บทที่ 369 บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รุ่นหนึ่ง เยวี่ยอวิ๋นเต๋อ
สารภาพตามตรง ไป๋ตี้เป็นสายเลือดแปลกระดับสูงสุดของเผ่าเทพเต่าดำ เต่าอสุนีบาตสุญญะ
หากบอกว่าจุดเด่นที่มากที่สุดเผ่าเทพเต่าดำคือพลังป้องกันแข็งแกร่ง มีอายุยืนยาว เช่นนั้นไป๋ตี้ก็บ้ายิ่งกว่า
เขาไม่ใช่แค่มีการป้องกันแข็งแกร่ง อายุยืนยาว แต่ยังมีความเร็วปานสายฟ้า เข้าใกล้กับกฎเกณฑ์มิติโดยธรรมชาติ มีพลังวิเศษพรสวรรค์ท่องมิติ
ไป๋ตี้ในสภาวะท่องมิติมีกายเนื้อหลอมรวมกับมวลอากาศ เกราะป้องกันสุญญะที่รวมบนผิวกายผสานกับเกราะป้องกันกระดองเต่าของมัน ทำให้ต้านการโจมตีได้เก้าส่วน
พลังป้องกันของมัน เรียกได้ว่าน่ากลัวกว่าเต่าดำสายเลือดบริสุทธิ์!
กล่าวได้ว่าในการต่อสู้ในระดับพลังเดียวกัน วิชาการโจมตีของไป๋ตี้อาจจะไม่ถือว่าแกร่งที่สุด แต่วัดกันที่ความสามารถในการเอาตัวรอด ต่อให้เป็นมหาจักรพรรดิเกิดใหม่ก็อาจจะสังหารมันไม่ได้
นี่ยังเป็นเพราะไป๋ตี้ไม่ชำนาญวิชาลอบสังหาร ถ้าไม่เช่นนั้นคงหนีไปพันลี้แล้วจู่โจมข้างหลัง จู่โจมไม่โดนก็หนีไปพันลี้อีก
อีกทั้งเจ้ายังทำอะไรเจ้านี่ไม่ได้ด้วย เป็นนินจาเต่าที่น่าปวดหัวที่สุดในห้าดินแดน
หากไม่เช่นนั้น ด้วยกลอุบายของพวกคุนอวี้และคุนหมิง คงไม่มีทางที่จะทำอะไรไป๋ตี้ไม่ได้เลย
ทว่าสัตว์เทพทรงพลังจัดการยากเช่นนี้ กลับถูกเสิ่นเทียนข้ามระดับพลังมาทุบเหมือนกับลูกเต่า
บนศีรษะเต่านั่นมีซาลาเปาใหญ่บวมแดงหลายลูก ฉีเซ่าเสวียนกับคุนหมิงเห็นแล้วยังมีเหงื่อเย็นๆ ซึมออกมาจากแผ่นหลัง ดูหวาดผวา
ดีที่ตอนแรกที่ตนเผชิญหน้ากับสหายเสิ่น ถึงจะมีความลำพองใจ แต่ก็ไม่ได้อวดดีเท่าเต่าดำตัวนี้ ไม่เช่นนั้นหากล่วงเกินสหายเสิ่นโกรธขึ้นมาจริงๆ…
เกรงว่าคงมีเขางอกขึ้นมาไม่น้อยแล้ว
……
“ผู้อาวุโส เจ้ามีความเร็วน่าตกใจจริงๆ แซ่เสิ่นนับถือ”
เสิ่นเทียนเก็บค้อนเทพกำราบสมุทร ก่อนจะมองไป๋ตี้ด้วยรอยยิ้ม “การต่อสู้เมื่อครู่เจ้ากับข้าสูสีกัน ถือว่าเสมอกันว่าอย่างไร”
เสมอรึ
คำพูดของเสิ่นเทียนทำให้เหล่าโอรสสวรรค์ทุกคนมองเขาสูงขึ้นอีก
สมกับเป็นสหายเสิ่น!
ต่อให้ใช้ข้อได้เปรียบในด้านพลังทำลายล้างเอาชนะอีกฝ่ายได้ ก็ยังถ่อมตัวไม่กดดันคนอื่น กระทั่งไว้หน้าอสูรเต่านี่หลายส่วน
จิตใจเช่นนี้ ต่อให้เป็นคู่ต่อสู้ก็ต้องยอมให้เขาแล้วกระมัง!
คุนหมิงถอนหายใจเบา เดิมทีในใจเขายังมีความคิดที่จะประชันกับเสิ่นเทียนอยู่หลายส่วน แต่ตอนนี้ เขายอมจริงๆ แล้ว
ต่อให้ระดับพลังเขาจะเหนือกว่าเสิ่นเทียนแล้วอย่างไร
ในด้านกำลังรบและจิตใจ เทียบกับสหายเสิ่นแล้ว แซ่คุนเหมือนกับแสงเทียนข้างดวงตะวัน เทียบมิได้เลย!
เมื่อคิดได้ดังนั้น ทุกคนก็มองไป๋ตี้อีกครั้ง
เต่าดำนี่ยังมีอะไรจะพูดอีกหรือไม่
ตอนนี้ ไป๋ตี้เจ็บก้อนซาลาเปาเต็มศีรษะจนแยกเขี้ยวยิงฟัน
แต่เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาจากโดยรอบ ใบหน้าเต่าก็แดงขึ้นมา “แค่กๆ เจ้าหนูนี่ถือว่ามีพรสวรรค์ และยังรู้เรื่องรู้ราว”
ไป๋ตี้ฝืนทนความเจ็บปวดสมองพลางอธิบายด้วยใบหน้าเขียวคล้ำปูดบวม “แต่ข้าต้องพูดกับเจ้าให้ชัดเจน การประมือเมื่อครู่นี้ แท้จริงแล้วข้าลงมือเห็นใจ
การประมือเน้นหนักเรื่องการหยุดมือเมื่อถึงจุดหนึ่ง เมื่อครู่หมัดเทพราชันอหังการนั้นไปถึงจมูกเจ้า แต่ไม่ได้จู่โจมใส่เจ้า ข้าก็เอ่ยว่าเตรียมเก็บหมัดแล้ว
เพราะตามหลักการประมือจะหยุดมือเมื่อถึงจุดหนึ่ง เจ้าได้แพ้แล้ว หากข้าออกแรงหมัดนี้ หมัดเทพราชันอหังการคงทำจิตวิญญาณเจ้าสั่นไหว เจ็ดวิญญาณออกจากร่าง
วางไว้ตรงจมูกเจ้าไม่โดนเจ้า เจ้าต้องยอมรับ แต่เจ้าไม่ใช่แค่ไม่ยอมแพ้ ทั้งยังพลิกมือทุบค้อนใส่ศีรษะข้า ข้าจะเห็นแก่ลำดับความอาวุโส จะไม่เอาเรื่องเจ้า หากไปประมือกับคนอื่น คงไม่ใช่เช่นนี้แน่”
……
เมื่อเห็นไป๋ตี้พูดจาไร้สาระด้วยมาดขรึมแล้ว เหล่าโอรสสวรรค์ถึงกับมุมปากกระตุกขึ้นมานิดๆ
เคยเห็นคนไร้ยางอาย แต่ไม่เคยเห็นไร้ยางอายเช่นนี้มาก่อน
ถูกทุบจนหัวโนอักเสบแล้วยังยืดอกบอกว่าตนไม่แพ้อีก
จางอวิ๋นซีเค้นรอยยิ้ม “ในเมื่อเต่าดำแก่นี่คิดว่าตนไม่แพ้ ศิษย์น้องก็ตัดสินกับเขาอย่างยุติธรรมอีกสักครั้ง ตัดสินแพ้ชนะกันไปเลยเถอะ!”
ซี้ด~
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน