บทที่ 320 ท่านเซียนลูบศีรษะข้า มอบชีวิตยืนยาวแก่ข้า
มหาจักรพรรดิอมตะเป็นผู้พิสูจน์มรรคเมื่อแสนปีก่อน เป็นบรรพบุรุษของเผ่าเต่าดำทะเลอุดร
ในมหาจักรพรรดิทั้งหมดของห้าดินแดน มหาจักรพรรดิอมตะเก็บตัวอยู่เงียบที่สุด มีความรู้สึกคงอยู่ต่ำมาก
ต่ำจนถึงระดับใด
ตอนที่เจ้านี่พิสูจน์มรรคเป็นจักรพรรดิ ก็ไม่ได้ประกาศต่อห้าดินแดน ไม่จัดกระทั่ง ‘งานเลี้ยงจักรพรรดิ’
เขาไปหาเกาะเล็กในทะเลอุดรตามอำเภอใจ สัปหงกห้าร้อยปีอย่างมีความสุข ตอนที่ฉลองการพิสูจน์มรรคสำเร็จเป็นจักรพรรดิ เผ่าอสูรทั้งทะเลอุดรต่างงุนงง
ถึงอย่างไรก็มีความคิดจะประจบก้นจักรพรรดิไว้มากมาย ปรากฏว่าเขากลับไม่ปรากฏตัวขึ้น
นี่จะไปหาเหตุผลจากใครได้
แต่นี่ไม่ได้หมายความว่ามหาจักรพรรดิอมตะอ่อนแอ ในทางตรงข้าม มหาจักรพรรดิอมตะมีกำลังรบแข็งแกร่งมาก
เขามีสายเลือดเต่าดำถึงจุดสูงสุดของเผ่าเต่าดำ มีพรสวรรค์ด้านการป้องกันเป็นหนึ่ง
ต่อให้เป็นระดับมหาจักรพรรดิคนอื่นก็ยากจะทำลายการป้องกันของมหาจักรพรรดิอมตะและทำให้เขาบาดเจ็บได้
หากมีแค่การป้องกันแข็งแกร่งคงไม่เท่าไร ถึงอย่างไรก็ได้แต่ถูกทุบตี
แต่การโจมตีของมหาจักรพรรดิอมตะก็แข็งแกร่งอย่างยิ่งเช่นกัน มือถือกระบี่ชีวิตนิรันดร์แหลมคมอย่างยิ่ง แม้แต่มหาจักรพรรดิคนอื่นในยุคเดียวกันยังหวาดกลัวมาก
เพราะวิชากระบี่นี้พัวพันไปถึง ‘กฎเกณฑ์ชีวิต’ อย่างลึกล้ำยิ่ง สามารถใช้อายุขัยตัวเองเป็นราคาต้องจ่าย ตัดอายุขัยของอีกฝ่ายไปได้สองเท่า
หมายความว่าอย่างไร
หมายความว่ามหาจักรพรรดิอมตะเผาอายุขัยหมื่นปีก็ตัดอายุขัยของศัตรูไปได้สองหมื่นปี สังหารศัตรูหนึ่งพันทำลายตัวเองไปห้าร้อย
ต้องรู้ว่ามหาจักรพรรดิอมตะคือเต่าดำ!
โลกนี้จะมีสิ่งมีชีวิตใดสามารถตัดอายุขัยเทียบกับเต่าดำได้ มหาจักรพรรดิก็ไม่ได้เช่นกัน!
อย่ามองว่าปกติมหาจักรพรรดิอมตะจะไม่โผล่มาในทะเลอุดร ถ้าทำเขาโกรธขึ้นมาจริงๆ ก็ตามไปสับมหาจักรพรรดิคนอื่นได้
มิหนำซ้ำในพงศาวดารบอกว่าช่วงวัยชราใกล้สิ้นอายุขัยของมหาจักรพรรดิฉางนั้น ยังมีความมุทะลุยิ่งกว่าตอนหนุ่มอีก ใช้อายุขัยได้มากกว่า
ดังนั้นเขาจึงใช้เวลาหลายพันปีปิดด่านบำเพ็ญ ในที่สุดก็สร้างวิชาลับสะท้านโลกขึ้นมา คัมภีร์วสันต์อมตะนิรันดร์
วิชาลับนี้เพิ่มกำลังรบไม่ได้ แต่มีความสามารถที่โกงมาก นั่นคือนำอายุขัยที่ผู้ฝึกบำเพ็ญเสียไปอย่างผิดธรรมชาติกลับมา
อะไรคืออายุขัยที่เสียไปอย่างผิดธรรมชาติ
ง่ายมาก มนุษย์ธรรมดามีอายุขัยแปดสิบปี อยู่ถึงแปดสิบปีก็ตายลง นี่คืออายุขัยที่เสียไปตามธรรมชาติ
แล้วอะไรคืออายุขัยที่เสียไปอย่างผิดธรรมชาติ อย่างเช่นผู้ฝึกบำเพ็ญดวงจิตดรุณปกติมีอายุขัยราวๆ พันปี ปกติถ้าเจ้าไม่รนหาที่ตายก็มีชีวิตถึงพันปีได้ แต่ผู้ฝึกบำเพ็ญส่วนมากชอบรนหาที่ตาย ฝึกวิชาเผาอายุขัย
ผู้ฝึกบำเพ็ญบางคนมีพรสวรรค์ธรรมดา การฝึกบำเพ็ญปกติจะฝึกได้ถึงแค่ระดับแก่นพลังทอง ดังนั้นจึงฝึกวิชาต้องห้ามทะลวงระดับดวงจิตดรุณ
การฝึกวิชาต้องห้ามเสียอายุขัยไปสองร้อยปี เช่นนั้นผู้ฝึกบำเพ็ญระดับดวงจิตดรุณคนนี้ก็มีจะอายุขัยเพียงแปดร้อยปี
อีกประเภทคล้ายๆ กับหวังเสินซวี ฝึกวิชาต่อสู้ที่ใช้อายุขัยแลกมาเป็นพลังโจมตี
อายุขัยที่เสียไปเช่นนี้ ว่ากันตามจริงคือต้นกำเนิดชีวิต หากใช้โอสถวิญญาณระดับสูงสุดมากพอ ก็จะเติมเต็มอายุขัยกลับมาได้
แน่นอน ไม่ว่าโอสถวิญญาณใดล้วนมีการดื้อยา หากใช้ถี่ๆ ประสิทธิภาพจะลดน้อยลงไปเรื่อยๆ
นี่ก็คือสาเหตุที่แม้หวังเสินซวีจะพึ่งพาแดนศักดิ์สิทธิ์ท้องนภาแต่ก็ยังไม่กล้าเผาอายุขัยสุ่มสี่สุ่มห้า ถึงอย่างไรก็เติมพลังต้นกำเนิดยาก
หากใช้คัมภีร์จักรพรรดิท้องนภาถี่เกินไป มาถึงช่วงหลัง โอสถวิญญาณพันปีก็อาจจะเติมอายุขัยได้ไม่กี่ปี นี่เป็นอะไรที่น่าอับอายมาก
……
แต่คัมภีร์วสันต์อมตะนิรันดร์ไม่เหมือนกัน นี่คือวิชาที่มหาจักรพรรดิอมตะตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อตัวเอง ลี้ลับยิ่ง
มันจะใช้วิธีการพิเศษเปลี่ยนพลังวิญญาณธรรมดาให้เป็นพลังต้นกำเนิดชีวิตของผู้ฝึกบำเพ็ญได้ เมื่อใช้วิชาลับนี้ จะเติมต้นกำเนิดชีวิตที่เสียไปกลับมาได้ ดังนั้นแล้วอายุขัยที่เสียไปก็ย่อมกลับมา
แน่นอน วิชาลับนี้ทำได้แค่เติมอายุขัย แต่ทะลวงขีดจำกัดของกฎสวรรค์ไม่ได้
อย่างเช่นเดิมทีเจ้ามีอายุขัยเพียงพันปี มีชีวิตเกินพันปีแล้ว เช่นนั้นก็จะเพิ่มไม่ได้อีก
สรุป วิชานี้แทบจะสร้างขึ้นมาเพื่อหวังเสินซวี
เพราะกายเทพท้องนภาของเจ้านี่ผนวกกับคัมภีร์จักรพรรดิท้องนภา คือการออกกระบวนท่าสังหารตัดอายุขัยเหมือนกับมหาจักรพรรดิอมตะออกกระบี่ชีวิตนิรันดร์
อายุขัยที่ระเบิดตับเสียไปพวกนั้น ตามทฤษฎีแล้วจะใช้คัมภีร์วสันต์อมตะนิรันดร์ฟื้นกลับมาได้
ไม่นึกเลยว่าแซ่หวังจะเจอคัมภีร์วสันต์อมตะนิรันดร์ในตำนานที่นี่
และทุกอย่างนี้ สหายเสิ่นเป็นคนมอบให้แซ่หวัง!
หวังเสินซวีกระบอกตาร้อนผ่าวขึ้นมา ขอบตาดำชุ่มไปด้วยน้ำตา ดูแล้วซาบซึ้งใจมาก “สหายเสิ่น สหายเสิ่น บะ…บุญคุณยิ่งใหญ่ไม่อาจเอ่ยขอบคุณทดแทนได้! ภายภาคหน้าหากสหายเสิ่นมีอะไรจะใช้แซ่หวัง ขอแค่เอ่ยปาก แซ่หวังจะขึ้นภูเขาดาบลงทะเลเพลิง ถึงตายก็ไม่ปฏิเสธ!”
ยังไม่ทันเอ่ยจบ วงรัศมีเหนือศีรษะหวังเสินซวีก็ส่องแสงสว่างขึ้น ลายสีม่วงแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ
ทางด้านวงรัศมีของฉีเซ่าเสวียนกับเอ๋าอูก็ส่องแสงสว่างขึ้นเช่นกัน เพียงแต่เทียบกับหวังเสินซวีแล้วขึ้นมาน้อยกว่านิดเดียว
“สหายหวังทำเป็นคนอื่นคนไกลไป พวกเราคือบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งดินบูรพา ก็ควรจะปรองดองฉันมิตรกันไว้ ดูแลซึ่งกันและกันไป มาพยายามสร้างดินแดนบูรพาใหม่ที่กลมเกลียวและดีงามขึ้นมาด้วยกันเถอะ”
เมื่อรู้สึกลอยล่องจะเป็นเซียนทั้งตัวแล้ว เสิ่นเทียนรู้ว่าลายจุดทองเหนือศีรษะตนกำลังเพิ่มมากขึ้น ความรู้สึกนี้เยี่ยมมากจริงๆ
เขาควักน้ำตาดาวเทพสมุทรสองเม็ดส่งให้หวังเสินซวี “สหายหวังเพิ่มรวมดรุณไม่นาน ดวงจิตดรุณคงยังไม่มั่นคงเอามาก นี่คือน้ำตาดาวเทพสมุทรสมบัติสุดยอดของทะเลอุดร อาจจะมีประโยชน์กับสหายหวัง”
น้ำตาดาวเทพสมุทรรึ
หวังเสินซวีตัวสั่นเล็กน้อย
เขาคือบุตรศักดิ์สิทธิ์ท้องนภา ย่อมรู้ว่าสิ่งนี้คืออะไร
หากบอกว่าของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานคือสมบัติสุดยอดที่เติมเต็มต้นกำเนิดกายเนื้อของผู้ฝึกบำเพ็ญ เช่นนั้นน้ำตาดาวเทพสมุทรก็คือของล้ำค่าที่สุดแห่งยุคที่เติมเต็มพลังจิตวิญญาณของผู้ฝึกบำเพ็ญ
มองไปทั้งทะเลอุดร ในตลาดมีน้ำตาดาวเทพสมุทรแค่ไม่กี่เม็ดเท่านั้น แต่สหายเสิ่นกลับออกมือทีมอบให้แซ่หวังสองเม็ดรึ
ต้องรู้ว่าของมีน้อยราคาแพง มูลค่าของน้ำตาดาวเทพสมุทรสูงกว่าอาวุธวิญญาณระดับสูงอีก
เจอหน้ากันครั้งแรก สหายเสิ่นก็มอบให้ทั้งคัมภีร์จักรพรรดิและน้ำตาดาว
นี่ต้องใจกว้างระดับใดกัน
แซ่หวังมีคุณธรรมและความสามารถระดับใดกันถึงได้รับความกรุณาจากสหายเสิ่นเช่นนี้!
ตอนนี้ขอบตาดำของหวังเสินซวีชื้นยิ่งกว่าเดิม “สหายเสิ่น ข้ารับไว้ไม่ได้! หากแซ่หวังมองไม่ผิด ตอนนี้สหายเสิ่นยังอยู่ระดับแก่นพลังทอง เจ้าเก็บสมบัตินี้ไว้ใช้เองเถอะ!”
เสิ่นเทียนยิ้ม “ไม่เป็นไร น้ำตาดาวเทพสมุทรเช่นนี้ แซ่เสิ่นยังมีอีกสองร้อยเม็ด สหายหวังใช้ได้เลย ไม่พอมาขอข้าเพิ่มอีกได้”
หวังเสินซวีตกใจระคนงุนงง
อะไรนะ~
น้ำตาดาวเทพสมุทรสองร้อยเม็ดรึ
ช่วงนี้ไม่ได้ดื่มชาห้าสิ่งเลอค่าจนหูแว่วไปแล้วรึ
ฉีเซ่าเสวียนด้านข้างชำเลืองตามองหวังเสินซวี ก่อนทำเสียงขึ้นจมูก “กบในกะลา แค่น้ำตาดาวเทพสมุทรสองเม็ดก็ตกใจเช่นนี้แล้ว”
เอ๋าอูยิ้ม “พี่เซิ่นซวี[1]ไม่ต้องเกรงใจเลย พี่เสิ่นเทียนคือบุตรแห่งโชคที่แท้จริง ก่อนหน้านี้เขาพาเราไปหาน้ำตาดาวเทพสมุทรบนเกาะมาเยอะมาก สมบัติเช่นนี้ พวกมีกันเยอะมากเลย”
ฉีเซ่าเสวียนพูดไม่ออก
อะไรคือพี่เสิ่นเทียนคือบุตรแห่งโชคที่แท้จริง เช่นนั้นใครคือบุตรแห่งโชคปลอมล่ะ
หวังเสินซวีเงียบไป
ข้าชื่อหวังเสินซวี อะไรคือพี่เซิ่นซวี!
อีกทั้งพวกเจ้ายังมีเจ้านี่กันเยอะมากเลยหรือ
โม้แล้วกระมัง!
……
หวังเสินซวีรับน้ำตาดาวเทพสมุทรมาอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ก่อนจะนำน้ำตาดาวเทพสมุทรเม็ดหนึ่งใส่ปากไปอย่างระมัดระวัง
โคจรวิชาหลอมรวมน้ำตาดาว ทันใดนั้นหวังเสินซวีพลันเปล่งแสงสีฟ้าใสออกมาทั้งตัว ดูแปลกและมหัศจรรย์มาก
“อาศัยจังหวะนี้ตระหนักวิชาลับนี่เถอะ!”
เสิ่นเทียนยิ้มเล็กน้อยและนำน้ำตาดาวเทพสมุทรเม็ดหนึ่งออกมากิน
แม้หลังใช้น้ำตาดาวเทพสมุทรไปหลายเม็ดแล้ว ประสิทธิภาพในการเพิ่มพลังจิตจะลดน้อยลง
แต่หากใช้มันตอนตระหนักวิชา นั่นคืออาหารเสริมชั้นเลิศ
กินมันไปแล้วจะเพิ่มประสิทธิภาพในการตระหนักรู้หลายเท่า
หากอยู่นอกเขตทะเลเบิกฟ้า คงไม่มีใครทำใจใช้สมบัติสุดยอดเช่นนี้มาเป็นอาหารเสริมตระหนักรู้วิชาได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน