บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 368

บทที่ 368 บุรุษที่เร็วที่สุดในห้าดินแดน!

ค้อนเทพกำราบสมุทรเป็นครึ่งก้าวอาวุธเซียน อีกทั้งยังหลอมด้วยทองดำมังกรคำรามอันเป็นอันดับห้าในรายนามทองทำเซียน มีคุณสมบัติพิเศษในการ ‘มองข้ามการปัดป้อง’

กล่าวได้ว่าในครึ่งก้าวอาวุธเซียน ค้อนเทพกำราบสมุทรอยู่ระดับสูงสุดในนั้น

มูลค่าของมัน กระทั่งเหนือกว่ากระบี่ฟ้าสังหาร!

ทุกคนที่นี่ล้วนเป็นโอรสสวรรค์แกนหลักของขุมอำนาจใหญ่ ย่อมมีความรู้เรื่องสมบัติดี

ไม่เคยกินเนื้อหมูแต่ก็เคยเห็นหมูวิ่ง ตนไม่มีครึ่งก้าวอาวุธเซียน หรือว่าครึ่งก้าวอาวุธเซียนวางอยู่ตรงหน้าแล้วจะแยกไม่ออกกัน

หลังจากเสิ่นเทียนนำค้อนเทพกำราบสมุทรออกมา โอรสสวรรค์ทุกคนรอบกายต่างแอบกลืนน้ำลาย อดเกิดความอิจฉาขึ้นในใจไม่ได้ กระทั่งในนั้นยังมีฉีเซ่าเสวียนด้วย

ถึงอย่างไรแม้ฉีเซ่าเสวียนจะได้รับขนาดนามว่าบุตรแห่งโชค แต่อุปกรณ์ของเขาก็มีแค่อาวุธอริยะที่คุณภาพค่อนข้างสูงเท่านั้น

สมบัติสุดยอดระดับอย่างครึ่งก้าวอาวุธเซียนเช่นนี้ ทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงมีไม่กี่ชิ้น ไม่มีทางแบ่งให้ฉีเซ่าเสวียนที่อยู่เพียงระดับดวงจิตดรุณแน่นอน

อีกทั้งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงยังขี้เหนียวมากด้วย

เขามองเสิ่นเทียนพลางพึมพำกับตัวเอง “สมกับเป็นสหายเสิ่น ไม่อยากเชื่อว่าจะซ่อนอาวุธเตรียมเซียนไว้!”

ต้องบอกว่าการค้นพบนี้ทำให้ฉีเซ่าเสวียนเกิดความรู้สึกพ่ายแพ้ขึ้นในใจ

แน่นอน เสิ่นเทียนไม่รู้ความคิดในตอนนี้ของฉีเซ่าเสวียน หากรู้จะต้องพูดปลอบแน่นอน

อย่างเช่น ความจริงข้าไม่ได้มีอาวุธเตรียมเซียนเพียงชิ้นเดียว ถ้ารวมกระบี่ฟ้าสังหารกับถาดวัฏจักรหกมรรคด้วยแล้ว มีอย่างน้อยสามชิ้น!

อีกทั้งถาดวัฏจักรหกมรรคยังหลอมขึ้นจากดินบริสุทธิ์วัฏจักรอันเป็นอันดับสามในรายนามดินดำ และยังโปรดสัตว์วิญญาณมากมายในอาณาจักรโบราณอู๋เลี่ยง จนทะลวงขีดจำกัดเป็นอาวุธเซียนที่แท้จริงแล้ว มูลค่าสูงกว่าค้อนเทพกำราบสมุทรสิบเท่าขึ้นไป!

เสิ่นเทียนเชื่อว่าหากฉีเซ่าเสวียนรู้ความจริงนี้ คงไม่ทอดถอนใจกับค้อนเทพกำราบสมุทรเล็กจ้อยนี่อีก

แน่นอน เป็นคนก็ต้องทำอะไรเงียบๆ

อาวุธเตรียมเซียนชนิดนี้ เอาออกมาชิ้นหนึ่งเพื่อคุมสถานการณ์ก็พอแล้ว เอามาเยอะไปจะทำให้คนอิจฉาได้

อืม มั่งคั่งแบบไม่เปิดเผยต่างหากคือราชธรรม~

เสิ่นเทียนทำจิตใจให้สงบลง มองแสงสีขาวในมวลอากาศด้วยดวงตาลุกวาว

ในสายตาเขาจะเห็นแสงสีเงินอ่อนๆ ขยับวูบวาบ ในนั้นเหมือนจะแฝงไว้ด้วยดวงดารารอบฟ้า มีความลี้ลับของมหามรรค

เขา เหมือนกำลังวิเคราะห์อะไรบางอย่าง~

……….

เสียงลำพองใจของไป๋ตี้ดังขึ้นในมวลอากาศ “โอ้ว เจ้าหนูนี่ไม่เลวเลย! ไม่อยากเชื่อว่าจะมีอาวุธเตรียมเซียน น่าเสียดายถึงอุปกรณ์จะดีกว่านี้ก็ต้องดูที่เจ้าของด้วย หากเจ้ายินดีมอบค้อนนี่ให้ข้า ข้าจะพิจารณาถ่ายทอดวิชาสูงสุดให้เจ้า!”

คำพูดอวดดีดังกึกก้องในเส้นทาง ดูลำพองใจและขี้โม้มากเป็นพิเศษ

เวลานี้ ทุกคนต่างพากันโกรธแค้นอยู่เต็มอก

เสิ่นเทียนไม่โกรธ แต่กลับค่อยๆ เผยรอยยิ้ม

ผิวกายเขามีสายฟ้าสีทองสว่างวาบ ไม่นานก็ไหลผ่านแขนลุกลามไปถึงภายนอกของค้อนเทพกำราบสมุทร

เวลานี้ ตัวเขาเหมือนกับเทพสายฟ้ามาเยือน!

เสิ่นเทียนมองแสงสีขาววูบวาบนั้นด้วยความสนใจ “ได้ยินว่าสมาชิกทุกคนของเผ่าเต่ามีพลังป้องกันแข็งแกร่งทนทานที่สุด ไม่รู้ว่าทองดำมังกรคำรามที่เน้นเรื่องการทำลายการป้องกันนี้จะทำลายการป้องกันของผู้อาวุโสได้หรือไม่ ผู้อาวุโสอยากลองหรือไม่”

เสียงในมวลอากาศนิ่งเงียบไปเล็กน้อย แต่ก็เหมือนจะมั่นใจในความเร็วของตนอย่างมาก

เขาทำเสียงขึ้นจมูก “กับอีแค่ทองดำมังกรคำรามเล็กจ้อย คู่ควรจะทำลายเกราะเทพข้ารึ”

เสิ่นเทียนพยักหน้าช้าๆ “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ผู้อาวุโสก็สำแดงวิชามาเถอะ”

เพิ่งเอ่ยจบ เสิ่นเทียนพลันกลายเป็นเศษเงาสีทองหายไปจากที่เดิม ความเร็วสูงจนคนมองเห็นไม่ชัด กระทั่งในสายตาโอรสสวรรค์รอบข้าง เศษเงาสีทองในตอนนี้เร็วกว่าแสงสีขาวนั้นอีก ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือไม่

บึ้ม~

ปัง~

…..

เกิดเสียงพลังงานปะทะกันขึ้นในอากาศไม่หยุด พร้อมกันนั้นยังเหมือนมีเสียงกายเนื้อถูกกระแทกด้วย

ทั้งเส้นทางถูกปกคลุมด้วยสายฟ้าสว่างพร่างพราว ประกายสายฟ้าสีขาวกับสีทองตัดสลับกัน เห็นไม่ชัดเลยว่าใครเป็นใคร

แม้แต่ฉีเซ่าเสวียนที่เบิกเนตรที่สามของตนยังจับรายละเอียดการต่อสู้ทั้งหมดไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เห็นอะไรชัดเจนเลย อย่างน้อยใบหน้าเขาก็เผยรอยยิ้มขึ้นมาทีละนิด

ทันใดนั้น มีประกายสายฟ้าหมื่นจั้งพุ่งมาจากเส้นทาง!

อัสนีเทพสว่างพร่างพราวพลันกลายเป็นปรากฏการณ์ค้อนเทพแนบกับค้อนเทพกำราบสมุทร

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน