บทที่ 382 กลุ่มขุนศึกรวมตัว มหาจักรพรรดิปรากฏ!
ใช่ ไม่อยากเชื่อว่าเขตใจกลางสุสานจักรพรรดิแห่งนี้จะมีคนอยู่!
ต้องรู้ว่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ใช้พลังแห่งสายฟ้าสังหารอีกาทองสองตัวถึงจะเปิดเส้นทางเคลื่อนย้ายได้
คนพวกนี้มีคุณธรรมและความสามารถระดับใดกันถึงมาก่อนเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์หนึ่งก้าว เข้าไปในเขตใจกลางแห่งนี้ก่อน นี่มันน่าเหลือเชื่อ!
แสงเทพสุริยะสว่างพร่างพราวค่อยๆ เก็บกลับไป ทุกคนเริ่มชินกับระดับความสว่างของแสงแห่งโลกเล็กอีกาทองนี้ มองเห็นร่างคนบนเวทีประลองนั้นชัดเจน
ทันใดนั้น ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ทุกคนและผู้อริยะก็ตกตะลึงยิ่งกว่าเดิม
เพราะคนบนเวทีประลองนั้นดูหนุ่มมาก
สุดยอดโอรสสวรรค์ในรุ่นเยาว์ห้าดินแดน ปกติทุกแดนศักดิ์สิทธิ์จะมีข้อมูลบันทึกไว้
โดยเฉพาะสิบอันดับแรกในรายนามแก่นพลังทองอย่างฉีเซ่าเสวียน ฟางฉาง จางอวิ๋นถิง จางอวิ๋นซีและหวังเสินซวี รวมถึงคนที่มีกำลังรบสุดยอดในรุ่นเยาว์อย่างคุนหมิงและคุนอวี้ กระทั่งความสำคัญของพวกเขายังมากกว่าผู้อาวุโสของแดนศักดิ์สิทธิ์มากมาย
ดังนั้น เหล่าผู้อาวุโสจากแดนศักดิ์สิทธิ์ไกลโพ้นพวกนี้จึงรู้จักหน้าตาของคนพวกนี้
ส่วนเสิ่นเทียน แม้จะเข้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ได้ปีกว่า แต่ชื่อเสียงในดินแดนกลางไม่ใช่น้อยๆ เลย
แต่ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาตระหนักศิลาเทพสุริยะรอบนอกเกาะมหานที ได้สร้างภาพจำไว้เหนือสามัญมากจริงๆ ทำให้ผู้อริยะทุกคนเกิดภาพจำอย่างลึกซึ้ง
กระทั่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ไกลโพ้นยังมอบอาวุธอริยะให้เสิ่นเทียนและกับชาตระหนักรู้
เจ้าหนูนี่ร่ำรวยมากจริงๆ!
…..
บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ไม่อยากเชื่อว่าจะเข้ามาในเขตใจกลางก่อนเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ไกลโพ้นพลันรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องเหลวไหล ถึงอย่างไรเด็กหนุ่มคนนี้ก็เยาว์วัยมากเกินไป ต่อให้เสิ่นเทียนจะฝึกวิชาพิเศษ ทำให้ไม่อาจส่องอายุกับระดับพลังแท้จริงของเขาได้ แต่ก็ยังคาดการณ์ได้คร่าวๆ
ในมุมมองของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ไกลโพ้น อย่างไรเสิ่นเทียนก็มีอายุไม่เกินห้าสิบปี พลังบำเพ็ญไม่เหมือนเหนือกว่าผู้สูงศักดิ์สวรรค์ อย่างมากสุดก็ผู้สูงศักดิ์
ชนรุ่นหลังรุ่นเยาว์เช่นนี้ กลับพาโอรสสวรรค์รุ่นเดียวกันมากขนาดนี้มาครองอันดับหนึ่ง เข้าไปในเขตใจกลางคนแรกสุด
หรือจะเป็นอย่างที่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์บอกไว้จริงๆ ศิษย์เขาคือบุตรแห่งสวรรค์อย่างไม่ต้องละอายใจ
หากเป็นความจริง ก็ต้องกอดต้นขานี้ไว้ให้แน่นแล้ว!
คนที่เป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์หนึ่งทิศได้ มีใครบ้างไม่ใช่จิ้งจอกเฒ่าพันปี ใครบ้างไม่มีความเจ้าเล่ห์แพรวพราว
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ไกลโพ้นมองเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ทันที ก่อนจะป้องมือกล่าว “สหายหลงหยวนโชคดีมาก ไม่อยากเชื่อว่าศิษย์ของท่านจะบุกไปถึงเขตใจกลางสุสานได้เร็วเช่นนี้ มีสวรรค์พิทักษ์จริงๆ
บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ และยังมีหนึ่งมังกรหนึ่งหงส์หนึ่งกิเลน ช่างสมคำร่ำลือจริงๆ ข้าอิจฉายิ่งนัก!”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แน่นิ่งไม่สั่นคลอน น้ำเสียงเฉยชาไม่มีคลื่นอารมณ์ใดๆ เลย “สหายชมเกินไปแล้ว”
เพียงแต่สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายเขาตอนนี้กระเพื่อมรุนแรงเป็นพิเศษ
สมกับเป็นเทียนเอ๋อร์ เจ้าเร็วกว่าข้าจริงๆ!
……
พวกเสิ่นเทียนย่อมสังเกตเห็นการมาของพวกเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เช่นกัน
โดยเฉพาะนักพรตอ้วนเยวี่ยอวิ๋นเต๋อ หลังเห็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กับผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตแล้วก็ตัวสั่นไหวเบาๆ ท่าทีเกียจคร้านเอ้อระเหยลอยชายพลันหายไป ยืนแบบที่เรียกว่าตัวตรง
ก่อนจะเห็นนักพรตอ้วนตามองจมูก จมูกมองใจ มือทำสัญลักษณ์เต๋าวางมาดเคร่งขรึม
ถ้าไม่ใช่เพราะรูปร่างอ้วนตุ้ยนุ้ยกับแววตาเจ้าเล่ห์ที่ไม่เหมือนคนดีจริงๆ แล้ว จะบอกว่าเจ้านี่เป็นผู้สูงศักดิ์สวรรค์มีคุณธรรมสูงส่งก็อาจจะมีคนเชื่อได้
“ศิษย์เยวี่ยอวิ๋นเต๋อกลับมาจากการเดินทางแล้ว ขอคารวะอาจารย์ ขอคารวะอาจารย์ลุง”
เยวี่ยอวิ๋นเต๋อเก็บหม้อเล็กทองสัมฤทธิ์เข้าไปในแขนเสื้อเงียบๆ มองผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตอย่างระแวดระวัง ก่อนจะแสดงความเคารพอย่างนอบน้อม
เสิ่นเทียนเองก็แสดงความเคารพทันทีเช่นกัน “ศิษย์เสิ่นเทียน ขอคารวะอาจารย์ ขอคารวะอาจารย์ลุง”
“ศิษย์ฟางฉาง ขอคารวะอาจารย์ ขอคารวะอาจารย์ลุง”
“ศิษย์จ้าวเฮ่า ขอคารวะอาจารย์ ขอคารวะอาจารย์ลุง”
“บุตรขอคารวะท่านพ่อ ขอคารวะอาจารย์ลุง”
……
คนหนุ่มสาวที่สวมเครื่องแบบแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ต่างแสดงความเคารพเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์และผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตอย่างองอาจห้าวหาญ
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ไกลโพ้นกับเหล่าผู้อาวุโสแดนศักดิ์สิทธิ์ไกลโพ้นที่ดูอยู่ข้างๆ รู้สึกเปรี้ยวไปทั้งตัว กลิ่นมะนาวแผ่คลุมฟ้าดิน
เพราะเหตุใด เพราะเหตุใดลูกหลานบ้านอื่นถึงมุมานะเช่นนี้ ถึงเข้ามาในเขตใจกลางสุสานจักรพรรดิได้
เจ้าพวกศิษย์ไม่รักดีแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ไกลโพ้นพวกนั้นไปอยู่ที่ใด เหตุใดยังไม่มากัน หรือยังเดินวนหลงทางอยู่ข้างนอก ไม่ได้เรื่องเลย!
เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์เหมือนกัน เหตุใดศิษย์ของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ถึงมุมานะเช่นนี้
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ไกลโพ้นแอบตัดสินใจเงียบๆ ในใจ หลังจบการผจญภัยครั้งนี้แล้ว จะต้องเสริมการเรียนรู้ให้กับศิษย์แดนศักดิ์สิทธิ์ไกลโพ้นมากขึ้น
เด็กหนุ่มแกร่ง แดนศักดิ์สิทธิ์ก็แกร่ง เด็กหนุ่มยืนได้ด้วยตัวเอง แดนศักดิ์สิทธิ์ก็ยืนได้ด้วยตัวเอง!
เรื่องการบ่มเพาะรุ่นต่อไปนี้ แดนศักดิ์สิทธิ์ไกลโพ้นเราจะล้าหลังมากไปไม่ได้เด็ดขาด!
หลังจากศิษย์เทพสวรรค์แสดงความเคารพกันเสร็จแล้ว องค์หญิงหลิงหลงก็กลอกตาเล็กน้อย เดินหน้าหนึ่งก้าวช้าๆ
รูปร่างนางสะโอดสะองดั่งเซียน แต่กลับมีความสง่าผ่าเผยหลายส่วน
เอกลักษณ์ความองอาจและงดงามที่ต่างกันสองชนิดผสมผสานกันกลมเกลียวในตัวนาง ต้องบอกว่าที่จักรพรรดิสือแห่งดินแดนกลางเอ็นดูองค์หญิงท่านนี้เพราะมีเหตุผลจริงๆ
องค์หญิงหลิงหลงแสดงความเคารพเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ช้าๆ “หลิงหลงขอคารวะท่านอาหลงหยวน ไม่ได้พบกันนาน ท่านพ่อนึกถึงท่านอามาตลอด จึงกำชับหลิงหลงเป็นพิเศษว่าหากเจอท่านอา ก็ให้ฝากทักทายท่านอาด้วย”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พยักหน้าเล็กน้อย ประกายเซียนบนผิวกายกระเพื่อมเบาๆ “ไม่ได้พบกันนานหลายปี องค์หญิงน้อยคนนั้น ตอนนี้เป็นหญิงงามที่สุดแห่งยุคล่มแคว้นล่มเมืองแล้ว ฝ่าบาทสือหวงช่างโชคดีจริงๆ”
องค์หญิงหลิงหลงแอบชำเลืองตามองเสิ่นเทียนทีหนึ่ง ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม “ท่านอาหลงหยวนอย่าหยอกล้อหลิงหลงเลย ท่านพ่อพูดอยู่ตลอดว่าหลิงหลงรำดาบรำกระบี่ทุกวัน ไม่เหมือนกุลสตรี แต่เหมือนบุรุษ เกรงว่าภายภาคหน้าคงไม่ได้ออกเรือน ก็เลยอยากให้ท่านอาหาบุรุษที่ตรงใจจากในแดนศักดิ์สิทธิ์ของท่านให้หลิงหลงสักคน!”
จางอวิ๋นซีกับคุนอวี้ถึงกับงุนงง
อันตราย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน