บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 345

บทที่ 345 ซีโกรธตี๋ หลานยิ้มร่าทั่วแดนปรโลก

ตัดกลับมาที่ทะเลอุดร

เรือเหาะเทพสวรรค์ยักษ์ถูกหุ้มด้วยค่ายกลกันน้ำมุ่งหน้าไปในน้ำทะเลด้วยความเร็วสูงสุด

บนดาดฟ้าเรือเหาะ น้ำแร่วิญญาณในเหยือกชาขนาดใหญ่เท่าโอ่งน้ำกำลังเดือดปุดๆ ไม่หยุด ไอความร้อนโชยเข้ามาทำให้ศิษย์โดยรอบอดกลืนน้ำลายมิได้

พูดได้ว่าเพียงแค่น้ำแร่วิญญาณพวกนี้ก็แฝงไว้ด้วยพลังวิญญาณที่เอ่อล้นอย่างยิ่ง มีความเย้ายวนสำหรับผู้ฝึกบำเพ็ญเซียนธรรมดา

จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงใบชาตระหนักรู้ในมือเสิ่นเทียน นั่นคือสมบัติล้ำค่าที่มีเงินก็หาซื้อไม่ได้!

บนชั้นสองเรือเหาะเทพสวรรค์ เหล่าผู้อาวุโสพวกนั้นเดิมทียังคงวางมาดเย็นชาและสูงส่ง

กับอีแค่น้ำแร่วิญญาณ ยังไม่มากพอจะทำให้พวกเขาสนใจหรอก

แต่ตอนนี้ ผู้อาวุโสทุกคนหน้าเปลี่ยนสีไป มุมปากกระตุกด้วยความปวดใจ

นั่นคือใบชาตระหนักรู้ ถือว่าเป็นสมบัติสุดยอดสูงสุดที่ต่อให้เป็นผู้สูงศักดิ์สวรรค์ได้ดื่มหนึ่งแก้วก็จะได้ประโยชน์มากมาย

เจ้าจะใช้โอ่งน้ำต้มก็ช่างเถอะ แต่ยังให้เด็กน้อยแก่นพลังทองกระทั่งระดับสร้างฐานพวกนี้ดื่มรึ พวกเขาดื่มไปจะตระหนักอะไรได้!

ประสิทธิผลที่มากที่สุดของชาตระหนักรู้คือยกระดับการตระหนักรู้ของผู้ฝึกบำเพ็ญ และหลังจากฝึกถึงระดับดวงจิตดรุณและหลอมรวมเทพแล้ว ก็จะยิ่งต้องการกฎเกณฑ์ตระหนักรู้สูงขึ้นเรื่อยๆ

หากให้ใบชาตระหนักรู้พวกนี้กับพวกผู้อาวุโสใช้ พวกเขาจะพัฒนายิ่งขึ้นไปอีก ทะลวงถึงระดับที่สูงกว่า

ส่วนศิษย์พวกนั้นสามารถใช้ยาลูกกลอนธรรมดาอื่นๆ มาช่วย ก็ได้ประสิทธิผลเหมือนกัน

ให้พวกเขาดื่มชาตระหนักรู้ นี่บุตรศักดิ์สิทธิ์จะฟุ่มเฟือยเกินไปแล้วกระมัง!

หากศิษย์ตนสิ้นเปลืองเช่นนี้ ผู้อาวุโสพวกนั้นคงจะตบหลังศีรษะไปที สั่งสอนเขา

แต่คนที่ทำเช่นนี้คือบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เสิ่นเทียน ผู้อาวุโสพวกนี้จึงไม่กล้าทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า ถึงอย่างไรอาจารย์เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็ยังอยู่ที่นี่!

อีกทั้งดูจากทัศนคติของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว เหมือนจะไม่มีทีท่าว่าจะห้ามปรามเสิ่นเทียน เพียงแค่สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายสั่นไหวเบาๆ อ่านอารมณ์ไม่ออก

ไม่รู้ท่าทีของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ชัดเจน เหล่าผู้อาวุโสจึงค่อนข้างว้าวุ่นกันใหญ่

ได้แต่มองเสิ่นเทียนแบ่งชาให้พวกลูกศิษย์ พวกเขาปวดใจจนตับสั่น

แต่จะให้ผู้อาวุโสอย่างพวกเขาลงไปแย่งชาพวกลูกศิษย์ดื่ม ก็วางเกียรติไม่ลงอีก

เพราะอย่างไรก็ไม่ใช่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ทุกคนที่จะชื่อบัวมรกต

ตอนนี้ในใจผู้อาวุโสเทพสวรรค์ทุกคนจึงกำลังรำพันว่าให้มีใครสักคนนำ ขอแค่มีคนลงไปขอแบ่งชาตระหนักรู้ดื่มก่อน พวกเขาก็จะตามไปได้

แบบนี้ทั้งไม่เสียหน้าและยังได้ผลประโยชน์จริงๆ มาถึงมือ กำไรเลือดสาด!

น่าเสียดายก็แต่ผู้อาวุโสทุกคนบนชั้นสองต่างมองหน้ากัน ไม่มีใครอยากเป็นนกที่โผล่หัวออกไปคนแรก

ถึงอย่างไรศิษย์ของพวกเขาก็อยู่ข้างล่างกันหมด ถ้าเห็นอาจารย์ตนลงมาแย่งชาดื่มเป็นคนแรก เช่นนั้นคงน่าขายหน้าเกินไป

คนที่หนังหน้าบางหน่อยถึงขั้นสิ้นชีพทางสังคมไปเลย!

…..

ในที่สุดเสิ่นเทียนก็โยนใบชาพวกนั้นใส่ในเหยือกชา ใบชาตระหนักรู้สีม่วงห้าใบ ทุกส่วนมีแสงแห่งกฎเกณฑ์วนเวียน แช่ลงไปในน้ำแร่วิญญาณเดือดพล่านนั้น

ภายใต้การต้มด้วยน้ำแร่วิญญาณ ไม่นานชาตระหนักรู้ก็ส่งกลิ่นหอมเข้มข้น กระทั่งในชายังมีปรากฏการณ์ลอยขึ้นมา

ผีซิว เถาอู้ งูเหิน สายฟ้า…

ปรากฏการณ์สว่างจ้าปกคลุมไปมากกว่าครึ่งเรือเหาะเทพสวรรค์ กลิ่นหอมชาเย้ายวนก็ลอยโชยไปทั้งเรือเหาะเช่นกัน

เหล่าผู้อาวุโสบนชั้นสองของเรือเหาะ ตอนนี้ต่างน้ำลายแทบจะไหลออกมาแล้ว

ชาตระหนักรู้โอ่งใหญ่นี้ เหลือไว้ให้ข้าสักอึกเถอะ!

ไม่เช่นนั้น วันนี้วันนี้ได้วางหนังหน้าแก่ลงแน่

ตอนนี้เองเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น

พบว่าจู่ๆ ก็มีนักพรตชราเป็นคนแก่สุขภาพดีคนหนึ่งกระโดดลงจากชั้นสามของเรือเหาะ

ใบหน้าเขามีรอยยิ้มเจิดจรัสและอบอุ่น จ้องเหยือกชานั้นเขม็ง “ศิษย์หลาน เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่าชาตระหนักรู้ของเจ้าถึงเปรี้ยวจัง”

เสิ่นเทียนชะงักไปเล็กน้อย “เปรี้ยวรึ”

ตลกอะไร ต่อให้ใบชาพวกนี้ยังไม่สุกงอม ก็ยังเป็นสมบัติสุดยอดนะ!

เสิ่นเทียนไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “อาจารย์ลุงพูดเล่นแล้ว ชาตระหนักรู้นี่จะเปรี้ยวได้อย่างไร!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตส่ายหน้าอย่างแน่วแน่ “ต้องเปรี้ยวแน่ ข้าดมกลิ่นออก หมดอายุหรือไม่ ไม่ได้การ ถ้าชาตระหนักรู้มีปัญหา ดื่มแล้วอาจจะธาตุไฟเข้าแทรกได้ จะเสี่ยงไม่ได้”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตพูดพลางเดินมาหน้าเหยือกชายักษ์นั่น ก่อนจะนำชามยักษ์ขนาดเท่าศีรษะคนออกมาจากแหวนเก็บของ “ให้ข้าลองชิมก่อน ถ้าหมดอายุก็ให้ข้าธาตุไฟเข้าแทรกแล้วกัน! พวกเจ้าคือความหวังในอนาคตของแดนศักดิ์สิทธิ์ จะให้เป็นอะไรไปไม่ได้”

พูดจบแล้ว ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตก็ใช้ชามยักษ์ตักชาตระหนักรู้ยกกรอกใส่ปาก

อึกๆๆๆๆ~

“รสชาติไม่มีปัญหา แต่พลังแห่งกฎเกณฑ์เหมือนจะขาดหาย รู้สึกแปลกๆ ต้องลองอีกชามถึงจะรู้รส”

อึกๆๆๆๆ~

เสิ่นเทียน ศิษย์ทุกคนรวมถึงเหล่าผู้อาวุโสต่างพูดไม่ออก

ระยำ!

ไร้ยางอาย ไร้ยางอายเกินไปแล้ว ไม่เอาบัวมรกต!

เหล่าผู้อาวุโสบนชั้นสองต่างเผยรอยยิ้มดูถูก เจ้านี่จะหน้าด้านเกินไปแล้ว

ไม่อยากเชื่อว่าจะคิดข้ออ้างเลวทรามเช่นนี้ได้ ไปแย่งชาพวกลูกศิษย์กินถึงในกลุ่มศิษย์ ไม่มีแบบอย่างของผู้อาวุโสสักนิด!

ผู้อาวุโสทุกคนทำเสียงขึ้นจมูกดังไม่ขาดสาย แต่ละคนกระโดดลงมาบนดาดฟ้าเรือ หมายจะห้ามไม่ให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตกระทำเรื่องน่าอับอายของผู้อาวุโส

“ศิษย์พี่บัวมรกตท่านไม่เข้าใจวิถีแห่งการชงชา จะรู้ได้อย่างไรว่าชาตระหนักรู้นี่ดีหรือไม่ดี สิ้นเปลืองชาตระหนักรู้ล้ำค่านี่เปล่าๆ ให้ข้าเสี่ยงตรงนี้เองเถอะ!”

“ท่านคู่ควรรึ ในผู้อาวุโส นอกจากศิษย์หลานบัวขาวแล้ว ก็ข้านี่แหละที่มีศาสตร์การชงชาแกร่งที่สุด อึกเดียวก็รู้ว่าชาตระหนักรู้นี่มีคุณภาพดีหรือไม่ดี”

“อาจารย์ลุงท่านอายุปูนนี้แล้ว กระดูกไม่ค่อยดี เกิดดื่มแล้วเป็นอะไรขึ้นมาล่ะ ให้ข้าเองเถอะ!”

……

เมื่อเห็นเหล่าผู้อาวุโสที่ล้อมรอบเหยือกชาและแย่งกันเป็นก้อนกลมแล้ว ศิษย์เทพสวรรค์บนดาดฟ้าเรือต่างมองหน้ากัน

แค่กๆ จะว่าไปอาจารย์ลงมาเพื่อชิมชาดูว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่จริงๆ รึ

เราก็ไม่รู้ และก็ไม่กล้าถามด้วย!

แต่มั่นใจได้แน่นอนว่านับจากวันนี้ไปผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตจะยืดหลังตรงขึ้นได้อีกนิดหน่อยในแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แน่นอน

เพราะตอนนี้ทุกคนคือผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกต!

“หลบไปให้หมด! มีระเบียบกันบ้างหรือไม่”

ตอนนี้เอง เสียงเฉยชาของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็ดังมาจากบนสุดของเรือเหาะเทพสวรรค์ “ชาตระหนักรู้นี่ไม่มีปัญหา ทุกคนไม่ต้องตื่นตูม”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตยังคงดื่มชาตระหนักรู้ดังอึกๆๆ “ศิษย์น้องเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าชาตระหนักรู้นี่ไม่มีปัญหา พวกเราต้องรับรองความปลอดภัยให้ลูกศิษย์”

สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์สั่นไหวอย่างรุนแรง สายฟ้าสีทองกลายเป็นมือใหญ่ข้างหนึ่งหิ้วตัวผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตกลับมาบนชั้นสาม

“เทียนเอ๋อร์ได้ใบชาตระหนักรู้ในเขตทะเลเบิกฟ้ามาไม่น้อย ได้รายงานกับข้าอย่างละเอียดก่อนแล้ว”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์นำใบชาตระหนักรู้สีเงินอ่อนออกมาใบหนึ่ง “เขาเคยบอกกับข้าว่าจะใช้ใบชาตระหนักรู้ที่ดีที่สุดต้อนรับเหล่าผู้อาวุโส ข้าจะต้มชาอยู่บนชั้นสาม หากทุกท่านไม่อยากพลาดก็ขึ้นมาเถอะ”

ขณะพูดอยู่นั้น สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์กระเพื่อมขึ้นเรื่อยๆ

นั่น คือใบชาตระหนักรู้สีเงิน!

ตอนที่เห็นใบชาในมือเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ชัดเจน ผู้อาวุโสผู้สูงศักดิ์สวรรค์ทุกคนถึงกับตะลึงงัน

บ้าจริง!

ห้าดินแดนนี้ มีใบชาตระหนักรู้ระดับนี้อยู่จริงๆ รึ

ไม่อยากเชื่อว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์จะพบสมบัติสุดยอดสูงสุดเช่นนี้ในเขตทะเลเบิกฟ้า ทั้งยังมอบให้แดนศักดิ์สิทธิ์อีก

นี่มันบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพเซียนอะไรกัน เราได้บุตรศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้มา ภายภาคหน้ายังต้องกังวลว่าจะไม่ยิ่งใหญ่ขึ้นอีกครั้ง จะพิชิตดินแดนบูรพาห้าดินแดนไม่ได้อีกหรือ

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์คนต่อไปก็คือเขาแล้ว!

ใครกล้าคัดค้านไม่ให้บุตรศักดิ์สิทธิ์สืบทอดตำแหน่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ ข้าจะควงปากใหญ่ด่ามัน!

ฟุบ~

ฟุบๆๆ~

ฟุบๆๆๆ~

ประกายเซียนขยับวูบไหว ผู้อาวุโสทุกคนบินกลับไปชั้นบน วางมาด ‘ผู้สูงส่งบรรลุธรรม’ อีกครั้ง

“เมื่อครู่ข้าได้ดื่มไปถ้วยเล็ก ชาตระหนักรู้โอ่งนี้ไม่มีปัญหาจริงๆ ถึงจะไม่มีประโยชน์กับพวกข้ามากนัก แต่มีประโยชน์ในการเพิ่มระดับพลังของพวกเจ้าอย่างมาก”

“บุตรศักดิ์สิทธิ์ใจกว้างมอบชาให้ พวกเจ้าต้องคว้าโอกาสนี้ตระหนักกฎเกณฑ์ อาศัยชาตระหนักรู้ขึ้นไปในระดับที่สูงกว่า อย่าให้ผิดต่อความมุ่งมั่นของบุตรศักดิ์สิทธิ์เด็ดขาด”

“วันนี้บุตรศักดิ์สิทธิ์มอบชาให้คือเหตุ ภายภาคหน้าหากพวกเจ้ามีโอกาสจะต้องสนับสนุนบุตรศักดิ์สิทธิ์ รักษาความน่าเกรงขามของเทพสวรรค์เราไว้ เรื่องนี้พวกเจ้าต้องจำให้ขึ้นใจ”

“ศิษย์พี่ใหญ่ ศิษย์พี่รอง ศิษย์พี่สาม ยังบ่นไม่เสร็จอีกรึ ท่านเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เริ่มต้มชาแล้ว ถ้ายังไม่เข้ามาอีกจะโดนเจ้าบัวมรกตแย่งไปหมดแล้วนะ!”

“ระยำ รอข้าด้วย!”

“เหลือให้ข้าถ้วยหนึ่ง ไม่เช่นนั้นข้าจะใช้กุมอัสนีผ่าเจ้าให้ตาย!”

……..

ฟุบ~!

ผู้อาวุโสทั้งหมดบนดาดฟ้าเรือชั้นสองหายวับไปในทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน