การผายปอดและปั๊มหัวใจก็เป็นหนึ่งในนั้น
เพื่อสามารถใช้ประโยชน์ได้จริงในเวลาจำเป็น เสิ่นเทียนตั้งใจเรียนมาก
เพราะเหตุนี้ หลังจากเสิ่นเทียนทำการปฐมพยาบาลไปได้สักพัก ลมหายใจของเสี่ยวหลิงเซียนค่อยๆ กลับมาเป็นปกติทีละนิด
“อืม…”
เสี่ยวหลิงเซียนลืมตาขึ้นอย่างเชื่องช้า แต่ทันใดนั้นเองก็รู้สึกถึงความผิดปกติ
ตอนนี้มีใบหน้าที่หล่อเหลาเกินต้านกำลังเข้าใกล้ตนเองทีละนิด
เป็นเสิ่นเทียน!
ทันใดนั้น เสี่ยวหลิงเซียนตกใจจนหน้าถอดสี รีบหลับตาลงทันที
ซ่า!
คิดไม่ถึงว่าเจ้าหมอนี่จะอาศัยโอกาสที่ข้าหมดสติจูบข้า
แค่จูบก็ช่างเถอะ แถมยังเป่าลมใส่ปากของข้าไม่หยุด
เดี๋ยวก่อน เขา…เขากำลังกดหน้าอกของข้า!
รังแกกันเกินไปแล้ว!
ข้ายังเป็นหญิงสาวที่บริสุทธิ์ผุดผ่องนะ!
เจ้าทำแบบนี้กับข้า แล้วต่อไปข้าจะแต่งออกไปอย่างไร
เสี่ยวหลิงเซียนรู้สึกโมโหมาก คิดจะกระโดดขึ้นมาสู้กับเสิ่นเทียนสุดชีวิต
แต่หลังจากที่ครุ่นคิด ในสถานที่รกร้างไร้ผู้คนแห่งนี้
โดยรอบมีเพียงเสิ่นเทียนและผู้ติดตามของเขาสองคน
แม้กระโดดลุกขึ้นมาขัดขืนจริง
ดูเหมือนจะขัดขืนไม่ไหวกระมัง!
หรือว่า…หรือว่าข้ามองคนผิดไป
อันที่จริงคนแซ่เสิ่นผู้นี้ไม่ใช่คนดีอะไร แต่เป็นจอมปีศาจที่วิปริต?
……
นึกถึงตรงนี้ เสี่ยวหลิงเซียนกลัวจนไม่กล้าขยับตัว
แต่มีความรู้สึกพิเศษหนึ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของนาง
ความรู้สึกเช่นนี้มันลึกลับซับซ้อน นางไม่เคยสัมผัสมันมาก่อน
ทันใดนั้น การสัมผัสระหว่างริมฝีปากหายไป
หน้าอกที่โดนกดทับก็หยุดลงเช่นกัน
ความรู้สึกอาลัยอาวรณ์แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายเสี่ยวหลิงเซียน
นางหลับตา ฟังเสิ่นเทียนสนทนากับกุ้ยกงกง
“ลุงกุ้ย ข้าเหนื่อยแล้ว หรือไม่ลองเปลี่ยนท่านมาฝังเข็มดู!”
เสี่ยวหลิงเซียนรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาในทันใด
ฝังเข็ม?
ฝังเข็มอะไร!!
“แค่กๆ ทักษะการแพทย์ของบ่าวไม่ดีมากนัก กลัวจะทำร้ายแม่นางหลิงเอ๋อร์ เชิญองค์ชายทำต่อดีกว่า!”
ดังนั้น เมื่อกี้คนแซ่เสิ่นไม่ได้กำลังลวนลามข้า แต่กำลังช่วยข้าหรือ
มีเช่นนี้ที่ไหนกัน!
ช่วยคนเช่นนี้มีที่ไหน แถมยังบ่นว่าเหนื่อยอีก
ทำไม ช่วยข้าแค่นี้มันทำให้เจ้าต้องเหนื่อยมากเลยหรือ
เมื่อนึกถึงตรงนี้ ความขุ่นเคืองก็ผุดขึ้นเต็มอกเสี่ยวหลิงเซียน
……
ลูกประคำที่อยู่ตรงหน้าอกของเสิ่นเทียนก็เริ่มสั่น
“นายท่าน นายท่าน จิ่วเอ๋อร์สัมผัสได้ถึงความอาฆาตบนตัวของแม่นางผู้นี้!”
เสิ่นเทียนเริ่มตระหนก “หรือว่าโจรชั่วเฮยเสวี่ยทิ้งลูกสมุนอะไรไว้บนตัวของยัยผู้หญิงคนนี้”
สีหน้าของกุ้ยกงกงก็เริ่มเคร่งเครียดเช่นกัน “ไม่ตัดความเป็นไปได้นี้ออก!”
ผู้บำเพ็ญพรรคมารขึ้นชื่อเรื่องความโหดร้าย กระทำชั่วโดยไม่เลือกวิธีการ
เนื่องจากไม่มีข้อผูกมัด ดังนั้นการใช้กลอุบายมีหลากหลายวิธี ยากที่จะรับมือ
เสิ่นเทียนถือป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่ไว้ในมือ “มีวิธีอะไรสามารถกำจัดความอาฆาตหรือไม่”
ฉินเกาที่อยู่ด้านข้างครุ่นคิด “ได้ยินมาว่าฉี่ของเด็กมีพลังหยางและพลังแห่งความรุ่งโรจน์ สามารถขจัดความชั่วร้าย…”
“หยุด!”
ฟังมาถึงตรงนี้ เสี่ยวหลิงเซียนตกใจจนหน้าถอดสี กระโดดลุกขึ้นจากพื้นอย่างกะทันหัน
“ข้าข้าข้าข้าข้าไม่เป็นไร!”
เห็นท่าทางที่ตื่นตระหนกของเสี่ยวหลิงเซียน สีหน้าของเสิ่นเทียนดูแปลกประหลาดขึ้นมาทันที “เจ้า…เจ้าฟื้นนานแล้วหรือ”
เสี่ยวหลิงเซียนอึ้ง พยักหน้าด้วยความมึนงง “เพิ่งฟื้นมาได้สักพัก”
“ฟื้นแล้วเหตุใดเจ้าถึงไม่พูด” เสิ่นเทียนกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ “ข้าเหนื่อยแทบตาย”
เสี่ยวหลิงเซียนไม่รู้ควรจะพูดอย่างไร
อึ้งไปสักพัก เสี่ยวหลิงเซียนชักมีอารมณ์
“คนแซ่เสิ่น เจ้าสารเลว!”
“เมื่อกี้เจ้าทั้งจูบทั้งกดข้า ต่อไปจะให้ข้าแต่งงานออกเรือนได้อย่างไร”
กุ้ยกงกงยิ้มจนตาหรี่ “แต่งกับองค์ชายก็สิ้นเรื่องแล้วไม่ใช่หรือ”
แหะๆ โชคดีที่เมื่อกี้ไม่ได้ฝังเข็ม
องค์ชายฉลาดยิ่งนัก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน