บทที่ 346 ค้อนเทพกำราบสมุทร กายทองเก้ารอบ
เสิ่นเทียนไม่เคยขี้เหนียวกับผักกุยช่ายของตนในแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เลย
ตอนที่ชาตระหนักรู้พวกนี้แบ่งไปให้ถึงมือศิษย์เทพสวรรค์ทุกคน เสิ่นเทียนก็เห็นว่าวงรัศมีดวงชะตาเหนือศีรษะพวกเขายกระดับขึ้นเล็กน้อย
แม้สีวงรัศมีเหนือศีรษะศิษย์พวกนี้จะมีสีขาวแกมแดงเป็นส่วนใหญ่ ดวงชะตาธรรมดา
แต่ก็มีจำนวนคนมาก!
หากจากนี้ศิษย์คนใดปรากฏภาพโชคลิขิตที่ใช้ได้ขึ้นมาล่ะ!
เสิ่นเทียนยืนเอามือไพล่หลังอยู่บนดาดฟ้าหัวเรือ มองพวกศิษย์เทพสวรรค์ที่กำลังมีความสุข พลางอดยิ้มอย่างรู้ใจไม่ได้
ขณะเดียวกัน เรือเหาะเทพสวรรค์ก็ค่อยๆ เคลื่อนมาถึงหมู่เกาะยักษ์แห่งหนึ่ง หมู่เกาะนี้ปกคลุมอยู่กลางเมฆสายฟ้าทั้งหมด ภายนอกวางยอดค่ายกลไว้
ภายใต้การคลุมด้วยค่ายกล จะเห็นเป็นสายฟ้าเทพสีม่วงแผ่คลุมเหมือนกับใยแมงมุม คุ้มกันทั้งเกาะ
นี่คือ ‘เกาะอัสนีเทพสวรรค์’ เป็นฐานที่ตั้งในทะเลอุดรของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์
ถึงพลังวิญญาณบนเกาะจะไม่ถือว่าเอ่อล้นอะไรเป็นพิเศษ แต่ก็มากพอจะเทียบกับแดนเทวาแดนผาสุกส่วนใหญ่ได้
ต้องรู้ว่าเผ่าอสูรไม่ลงรอยกับเผ่ามนุษย์มาตลอด แดนศักดิ์สิทธิ์เผ่ามนุษย์ในดินแดนบูรพา ทะเลทรายประจิมและดินแดนกลาง แทบจะย่างกรายเข้ามาในทะเลอุดรไม่ได้
การที่มีฐานที่ตั้งของตนเช่นนี้ในเขตใจกลางทะเลอุดรได้ นี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลย
เล่าลือว่าเบื้องหลังมีความพยายามของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อยู่
เรือเหาะลงบนเกาะอัสนีเทพสวรรค์ช้าๆ เมื่อค่ายกลสายฟ้าเปิดออกก็นำเรือเหาะเข้าไป ไม่นานก็กลับมาเป็นสภาพปกติ
กรรซ์~
ทันทีที่เรือเหาะเทพสวรรค์จอดลง มังกรยักษ์ยาวหลายพันจั้งที่อยู่ไม่ไกลก็พุ่งเข้ามา ทั่วร่างแผ่กระจายอำนาจคุกคามน่ากลัวสะท้านฟ้าดิน
“ราชามังกรดำเอ๋าเย่ มาขอพบบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เสิ่นเทียน”
มังกรยักษ์เขย่าร่าง พลันกลายเป็นชายวัยกลางคนสวมชุดเกราะสีดำคนหนึ่ง
เขาย่ำเดินดั่งมังกรและพยัคฆ์ อหังการไม่เป็นสองรองใคร ผ่านไปที่ใดแม้แต่มวลอากาศยังเหมือนรับแรงกดดันไม่ไหวและแตกกระจายออก น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง
ทว่าตอนนี้เขากลับมองไปทางเรือเหาะเทพสวรรค์ด้วยความตึงเครียดและเคารพอย่างยิ่ง เหมือนเผชิญหน้ากับผู้อาวุโสที่ต้องประจบให้ดี
อำนาจผู้อริยะของราชามังกรดำเอ๋าเย่ไม่ได้เสริมการอำพราง ย่อมไม่มีทางรอดผ่านสายตาของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไปได้
ก่อนจะเห็นเรือเหาะเทพสวรรค์เปล่งแสงสว่างขึ้น สายฟ้าประกายเซียนสายหนึ่งพุ่งออกไป
“ยินดีต้อนรับราชามังกรดำเอ๋าเย่ ขออภัยที่ไม่ได้ไปต้อนรับจากแดนไกล หวังว่าราชามังกรดำจะไม่ถือสา”
สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เปล่งแสงสว่างจ้า พลันทำให้อำนาจมังกรทั้งหมดสลายหายไปได้อย่างง่ายดาย
เขาพูดนิ่งๆ “ราชามังกรรีบร้อนมาพบเทียนเอ๋อร์ด้วยตัวเองเช่นนี้ มีเรื่องด่วนอะไรหรือไม่”
เอ๋าเย่มองศิษย์เทพสวรรค์ที่ใบหน้าเขียนเต็มไปด้วยคำว่าซุบซิบและอยากรู้อยากเห็นบนเรือเหาะเทพสวรรค์ ก่อนจะพูดอย่างจำใจ “ให้เวลาข้าคุยส่วนตัวกับบุตรศักดิ์สิทธิ์ได้หรือไม่”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มองเสิ่นเทียน เสิ่นเทียนพยักหน้าช้าๆ
ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สั่นไหวเบาๆ “ถ้าเช่นนั้น เทียนเอ๋อร์ก็ไปคุยส่วนตัวกับราชามังกรดำเถอะ!”
บุรุษองอาจห้าวหาญในชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์หุบเหวมังกรกระโดดลงมาจากเรือเหาะเทพสวรรค์
ทองคำเซียนปีกปักษาข้างหลังเขาส่องประกายแสงอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ราวกับเซียนแท้จริงเทพสงครามมาเยือนจากสวรรค์เก้าชั้น!
ทำให้คนอดปลงอนิจจังว่าไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่งมิได้ บุตรศักดิ์สิทธิ์ในชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์หุบเหวมังกรดูสง่างามยิ่งกว่าก่อน ทำให้คนบ้าคลั่งกันได้จริงๆ
……
ราชามังกรดำเผยรอยยิ้ม ก่อนจะใช้กรงเล็บฉีกมวลอากาศ สร้างประตูมิติตรงหน้าเสิ่นเทียน “บุตรศักดิ์สิทธิ์ เชิญ!”
สองคนเข้าไปในประตูมิติช้าๆ พลันหายไปต่อหน้าทุกคน
เมื่อมิติกลับมาเสถียรภาพอีกครั้ง เสิ่นเทียนพบว่าตนมาอยู่บนแท่นหินลอยฟ้ากว้างโล่งแห่งหนึ่ง
แท่นหินนี้มีเส้นผ่าศูนย์กลางหลายร้อยจั้ง เขตตรงกลางมีเสาสีทองตั้งอยู่ต้นหนึ่ง
บนเสาสีทองต้นนี้แกะสลักมังกรทองห้ากรงเล็บที่สมจริงราวกับมีชีวิตตัวหนึ่ง ในดวงตามีความคล่องแคล่วปราดเปรียว เหมือนกับมังกรแท้จริง
และตรงระหว่างคิ้วมังกรทองห้ากรงเล็บตัวนี้ยังฝังไข่มุกขนาดเท่ากำปั้นสีเหลืองอมส้มๆ หนึ่งเม็ด
ทันทีที่ไข่มุกนี้ปรากฏขึ้น เสิ่นเทียนรู้สึกถึงความกระหายอย่างแรงกล้าจากในร่างกาย!
ไข่มุกนี่ คือสมบัติสุดยอดที่ล้ำค่าอย่างยิ่งแน่นอน!
หลังจากเข้ามิตินี้มา ราชามังกรดำเอ๋าเย่ผู้มีร่างกำยำบ้าอำนาจในเดิมทีก็เค้นรอยยิ้มเหมือนกับสุนัขรับใช้
เขาหัวเราะเหอะๆ “ท่านอาๆ ได้ยินว่าครั้งนี้ท่านได้ผลจุดกำเนิดมังกรจากเกาะเทพมังกรมาเยอะมาก จริงหรือไม่ สำหรับเผ่ามังกรแล้ว ผลจุดกำเนิดมังกรนี่คือสมบัติสุดยอด ยกระดับสายเลือดได้ ทำให้เผ่ามังกรก้าวไปในระดับที่สูงขึ้นกว่าเดิม
ท่านอามอบผลจุดกำเนิดมังกรพวกนั้นให้ข้าเถอะ! ข้ายินดีจะใช้สมบัติสุดยอดของเผ่ามังกรมาแลก ขอให้ท่านเสนอราคามาได้เลย!”
เมื่อเห็นราชามังกรดำเอ๋าเย่ยิ้มจนรอยย่นเต็มใบหน้าไม่มีเค้ามังกรแล้ว เสิ่นเทียนถึงกับตกใจนิ่งอึ้งไป
นี่คือราชามังกรดำคนนั้น หนึ่งในผู้แข็งแกร่งสุดยอดของห้าดินแดนในตำนานรึ
เหตุใดถึงรู้สึกว่าเจ้านี่โดนบุตรชายเขาเอ๋าอูสิงร่างไปแล้วล่ะ!
เอ่อ แต่ดูจากนิสัยของเอ๋าอูก่อนหน้านี้…
ก็มั่นใจได้ว่าเป็นพ่อลูกกันแท้ๆ แล้ว
…….
ผลจุดกำเนิดมังกรให้ประสิทธิผลที่ดีเยี่ยมที่สุดกับเผ่ามังกร เสิ่นเทียนรู้ในจุดนี้
แต่สมบัติล้ำค่านี้ เสิ่นเทียนเป็นคนเสี่ยงชีวิต เก็บเกี่ยวอย่างยากลำบากมาจากเกาะเทพมังกร
เจ้าหลานชายราชาเทพมังกรอยากได้ ให้เขาสักผลสองผลเป็นเรื่องเล็ก แต่ถ้าเอามากกว่านี้ต้องดูราคาของเขาด้วย
เสิ่นเทียนกระแอมไอเบาๆ มองราชามังกรดำเอ๋าเย่ด้วยรอยยิ้มทีเล่นทีจริง
ทันใดนั้นราชามังกรดำก็เข้าใจได้ในทันที “ท่านอาๆ ท่านลงนามสัญญาเทพมังกรกับท่านป้าปิง เช่นนั้นเราก็คือครอบครัวมังกรเดียวกัน ข้าจะไม่เอาเปรียบท่านเด็ดขาด
ผลจุดกำเนิดมังกรไม่ได้มีประโยชน์กับเผ่าอื่นนอกเหนือจากมังกรอะไรมาก ข้าจะใช้อาวุธอริยะหนึ่งชิ้นแลกกับผลจุดกำเนิดมังกรของท่านหนึ่งผลดีหรือไม่”
เสิ่นเทียนผงะไปเล็กน้อย เบิกตาโตขึ้น “อาวุธอริยะหนึ่งชิ้นแลกกับผลจุดกำเนิดมังกรหนึ่งผลรึ”
ในแหวนเวหาข้ามีผลจุดกำเนิดมังกรอย่างน้อยสี่สิบกว่าผล นี่ไม่ใช่ว่าจะแลกเป็นอาวุธอริยะได้สี่สิบกว่าชิ้นรึ
บ้าจริง!
ความมั่งคั่งเช่นนี้ แดนศักดิ์สิทธิ์ยังต้องอิจฉากระมัง!
ราชามังกรดำเอ๋าเย่ถอนหายใจ “ท่านอาอย่าใจร้อน ข้าก็รู้ว่าอาวุธอริยะหนึ่งชิ้นแลกกับผลจุดกำเนิดมังกรหนึ่งผล มันถูกไปหน่อย ความจริงแล้วเผ่ามังกรมีอาวุธอริยะไม่มาก ส่วนใหญ่มีเจ้าของแล้ว จัดการได้ยาก ถ้าไม่เช่นนั้นเอาเป็นอาวุธอริยะสามชิ้นแลกกับผลจุดกำเนิดมังกรสองผลได้หรือไม่”
นัยน์ตาราชามังกรดำเอ๋าเย่เต็มไปด้วยความเฝ้าใฝ่หา
เขาหลอมรวมผลจุดกำเนิดมังกรที่ใช้อาวุธเตรียมอริยะแลกมากับฉีเซ่าเสวียนนั้นไปแล้ว ระดับความบริสุทธิ์ของสายเลือดเพิ่มขึ้นอย่างมาก
เอ๋าเย่ในตอนนี้รู้สึกได้ถึงพันธนาการนั้นในเงามืด ตอนนี้เขาห่างจากสายเลือดมังกรดำระดับเก้าเพียงเยื่อบางชั้นสุดท้ายแล้ว
ขอแค่ทะลวงเยื่อบางนี้ไปได้ก็จะเข้าไปในโลกใหม่
แต่เขาก็รู้ว่าเยื่อบางนี้ทะลวงยากมาก เพราะจากระดับแปดไประดับเก้าคือการเปลี่ยนแปลงของคุณสมบัติ
ผลจุดกำเนิดมังกรนั้นที่ฉีเซ่าเสวียนให้เอ๋าเย่ ผลักดันเขาไปถึงสายเลือดจุดสูงสุดระดับแปดได้ ต่อให้กินอีกสิบผลก็ยากจะทะลวงระดับเก้าได้
การจะเดินก้าวสุดท้ายได้ มีเพียงตามหาผลจุดกำเนิดมังกรที่มีสรรพคุณแกร่งกว่าเท่านั้น
เดิมทีผลจุดกำเนิดมังกรนั้นในมือเอ๋าอูมากพอจะทำให้เอ๋าเย่ทะลวงเยื่อบางชั้นนี้
แต่เอ๋าเย่คิดไปคิดมาก็ยังให้เอ๋าอูหลอมรวมไป เพราะอย่างไรนั่นก็คือโชควาสนาของบุตรชายตน หนังหน้าเขาหนากว่านี้ก็ไม่มีทางไปแย่งผลไม้จากบุตรชายมากิน
ราชามังกรดำผู้ยิ่งใหญ่ก็มีเกียรติเช่นกัน
แต่เอ๋าเย่ได้รู้จากเอ๋าอูว่า บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เสิ่นเทียนเก็บผลจุดกำเนิดมังกรจากเกาะเทพมังกรมาอย่างน้อยสี่สิบผล ทุกผลมีระดับสูงสุด
หากเอาผลจุดกำเนิดมังกรนั้นของเอ๋าอูมาวางรวมกับเสิ่นเทียน มันจะมีคุณภาพแย่ที่สุด และที่สำคัญกว่านั้นคือ เสิ่นเทียนยังเก็บมากระทั่งผลจุดกำเนิดมังกรที่อยู่สูงสุดนั้น
ผลจุดกำเนิดมังกรธรรมดาน่าจะเทียบไม่ได้เลย!
…….
นี่ทำให้เอ๋าเย่เลือดเดือดพล่าน คุมตัวเองไม่อยู่แล้ว
ต้องรู้ว่าผลจุดกำเนิดมังกรระดับสูงสุดสี่สิบกว่าผลหมายความว่าอย่างไร
ต่อให้กวาดทรัพย์สินทั้งเกาะมังกร แลกผลจุดกำเนิดมังกรพวกนี้มาได้ก็ยังถือว่าคุ้มค่า
เงินกับอาวุธอริยะไม่ได้ใช้ไปเปล่าๆ เพียงแค่เปลี่ยนเป็นอีกรูปแบบเท่านั้น ใช้ช่วยให้เผ่ามังกรแข็งแกร่งขึ้น!
เมื่อสัมผัสได้ถึงความกระหายในใจเอ๋าเย่แล้ว เสิ่นเทียนก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก “อาวุธอริยะสามชิ้นแลกกับผลจุดกำเนิดมังกรสองผลรึ ข้าจะเอาอาวุธอริยะมากขนาดนั้นไปทำอะไร”
ตอนนี้เสิ่นเทียนสวม ‘เกราะศักดิ์สิทธิ์หุบเหวมังกร’ ถือกระบี่คู่ม่วงคราม และยังมีเสื้อคลุมสุญญะกับตัว ในกลีบปอดยังบ่มเพาะอาวุธเตรียมเซียนกระบี่ฟ้าสังหาร รวยจนไม่รู้จะรวยอย่างไรแล้ว
สำหรับเสิ่นเทียน อาวุธอริยะธรรมดาไม่มีความเย้ายวนอะไรมากนักจริงๆ
นัยน์ตาเอ๋าเย่เผยความจนปัญญา เขาก็คาดการณ์ได้ว่าอาวุธอริยะธรรมดาไม่ได้เย้ายวนเสิ่นเทียนอะไรมาก
ถึงอย่างไรแม้อาวุธอริยะจะหายาก แต่นั่นก็หายากแค่สำหรับผู้ฝึกบำเพ็ญต่ำกว่าผู้อริยะ แต่สำหรับผู้อริยะระดับฝ่าด่านเคราะห์แล้วก็งั้นๆ
หากไม่กลัวเหนื่อย อริยะแท้ระดับสามรอบขึ้นไปก็ใช้วัตถุดิบล้ำค่าหลอมอาวุธอริยะขึ้นมาได้ชิ้นหนึ่ง จากนั้นใช้พลังอริยะบ่มเพาะพันปี เท่านี้ก็หลอมขึ้นมาได้
อีกทั้งอาวุธอริยะที่ตนหลอมเองยังคล่องมือกว่าอาวุธอริยะที่คนอื่นหลอม สามารถแสดงอานุภาพแก่กล้าได้สองร้อยส่วนต่อร้อย
ดังนั้นโอรสสวรรค์ผู้โอหังที่แท้จริง เมื่อทะลวงสู่ระดับฝ่าด่านเคราะห์ ปกติจะหลอมอาวุธอริยะขึ้นเอง
สำหรับโอรสสวรรค์พวกนั้นแล้ว มูลค่าของอาวุธอริยะธรรมดาจริงๆ พอๆ กับอาวุธเตรียมเซียน!
เอ๋าเย่มองเสิ่นเทียนพลางพูดอย่างจริงจัง “หากข้าเดาไม่ผิด ท่านอาน่าจะฝึกควบศาสตร์หลอมกายเทพมารกระมัง! ด้วยพรสวรรค์สูงสุดของท่านอา คอขวดระหว่างกายทองถึงนิพพานคงง่ายเหมือนดีดนิ้ว แต่ตอนนี้ยังไม่ยอมทะลวงพลัง หรือว่าตั้งใจจะฝ่าไปให้ถึงระดับกายทองเก้ารอบในตำนานกัน”
แม้รอบตัวเสิ่นเทียนจะเหมือนคลุมด้วยหมอกลับแลหนึ่งชั้น ไม่อาจเห็นได้ชัดเจนว่ามีกายทองกี่รอบ แต่เอ๋าเย่ไม่คิดว่าปราการกายทองแปดรอบจะขังเสิ่นเทียนไว้ได้ ถึงอย่างไรพรสวรรค์ของเขาก็เรียกได้ว่าสูงสุดนับตั้งแต่อดีตกาลมา
สิ่งที่ทำให้เขาไม่ยอมทะลวงระดับกายทองจึงมีเพียงความเป็นไปได้เดียว กายทองเก้ารอบ!
แต่อีกด้านหนึ่ง เสิ่นเทียนงุนงงอยู่ในใจ
นี่เจ้าเดาได้ด้วยรึ
ถึงข้าจะไม่ได้อยู่ระดับกายทองนานนัก อีกทั้งตั้งแต่เริ่มฝึกบำเพ็ญจนถึงตอนนี้ใช้เวลาไปเพียงหนึ่งปี
แต่ว่า ข้าก็กำลังทะลวงระดับกายทองเก้ารอบที่ว่านั่นอยู่จริงๆ
เสิ่นเทียนพยักหน้าช้าๆ “ข้ายังไม่ทะลวงเก้ารอบจริงๆ”
……
เอ๋าเย่ตบต้นขา มือขวางอเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน