บทที่ 299 คำเชิญจากองค์หญิงเงือก (1)
นอกเมืองสุขาวดี
ไอม่วงอบอวล ฉีเซ่าเสวียนยืนอย่างโอหัง
ตรงข้ามเขาคือปี้เสวียนชิงที่บาดเจ็บสาหัส ตอนนี้เลือดนอง
คนรับใช้ข้างกายปี้เสวียนชิงรีบนำโอสถเยียวยาออกมา กรอกใส่ปากเขาราวกับไม่ต้องใช้เงินแล้ว
สำหรับเผ่าอสรพิษ ดีงูคือจุดยุทธศาสตร์ ปี้เสวียนชิงถูกแทงดีงู จึงตัดสินแพ้ชนะกันได้ชัดเจนแล้ว
อสูรสูงศักดิ์อัจฉริยะระดับนิพพานผู้ยิ่งใหญ่ กลับพ่ายแพ้ให้กับเผ่ามนุษย์ระดับแก่นพลังทองตัวเล็กๆ ต้องบอกว่าปี้เสวียนชิงขายหน้าป่นปี้หมดแล้ว
ทางด้านฉีเซ่าเสวียนที่ประมือกับเขากลับโดดเด่นอย่างถึงที่สุด
แม้เผ่าอสูรทะเลจะรักเกียรติศักดิ์ศรีมาก แต่หากศักยภาพโดดเด่นมากจริงๆ ปกติจะได้รับความเคารพเช่นกัน
มิหนำซ้ำฉีเซ่าเสวียนยังมีใบหน้าหล่อเหลาองอาจมากจริงๆ หากไม่เทียบกับเสิ่นเทียน ก็ถือว่าเป็นบุรุษรูปงามที่หาได้ยากในทะเลเหนือเลย
เวลานี้ สตรีเผ่าทะเลที่ล้อมมุงดูอยู่มากมายต่างหน้าแดงเรื่อ หัวใจสั่นไหว
ฉีเซ่าเสวียนใช้ศักยภาพของเขาพิสูจน์ว่าตนคือโอรสสวรรค์สูงสุดของห้าดินแดน ไร้พ่ายใต้เสิ่น!
อืม นามนี้เหมือนจะแปลกๆ น่าจะไร้พ่ายใต้ฟ้าสิ!
เหตุใดถึงรู้สึกเหมือนมีอีกความหมาย
อ้อ จิตมารที่สลัดไม่หลุดนี่เอง!
…..
ฉีเซ่าเสวียนโคจรพลังไล่ปราณกระบี่ ‘โลหิตมรกตพราวแสงครามชาด’ ออกมาไปพลาง คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยไปพลาง
เขารู้สึกว่าตอนนี้สภาพจิตใจตนแปลกไปนิด ไร้อนาคตหน่อยๆ เหตุใดถึงกำเนิดเป้าหมายไว้ที่ ‘ไร้พ่ายใต้เสิ่น’ กัน!
แม้แซ่ฉีจะสู้สหายเสิ่นไม่ได้ชั่วคราว แต่ปลาที่จะกลายเป็นนกก็ควรจะมีปณิธานพุ่งทะลวงฟ้า มีเพียงนกกระจอกที่บินไม่ขึ้นไม่ใช่หรือ
ต้องปรับสภาพจิตใจเช่นนี้ให้ถูกต้อง จะชินกับความรู้สึกที่ถูกเสิ่นเทียนกดขี่ไม่ได้เด็ดขาด!
ไม่เช่นนั้นจะเป็นเหมือนที่เสิ่นเทียนพูดไว้จริงๆ คนที่แพ้ให้กับเขา จะมีแต่โดนเขาทิ้งห่างไปไกลขึ้นเรื่อยๆ
ข้า ฉีเซ่าเสวียน คือบุรุษที่จะไล่ตามและแซงหน้าเสิ่นเทียน!
จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้เดือดพล่านอยู่ในใจ ฉีเซ่าเสวียนหน้าขาวซีดเล็กน้อย ก่อนจะอดสำรอกโลหิตที่ตีขึ้นมาไม่ได้
พรวด!
โลหิตสีมรกตพ่นใส่หินผาก้อนหนึ่ง ก่อนจะกัดพร่อมมันเป็นรูใหญ่
เห็นได้ชัดว่าปราณกระบี่ที่มากับกระบี่นั้นของปี้เสวียนชิงรับมือยากมาก ไม่ใช่แค่ขจัดยากราวกับมีหนอนแมลงวันไต่กระดูกข้อเท้าเท่านั้น แต่ยังมีพิษร้ายแรงด้วย
ถึงคุณสมบัติกายของฉีเซ่าเสวียนจะเหนือธรรมดา แต่การจะฟื้นฟูอาการบาดเจ็บก็ต้องมีพักหลายวัน
ทว่าโอรสสวรรค์ทางฝั่งของปี้เสวียนชิงไม่คิดจะหยุดมือง่ายๆ โดยเฉพาะหลังจากปี้เสวียนชิงพ่ายแพ้ หากพวกเขาถอยไปเช่นนี้ เกียรติของหลายเผ่าพวกนั้นคงได้ป่นปี้หมด
“บุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงเก่งกาจจริงๆ ไม่อยากเชื่อว่าจะเอาชนะปี้เสวียนชิงได้!”
“แต่ศักยภาพแค่นี้คิดจะมาอวดศักดาในทะเลเหนือ ยังไม่พอหรอก”
“อย่าหาว่าข้าฉวยโอกาสตอนคนอื่นวิกฤติเลย หากเจ้ารับข้าได้สิบกระบวนท่า วันนี้จะปล่อยผ่านไป หากรับไม่ได้ พวกเจ้าต้องออกจากทะเลเหนือ! เขตแดนทะเลเหนือของเราไม่ต้อนรับเผ่ามนุษย์อย่างพวกเจ้า!”
บุรุษร่างกำยำสูงใหญ่เดินหน้ามาหนึ่งก้าว ร่างเขาเป็นศีรษะจระเข้ ข้างหลังแบกดาบใหญ่ นี่คือโอรสสวรรค์เผ่าเทพจระเข้จักรพรรดิ
กลิ่นอายพลังในตัวเขาหยั่งลึกไม่อาจคาดเดายิ่งกว่าปี้เสวียนชิงอีก
หากบอกว่ากำลังรบของปี้เสวียนชิงมีเพียงหกพัน เช่นนั้นกำลังรบของเอ้อทงเทียนก็มีอย่างน้อยหนึ่งหมื่น ประกอบกับสายเลือดของเผ่าเทพจระเข้จักรพรรดิไม่ได้ถูกเผ่ามังกรกดขี่เหมือนเผ่าเทพอสรพิษดำ
เวลาสู้จริง ฉีเซ่าเสวียนจะเจอกับแรงกดดันมากกว่า
โดยเฉพาะตอนนี้ฉีเซ่าเสวียนบาดเจ็บอีกต่างหาก
เอ้อทงเทียนออกสิบกระบวนท่าสุดกำลังไม่ได้รับง่ายขนาดนั้น ไม่ทันไรก็อาจจะแพ้อย่างอนาถ
หากแพ้ในสิบกระบวนท่า เอ้อทงเทียนจะไม่ใช่แค่กู้หน้ากลับมาได้เท่านั้น แต่ยังทำให้ฉีเซ่าเสวียนไปจนถึงเกาะมังกรดำขายหน้าลากไปกับพื้น
เจ้าจระเข้นี่ดูตัวใหญ่ทึ่มทื่อ แต่มีความคิดกำกวม ค่อนข้างเจ้าแผนการเลยทีเดียว
เขาออกมือตอนนี้ เป็นการคว้าโอกาสไว้อย่างสมบูรณ์แบบ!
…….
“เหอะๆ สิบกระบวนท่าก็คิดจะเอาชนะข้ารึ ฝันไปเถอะ!”
ฉีเซ่าเสวียนสูดลมหายใจเข้าลึก ถือง้าวมังกรสวรรค์กลับด้าน จะเดินเข้าไปด้วยใบหน้าซีดขาว
ทว่าตอนนี้เองมีมือข้างหนึ่งขวางไว้หน้าฉีเซ่าเสวียน เสิ่นเทียนพูดด้วยเสียงเรียบนิ่ง “อย่าฝืน”
ชุดคลุมขาวดั่งหิมะ เสิ่นเทียนยืนอย่างสะโอดสะอง
เขายื่นมือขวาออกมาช้าๆ วางบนบ่าฉีเซ่าเสวียน
ความเจ็บปวดแล่นมาจากบาดแผล ฉีเซ่าเสวียนจะต่อต้านตามสัญชาตญาณ แต่ก็อดกลั้นไว้
เพราะเขารู้สึกว่าสหายเสิ่นน่าจะไม่ได้ทำร้ายเขา อีกทั้งถ้าเสิ่นเทียนคิดจะทำร้ายเขาจริงๆ เขาก็ต่อต้านอะไรไม่ได้
ถาดวัฏจักรหกมรรคหมุนวนช้าๆ พลังปราณเดิมบริสุทธิ์กลุ่มหนึ่งหลั่งทะลักเข้าไปในกายฉีเซ่าเสวียน พริบตาเดียวก็ขจัดพิษงูทั้งหมด
ขณะเดียวกันฉีเซ่าเสวียนยังรู้สึกว่าปราณกระบี่ที่จัดการยากในกายตนยอมศิโรราบในฉับพลัน
ในเวลาไม่กี่ลมหายใจ ปราณกระบี่สีมรกตสายหนึ่งก็พุ่งออกมาจากบ่าของฉีเซ่าเสวียน
หินผาขนาดจั้งกว่าที่ห่างไปร้อยเมตรขาดเป็นสองส่วน ตรงรอยตัดเรียบเนียนราวกับกระจก
“เป็นไปได้อย่างไร ขจัดออกมาง่ายดายเช่นนี้ได้อย่างไร!”
ปี้เสวียนชิงที่ยังบาดเจ็บหนักอยู่ไม่ไกลหรี่ดวงตาอสรพิษแคบลง ถูกกระทบกระเทือนเสียจนกระอักเลือดมาคำใหญ่
พึงรู้ไว้ว่าเผ่าอสรพิษดำทะเลมรกตเป็นเผ่าที่ชำนาญการลอบสังหารที่สุด ให้ความสำคัญกับการจู่โจมในทีเดียวและหลบหนี
ภายใต้สถานการณ์ส่วนใหญ่ หลังจากโอรสสวรรค์เผ่าอสรพิษดำแทงศัตรูแล้วจะส่งปราณกระบี่และพิษงูเข้าไปในตัวเหยื่อ ต่อให้ไม่โดนจุดสำคัญก็จะสร้างความเสียหายต่อเนื่อง
เมื่อพิษงูกับปราณกระบี่ออกฤทธิ์ เผ่าอสรพิษดำจะจู่โจมครั้งที่สอง ก็จะปลิดชีพอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย
ต่อให้ติดที่ฐานะพันธมิตรของเกาะมังกรดำ ไม่อาจสังหารฉีเซ่าเสวียนจริงๆ ได้ อย่างน้อยก็เอาชนะเขาได้ หากไม่ใช่เพราะฉีเซ่าเสวียนระเบิดการโจมตีทำให้ปี้เสวียนชิงบาดเจ็บหนักในกระบวนท่าเดียว ก็คงจะคาดการณ์ผลแพ้ชนะเมื่อครู่ได้ยากมาก
ถึงปี้เสวียนชิงจะพ่ายแพ้แล้ว แต่ก็ทำให้ฉีเซ่าเสวียนบาดเจ็บเช่นกัน
ด้วยสถานะติดลบจากพิษงูและปราณกระบี่ซ้อนทับกันจะทำให้ฉีเซ่าเสวียนอ่อนกำลังลง ก็ไม่แน่ว่าอาจจะรับเอ้อทงเทียนได้ไม่ถึงสิบกระบวนท่าจริงๆ
ทว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์นั่นทำอะไร
เขาเพียงแค่วางมือบนบ่าฉีเซ่าเสวียนก็ขจัดปราณกระบี่ของปี้เสวียนชิงออกมาได้ในทันใด กระทั่งโลหิตตรงบ่าของฉีเซ่าเสวียนยังกลับมาเป็นสีแดง นั่นหมายความว่าขจัดพิษงูในตัวเขาแล้ว
กลอุบายที่ปี้เสวียนชิงภูมิใจที่สุด กลับถูกเสิ่นเทียนแก้ได้ในฉับพลัน!
นี่ ทำให้เขายอมรับได้ยากยิ่งกว่าแพ้ให้กับฉีเซ่าเสวียนอีก!
…….
“ขอบคุณสหายเสิ่น”
ฉีเซ่าเสวียนสูดลมหายใจเข้าลึก เกิดความตกใจในจิตใจเรียบนิ่ง
แม้เขาจะรู้ว่าเสิ่นเทียนมีวิชามากมาย แต่ไม่นึกว่าวิชาของเสิ่นเทียนจะน่าตกใจถึงเพียงนี้
แม้แต่ปราณกระบี่พิษร้ายแรงที่จัดการยากที่สุดของโอรสวรรค์เผ่าอสรพิษดำทะเลมรกตยังแก้ได้ในพริบตา
ระหว่างแซ่ฉีกับสหายเสิ่นยังมีความต่างกันอยู่จริงๆ!
“สหายฉีชนะไปรอบหนึ่งแล้ว เจ้าจระเข้นี่ ให้แซ่เสิ่นจัดการเถอะ!”
เสิ่นเทียนมองหน้าผากของฉีเซ่าเสวียน ก่อนจะตบบ่าเขาพลางพูดด้วยรอยยิ้ม “ถ้าไม่เช่นนั้น เห็นทีพวกเขาคงจะไม่ยอมรับแซ่เสิ่น”
เมื่อเห็นเสิ่นเทียนยิ้มแล้ว ฉีเซ่าเสวียนอึ้งไปเล็กน้อย รู้สึกถึงความไว้ใจอันยิ่งใหญ่
สารภาพตามตรง ถึงฉีเซ่าเสวียนจะมีความโอหังพุ่งขึ้นฟ้า แต่ก็พอจะรู้ศักยภาพของตนคร่าวๆ จึงไม่ได้หน้ามืดตามัวอวดดี
ระดับพลัง กำลังรบ และพลังของเอ้อทงเทียนแกร่งกว่าปี้เสวียนชิง ต่อให้เป็นตนในสภาพสมบูรณ์ก็อาจเอาชนะจระเข้นี่ไม่ได้
มิหนำซ้ำเขาเพิ่งหายบาดจากอาการบาดเจ็บหนักมา เสียพลังฤทธิ์และพลังปราณเดิมไป ยังไม่อยู่ในสภาพสมบูรณ์
ต่อให้รับสิบกระบวนท่าของเอ้อทงเทียนได้จริงๆ แต่ถ้าเอาชนะไม่ได้แล้วจะอย่างไร ไม่ได้เชิดหน้าชูตาเลย
หากเป็นสหายเสิ่น ก็น่าจะมีโอกาสเอาชนะปีศาจจระเข้นี่ได้กระมัง!
เมื่อคิดได้ดังนั้น ฉีเซ่าเสวียนก็พยักหน้าช้าๆ
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น สหายเสิ่นก็ระวังด้วย”
……..
“ดูท่าแล้วเจ้าคงจะแกร่งกว่าไอ้หนูเมื่อครู่นี้ล่ะสิ อืม หน้าตาก็ดีกว่า บัดซบ คนหน้าขาวหน้าดีสมควรถูกตี!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน