บทที่ 275 เจ้าผู้คุ้มกฎอู๋เซิงผู้ดวงซวย (1)
เหตุใดถึงมาอีกแล้ว
เมื่อเห็นผีร้ายที่พุ่งเข้ามาอย่างมืดฟ้ามัวดินแล้ว เสิ่นเทียนรู้สึกปวดหัว
แม้ว่าด้วยกำลังรบของเขาจะบุกลุยในกองทัพผีร้ายหลายหมื่นตนได้อย่างไม่มีแรงกดดันใดๆ
แต่นี่ไม่มีความหมาย!
ผีร้ายระดับแก่นพลังทองหลายหมื่นตน แม้ว่าเขาใช้กระบี่เดียวสังหารได้สิบตนก็ต้องฟันหลายพันกระบี่กว่าจะสังหารหมด หนำซ้ำถึงผีร้ายพวกนั้นจะอ่อนแอไปหน่อยแต่ก็ไม่โง่ มันยังรู้จักหลบหลีก
การจะสังหารผีร้ายระดับแก่นพลังทองพวกนี้ เดาว่าเสิ่นเทียนคงเหนื่อยจนสำลัก!
อีกทั้งการรับมือกับผีร้ายพวกนี้ เสิ่นเทียนใช้เวลามากเกินไป หากยังไม่แก้ไขก็คงจะไม่มีผลดี
สิ่งที่ควรค่าแก่การเอ่ยถึงคือ โชคดีที่พวกมันหลุดจากการควบคุมของผู้สูงศักดิ์สวรรค์ลัทธิวิญญาณร้ายแล้ว ผีร้ายพวกนี้ประสานงานกันได้แย่ลงไปมาก ไม่สามัคคีกันอีกต่อไป
ด้วยความที่เป็นทหารไร้สังกัด จึงยังทำลายค่ายกลป้องกันของพันธมิตรฝ่ายเซียนในเวลาสั้นๆ ไม่ได้
“ผู้อาวุโสเยี่ย ข้าฆ่าผู้สูงศักดิ์สวรรค์พวกนั้นของลัทธิวิญญาณร้ายไปหมดแล้ว ไฉนถึงยังจัดการผีร้ายพวกนี้ไม่ได้”
เมื่อได้ฟังคำถามของเสิ่นเทียน เยี่ยฉิงชางก็ยิ้มกล่าว “ธงหมื่นภูตผีเป็นเพียงอาวุธวิเศษที่ใช้ควบคุมผีร้าย ไม่ใช่รากชีวิตของผีร้าย
ธงหมื่นภูตผีถูกทำลาย ผีร้ายพวกนี้เพียงแค่เสียการควบคุม ไม่ได้หายไป อีกทั้งในแดนปรโลกแห่งนี้ ผีร้ายพวกนี้แทบจะมีกายเป็นอมตะ
หากเจ้าไม่โจมตีถึงตายในทีเดียว ไม่ว่าจะบาดเจ็บสาหัสเพียงใด พวกมันก็จะฟื้นกลับมาได้เร็วที่สุด”
เหมือนกำลังพิสูจน์ว่าคำพูดของเยี่ยฉิงชางไม่ผิด ผีร้ายที่โดนเสิ่นเทียนรวมถึงพันธมิตรฝ่ายเซียนสังหารเริ่มก่อร่างขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
ไม่ว่าจะมืดขาด ขาขาด กระทั่งหัวขาด ตอนนี้กลับมาเป็นสภาพเดิมอย่างสมบูรณ์
คนส่วนใหญ่ในพันธมิตรฝ่ายเซียนต่างหนาวสั่น
ต้องบอกเลยว่าอู๋เซิงสมกับเป็นเจ้าผู้คุ้มกฎของลัทธิวิญญาณร้าย วางค่ายกลที่เรียกได้ว่าหมากเข้าตาจน หากไม่ได้เสิ่นเทียนอาศัยการดูวงรัศมีกับคำชี้แนะของเยี่ยฉิงชาง ใช้ศักยภาพเหลือล้นสังหารผู้สูงศักดิ์สวรรค์ลัทธิวิญญาณร้ายก่อน ผีร้ายพวกนี้ก็แทบจะไร้พ่าย
ต่อให้ตอนนี้ผู้ควบคุมตายไปทั้งหมดแล้ว ผีร้ายพวกนี้ก็ยังจัดการยากมาก ถึงอย่างไรก็มีพลังฟื้นฟูสูงมาก
“แต่ว่า การจะทำลายจากรากฐานของผีร้ายพวกนี้ ความจริงแล้วง่ายมาก”
เยี่ยฉิงชางยิ้มลำพองใจ “อยากรู้หรือไม่ เทียนเอ๋อร์ ขอแค่เจ้าเรียกข้าว่าปู่บุญธรรมสักครั้ง ข้าจะบอกเจ้า”
เสิ่นเทียนพูดไม่ออก
เหตุใดตาแก่นี่ถึงอยากเป็นปู่บุญธรรมคนอื่นเขานัก!
คนอื่นเขามีแต่เป็นพ่อบุญธรรม เป็นบุตรสาวบุญธรรม กระทั่งเป็นมารดาบุญธรรม
ไม่เคยได้ยินว่าจะเป็นปู่บุญธรรมเลย หรือว่าความสัมพันธ์ของโลกเซียนจะยุ่งเหยิงกัน
เสิ่นเทียนจึงพูดด้วยความจำใจ “ปู่บุญธรรม”
เยี่ยฉิงชางดีใจจนเครากระดก “ความจริงแล้ว! การจะจัดการผีร้ายพวกนี้ง่ายมาก ถาดวัฏจักรหกมรรคกับจักรพรรดิบุปผาฟากฝั่งในตัวเจ้า โดยเฉพาะอาวุธวิเศษถาดวัฏจักรหกมรรคนี้ นั่นคือสมบัติสุดยอดจากดินแดนแห่งวัฏจักร
แม้ผู้หลอมอาวุธวิเศษชิ้นนี้จะเป็นไก่อ่อน แต่วิธีการหลอมมันไม่มีข้อบกพร่อง สามารถสร้างวัฏจักรง่ายๆ ได้ แค่เจ้าใช้วิชาโปรดสัตว์วิญญาณมรณะกระตุ้นถาดวัฏจักรหกมรรค ก็จะสร้างวัฏจักรในแดนปรโลกแห่งนี้ได้
ถึงตอนนั้น แรงอาฆาต พลังหยิน พิษร้าย ไฟกรรมในตัวผีร้ายพวกนี้จะถูกชะล้างในวัฏจักร ไม่ใช่แค่จัดการผีร้ายพวกนี้ได้ แต่ยังเพิ่มอานุภาพของถาดวัฏจักรหกมรรคได้อีกไม่น้อย”
แบบนี้ก็ได้หรือ
เสิ่นเทียนอึ้งอยู่ในใจ ก่อนจะดีใจทันที
มีคนแก่ในบ้านเหมือนมีสมบัติอยู่จริงๆ ด้วย แข็งแกร่งนี่ตาเฒ่า~
แต่ว่า แม้แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะมีวิชาโปรดสัตว์วิญญาณมรณะ แต่เสิ่นเทียน…ไม่ได้เรียนมา
ถึงอย่างไรเสิ่นเทียนก็เข้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มาเต็มที่แค่ไม่กี่เดือน ในตัวยังมีคัมภีร์จักรพรรดิอีกเป็นกอง
แม้แต่คัมภีร์จักรพรรดิยังไม่มีเวลาฝึกฝน จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงวิชาโปรดสัตว์วิญญาณมรณะเลย
“อะแห่ม ผู้อาวุโสเยี่ย คือข้าใช้วิชาโปรดสัตว์ไม่เป็น”
เสิ่นเทียนเกาศีรษะ ทำท่าทางให้เห็นว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์
เยี่ยฉิงชางถึงกับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ช่างเถอะ เจ้าเอาพลังในตัวเจ้าใส่ไปในถาดวัฏจักรหกมรรคก็พอ ที่เหลือข้าจัดการเอง”
ส่งพลังงานออกไปหรือ
เรื่องนี้ข้าชำนาญ!
เสิ่นเทียนยิ้ม ก่อนจะเรียกถาดวัฏจักรหกมรรคออกมา
พลังคัมภีร์คบเพลิงในตัวเขาถูกส่งเข้าไปในถาดวัฏจักรหกมรรคเรื่อยๆ
ทองคำเซียนปีกปักษา เถากลืนกินเซียน น้ำมวลหนักปฐมกาล อัคคีอรุณใต้ ดินบริสุทธิ์วัฏจักร และอัสนีเทพปัญจธาตุกำเนิดฟ้า
พลังหกชนิดวนเวียนไปมาในถาดวัฏจักรหกมรรค ทำให้ถาดกระเบื้องเล็กสีเงินขยายใหญ่ขึ้นด้วยความเร็วระดับสายตามองทัน
ใหญ่เท่าถาดกระเบื้องเล็ก
ใหญ่เท่าถาดกระเบื้องใหญ่
ใหญ่เท่าอ่างล้างหน้า
ใหญ่เท่าหินโม่
……
สุดท้ายก็มีกงล้อเทพสีเงินยักษ์เก้าจั้งปรากฏขึ้นในสายตาทุกคน
กงล้อเทพสีเงินนี้แบ่งเป็นหกส่วน ทุกส่วนแกะสลักลวดลายที่ลึกลับอย่างยิ่ง ทำให้คนเห็นแล้วจะรู้สึกว่าลึกลับมหัศจรรย์
มันเปล่งแสงระยิบระยับ ส่องสะท้อนบนตัวทุกคน ทำให้บาดแผลที่โดนกรงเล็บผีร้ายพิษรุนแรงและตุ่มพุพองจากผีร้ายไฟกรรมเริ่มฟื้นฟูกลับมาช้าๆ
เสิ่นเทียนนั่งขัดสมาธิข้างหน้าถาดวัฏจักรหกมรรค หลับตาลงเล็กน้อย แสงศักดิ์สิทธิ์ส่องสะท้อนลงมาดูองอาจห้าวหาญยิ่ง เหมือนกับเทพเจ้ามาเยือน
ริมฝีปากเขาเปิดออกเล็กน้อย ไม่มีเสียงใดๆ ลอดออกมา ทว่ากลับมีเสียงสวดลอยล่องห่างไกลดังขึ้นในความว่างเปล่า
“วิถีมนุษย์เล็กจ้อย วิถีเซียนกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา
วิถีภูตผีสงบสุข ผู้คนกำเนิดหนทาง
วิถีเซียนถือกำเนิด วิถีภูตผีสิ้นสุด
วิถีเซียนมักประสบสิ่งดี วิถีภูตผีมักประสบสิ่งร้าย”
……..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน