บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 318

บทที่ 318 อันดับหนึ่งใต้ฟ้า มีได้เพียงคนเดียว!

เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายมังกรยักษ์น่ากลัวหลายสิบตัวข้างหลัง ใบหน้าที่เดิมทีซีดขาวของหวังเสินซวี ตอนนี้ขาวซีดยิ่งกว่าเดิม

ต้องรู้ว่าเขาไม่ได้แอบมาเขตทะเลเบิกฟ้าเพื่อมาเที่ยวเล่น

เรื่องมันเป็นเช่นนี้ เมื่อหลายเดือนก่อนฉีเซ่าเสวียนท้าประลองกับบุตรศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในดินแดนบูรพา หวังเสินซวีในนั้นอยู่อันดับสี่ในรายนามแก่นพลังทอง เป็นเป้าหมายสำคัญ

ทว่าหวังเสินซวีฝึกคัมภีร์จักรพรรดิท้องนภา เป็นวิชากัดกินชีวิต

วิชาตื้นเขินพวกนั้นในนั้นไม่เท่าไร แต่วิชาสังหารลึกล้ำ แทบจะต้องเสียอายุขัย

โดยเฉพาะหวังเสินซวีมี ‘กายเทพท้องนภา’ เดิมทีนี่เป็นกายต้องสาป อายุขัยจะลดลงเร็วมากกว่าคนปกติ

ต่อให้เขาใช้โอสถล้ำค่าบำรุงกายมาตลอด ก็ยากจะมีชีวิตยืนยาวเหมือนกับผู้ฝึกบำเพ็ญคนอื่น

หากกล้าหาญสู้สุดชีวิตบ่อยครั้ง เกรงว่าคงมีชีวิตไม่เกินห้าสิบปี

ต้องรู้ว่าผู้ฝึกบำเพ็ญเซียนปกติ ต่อให้เป็นผู้จริงแท้แก่นพลังทองก็มีอายุได้อย่างน้อยห้าร้อยปี ผู้สูงศักดิ์ดวงจิตดรุณมีอายุขัยพันปี

ห้าสิบปีก็ตาย เรียกได้ว่าเป็นวีรบุรุษมักตายเร็วโดยแท้

ดังนั้นหวังเสินซวีจึงทิ้งจดหมายไว้อย่างไร้ศักดิ์ศรี จากนั้นหนีออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์

หน้าตาเป็นของสำนัก ชีวิตน้อยๆ เป็นของตน ทั้งยังไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย เขาจึงไม่ยอมสละตัวเอง!

หวังเสินซวีนำคลังสมบัติเล็กและชาห้าสิ่งเลอค่าของตนมาด้วย อาศัยจังหวะยามค่ำคืนลมแรงออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์ท้องนภา กระทั่งหนีออกจากดินแดนบูรพา

ในมุมมองเขา ข้าจะไปรับลมที่ทะเลอุดร

ที่นั่นห่างจากดินแดนบูรพาแสนแปดพันลี้ เจ้าฉีเซ่าเสวียนเก่งกาจกว่านี้ ก็คงไม่ถึงกับมาล่าสังหารข้าถึงทะเลอุดรกระมัง

หลังหนีมาทะเลอุดร หวังเสินซวีก็ใช้ชีวิตอย่างเอ้อระเหยและสุขสบายหลายวัน

อากาศที่นี่เยี่ยมมาก สายลมทะเลก็สบาย ปีศาจหอยก็ชุ่มชื่น

หวังเสินซวีชอบที่นี่มาก~

………

น่าเสียดายก็แต่ครั้งนี้ค่อนข้างรีบร้อนออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์ หวังเสินซวีนำเงินติดตัวมาไม่มากพอ

หลังเที่ยวเล่นสนุกสนานสักระยะหนึ่งก็ใช้ศิลาวิญญาณไปมากพอประมาณ ชาห้าสิ่งเลอค่าที่นำมาจากดินแดนบูรพาก็ดื่มไปมากเช่นกัน

หวังเสินซวีคิดว่าตนควรจะหาช่องทางทำเงินมาใช้จ่าย

ประจวบเหมาะกับได้ยินว่า ‘เขตทะเลเบิกฟ้า’ ของทะเลอุดรเปิด หวังเสินซวีคิดหน้าคิดหลังแล้วก็คิดว่าตนจะแอบเข้าเอาสมบัติล้ำค่าออกมาได้

ดังนั้นหวังเสินซวีจึงลดชีวิตลงหลายปี วางยอดค่ายกลเคลื่อนย้ายแบบสุ่มนอกเขตทะเลเบิกฟ้า

อาศัยจังหวะที่เขตทะเลเบิกฟ้าเปิด หวังเสินซวีก็ใช้ยอดค่ายกลข้ามผ่านปีศาจทะเลอุดรพวกนั้น ข้ามมิติมาในเขตทะเล

แต่เขาไม่นึกเลยว่าหลังข้ามยอดค่ายกลของตนมา มันจะส่งเขามาส่วนลึกของเขตทะเลเบิกฟ้า อีกทั้งยังส่งมาบนเกาะเลย

เดิมทีนี่ไม่ถือว่าเป็นเรื่องเลวร้าย ถึงอย่างไรพลังวิญญาณบนเกาะนี้ก็เต็มเปี่ยมมาก สมบัติก็เยอะมาก กระทั่งมีโสม เก๋ากี้ พุทราวิญญาณ หวงจิงอายุหลายพันปีไม่น้อย เก็บเกี่ยวมาเยอะๆ ยังเพิ่มอายุขัยได้ กำไรเลือดสาด

แต่หวังเสินซวีไม่คาดคิดว่า ‘กิจการยิ่งใหญ่’ ของตนยังไม่เริ่ม ก็ถูดขัดขาก่อน

เขาเพิ่งแอบขโมยเถาวัลย์เหอโส่วอูพันปีมาต้นเดียว ก็ถูกมังกรยักษ์ฝูงใหญ่ล่าสังหารหลายพันลี้

ไฉนต้องทำถึงขนาดนี้!

บนเกาะมีสมุนไพรวิญญาณอยู่ทุกที่ ให้ข้าหน่อยจะเป็นอะไรไป!

ไอ้เผ่ามังกรพวกนี้ ไม่ต้อนรับแขกกันเกินไปแล้ว!

หวังเสินซวีบ่นในใจไปพลาง หนีสุดชีวิตไปพลาง เขารู้สึกว่าร่างกายถูกควักออกเหลือแต่ความว่างเปล่า

ถึงอย่างไรการโจมตีของระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์จะหลบง่ายๆ ได้อย่างไร

‘วิชาท่องมิติ’ ของหวังเสินซวีแม้จะแข็งแกร่งมาก กระทั่งเรียกได้ว่าเป็นตัวโกง แต่ความแข็งแกร่งก็แลกมาด้วยชีวิต ทุกครั้งที่ใช้วิชาหลบหนีนี้ หวังเสินซวีจะเสียอายุขัยไปจำนวนมาก ใช้ต่อเนื่องกันอย่างน้อยก็เสียไปปีครึ่ง อย่างมากก็สามถึงห้าปี

หากหนีเช่นนี้ต่อไป หวังเสินซวีรู้สึกว่าฝูงมังกรพวกนี้ฆ่าเขาไม่ตาย แต่ตัวเขาเองจะอายุขัยหมดไปก่อน

‘หรือว่าข้าจะต้องคับแค้นใจอยู่ที่นี่เช่นนี้จริงๆ’

หวังเสินซวีกัดฟันด้วยความโกรธ เขาไม่ยอมหรอก!

…….

ทันใดนั้นเอง หวังเสินซวีหรี่ดวงตาลง

เพราะเขาพบว่าใต้เท้าเขาพลันมีเถาวัลย์พุ่งออกมาสองเส้น

เถาวัลย์สองเส้นนี้มีสีสันแวววาวเหมือนกับมรกต ทว่าในสายตาหวังเสินซวีกลับเหมือนอสรพิษ เพราะเถาวัลย์สองเส้นนั้นกำลังมัดขาสองข้างเขา อีกทั้งยังพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วน่าตกใจ

‘เป็นสัตว์ร้ายที่ควบคุมพืชได้รึ’

หวังเสินซวีหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย เขาไม่สงสัยเลยว่าหากตอนนี้ตนถูกมัดไว้ พวกมังกรยักษ์ข้างหลังจะชนเขาแหลกกระจายในพริบตาแน่นอน

“คิดจะจับข้ารึ ฝันไปเถอะ จงขาดไป!”

หวังเสินซวีใช้สองมือประสานมุทรา รวมเป็นกริชไร้รูปขึ้นในอากาศ ก่อนจะพุ่งเข้าใส่เถาวัลย์สองเส้นนั้น

ฟิ้ว~

กริชไร้รูปลากผ่านอากาศ แฝงไว้ด้วยพลังแห่งมิติส่วนหนึ่ง

ต่อให้เป็นเหล็กวิญญาณแกร่งผ่านการหลอมมาเป็นร้อยครั้ง ก็ยังโดนกริชแห่งมิตินี่ฟันขาดสองท่อนในทีเดียว

แต่หวังเสินซวีต้องพบเรื่องที่น่าตื่นกลัวคือ ตอนที่กริชแห่งมิติฟันใส่เถาวัลย์สองเส้นนั้น เพียงแค่สับขาดครึ่งเดียวเท่านั้น

อีกทั้งตอนที่กริชแห่งมิติสิ้นพลังงานหมดแล้ว รอยแผลของเถาวัลย์ก็แทบจะสมานกันในพริบตา

เถาวัลย์พุ่งเข้ามาหาเขาด้วยความเร็วไม่ได้ช้าลงเลย

บัดซบ ไม่จ่ายชีวิตก็ตัดเจ้าไม่ขาดรึ

หวังเสินซวีหน้าเขียวปัด ก่อนจะใช้สองมือประสานมุทราอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวพลังทั้งตัวเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก เหมือนจะหลอมรวมกับมวลอากาศเป็นหนึ่งเดียว

ตัวเขาเหมือนกลายเป็นมายา การโจมตีเปลวไฟ สายฟ้าและพายุหมุนมากมายทะลวงผ่านตัวเขา แต่กลับไม่สร้างอำนาจคุกคามให้เขาเลยแม้แต่น้อย

“มังกรยักษ์โง่เง่า คิดจะทำลายกายเทพท้องนภาของข้ารึ ฝันไป…อึก!”

หวังเสินซวียังพูดไม่จบ ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความตื่นกลัว

เพราะเขาพบว่าเถาวัลย์สองเส้นนั้นมองข้ามกายเทพท้องนภาของเขาไปเลย ทะลวงมวลอากาศเข้ามามัดเอวเขา

ไอ้เถาวัลย์บ้านี่ ไม่อยากเชื่อว่าจะมีความสามารถทะลวงมวลอากาศได้!

ต้องรู้นะว่าวิชามิติของหวังเสินซวีสูงส่งกว่า ‘การข้ามมิติ’ ของผู้สูงศักดิ์ส่วนใหญ่ไม่รู้กี่เท่า

เขาซ่อนอยู่ในส่วนลึกของมิติ แม้การโจมตีของระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์จะฉีกมิติได้ ก็ยังมาไปไม่ถึงระดับความลึกนั้น จึงยิ่งคุกคามไม่ถึงเขา

แต่หวังเสินซวีไม่นึกเลยว่าเถาวัลย์นี่จะยื่นเข้ามาได้!

จบแล้ว ตายแน่แล้ว~

…….

ที่หวังเสินซวีวิ่งวนกับมังกรยักษ์พวกนี้ได้ตลอด ก็อาศัยการที่มังกรยักษ์พวกนี้โจมตีไม่โดนเขา ตอนนี้เถาวัลย์ประหลาดนี่มัดเขาไว้ เขาจะเอาอะไรมาสู้กับมังกรยักษ์พวกนี้

“พี่ใหญ่มังกรยักษ์ไว้ชีวิตข้าเถอะ! ข้ายังเป็นชายบริสุทธิ์อยู่นะ!”

เถาวัลย์สีมรกตมัดเอวหวังเสินซวีก่อนจะกระชากเขาลงดินอย่างรวดเร็ว

หวังเสินซวีหน้าขาวซีด พยายามใช้คัมภีร์จักรพรรดิท้องนภาสุดชีวิตหมายจะหลุดจากเถาวัลย์ กระทั่งจ่ายชีวิตอย่างไม่เสียดาย

ทว่าเขาก็ต้องสิ้นหวังเพราะมันไม่มีประโยชน์ เถาวัลย์สองเส้นนี้มีความสามารถมิติที่แข็งแกร่งยิ่ง ควบคุมวิชาลับของเขาได้อย่างสมบูรณ์

“ไอ้ชั่ว เจ้าบีบข้าเองนะ! อย่างมากข้าก็เสียอายุขัยห้าสิบปี ข้าจะสับหัวสุนัขของเจ้า!”

ใบหน้าหล่อเหลาของหวังเสินซวีเต็มไปด้วยความโกรธ การประสานมุทราพลันรวดเร็วกว่าเดิม

กลิ่นอายพลังที่แผ่มาจากรอบตัวเขาก็น่ากลัวขึ้นทันที กริชแห่งมิติไร้รูปปกคลุมทั้งตัวเขาไว้

หวังเสินซวียื่นมือออกไปช้าๆ พลังแห่งมิติไร้ที่สิ้นสุดกลายเป็นดาบยาวเล่มหนึ่ง “กาลเวลาดั่งดาบตัดโอรสสวรรค์ ข้าขอถวายชีวิตเพื่อสังหารเจ้า!”

ดาบนี้น่ากลัวอย่างยิ่ง!

ตอนที่มันปรากฏมา มวลอากาศรอบตัวดาบกำลังปั่นป่วน กระทั่งบนเถากลืนกินเซียนที่เดิมทีอยู่ระหว่างความจริงกับมายายังเกิดรอยดาบชัดเจนหลายรอย

เห็นได้ชัดว่าเมื่อหวังเสินซวีสู้สุดชีวิตแล้วจะเหี้ยมโหดมากจริงๆ!

ทว่าช่วงที่เขาจะกวัดแกว่งดาบนี้นั้น กลับได้ยินเสียงบุรุษน่าฟังดังขึ้นข้างหู “สหายอย่าเข้าใจผิด แซ่เสิ่นมาช่วยเจ้า”

ช่วยข้ารึ

หวังเสินซวีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ถึงได้พบว่าอีกด้านของเถาวัลย์เป็นบุรุษรูปงามที่สุดแห่งยุคในชุดคลุมขาว

บ้าจริง เจ้ามาช่วยข้าไฉนถึงไม่บอกแต่แรกล่ะ

ข้าถวายอายุขัยไปห้าสิบปีแล้ว ตอนนี้จะให้ข้าฟันใส่ใคร

ใบหน้าขาวซีดพลันแดงด้วยความโมโห หวังเสินซวีถือดาบแห่งมิตินั้นในมือพลางอยากจะร้องไห้

ถ้าไม่ใช่เพราะบุรุษรูปงามชุดคลุมขาวนี่ดูมีศักยภาพไม่ธรรมดา ช่วยได้จริงๆ ละก็ หวังเสินซวีก็อยากจะสับเขาจริงๆ

ถึงอย่างไร ข้าก็จะให้เสียอายุขัยไปเปล่าๆ ไม่ได้!

……

กรรซ์~

ชั่วขณะที่หวังเสินซวีกับเสิ่นเทียนกำลังเถียงกันนั้น มังกรยักษ์ข้างหลังก็กำลังเข้ามาใกล้เช่นกัน

มังกรปีกเทพวายุตัวหนึ่งในนั้นรวดเร็วที่สุด ตามหลังหวังเสินซวีมาห่างหลายสิบจั้งแล้ว

อย่าคิดว่าหลายสิบจั้งไกลอะไรมาก ต้องรู้ว่าสำหรับมังกรยักษ์ระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์พวกนี้แล้ว หลายสิบจั้งก็แค่ครึ่งตัวเท่านั้น

ขอแค่ขยับปีกสั่นขาอีกหน่อย ก็อาจจะกินหวังเสินซวีลงไปได้

“ร้องรึ ร้องหาน้องสาวเจ้ารึ!”

หวังเสินซวีโกรธแล้ว ดาบแห่งมิติน่าสะพรึงที่รวมอายุขัยห้าสิบปีในมือฟันใส่มังกรปีกเทพวายุตัวนั้น

พริบตาเดียว ดาบแห่งมิติยาวหลายฉื่อในตอนแรกก็ขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว

ยาวหลายฉื่อ…ยาวหลายจั้ง…ยาวหลายสิบจั้ง!

ดาบไร้รูปเล่มหนึ่งฟันทั้งมวลอากาศขาดเป็นสองส่วน มาปรากฏตรงหน้ามังกรปีกเทพวายุตัวนั้นในทันใด

มังกรปีกเทพวายุนั่นพลันมีสีหน้าตื่นกลัวสุดขีด

ตอนนี้ มันรู้สึกถึงอำนาจคุกคามของความตาย

กรรซ์~

ท่ามกลางเสียงร้องน่าเวทนา รอบตัวมังกรปีกเทพวายุเปล่งแสงสีเขียวหมื่นจั้ง พลังธาตุลมมากมายมหาศาลรวมขึ้นรอบตัวมัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน