บทที่ 332 กายศักดิ์สิทธิ์จักรพรรดิมังกร กายทองแปดรอบ
ชั่วขณะที่ทุกเผ่าทะเลอุดรกำลังสั่นสะเทือนเพราะเสิ่นเทียนนั้น เจ้าตัวกลับสงบนิ่งมาก
หลังกินชาตระหนักรู้สูงสุดไป กายเนื้อเขาก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอันลึกลับในลึกลับขึ้นอีกครั้ง
จากคำอธิบายของเยี่ยฉิงชาง เขาเหมือนจะปลุกคุณสมบัติกายพิเศษที่มีชื่อว่า ‘กายมรรคสวรรค์ประทาน’ ขึ้นมา
คุณสมบัติกายเช่นนี้เข้าใกล้มรรคโดยกำเนิด มีความสามารถในการตระหนักต่อมรรคทุกชนิดในโลกแข็งแกร่งถึงขีดสุด
ต่อให้เป็นในคุณสมบัติกายราชันทุกชนิดในโลกเซียน กายมรรคสวรรค์ประทานก็จะเกิดขึ้นกับผู้โดดเด่นในนั้น สามารถปกครองได้หนึ่งยุค
อีกทั้งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เสิ่นเทียนปลุกตื่นคุณสมบัติกายพิเศษ ก่อนหน้านี้ตอนที่เขากินผลใจกระบี่ก็ปลุกตื่นกายเทพกระบี่ฟ้าด้วย
จากคำอธิบายของเยี่ยฉิงชาง ‘เจ้านี่มันปีศาจจริงๆ!’
แน่นอน การปลุกตื่นกายมรรคสวรรค์ประทานได้ย่อมเป็นเรื่องดี ถึงอย่างไรเจ้านี่ก็แข็งแกร่งมาก
เสิ่นเทียนปลุกตื่นกายมรรคสวรรค์ประทานแล้วก็ทบทวนวิชาที่เรียนมาหนึ่งรอบ พบว่าตนเข้าใจในวิชาพวกนี้ลึกซึ้งขึ้นกว่าเดิม
เหมือนกับผ่าสมองออก มองวิชาใดก็จะตระหนักความหมายลึกล้ำ
มีความฉลาดหลักแหลมอย่าง ‘ท้องนภาจักรวาล เห็นทุกอย่างอยู่ในสายตา’!
ตอนนี้เสิ่นเทียนจนปัญญานิดๆ เพราะเขารู้สึกว่าใบชาตระหนักรู้พวกนั้นที่ตนเก็บมา เหมือนจะไม่มีประโยชน์กับตนมากนัก
เพราะเหตุใด
เหตุผลง่ายมาก หากมองว่าการตระหนักวิชาคือการทำการบ้าน
เดิมทีเสิ่นเทียนเป็นนักเรียนอนุบาล ตระหนักรู้การบ้านระดับมัธยมต้น และใบชาตระหนักรู้พวกนั้นก็คืออาจารย์ชั้นมัธยมต้น
เช่นนั้นหลังจากกินใบชาตระหนักรู้สูงสุดและปลุกกายมรรคสวรรค์ประทานแล้ว การตระหนักรู้ของเสิ่นเทียนทั้งหมดก็แทบจะเทียบได้กับศาสตราจารย์มหาวิทยาลัย
ไปอ่านวิชาห้าดินแดนพวกนั้น ตระหนักได้ง่ายมากเกินไป ไม่มีความยากอะไรเลย!
ตอนนี้ถ้าใช้ใบชาตระหนักรู้พวกนี้อีก ก็คงได้แต่แก้กระหาย
เฮ้อ เก่งเกินไปก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องดีจริงๆ~
………
เสิ่นเทียนเก็บวิชายืนตรง ก่อนจะนำผลจุดกำเนิดมังกรสูงสุดสีแดงอมทองนั้นออกมา
ความล้ำค่าของผลจุดกำเนิดมังกรสูงสุดนี้ไม่ด้อยไปกว่าใบชาตระหนักรู้สูงสุดเลย ถึงอย่างไรก็มาจากแดนสมบัติเดียวกัน กระทั่งสำหรับเผ่ามังกร มูลค่าของผลสูงสุดนี้เรียกได้ว่าสะท้านโลก
เกรงว่าต่อให้เผ่ามังกรนำทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของทั้งเผ่ามาแลกกับผลสูงสุดนี้ พวกเขาก็คงยอม
ถึงอย่างไรคนโง่ก็รู้ว่าหากกินผลสูงสุดนี้ อำนาจของเผ่ามังกรดำจะต้องผงาดขึ้นกลายเป็นผู้ไร้พ่ายอย่างแท้จริงแน่นอน ถึงตอนนั้นต่อให้เป็นราชินีหงส์อมตะก็ไม่มีทางกดขี่เผ่ามังกรต่อไปได้
เผ่ามังกรจะผงาดขึ้นอีกครั้ง เป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดรองจากเผ่ามนุษย์!
น่าเสียดาย เสิ่นเทียนได้ใช้ผลนี้
หลังจากเสิ่นเทียนฝึกฝนคัมภีร์คบเพลิง กายเนื้อก็ประหลาดไปอย่างยิ่ง มีความรู้สึกกระหายอย่างแรงกล้าต่อสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดิน
แม้แต่ผลจุดกำเนิดมังกรธรรมดากับใบชาตระหนักรู้ยังไม่ให้ความรู้สึกเช่นนี้กับเขา
ทว่าใบชาสูงสุดกับผลสูงสุดที่อยู่บนยอดสุดให้ได้ กระทั่งให้ความรู้สึกกระหายรุนแรงยิ่งกว่าสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินธรรมดาอีก
เห็นได้ชัดมากว่า นี่หมายความว่าใบสูงสุดและผลไม้สูงสุดมีประโยชน์กับเสิ่นเทียนมาก
ความจริงก็เป็นอย่างที่เขาคาดการณ์ เมื่อกินใบสูงสุดแล้วเขาก็ปลุกตื่นกายมรรคสวรรค์ประทานสำเร็จ
เขาอยากรู้มากว่าหากตนกินผลสูงสุดนี้แล้ว จะได้อะไรที่ต่างออกไปหรือไม่!
“ผลจุดกำเนิดมังกรระดับสูงสามสิบกว่าผลน่าจะพอให้พวกพี่สาวปิงใช้ ผลสูงสุดนี้ ข้าจะไม่เกรงใจแล้วกัน!”
เสิ่นเทียนไม่ใช่พ่อพระ ไม่มีทางมอบผลที่มีประโยชน์กับตนออกไปเด็ดขาด
เขาจ้องผลขนาดเท่าดวงตะวันเล็กนั่นพลางปอกเปลือกช้าๆ
วินาทีนั้นเอง กฎเกณฑ์มากมายวนเวียนรอบเนื้อผลไม้อย่างเป็นลำดับขั้นตอน มีเสียงมังกรร้องดังชัดเจนในอากาศ แม้แต่มิติยังเหมือนจะแข็งตัวในทันใด
กรรซ์~
เนื้อผลจุดกำเนิดมังกรลอยขึ้นช้าๆ คล้ายกับเนื้อลิ้นจี่ แต่โปร่งใสกว่าเนื้อลิ้นจี่
ขนาดผลสูงสุดนี้ไม่เล็ก ปอกเปลือกแล้วมีขนาดเท่าลูกฟุตบอล
ตรงกลางเนื้อโปร่งใสยังเห็นเมล็ดสีแดงอมทองเม็ดหนึ่ง ลักษณะคล้ายกับมังกรมาก กระทั่งทุกเกล็ดมังกรกับเส้นขนยังชัดเจนยิ่ง
…….
“เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ ใบชาสูงสุดนั้นกับผลสูงสุด น่าจะเป็นเมล็ดแห่งมรดกของต้นไม้เทพสองต้นนั้น”
เยี่ยฉิงชางดวงตาแวววาว พลันปรากฏเมล็ดขนาดเท่าถั่วเขียวเม็ดหนึ่งขึ้นในมือ “หากปลูกพวกมันในที่ที่เปี่ยมไปด้วยพลังวิญญาณ ก็อาจจะปรากฏต้นชาตระหนักรู้กับไม้เทพจุดกำเนิดมังกรขึ้นมาใหม่ได้”
เสิ่นเทียนมุมปากกระตุกเล็กน้อย “แล้ว ใบหยกนี่ท่านได้มาจากที่ใด”
เยี่ยฉิงชางเผยสีหน้าไม่เป็นธรรมชาตินิดๆ “แค่กๆ หากต้นชาตระหนักรู้รวมเป็นใบชาสูงสุดได้ ก็ต้องมี ‘ใบแม่’ กับ ‘เมล็ดชา’ เจ้านี่ความรู้น้อยจริงๆ โดนคนแอบเอาเมล็ดชาไปยังไม่รู้อีก นี่…นี่ปู่บุญธรรมเตือนเจ้านะ หากเป็นคนอื่น ครั้งนี้เจ้าเสียเปรียบหนักแล้ว”
เสิ่นเทียนงุนงง
เหตุใดถึงมักจะรู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ มั่นใจนะว่าตาแก่นี่ไม่ได้หลุดปากพูดออกมาน่ะ
อีกทั้งเจ้านี่ยังฉวยโอกาสตอนกระตุ้นสรรพคุณชาเอา ‘เมล็ดชา’ ไปได้อย่างชำนาญเช่นนี้ นี่มันเกิดจากสัญชาตญาณชัดๆ ตอนนั้นที่ตาแก่นี่อยู่โลกเซียน เคยทำเรื่องคล้ายๆ กันนี้มากี่ครั้งแล้วกันแน่
ตำหนักเทพสงครามถูกปิดล้อม เหมือนจะมีเหตุผลอยู่มากเลย!
เยี่ยฉิงชางส่งเมล็ดชาให้เสิ่นเทียนด้วยใบหน้าไม่เต็มใจอย่างยิ่ง ดูคับแค้นใจมาก
ช่วยไม่ได้ ตอนนี้เขาอยู่ในสภาพเสี้ยววิญญาณ อีกทั้งตอนนี้ยังอาศัยในป้ายคำสั่งเทพสงครามเป็นเพียงดวงจิตเท่านั้น
ต่อให้มอบเมล็ดชาให้เขา ก็ไม่มีประโยชน์กับเขา ก่อนหน้านี้เป็นแค่การกระทำจากความเคยชินเท่านั้น
เสิ่นเทียนเก็บเมล็ดชาไป ก่อนจะฉีกเนื้อผลไม้สูงสุดช้าๆ “เยี่ยเหล่า ถ้าจะกินผลจุดกำเนิดมังกรสูงสุดนี่ ต้องระวังอะไรหรือไม่”
เยี่ยฉิงชางมองค้อน “ระวังกับผีสี คุณสมบัติกายปีศาจอย่างเจ้า ยัดลงท้องไปก็จบแล้ว”
ไม่เคยได้ยินเลยว่าใครกินใบชาตระหนักรู้แล้วจะปลุกตื่นกายมรรคสวรรค์ประทานได้ ตอนนี้กินผลจุดกำเนิดมังกรสูงสุด ข้าอยากรู้จักว่าเจ้าจะปลุกตื่นคุณสมบัติกายอะไรเจ๋งๆ อีกหรือไม่
……
ตาแก่นี่ไม่ได้เมล็ดชาไป เหมือนจะโมโหนิดๆ
เสิ่นเทียนไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ก่อนจะเริ่มเคี้ยวผลจุดกำเนิดมังกรสูงสุดและกลืนลงท้องไป
อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยจริงๆ รสชาติของผลสูงสุดนี่ใช้ได้เลย รสชาติคล้ายลิ้นจี่มาก และยังมีกลิ่นหอมของมะม่วงนิดๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน