไม่เป็นไร การปิดล้อมลัทธิชั่วร้ายครั้งนี้เจ้าแค่สั่งสมประสบการณ์ก็พอ ไม่ต้องเสี่ยงอันตราย
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ศิษย์พี่ฉู่เหอ ศิษย์น้องหญิงบัวขาวแล้วก็ข้าจะปกป้องเจ้าเอง จะไม่ให้เจ้าเจอกันอันตรายใดๆ ทั้งนั้น
เสิ่นเทียนมองผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่ที่ ‘ยิ้มแบบมารดามีเมตตา’ พลางพยักหน้า “ขอบคุณที่อาจารย์อาตันอู่เป็นห่วง เสิ่นเทียนเข้าใจ”
แม้เขาอยากจะบอกผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่มากว่าตนไม่สนใจหมอกพิษพวกนี้เลย แต่ก็ช่างเถอะ!
ถึงอย่างไรดินบริสุทธิ์วัฏจักรก็อยู่อันดับสามในรายนามดินดำ ถาดวัฏจักรหกมรรคก็ยังเป็นอาวุธเตรียมเซียน
หากจู่ๆ เผยทรัพย์สินออกไปก็คงไม่ดีนัก อาจจะโดนสงสัยว่าเสแสร้งได้อีก
อยู่เงียบๆ เข้าไว้ ในสงครามครั้งใหญ่เช่นนี้ ตีเนียนออกไปเงียบๆ ซ้ำศพเก็บหัวคนต่างหากคือราชธรรม
เสิ่นเทียนหยิบโอสถขจัดพิษเม็ดหนึ่งออกมาจากแหวนเวหาแล้วกินลงไป จากนั้นปรับรูปแบบของเกราะศักดิ์สิทธิ์หุบเหวมังกรให้อยู่ในรูปแบบที่ราบเรียบที่สุด
ประกายแสงของห้าสัตว์เทพหุบเข้าไปทั้งหมด แม้แต่ชุดเกราะองอาจทั้งตัวยังกลายเป็นรูปแบบเกราะในแบบง่ายๆ
แน่นอน เกราะศักดิ์สิทธิ์หุบเหวมังกรในรูปแบบนี้ก็ยังคงป้องกันทั้งตัวได้ เพียงแค่ดูธรรมดากว่าเท่านั้น
……
ผู้แข็งแกร่งจากฝ่ายเซียนต่างๆ พากันกระโดดลงจากเรือเหาะ เก็บพลังรอบตัวไว้ข้างในอย่างระมัดระวัง
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กับเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกต่างซ่อนอยู่ในมิติ ด้านหนึ่งเพื่อสั่งการทุกคน อีกด้านเพื่อวางค่ายกลปิดล้อมทั้งอาณาจักร
หากผู้อริยะแห่งสาวกวิญญาณร้ายโผล่มา พวกเขาจะออกมือจู่โจมเป็นคนแรก
“หนอนแมลงพิษในอาณาจักรโบราณอู๋เลี่ยงมีมหาศาล ในนั้นอาจจะมีบรรพชนที่เปิดสติปัญญาเป็นปีศาจแล้ว ทุกคนต้องระวังตัวไว้”
เสียงเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ดังในหูทุกคน “หากเจออันตราย จำไว้ว่าต้องดูแลตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก”
เมื่อเข้าใกล้อาณาจักรโบราณอู๋เลี่ยง ทุกคนก็พบความผิดปกติ
เพราะพลังจิตสอดแนมของพวกเขาติดขัด ไม่อาจตรวจสอบสถานการณ์ของข้าศึกได้อย่างอิสระอีก
นี่หมายความว่าใกล้ๆ นี้มีผู้ฝึกบำเพ็ญวางค่ายกลสกัดกั้นพลังจิตไว้ อีกทั้งค่ายกลยังมีผลแบบครอบคลุมตลอด หากไม่ทำลายค่ายกลนี้ก็จะกระจายพลังจิตไม่ได้ หากไม่ทำลายค่ายกลก็จะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน