บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 317

บทที่ 317 ถ้าไม่ใช่เพราะกลัวอายุสั้น ข้าจะสับพวกเจ้าให้ตาย!

โฮก~

เมื่อฝุ่นควันสลายไป บนพื้นก็ปรากฏหลุมลึกยักษ์

หลุมลึกนี้มีเส้นผ่าศูนย์กลางหลายสิบจั้ง ขยับแสงสีสันแวววาวทั้งหมด

นั่นคือหินกรวดโดนอุณหภูมิสูงของสายฟ้าละลายเป็นก้อนผลึก

ร่างเสิ่นเทียนหายไปแล้ว ราวกับว่าร่างแหลกสลายไปภายใต้การโจมตีนั้น

มังกรคลั่งอัสนีม่วงส่ายศีรษะอย่างพอใจ เจ้ามนุษย์สมควรตาย กล้ามาขโมยผลศักดิ์สิทธิ์อัสนีม่วงของข้า

ดูสิข้าพ่นกระสุนทีเดียวเจ้าก็ตายแล้ว!

แต่ไม่นานนัก มังกรคลั่งอัสนีม่วงก็พบความผิดปกติ

แม้เสิ่นเทียนจะหายไป แต่ผลศักดิ์สิทธิ์อัสนีม่วงก็หายไปเช่นกัน

นี่เป็นไปได้อย่างไร!

พึงรู้ไว้ว่าผลศักดิ์สิทธิ์อัสนีม่วงคือผลวิญญาณสูงสุดธาตุสายฟ้า มีภูมิต้านทานการโจมตีด้วยสายฟ้าอย่างสมบูรณ์

ต่อให้เจ้ามนุษย์นั่นจะร่างสลายไปด้วยการโจมตีสายฟ้า ผลศักดิ์สิทธิ์อัสนีม่วงเก้าผลในมือก็น่าจะยังอยู่

แต่เหตุใด ผลศักดิ์สิทธิ์อัสนีม่วงถึงหายไปด้วยล่ะ

มังกรคลั่งอัสนีม่วงตาแดงขึ้นมาทันที หรือว่ายังมีโจรชั่วอยู่ใกล้ๆ อีก

มันย่นจมูก เริ่มตรวจสอบกลิ่นอายพลังใกล้เคียงอย่างเต็มที่ สัมผัสได้ถึงคลื่นพลังงานใกล้ๆ

อย่ามองว่าเผ่าย่าหลงพวกนี้บนเกาะมังกรพวกนี้ไม่ได้มีสติปัญญาสูงมากแล้วจะรับมือกับกลอุบายอันชาญฉลาดของเผ่ามนุษย์และเผ่าปีศาจไม่ได้

พวกมันมีความสามารถในการดมกลิ่นอันเฉียบคมและสัมผัสต่อพลังงานสูงมาก สังเกตเห็นศัตรูผู้รุกรานในละแวกใกล้เคียงได้สบาย

ปกติแล้ว ต่อให้เป็นผู้สูงศักดิ์สวรรค์เผ่ามนุษย์ หากคิดจะแทรกซึมเข้ามาใกล้เขตแดนของมังกรคลั่งอัสนีม่วงนี่ ก็จะโดนมันพบอย่างรวดเร็วและถูกไล่ออกไป

ในมุมมองของมังกรคลั่งอัสนีม่วง โจรกระจอกที่ขโมยผลศักดิ์สิทธิ์อัสนีม่วงของมันนั่น ตอนนี้ยังไม่ได้ไปไกลแน่นอน!

มันสัมผัสคลื่นพลังงานอย่างเต็มที่ ได้กลิ่นอายพลังแปลกๆ

ทว่าสุดท้ายมังกรคลั่งอัสนีม่วงก็ไม่ได้อะไรเลย

ถึงอย่างไรถ้าพูดถึงความสามารถในการอำพรางพลัง ถ้าเสิ่นเทียนบอกว่าเป็นที่สองจะไม่มีใครกล้าบอกว่าตัวเองเป็นที่หนึ่ง

หลังจากโคจรคัมภีร์คบเพลิงแล้ว เสิ่นเทียนก็เก็บพลังทั้งหมดรอบตัวเข้าไป ไม่เผยพิรุธออกมาแม้แต่น้อย

ผนวกกับบุปผาฟากฝั่งที่ได้มาในเร็วๆ นี้ ทำให้มีความสามารถในการเปลี่ยนความจริงเป็นมายา หนีเข้าไปในมิติได้

ขอแค่เสิ่นเทียนขายผ้าเอาหน้ารอด ซ่อนอยู่ใต้ดินไป แม้แต่ผู้อริยะก็ยังหาเขาพบได้ยาก

……

สุดท้าย เสิ่นเทียนก็ออกจากที่เกิดเหตุขณะที่มังกรคลั่งอัสนีม่วงกำลังบ้าคลั่งด้วยความสิ้นหวัง

เขาไม่คิดว่าตนเก็บผลศักดิ์สิทธิ์อัสนีม่วงเก้าผลมาแล้วจะผิดศีลธรรมอะไร

เพราะกฎการอยู่รอดในเกาะมังกรนี้ก็คือปลาใหญ่กินปลาเล็ก มังกรคลั่งอัสนีม่วงก็เคยล่าสัตว์แปลกอื่นมาเป็นอาหารบ่อยๆ

เสิ่นเทียนไม่ได้อาศัยจังหวะที่มังกรคลั่งอัสนีม่วงออกไป ห่อไข่มังกรในรังมันไปด้วยก็ถือว่ามีศีลธรรมอันดีงามแล้ว

อืม หลักๆ เป็นเพราะเจ้าหนูเอ๋าอูนั่นเป็นมังกรด้วย คงจะส่งผลไม่ค่อยดีนัก

บนทุ่งหญ้าสีเขียวค่อยๆ เปล่งแสงสีมรกตขึ้น ก่อนร่างเหยียดตรงร่างหนึ่งจะลอยขึ้นมาช้าๆ

เขาสวมเกราะสายฟ้ามังกรเขียวธาตุไม้ลำดับหนึ่ง ทั่วร่างพันด้วยเถาวัลย์สีเขียว ดูแล้วเหมือนกับเทพแห่งทุ่งกว้าง

“เนตรสวรรค์เคหาสน์ม่วงของสหายฉีสุดยอดจริงๆ ครั้งนี้เราได้กำไรมาอย่างงามเลย”

เสิ่นเทียนยิ้มพลางหยิบผลศักดิ์สิทธิ์อัสนีม่วงเก้าผลออกมาจากแหวนเวหา ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ในนี้มีผลศักดิ์สิทธิ์เก้าผล เราสามคนมาแบ่งเท่าๆ กันเถอะ!”

ฉีเซ่าเสวียยนรีบส่ายหน้า “แซ่ฉีเพียงแค่ตรวจสอบผลศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แต่สหายเสิ่นเสี่ยงชีวิตเข้าไปชิงผลศักดิ์สิทธิ์ จะไปเอาเปรียบเช่นนี้ได้อย่างไร”

เอ๋าอูทำปากจู๋ ก่อนพูดอย่างจำใจ “ไม่ต้องมองข้า ข้าไม่ได้ออกแรงเลย ไม่ต้องรวมข้าไปด้วย พี่เสิ่นเทียนแบ่งกับพี่เซ่าเสวียนเถอะ! ข้าขอเกาะพี่เซ่าเสวียนก็พอ”

ฉีเซ่าเสวียนงุนงง

งดงาม~

ตอนประจบติดตามพี่เสิ่นเทียนรึ พอจะแบ่งผลประโยชน์กลับจะมา ‘เกาะพี่เซ่าเสวียน’

เจ้านี่มันฉลาดจริงๆ~

ฉีเซ่าเสวียนมองเสิ่นเทียนด้วยความคับอกคับใจ “เอาอย่างนี้แล้วกัน! สหายเสิ่น ข้าจะแบ่งกับเสี่ยวอูไปสามผล หกผลที่เหลือเจ้าเอาไป”

แม้เขาจะไม่ใช่ศิษย์แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ แต่ก็รู้ว่าผลศักดิ์สิทธิ์อัสนีม่วงเป็นผลศักดิ์สิทธิ์ที่ล้ำค่าอย่างยิ่ง

ถึงแดนศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงก็มีตำราโอสถในการหลอมผลศักดิ์สิทธิ์อัสนีม่วงเช่นกัน แต่หากจะใช้มูลค่าของผลศักดิ์สิทธิ์ชนิดนี้ได้ถึงจุดสูงสุดที่แท้จริง เกรงว่าคงต้องติดต่อไปหาแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์

มิหนำซ้ำ แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ได้บุตรกิเลนอย่างสหายเสิ่นไป จะต้องยิ่งใหญ่ขึ้นปกครองดินแดนบูรพาแน่นอนอยู่แล้ว

แม้ฉีเซ่าเสวียนจะยกยอตัวเองว่า ‘ไร้พ่ายใต้ฟ้า’ แต่ก็ต้องคิดเพื่ออนาคตของแดนศักดิ์สิทธิ์ตนด้วย

เทพสวรรค์และเคหาสน์ม่วงปะทะกันอย่างลับๆ มาหลายปี ถึงเวลาต้องหยุดแล้ว

มิตรภาพของสองแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ ให้เริ่มจากแซ่ฉีและสหายเสิ่นแล้วกัน!

…….

เดิมทีเสิ่นเทียนอยากจะบอกปัดอีก แต่ฉีเซ่าเสวียนกับเอ๋าอูแน่วแน่มาก

ด้วยความจำใจ เขาเลยได้แต่รับผลศักดิ์สิทธิ์อัสนีม่วงไว้หกผล ขณะเดียวกันก็แอบถอนหายใจที่สหายสองคนนี้มีคุณธรรมสูง

ใครว่าโลกบำเพ็ญเซียนเห็นผลประโยชน์เป็นใหญ่กัน

เหตุใดแซ่เสิ่นเจอโอรสสวรรค์แต่ละคนถึงมองโชคลิขิตเป็นเหมือนฝุ่นละออง อยู่ต่อหน้าสมบัติยังไม่เปลี่ยนปณิธานแรกสุด

น่าละอายใจ แซ่เสิ่นมีคุณธรรมและความสามารถระดับใดกัน ถึงได้ผูกมิตรกับสหายที่ให้ความสำคัญกับน้ำใจและความยุติธรรมมากมายเช่นนี้!

สามคนจัดการกันง่ายๆ ครู่หนึ่ง ขณะเดียวกันก็คอยมองไปรอบๆ ว่าหลังจากสมบัติของมังกรคลั่งอัสนีม่วงถูกขโมยไปแล้ว เผ่ามังกรอื่นจะมาช่วยหรือไม่

ความจริงพิสูจน์แล้ว เผ่าย่าหลงเกาะมังกรแห่งนี้เหมือนจะไม่สามัคคีกัน มังกรคลั่งอัสนีม่วงเป็นบ้าในบ้านตัวเอง กลับไม่มีมังกรมาสนใจ

นอกจากเหล่าสัตว์แปลกอ่อนแอพวกนั้นในเขตปกครองของมังกรคลั่งอัสนีม่วงที่จะตัวสั่นงันงกแล้ว เผ่ามังกรแข็งแกร่งตัวอื่นเหมือนไม่ได้ยินเลย

กระทั่งยังมีเผ่าย่าหลงที่ดูไม่ถูกกับมังกรคลั่งอัสนีม่วง ตอนนี้รู้สึกว่ามังกรคลั่งอัสนีม่วงกำลังโกรธ ยังแอบหัวเราะ

อืม เห็นเจ้าอนาถเช่นนี้ ข้ามีความสุขจริงๆ แม้แต่มื้อกลางวันยังกินได้มากกว่าเดิมหลายสิบตัน!

เพียงแต่เผ่าย่าหลงพวกนั้นไม่นึกเลยว่าพวกมันจะดีใจเร็วไป

หนึ่งชั่วยามต่อมา เสิ่นเทียนกับฉีเซ่าเสวียนกำหนดเป้าหมายอื่นและเริ่มสงครามกองโจรของพวกเขาอีกรอบ

ขณะที่มังกรเถื่อนวัชระบางตัวกำลังออกไปล่าเหยื่อ ว่านกระจกวัชระอายุพันปีหลายร้อยต้นในบ้าน แม้แต่แผ่นปูหญ้ายังถูกม้วนเอาไปด้วย

นั่นคือโอสถล้ำค่าสูงสุดที่ผู้ฝึกศาสตร์หลอมกายเทพมารใช้ขัดเกลากายและจิตวิญญาณ เหมาะกับระดับกายทองโดยเฉพาะ

ถ้าหลอมว่านชนิดนี้เป็นโอสถ เม็ดเดียวทำเพิ่มระดับความแกร่งของร่างกายอย่างมาก

สำหรับผู้ฝึกศาสตร์หลอมกายเทพมารแล้ว มีมูลค่าประเมินไม่ได้!

มังกรอริยะทองคำบางตัวออกไปรับลมไม่กี่นาที รังมังกรในเหมือง ‘ทองคำวิญญาณแสงสว่าง’ ถูกบุก รังมังกรที่หลอมขึ้นจากทองคำวิญญาณแสงสว่างถูกยกเอาไป

มังกรอริยะทองคำต้องใช้เวลาหลายพันปี ขยันขันแข็งหลอมจากในเหมืองทองวิญญาณแสงสว่างจนออกมาเป็นทองคำวิญญาณแสงสว่าง

แม้คุณภาพจะเทียบกับทองคำเซียนพวกนั้นในรายนามสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินไม่ได้ แต่ก็มีดีที่จำนวนมาก!

ต้องรู้ว่ามังกรอริยะทองคำมีความยาวเกือบร้อยจั้ง รังของมันอย่างไรก็ต้องมีเส้นผ่าศูนย์กลางร้อยจั้ง

นั่นคือทองคำวิญญาณเท่าไร

จำนวนขนาดนี้ มากพอจะทำให้แดนศักดิ์สิทธิ์มากมายหายใจติดขัด

หากวางไว้ในดินแดนบูรพาหรือดินแดนกลาง ต่อให้เป็นผู้อริยะก็ยังเก็บรักษาเหมืองล้ำค่าเช่นนี้ไว้ไม่ได้

และต้องเป็นดินแดนรกร้างอย่างเกาะมังกรเช่นนี้ถึงจะเกิดการกระทำล้างผลาญครอบครัวอย่าง ‘ทำเสียของดี’ เอาทองคำวิญญาณแสงสว่างมาหลอมเป็นรังมังกรเช่นนี้

……

สารภาพตามตรง ฉีเซ่าเสวียนไม่นึกเลยว่าเสิ่นเทียนจะเอาเจ้านี่ไปได้

ถึงอย่างไรแม้มังกรอริยะทองคำจะไม่รู้จักการหลอมสร้าง แต่แค่น้ำหนักของรังทองคำวิญญาณแสงสว่างร้อยจั้งนี้ ก็มากพอจะทำให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์หวาดกลัวแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน