บทที่ 377 โอสถศักดิ์สิทธิ์ร้อยต้น บุตรจักรพรรดิอีกาทอง
สารภาพตามตรง กำลังรบของโอสถวิญญาณพวกนี้ทำให้เสิ่นเทียนตกใจเล็กน้อย
โอสถวิญญาณอายุหมื่นปีในสวนสมุนไพรพวกนี้ แทบทุกคนเชื่อมต่อกับสวนสมุนไพร
พวกมันสามารถใช้พลังงานจากเขตแดนนี้มาเสริมพลังให้ตัวเองได้ สำแดงอานุภาพที่แข็งแกร่ง ส่วนใหญ่มีกำลังรบของระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์
โดยเฉพาะหลังจากมุดลงดินไปแล้ว โอสถวิญญาณพวกนี้เหมือนกับปลาได้น้ำ สัตว์อสูรปกติกับผู้ฝึกบำเพ็ญเผ่ามนุษย์อยู่ใต้ดิน ศักยภาพจะลดลงอย่างมาก แทบจะหนึ่งส่วนสิบ
ต่อให้เป็นผู้ฝึกบำเพ็ญธาตุดินส่วนน้อย ชำนาญพวกวิชาธาตุดินหรือวิชาดำดิน สู้ใต้ดินก็ยังลดกำลังรบลงไปมากกว่าครึ่ง เหลือไว้สามส่วนได้ก็ไม่เลวแล้ว
โชคดีที่พลังของเถากลืนกินเซียนในตัวเสิ่นเทียนมหัศจรรย์มาก มอบพลังให้เขาเดินทางใต้ดินได้อย่างอิสระ
จากการคาดการณ์ของเสิ่นเทียน นอกจากการโจมตีระยะไกลอย่างวิชาพวกกุมอัสนีกับวิชากระบี่บินที่จะได้รับผลจำกัดเล็กน้อยแล้ว การโจมตีระยะประชิดแทบจะไม่ถูกลดพลังลงเลย
อีกทั้งเสิ่นเทียนยังรู้สึกว่าต่อให้กำลังรบของตนจะเหลือเพียงสามส่วน ก็น่าจะรับมือกับโอสถวิญญาณพวกนี้ได้กระมัง!
และที่สำคัญกว่านั้นคือ เหอะๆ ข้ามุดเร็วกว่าพวกมันอีก
สมุนไพรพวกนี้หนีไม่พ้นเมื่ออยู่ต่อหน้าเสิ่นเทียน!
อืม ความรู้สึกที่ได้รังแกสหายน้อยนี่มันเยี่ยมมาก!
เสิ่นเทียนกลายเป็นเศษเงามุดดินไป ผ่านไปที่ใดโอสถวิญญาณทั้งหมดจะหนีหัวซุกหัวซุนราวกับเห็นผี แต่พวกมันก็ต้องพบเรื่องที่น่าจำใจคือ เจ้ามนุษย์นี่รวดเร็วจริงๆ!
แสงทองสว่างวูบเดียว แสงสีเขียวสว่างทีหนึ่ง เจ้ามนุษย์นี่ก็หิ้วค้อนใหญ่มาอยู่ตรงหน้า ดูเหี้ยมโหดมาก!
การโจมตีแส้ฟาดอะไรนั่น ใบไม้บินมีดเร็วอะไรนั่น ทำลายการป้องกันของเสิ่นเทียนไม่ได้เลย
การโจมตีด้วยพิษยิ่งไม่ต้องพูดถึง ในตัวเจ้านี่มีพลังของดินบริสุทธิ์วัฏจักร ร้อยพิษทำอะไรไม่ได้
เสิ่นเทียนบุกทะลวงไร้พ่ายในหมู่สมุนไพร มือขวากำค้อนเทพกำราบสมุทรทะลวงการป้องกันของโอสถศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด มือซ้ายกำสามประกายวารีเทพขวดหนึ่ง
“สหายสมุนไพรทุกท่าน พวกเจ้าแก่กว่าแซ่เสิ่นหลายหมื่นปี น่าจะเข้าใจเหตุผลดี มีคำกล่าวว่าการใช้ชีวิตก็เหมือนการข่มขืน หากไม่อาจต่อต้านได้ ก็จงหลับตาเสพสุขเถอะ!
หากตามไปกับแซ่เสิ่นดีๆ จากนี้หากทำตัวดีก็จะผลิดอกออกผล บางทีอาจจะได้สามประกายวารีเทพมารดน้ำ หากดวงดีก็อาจจะกลายเป็นร่างมนุษย์ก็ได้ หากบีบให้แซ่เสิ่นใช้ไม้แข็ง ค้อนนี่จะไม่มีความเห็นใจ!”
เสิ่นเทียนพึมพำไปพลาง กลายเป็นแสงสีทองตัดสลับไปมาใต้ดินไปพลาง
แน่นอน พวกโอสถศักดิ์สิทธิ์ที่เขาพูดถึงฟังไม่เข้าใจเลย สติปัญญาของพวกมันยังไม่มากพอจะสื่อสารกับมนุษย์ได้
แต่พวกมันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายคุ้นเคยจากในตัวเสิ่นเทียน อย่างเช่นกลิ่นอายไฟแท้สุริยะที่บริสุทธิ์และเข้มข้นเป็นพิเศษ รวมถึงกลิ่นอายของสามประกายวารีเทพที่แฝงไว้ด้วยพลังชีวิตไร้ที่สิ้นสุด
โอสถศักดิ์สิทธิ์ในสุสานมหาจักรพรรดิอีกาทองปกติจะเป็นธาตุไฟ สิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินสองชนิดนี้ถึงมีแรงดึงดูดต่อสมุนไพรพวกนี้อย่างยิ่งยวด
ดังนั้นต่อให้สัมผัสได้ถึงเจตนาร้ายจากเจ้ามนุษย์นี่ แต่โอสถศักดิ์สิทธิ์ส่วนใหญ่ก็ยังวนเวียนไม่ไกลจากเสิ่นเทียน ทำใจหนีไปไกลไม่ได้
และนี่ ทำให้เสิ่นเทียนได้ประโยชน์อย่างมาก
ว่านเพลิงสวรรค์ตะวันรอนที่เครารากขาดไปครึ่งหนึ่งถูกนักพรตอ้วนกำราบด้วยพลังมหาศาล จึงยอมตายเสียดีกว่าอยู่หนีไปแล้ว
แต่หลังจากถูกเสิ่นเทียนทุบค้อนระเบิดพลังงานเพลิงพิทักษ์แล้ว ว่านเพลิงสวรรค์นี้เพียงแค่ดิ้นรนเชิงสัญลักษณ์ครู่เดียวก็ไม่ดิ้นรนอีก
แน่นอน เสิ่นเทียนหยดสามประกายวารีเทพหยดหนึ่งตรงเครารากมันไป นี่อาจจะทำให้เกิดผลขึ้นมาเล็กน้อยด้วย
แต่หลักๆ เป็นเพราะเสน่ห์บุคคล ไม่ผิด เสน่ห์บุคคล!
…..
เสิ่นเทียนยังคงกวาดล้างต่อไป ว่านเพลิงสวรรค์ตะวันรอนเพียงแค่ถือว่าโดดเด่นในโอสถศักดิ์สิทธิ์ แต่ไม่ใช่การคงอยู่ที่ล้ำเลิศเหนือคนอื่น
ในโอสถศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดยังมีสมุนไพรล้ำค่าไม่ด้อยไปกว่าว่านเพลิงสวรรค์ไม่น้อย กระทั่งมีโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุดที่ล้ำค่ายิ่งกว่า
ต่อให้เสิ่นเทียนมีฐานะการเงินค่อนข้างมั่งคั่งแล้ว ตอนนี้ยังอดแสยะปากยิ้มไม่ได้
อู้ฟู้ อู้ฟู้มากจริงๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน