บทที่ 378 โอสถศักดิ์สิทธิ์ก็เหมือนกับสตรี
ในสวนสมุนไพรมหาจักรพรรดิ มีร่างเงาพุ่งตัดสลับกันไปมาเต็มไปหมด
นั่นคือฉีเซ่าเสวียน คุนหมิง คุนอวี้และพวกจางอวิ๋นซีที่กำลังเก็บเกี่ยวสมุนไพร
แม้โอสถศักดิ์สิทธิ์ที่ล้ำค่าที่สุดพวกนั้นจะเกิดความกระหายในการมีชีวิตพื้นฐานที่สุดจึงมุดดินหนีไปแล้ว
แต่ก็ยังมีโอสถวิญญาณระดับสูงสุดอายุพันปีจำนวนมากที่ยังอยู่บนผิวดิน ไม่ชำนาญวิชาดำดิน ตอนนี้คือเป้าหมายการเก็บเกี่ยวของเหล่าโอรสสวรรค์
สมุนไพรพวกนี้สำหรับเหล่าโอรสสวรรค์แล้ว ก็มากพอจะทำให้พวกเขาดีใจจนคลั่ง
ถึงอย่างไรหากไปอยู่ข้างนอก โอสถวิญญาณพันปีทุกต้นที่นี่ก็ดึงดูดให้ผู้ฝึกบำเพ็ญมากมายเข้ามาแย่งชิงกัน กระทั่งเกิดการสังหารนองเลือดขึ้น
ทว่าที่นี่ แม้แต่วัชพืชที่พบเจอได้ทุกที่ยังแฝงไว้ด้วยพลังวิญญาณเอ่อล้น จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงโอสถวิญญาณพวกนั้น
นักพรตอ้วนที่ไม่ยอมเผยชื่อแซ่บางคนถึงขั้นวางธงค่ายกลเขตแดน เริ่มม้วนหญ้าแผ่น ขุดดินวิญญาณ วางมาดว่าถ้าอาวุธวิเศษเก็บของยังไม่เต็มจะไม่ยอมหยุด
วิธีการของฉีเซ่าเสวียนก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ภูผานทีไอม่วงสามสิบสามชั้นกลายเป็นข่ายฟ้าดินหมุนม้วนเข้าไป
ทุกครั้งที่ใช้ภูผานทีไอม่วง เขาจะผนึกมิติหลบหนีทั้งหมดของโอสถวิญญาณเป้าหมายไว้ กดพื้นที่ลงและกำราบไปเรื่อยๆ จนปราบสำเร็จ
อีกทั้งเขายังมีพลังวิญญาณแก่กล้าอย่างเนตรสวรรค์เคหาสน์ม่วง สามารถแยกแยะได้ว่าโอสถวิญญาณล้ำค่าอยู่ที่ใด เทียบกับวิธีอันบ้าคลั่งและละโมบของนักพรตอ้วนแล้ว เขาดูมีความเจาะจงมากกว่า
ทุกต้นที่เก็บเกี่ยวเป็นโอสถวิญญาณระดับสูงสุดที่แท้จริง อีกทั้งยังมีจำนวนที่มากน่าพอดู
ส่วนพวกฟางฉาง จางอวิ๋นถิงและหวังเสินซวี ตอนนี้กำลังใช้ความสามารถของตนเก็บเกี่ยวโอสถวิญญาณอย่างเต็มที่
เวลาผ่านไปทีละนาที โอสถวิญญาณในสวนสมุนไพรมหาจักรพรรดิค่อยๆ ถูกเหล่าโอรสสวรรค์เก็บเกี่ยวไปพอประมาณแล้ว แม้แต่หญ้าแผ่นยังโล่งเตียน
แน่นอน พืชวิญญาณพิเศษบางชนิด ทุกคนจะเก็บรากเอาไว้
ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นกฎที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษรของโลกบำเพ็ญเซียน เก็บรากไว้ ภายภาคหน้าโอสถวิญญาณพวกนี้ก็จะเติบโตขึ้นมาอีกครั้ง
หากผู้ฝึกบำเพ็ญทุกคนเก็บเกี่ยวถอนรากถอนโคนโอสถวิญญาณทุกครั้ง เช่นนั้นนานวันเข้าสมุนไพรล้ำค่าของโลกบำเพ็ญเซียนก็จะน้อยลงเรื่อยๆ จนกระทั่งสูญพันธุ์
การบำเพ็ญเซียน คือการให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
……
บึ้ม~
ทันใดนั้นแผ่นดินระเบิดออก
ร่างเงาสีทองสว่างจ้าปรากฏขึ้นตรงหน้าทุกคน
พบว่าร่างเงานี้ก็คือเสิ่นเทียน เขาสวมชุดผ้าแพรมังกรขาว เหยียบกระบี่คู่ม่วงคราม เหมือนกับเซียนกระบี่มาเยือน
“ศิษย์น้อง เจ้าไม่เป็นไรนะ!”
จางอวิ๋นซีมองเสิ่นเทียนกลางอากาศ นัยน์ตามีความห่วงใยชัดเจน
ถึงอย่างไรสมุนไพรที่มุดดินไปพวกนั้นก็ไม่ธรรมดา กล่าวได้ว่าส่วนใหญ่มีกำลังรบระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์
ในสุสานของมหาจักรพรรดิอีกาทองแห่งนี้ ต่อให้เป็นผู้อริยะสู้กับพวกมันใต้ดิน ก็อาจจะไม่ได้เปรียบเท่าไร
เสิ่นเทียนไล่ตามลงดินคนเดียว นี่ทำให้จางอวิ๋นซีเป็นกังวลไปช่วงหนึ่งเลย
แต่โชคดีที่เสิ่นเทียนกลับออกมาได้อย่างปลอดภัย
เสิ่นเทียนส่ายหน้ายิ้มๆ “ไม่เป็นไร โอสถศักดิ์สิทธิ์พวกนั้นคุยง่าย ตอบตกลงตามแซ่เสิ่นออกจากสุสานจักรพรรดิหมดแล้ว”
โอสถศักดิ์สิทธิ์พวกนั้นคุยง่ายรึ
คำพูดของเสิ่นเทียนพลันทำให้โอรสสวรรค์ทุกคนงุนงง
อะไรคือโอสถศักดิ์สิทธิ์พวกนี้คุยง่าย แล้วเหตุใดตอนเผชิญหน้ากับพวกเขา พวกมันถึงทำตามใจขนาดนั้นล่ะ
โดยเฉพาะเยวี่ยอวิ๋นเต๋อ ก่อนหน้านี้ถูกว่านเพลิงสวรรค์ตะวันรอนนั้นเผา ตอนนี้ยังรู้สึกเจ็บไข่อยู่เลย!
เจ้าบอกข้าว่าเจ้าพวกนี้คุยง่าย นี่กำลังล้อเล่นกับใครอยู่
หน้าตาดีแล้วจะพูดจาไร้สาระได้อย่างนั้นรึ
แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่สงสัยในความจริงในคำพูดของเสิ่นเทียน
บางทีอาจพูดได้ว่าถึงคนส่วนใหญ่จะรู้สึกปวดไข่ แต่เมื่อตรึกตรองดูดีๆ แล้วก็เลือกจะเชื่อเสิ่นเทียน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน