บทที่ 352 เสิ่นเทียนสยบสองสาว แสงแห่งบุรุษ!
ต้องบอกว่าจางอวิ๋นซีกับองค์หญิงหลิงหลงล้วนเป็นธิดาสวรรค์ที่สุดแห่งยุคที่ไม่ด้อยไปกว่าบุรุษ
ถึงพวกนางจะเยาว์วัย แต่ไม่ว่าจะระดับพลังหรือกำลังรบล้วนเหนือธรรมดา ในรุ่นเยาว์มากพอจะเรียกได้ว่าผู้โดดเด่น
กระทั่งแม้แต่ผู้แข็งแกร่งรุ่นอาวุโสมากมาย ตอนนี้มองการต่อสู้ของสองสาวไกลๆ ยังปลงอนิจจังและจนปัญญาเพราะคลื่นลูกใหม่มาแทนคลื่นลูกเก่า
อานุภาพกระบี่พยัคฆ์ขาวกำเนิดฟ้าทะลวงมาร!
อานุภาพกระบี่วิจิตรความลับสวรรค์เก้าชั้น!
หญิงสองคนสวมชุดคลุมขาวเหมือนกัน ถือกระบี่ยาวเหมือนกัน สะโอดสะองดั่งเทพธิดามาเยือนโลกมนุษย์
ไอกระบี่ตัดสลับสามหมื่นจั้ง แสงเย็นเยือกประกายคมส่องสว่างเกาะมหานที!
แสงกระบี่พยัคฆ์ขาวกับแสงกระบี่ดาราวิจิตรตัดสลับกัน ทันใดนั้นฟ้าดินพลันเกิดแสงกระบี่สว่างจ้า
ภายใต้การตัดสลับของไอกระบี่ของสองสตรี มวลอากาศยังพังทลายเป็นผุยผง กระแสปั่นป่วนสีดำแผ่ขยายออกไปโดยรอบราวกับใยแมงมุม เหมือนวันสิ้นโลก
นี่เหมือนการต่อสู้ของคนที่เพิ่งทะลวงระดับดวงจิตดรุณรึ ต่อให้บอกว่าพวกนางเป็นผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์ก็ไม่เกินจริงไปเลย!
ฟางฉางกับจางอวิ๋นถิงมองหน้ากัน นัยน์ตามีความปลงอนิจจัง ศิษย์น้องหญิง เหมือนจะแกร่งขึ้นกว่าเดิมอีก!
แม้ว่าจางอวิ๋นซีในอดีตจะเคยได้รับขนานนามร่วมกับฟางฉางและจางอวิ๋นถิงว่า ‘หนึ่งมังกรหนึ่งพยัคฆ์หนึ่งกิเลน’ แต่ก็มีศักยภาพอ่อนแอที่สุด
แต่หลังจากรู้จักเสิ่นเทียนมา จางอวิ๋นซีได้ดูดซับแก่นรากอัสนีเทพกำเนิดฟ้าจำนวนมากก่อน ตอนที่ฝึกฝนบทต้องห้ามเปลี่ยนร่างแปลงทัณฑ์สวรรค์ก็ได้นำหน้าไปก้าวใหญ่
จากนั้นได้รับโชควาสนามากมายเช่นหอคอยเทพสงครามและชาตระหนักรู้ ศักยภาพจึงเพิ่มขึ้นถึงขีดสุด
และที่สำคัญกว่านั้นคือ ความคิดยึดมั่นที่จะแข็งแกร่งขึ้นของนางรุนแรงกว่าก่อนเจอเสิ่นเทียนหลายเท่ามาก
ในเวลามากกว่าครึ่งปีที่เสิ่นเทียนตามเอ๋าปิงออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ฟางฉางกับจางอวิ๋นถิงเห็นกับตาว่าจางอวิ๋นซีฝึกฝนสุดชีวิตอย่างไร
ระดับความพยายามนั้น ใครเห็นเป็นต้องขนหัวลุก!
และสิ่งที่นางจ่ายไปก็ได้รับตอบแทนกลับมาจริงๆ ทั้งยังได้ผลชัดเจนมาก
ในหนึ่งปี จากแก่นพลังทองเจ็ดรอบทะลวงไปสิบรอบ อีกทั้งยังทุบแก่นเป็นดรุณเรียกว่าผู้สูงศักดิ์ได้สำเร็จ!
ความเร็วเช่นนี้ไม่ว่าจะอยู่ในดินแดนบูรพา ดินแดนกลางหรือทั้งห้าดินแดน ก็เรียกได้ว่าสุดยอดอัจฉริยะ!
หากจัดรายนามแก่นพลังทองใหม่ จางอวิ๋นซีจะติดอันดับสองในรายนามแก่นพลังทองของดินแดนบูรพาได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังทิ้งห่างที่สามไปหนึ่งช่วงถนน!
แน่นอน ถ้าเทียบกับอันดับหนึ่งแล้ว จางอวิ๋นซีไม่ได้ถูกทิ้งห่างเพียงแค่หนึ่งช่วงถนนเช่นกัน
…..
มีร่างเงามากมายยืนอยู่ในมวลอากาศที่ไม่มีใครพบเจอ พวกเขาแผ่กลิ่นอายพลังของผู้อริยะออกมากันทุกคน เดินหนึ่งก้าว แม่น้ำภูเขาหมื่นลี้ยังต้องสั่นสะเทือนสามครั้ง
และเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ที่เพิ่งขายศิษย์พี่ตัวเองไปก็อยู่ในนั้นด้วย
ชายวัยกลางคนร่างกำยำสวมชุดงูเหลือมบางคนเผยรอยยิ้ม “เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์มีโชควาสนาดี ได้ไปแต่อัจฉริยะเหนือชั้น บุตรสาวยังมีพรสวรรค์ยอดเยี่ยมเช่นนี้อีก”
ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สงบนิ่งดั่งสายน้ำ คำพูดยังไม่มีคลื่นอารมณ์ใดๆ เช่นกัน “บุตรสาวข้ามีปัญญาโง่เขลา จะไปเทียบกับองค์หญิงหลิงหลงได้อย่างไร จ้านหวังชมเกินไปจริงๆ”
ชายวัยกลางคนยิ้มอีกครั้ง “ได้ยินเรื่องดวงชะตายุคนี้ของแดนศักดิ์สิทธิ์เจ้ามานาน ห้าโอรสสวรรค์กดขี่รุ่นเยาว์ดินแดนบูรพา เทพสวรรค์เป็นหนึ่งไม่มีใครสอง อีกทั้งห้ายอดโอรสสวรรค์ยังเป็นศิษย์สายตรงของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์อีก ช่างน่าเลื่อมใสจริงๆ”
ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อมเบาๆ “พวกเขามีศักยภาพอย่างตอนนี้ได้ ข้าเพียงแค่ชี้นำทางเท่านั้น หลักๆ เป็นเพราะความมานะของตัวเอง”
จ้านหวังเอ่ยต่อ “แต่ในห้าโอรสสวรรค์ก็ยังเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ที่มีพรสวรรค์ยอดเยี่ยมที่สุด ได้ยินมานานแล้วว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เป็นบุรุษรูปงามอันดับหนึ่งของดินแดนบูรพา ทั้งยังเป็นโอรสสวรรค์ที่แกร่งที่สุดอย่างไม่ต้องละอายใจในรุ่นเยาว์ดินแดนบูรพา กระทั่งฉีเซ่าเสวียนที่มีแก่นพลังทองสิบรอบยังถูกเขากำราบด้วยพลังแก่กล้า
ตอนข้าได้ยินข่าวนี้ในดินแดนกลาง เดิมทียังไม่เชื่ออยู่บ้าง ตอนนี้ถึงรู้ว่าได้ยินนามสู้พบหน้ามิได้ ได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ! เวลาพันปีผ่านไปในพริบตา วันนี้ได้เห็นท่วงท่าอันสง่างามและพรสวรรค์ของบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ เหมือนกับได้เห็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ในตอนนั้นเลย
น่าปลงอนิจจังจริงๆ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์มีคนสืบทอดได้แล้ว”
ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สั่นไหวอย่างรุนแรง เสียงเขายังคงเฉยชา “ชมเกินไป แค่กๆ ชมเกินไปแล้ว
ใบหน้าของเทียนเอ๋อร์เหนือธรรมดาที่สุดแห่งยุคจริงๆ มีบุคลิกเหมือนข้าตอนยังหนุ่ม แต่ในด้านพรสวรรค์ยังไม่ได้เค้นศักยภาพแฝงของเขาออกมาถึงขีดสุด
คนหนุ่มก็ต้องผจญภัยหาประสบการณ์เยอะๆ ถึงจะก้าวขึ้นยอดเขาที่สูงกว่า ได้ตระหนักทิวทัศน์วิถีเซียนที่กว้างกว่า ข้าเพียงแค่เป็นคนชี้นำทางของเทียนเอ๋อร์เท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน