บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 286

บทที่ 286 เหตุใดบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ถึงใหญ่เช่นนี้

ในที่สุดก็มาแล้วรึ

เมื่อเห็นบุรุษประหนึ่งราชาเทพหนุ่มมาเยือนโลก ยืนบนเวทีประลองอย่างโอหัง ฉีเซ่าเสวียนรู้สึกเลือดร้อนในกายขึ้นมา

นั่นเขา บุรุษคนนั้น

บุรุษที่เกือบทำให้จิตใจไร้พ่ายของเขาแตกสลาย!

เห็นๆ อยู่ว่ามีศักยภาพที่จะสู้กับแซ่ฉีในระดับสูงสุดได้ แต่กลับใช้การแบ่งรุ่นมากดขี่ข้า

ตอนนี้บนเวทีประลองเทพสงคราม ในที่สุดข้าแซ่ฉีก็มีโอกาสสู้กับเจ้าอย่างยุติธรรม ดูเถอะว่าใครคือโอรสสวรรค์อันดับหนึ่งของดินแดนบูรพา!

ฉีเซ่าเสวียนกำง้าวมังกรสวรรค์ในมือ กระทั่งรู้สึกว่าเหงื่อออกมืออย่างพบเห็นได้ยาก

“บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เสิ่นเทียน ขอคำชี้แนะจากสหายด้วย”

ร่างเงาตรงหน้าป้องมือคารวะฉีเซ่าเสวียนช้าๆ ใบหน้ามีรอยยิ้มบางๆ ดูสุภาพนุ่มนวลเป็นพิเศษ

ทว่าหลังเขาป้องมือคารวะแล้ว ภาพปรากฏการณ์ทั้งหมดข้างหลังเสิ่นเทียนก็หายกลับไป ทั้งตัวเขาพลันดูเหมือนบ่อน้ำเก่าไร้คลื่น ลึกล้ำไม่อาจคาดเดา

หมอกควันแผ่กระจายมาจากตัวเขา ปกคลุมรอบเวทีประลองในพริบตา

เมื่อหมอกควันปกคลุมเวทีประลอง เสิ่นเทียนก็หายไปในหมอกนั้น แม้แต่ผู้ฝึกบำเพ็ญที่ดูถ่ายทอดสดอยู่ยังไม่หาเสิ่นเทียนไม่พบเลย

ถึงอย่างไรเวทีประลองก็มีขนาดร้อยจั้ง แต่ในหมอกวิญญาณบดบังฟ้า ผู้ฝึกบำเพ็ญธรรมดายังมองเห็นไม่ชัดในระยะสิบเมตรด้วยซ้ำ

เวลานี้ ทั้งเวทีประลองเงียบสงัด ทุกคนมองฉีเซ่าเสวียน อยากรู้ว่าโอรสสวรรค์หกดาวคนใหม่จะทำลายวิชาอำพรางกายของเสิ่นเทียนได้หรือไม่

“วิชาอำพรางตา? น่าเสียดายที่ไร้ผลกับข้าแซ่ฉี”

ฉีเซ่าเสวียนหัวเราะเยาะ เนตรสวรรค์สีม่วงตรงหว่างคิ้วเปิดขึ้นทันที

ตอนนี้เขาถือง้าวมังกรสวรรค์ เนตรสวรรค์ตรงระหว่างคิ้วกวาดสายตามองไปทั้งเวทีประลองปานสายฟ้า

ประกายแววตาลุกวาวมาพร้อมกับพลังยิ่งใหญ่ที่มองทะลุทุกสิ่ง

“ข้าเจอเจ้าแล้ว!”

ฉีเซ่าเสวียนหัวเราะเยาะ ก่อนจะกวัดแกว่งง้าวมังกรสวรรค์ในมือแทงไปข้างหลัง

บึ้ม~

ค้อนเทพสีม่วงยักษ์ทุบใส่ง้าวมังกรสวรรค์อย่างรุนแรง กระแสพลังน่าสะพรึงพลันหมุนม้วนออกไป

เวทีประลองใต้ฉีเซ่าเสวียนพังลงโดยพลัน ขาจมลงไปในเวทีประลองเกือบครึ่ง รอยร้าวลุกลามออกไปราวกับใยแมงมุม

ใช่ เมื่อครู่เสิ่นเทียนอ้อมมาโจมตีข้างหลังฉีเซ่าเสวียน แต่กลับทำไม่สำเร็จ

เนตรสวรรค์เคหาสน์ม่วงของฉีเซ่าเสวียนมองทะลุทุกสิ่ง ทำลายหมอกวิญญาณของเสิ่นเทียนได้

“พลังป่าเถื่อนมาก น่าเสียดายยังไม่พอ!”

กรรซ~

เสียงมังกรร้องดังขึ้น ง้าวมังกรสวรรค์ในมือฉีเซ่าเสวียนเหมือนกับคืนชีพขึ้นมา

มังกรยักษ์สีดำทุกส่วนรวมขึ้นจากง้าวมังกร แยกเขี้ยวกางกรงเล็บพุ่งไปตามค้อนนภาม่วงสะท้านฟ้า พุ่งกระโจนเข้าใส่เสิ่นเทียน

ฉีเซ่าเสวียนมีสีหน้าจริงจังเล็กน้อย เพราะเขารู้ว่าเนตรสวรรค์เคหาสน์ม่วงของตนไม่ได้มองทะลุหมอกวิญญาณอย่างสมบูรณ์

หมอกวิญญาณบดบังฟ้านี่ชั่วร้ายมาก แม้แต่เนตรสวรรค์ของฉีเซ่าเสวียนยังไม่อาจมองข้ามได้

ดีที่เวทีประลองเทพสงครามไม่ใหญ่ ไม่อย่างนั้นเป็นปัญหาจริงๆ แน่!

“กรงเล็บมังกรสวรรค์!”

กรรซ์~

คล้ายกับเสียงร้องมังกร มาพร้อมกับอานุภาพมังกรที่ไม่ด้อยไปกว่าฉีเซ่าเสวียนเลย

เสิ่นเทียนเก็บค้อนนภาม่วงสะท้านฟ้าก่อนจะชกหมัดขวาออกไปอย่างฉับพลัน สายฟ้าสีทองพลันกลายเป็นมังกรแท้ พุ่งกระโจนใส่มังกรดำ

มังกรเทพสองตัวสีดำกับสีทองพัวพันกัน สู้กันกลางอากาศ ต่างฝ่ายต่างสูสีกัน

“สมกับเป็นคู่ต่อสู้ที่แซ่ฉียอมรับ ศักยภาพแข็งแกร่งจริงๆ!”

ฉีเซ่าเสวียนดวงตาเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ เขาสัมผัสได้ถึงความสุขที่ต่างไปจากตัวเสิ่นเทียน

ความสุขเช่นนี้ เขาไม่เคยได้สัมผัสจากการต่อสู้กับคนอื่นมาก่อน บุตรพุทธะขู่ตัวให้ความสุขเช่นนี้ไม่ได้ ฟางฉางก็ให้ไม่ได้เช่นกัน

ความพึงพอใจที่ได้สู้สุดกำลังกับอีกฝ่ายอย่างแท้จริง เป็นสิ่งที่ไม่อาจใช้คำพูดมาบรรยายได้

“ถึงเจ้าจะทำสัญญาเทพมังกรกับเอ๋าปิง แต่นักรบมังกรที่แกร่งที่สุดในยุคนี้ก็มีแต่แซ่ฉีเท่านั้น!”

ฉีเซ่าเสวียนเก็บง้าวมังกรสวรรค์ เนตรสวรรค์เคหาสน์ม่วงตรงระหว่างคิ้วพลันสว่างวาบขึ้น กลายเป็นกระแสลมหมุนสีม่วงพุ่งเข้าใส่เสิ่นเทียน

มังกรสู้เหนือฟ้า

มังกรท่องสี่สมุทร!

ทุบมังกรทอง!

มังกรผลาญแปดทิศ!

ง้าวมังกรแปดทิศบุกฝ่าไปอย่างไร้พ่าย ทุกกระบวนท่าโจมตีใส่ร่างเสิ่นเทียนที่เอาแต่โจมตีไม่ป้องกันอย่างสุดกำลัง

เวลานี้ ทั้งเวทีประลองถูกปกคลุมด้วยเงามังกรสีม่วงมหาศาล เสียงคำรามมังกรดังสนั่นแก้วหูทำให้คนตื่นตกใจหนาวสั่น

มองผ่านหมอกวิญญาณหนานั้น พวกผู้ชมเห็นเพียงเงาสีทองกับเงาสีม่วงกำลังปะทะกันไม่หยุด

ส่วนรายละเอียดกลับเห็นความจริงไม่ชัด ขนาดดวงจิตหอคอยบริการพวกเขาเป็นพิเศษด้วยการลดผลการอำพรางของหมอกวิญญาณลงแล้ว

ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงเห็นเพียงหมอกขาว ไม่เห็นอะไรเลย

“การต่อสู้นี้น่าตื่นเต้นจริงๆ! ถ้าเห็นบุตรศักดิ์สิทธิ์สองคนสู้กันชัดเจนก็คงจะดี”

“มีคนบอกว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เคยสังหารปีศาจบนที่ราบหมอกลับแล หรือว่าหมอกนี่จะเป็นวิชาที่ได้มาจากปีศาจตนนั้น”

“แต่ก็โชคดีที่อีกฝ่ายคือบุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วง หากไม่มีเนตรสวรรค์เคหาสน์ม่วง ทุกคนจะไม่ถูกกดขี่ในหมอกวิญญาณนี่กันหมดหรือ”

“ดูท่าไม้ตายของบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะแพ้ทางบุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วง ศึกนี้อันตรายแล้ว”

“น่าขัน! พวกเจ้ารู้แค่ว่าหมอกวิญญาณบดบังฟ้าคือไม้ตายของบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ แต่พวกเจ้ารู้หรือว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์มีไม้ตายกี่กระบวนท่า”

“ใช่ กับอีแค่บุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงตัวจ้อยคู่ควรจะสู้กับศิษย์พี่บุตรศักดิ์สิทธิ์รึ ศิษย์พี่คือโอรสสวรรค์ที่ได้หอคอยเทพสงครามมาครองเชียว!”

“บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สู้ๆ ซัดไอ้คนอัปลักษณ์บุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงให้หมอบเลย! ข้ากับพวกศิษย์พี่หญิงสนับสนุนท่าน!”

“จะว่าไป บุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงก็มีหน้าตาหล่อเหลาเอกลักษณ์ห้าวหาญ ไปว่าเขาคนอัปลักษณ์ก็เกินไปหน่อยกระมัง!”

“ไม่สนๆ มาประชันใบหน้ากับบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ เขาก็คือคนอัปลักษณ์!”

……

บึ้ม!

ข้อความลอยขึ้นมาแน่นขนัด บนเวทีเทพสงครามเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน

หมอกวิญญาณที่เดิมทีปกคลุมทั้งเวทีประลองสลายไปช้าๆ ร่างของเสิ่นเทียนกับฉีเซ่าเสวียนปรากฏตรงหน้าทุกคน

บนตัวเสิ่นเทียนมีสายฟ้าสีทองขยับแสง อัสนีเทพกำเนิดฟ้ารวมเป็นชุดเกราะ ข้างหลังจะเห็นเป็นสัตว์เทพสิบทิศแยกเขี้ยวกางกรงเล็บร้องคำราม

ข้างหลังฉีเซ่าเสวียนเป็นไอม่วงจากบูรพาสามพันจั้ง ส่วนหนึ่งของท้องฟ้าบนเวทีประลองถูกย้อมด้วยไอม่วง เหมือนกับเทพเจ้าลงมายังโลก

“ข้ายอมรับว่าเจ้าแกร่งมาก น่าเสียดาย เทียบกับแซ่ฉีแล้วเจ้ายังมีกำลังไม่พอ!”

ฉีเซ่าเสวียนเส้นผมปลิวไสว ไอม่วงสามพันจั้งเริ่มหดตัวลง รวมเป็นเกราะศักดิ์สิทธิ์สีม่วง

บทต้องห้ามคัมภีร์จักรพรรดิเคหาสน์ม่วง…ไอม่วงบูรพาสามหมื่นลี้!

หลังจากสำแดงบทต้องห้าม ฉีเซ่าเสวียนมีพลังพุ่งขึ้นสูงทั้งตัว

ตัวเขาหลอมรวมกับง้าวมังกรในมือเป็นหนึ่ง ใช้พลังผ่าภูผาฟันใส่ศีรษะเสิ่นเทียน

พริบตานั้น ง้าวมังกรสวรรค์เปล่งแสงง้าวร้อยจั้ง ลากผ่านครึ่งเวทีประลองฟันใส่ศีรษะเสิ่นเทียน

มวลอากาศพังทลายลงภายใต้ประกายคมง้าวมังกร

กระบวนท่าไม่ได้เลิศล้ำ แต่แฝงไว้ด้วยพลังมหาศาลของไอม่วงหมื่นจั้ง ปิดผนึกทางหนีทุกทางไว้

เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีเช่นนี้ เสิ่นเทียนไม่มีทางเลือกอื่น ได้แต่ฝืนรับกระบวนท่า

“แสงเทพห้าสี รวมให้ข้า!”

อัสนีเทพสีทองสว่างจ้าหุบเข้าไปแล้วแทนที่ด้วยแสงเทพขยับแสงห้าสี รวมเป็นกรงแสงคลุมตัวเสิ่นเทียนไว้

ง้าวมังกรสวรรค์โจมตีใส่กรงแสงเทพห้าสีด้วยพลังผ่าขุนเขา ชั่วพริบตาเดียวก็กดทั้งกรงแสงจมลงเวทีประลองเทพสงคราม ฝุ่นควันคละคลุ้ง

กึก~

เกิดรอยร้าวขึ้นช้าๆ บนกรงแสงเทพห้าสี สว่างจ้าแสบตายิ่ง

“ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะไม่ได้แค่เรียนคัมภีร์จักรพรรดิมังกรแท้จริง แต่ยังฝึกวิชาแสงเทพห้าสีของเผ่าเทพนกยูงอีก”

แม้ฉีเซ่าเสวียนจะเป็นสุดยอดโอรสสวรรค์ ตอนนี้ยังมีสีหน้าตกใจ ถึงอย่างไรแสงเทพห้าสีก็เป็นวิชาลับที่ไม่ถ่ายทอดให้ใครของเผ่าเทพนกยูง

เสิ่นเทียนกลับสำแดงแสงเทพห้าสี นั่นหมายความว่าเผ่าเทพนกยูงมีสัมพันธ์ที่ดีกับเขาหรือ

ก่อนจะนึกไปถึงข่งเมิ่งธิดาสวรรค์ที่แกร่งที่สุดของดินแดนทักษิณในรายนามดาวเด่นเทพสงคราม ฉีเซ่าเสวียนเกิดความคิดหนึ่งขึ้นในใจ

หรือว่าเผ่าเทพนกยูงแห่งดินแดนทักษิณจะเลือกเสิ่นเทียนเป็นพันธมิตรของเผ่าพวกเขากัน

เจ้านี่ไม่ใช่แค่นักขี่มังกรตัวเมีย แต่ยังเป็นนักขี่นกยูงตัวเมียอีกรึ

บัดซบ บัดซบ!

ฉีเซ่าเสวียนยอมรับว่าตนอิจฉา เขาเป็นโอรสสวรรค์อันดับหนึ่งของดินแดนบูรพาผู้ยิ่งใหญ่ กลับได้ทำสัญญากับมังกรตัวผู้องค์รัชทายาทลำดับเจ็ดของเผ่ามังกรเท่านั้น

แต่เจ้าเสิ่นเทียนมีคุณธรรมและความสามารถระดับใด ได้ทำสัญญาเทพมังกรกับเอ๋าปิงไม่เท่าไร แม้แต่นกยูงตัวเมียนั่นของเผ่าเทพนกยูงยังชื่นชอบเขาหรือ

หน้าตาหล่อเหลาแล้วคิดว่าเจ๋งนักหรือ

แซ่ฉีเองก็หน้าตาไม่ได้แย่เห็นๆ ไฉนถึงไม่ได้รับสวัสดิการเช่นนี้

“เรียนแสงเทพห้าสีแล้วอย่างไร สุดยอดพลังต่างหากคือราชธรรม ข้าจะทำลายแสงเทพของเจ้า! แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งดินแดนบูรพาแห่งนี้ ข้าฉีเซ่าเสวียนต่างหากคือบุตรแห่งสวรรค์ที่แท้จริง!”

ครั้นเอ่ยจบ ก็มีแก่นพลังทองลูกหนึ่งลอยขึ้นมาเหนือศีรษะฉีเซ่าเสวียนช้าๆ เปลือกผิวมีลายเทพสิบสายวนเวียน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน