บทที่ 381 เขตใจกลาง อาวุธจักรพรรดิปรากฏ
บนประตูบานนี้แกะสลักค่ายกลลายเทพที่ลี้ลับอย่างยิ่งไว้ จะเห็นอีกาเทพสูงสุดสิบตัวทะยานขึ้น
เหมือนกับตะวันเทพยิ่งใหญ่หลายดวงเชื่อมเป็นหนึ่งเดียว แฝงไว้ด้วยความลี้ลับไม่มีที่สิ้นสุด
เมื่อปรากฏประตูบานนี้ ช่องทางมิติก็เปิดออกช้าๆ
อำนาจคุกคามสูงสุดที่ยิ่งใหญ่ โออ่าและไม่อาจก้าวล่วงหมุนม้วนออกไป ทำให้คนขนพองสยองเกล้า
กระทั่งสายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยังเกิดคลื่นกระเพื่อมอย่างรุนแรง เห็นได้ชัดว่าพลังที่แฝงในกลิ่นอายพลังนี้มากพอจะคุกคามถึงเขา
“เส้นทางนี้น่าจะเชื่อมไปยังเขตใจกลางสุสานจักรพรรดิ”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอ่ยอย่างเฉยชา “แต่ตอนนี้ดูแล้ว ในสุสานจักรพรรดิแห่งนี้เหมือนจะซ่อนการเปลี่ยนแปลงน่าประหลาดบางอย่างไว้ ไม่รู้ว่าดีหรือเลว จะบุกจะถอยทุกท่านต้องใคร่ครวญให้ดีๆ”
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตนำจีวรเต๋าชุดใหม่จากแหวนเก็บของมาสวม ก่อนจะพูดอย่างองอาจห้าวหาญ “มาก็มาแล้ว มีอะไรน่ากลัวกัน”
ไม่อยากเชื่อว่าจะโดนเดรัจฉานสองตัวนั่นเผาจนอยู่ในสภาพนี้ ทั้งยังโดนศิษย์น้องขู่เอาอาวุธอริยะไปอีก นี่ขาดทุนไปถึงบ้านยายเลย
หนนี้ถ้าไม่ได้สมบัติในเขตใจกลางสุสานจักรพรรดิมา ข้าคงตายตาไม่หลับแล้ว!
หึ ต้องโทษพวกเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ไกลโพ้น ถ้าไม่ใช่เพราะช่วยพวกเขา ข้าคงไม่โดนอีกาทองปิดล้อมทุบตี
เดี๋ยวต้องหาโอกาสฟาดกระบองใส่เจ้าพวกนี้!
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตกอดความคิดชั่วร้ายไว้ในใจ ส่วนพวกเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ไกลโพ้นกำลังซาบซึ้งใจเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์
ถึงอย่างไรแม้แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะอยู่ในเขตดินแดนบูรพา ไม่สนิทสนมกับแดนศักดิ์สิทธิ์ไกลโพ้นเท่าไร แต่สำหรับผู้ฝึกบำเพ็ญระดับอริยะแล้ว ห้าดินแดนไม่ถือว่าใหญ่จริงๆ
ในโลกแห่งการช่วงชิง ภายภาคหน้าจะปรากฏแดนลับต่างๆ ขึ้น ผู้อริยะและผู้สูงศักดิ์สวรรค์พวกนี้มีโอกาสเจอกัน หากได้กอดต้นขาอย่างเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ภายภาคหน้าจะต้องมีประโยชน์มากแน่นอน
ถึงอย่างไรการที่มีสหายเพิ่มมา…ก็มีหนทางรอดมากขึ้น!
“เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ไม่ได้เจอกันหลายร้อยปี นับวันท่านยิ่งสง่างามขึ้นเรื่อยๆ เลย หากไม่ได้สหายหลงหยวนยึดมั่นในธรรมออกมือช่วย เกรงว่าพวกเราคงเจอกับหายนะจริงๆ แล้ว สหายหลงหยวนช่างมีคุณธรรมยิ่งใหญ่!”
“บุญคุณช่วยชีวิตของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ ข้ากระดากอายเหลือเกินที่ไม่อาจตอบแทนได้ อาวุธวิญญาณระดับสูงสุดกระบี่เทพอำพัน หวังว่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์จะไม่รังเกียจ”
“บัวหิมะโลกาบริสุทธิ์เป็นโอสถศักดิ์สิทธิ์แท้จริงที่ข้าตั้งใจบ่มเพาะมาสามพันปี เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์มีบุญคุณช่วยชีวิตไม่อาจทดแทนได้ ขอให้รับไว้ด้วย”
……
สมบัติแต่ละชิ้นถูกส่งมาหน้าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตเห็นแล้วถึงกับอิจฉาตาร้อน
ต้องรู้ว่าเดิมทีของพวกนี้ควรเป็นของเขา!
ศิษย์น้องสารเลว ไม่อยากเชื่อว่าจะแย่งโชคลิขิตของข้า
เจ้านกสองตัวนั่นก็ควรเป็นของข้า!
แน่นอน หากเป็นเพียงแค่บุญคุณช่วยชีวิตปกติ ผู้สูงศักดิ์สวรรค์กับผู้อริยะพวกนี้คงไม่ใจกว้างเช่นนี้
ความจริงแล้วเส้นทางที่พลันปรากฏขึ้นนี้ เห็นได้ชัดว่ามุ่งไปสู่สถานที่ที่ลึกลับยิ่งกว่า อาจจะมีมหาโชคลิขิต และก็อาจจะมีอันตรายใหญ่หลวง
ตอนนี้เอง การกอดต้นขาของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จึงสำคัญมาก
คนที่รู้จักวางตัว ปกติจะมีชีวิตยืนยาว
“ทุกท่านไม่ต้องเกรงใจ ผู้บำเพ็ญธรรมะอย่างเราควรจะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน หากทุกท่านไม่รังเกียจ ก็ร่วมเดินทางกับข้าได้”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอ่ยเสียงเฉยชา เพียงแต่สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายกลับกระเพื่อมเบาๆ นำสมบัติเก็บเข้าไปในนั้นทีละชิ้น การกระทำฉับไวและเป็นลำดับขั้นตอน
จากนั้น เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็นำทุกคนเดินเข้าประตูใหญ่สีแดงอมทอง
เมื่อห้วงอากาศรอบตัวเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ทุกคนสัมผัสได้ชัดเจนว่าตนกำลังเดินหน้าไปยังส่วนลึกยิ่งกว่าของสุสานจักรพรรดิ
เพราะอำนาจคุกคามของจักรพรรดินั้นแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
กระทั่งผู้อริยะระดับฝ่าด่านเคราะห์อย่างเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ไกลโพ้นยังรู้สึกตัวสั่นในด้านจิตวิญญาณ เห็นได้ชัดมากว่าอำนาจคุกคามมาจากผู้แข็งแกร่งที่อยู่เหนือกว่าพวกเขา หรืออาจจะเป็นผู้สูงส่งสูงสุดหนึ่งยุคในตำนาน…มหาจักรพรรดิอีกาทอง!
“แม้จะถูกอีกาทองสองตัวนั้นไล่ล่า แต่ก็เปิดประตูเคลื่อนย้ายโดยบังเอิญ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน