บทที่ 401 จักรพรรดิอันดับหนึ่งวิถีโอสถ วันนี้ปิดกั้นตัวเองแล้ว!
ในสุสานจักรพรรดิชิง เสิ่นเทียนกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่
ในมือเขากำตำราโอสถโบราณม้วนหนึ่ง ดวงตาสองข้างขยับแสงสีทอง
เนตรมรรคสวรรค์ประทานเพ่งมองไปที่ตำราโอสถ ทะลวงเรื่องเสกสรรปั้นแต่ง ไขความลี้ลับของตำราโอสถทั้งหมด
เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เสิ่นเทียนกำลังจะหลอมโอสถสูงสุด…โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า
เท่าที่จักรพรรดิชิงรู้มา โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้ามาจากยุคดึกดำบรรพ์ สร้างขึ้นโดยยอดฝีมือสูงสุดบางท่านก่อนอดีตกาล
ตั้งแต่ยุคบรรพกาลมา โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าก็ไม่เคยปรากฏมาในโลกนี้อีก
หากไม่ใช่เพราะจักรพรรดิชิงคุมตำรายาบทนี้ จะต้องคิดว่าเป็นของปลอม ของลวงโลกแน่นอน
ถึงอย่างไรเงื่อนไขในการหลอมโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าก็ยากเกินไป
แม้แต่จักรพรรดิอันดับหนึ่งวิถีโอสถเมื่อแสนปีก่อนยังหลอมไม่ได้ ในโลกมนุษย์ย่อมยิ่งไม่ต้องพูดถึง
แต่โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้านี้มีประโยชน์ที่ไม่อาจกล่าวได้!
เล่าลือว่าโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าเป็นโอสถปรับแก้ดวงชะตา ชิงโชควาสนาของฟ้าดิน รุกรานสิ่งลี้ลับแห่งตะวันและจันทรา แม้แต่กฎแห่งสวรรค์ยังไม่อาจรับมันไว้ในโลกได้!
และประโยชน์ของมันคือการมองข้ามระดับ ยกระดับคุณสมบัติและพรสวรรค์การตระหนักรู้ เสริมข้อบกพร่องของตนเอง สร้างคุณสมบัติกายสมบูรณ์แบบ
คุณสมบัติและพรสวรรค์การตระหนักรู้เดิมทีมีสวรรค์กำหนด ยากจะมุมานะยกระดับได้
แต่โอสถล้ำค่าที่ยกระดับคุณสมบัติและทักษะการตระหนักรู้ได้หายากยิ่ง อีกทั้งผู้บำเพ็ญที่มีพลังบำเพ็ญสูงมากเท่าไร การยกระดับคุณสมบัติและการตระหนักรู้ก็ยิ่งยากมากเท่านั้น
ถึงอย่างไรหอสูงหมื่นจั้งตั้งบนพื้นราบ เมื่อสร้างหอขึ้นมาแล้ว การจะเสริมรากฐานให้มั่นคงจึงยากยิ่งกว่าเดิม
ทว่าโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้ากลับไม่มีข้อจำกัดในด้านนี้
มันทำให้ผู้บำเพ็ญศาสตร์หลอมปราณยกระดับพรสวรรค์ได้ และยังมีผลแบบเดียวกันกับผู้อริยะฝ่าด่านเคราะห์ด้วย
การยกระดับพลังบำเพ็ญจะไม่ส่งผลใดๆ เลย
นี่ก็เป็นจุดที่เป็นปีศาจที่สุดของมัน ถึงอย่างไรโอสถล้ำค่าไปจนถึงโอสถศักดิ์สิทธิ์ส่วนใหญ่
ในห้าดินแดนจะเพิ่มพรสวรรค์ของผู้บำเพ็ญฝ่าด่านเคราะห์ขึ้นไปได้ยากมาก อย่างมากสุดก็เพิ่มพลังบำเพ็ญได้เล็กน้อยเท่านั้น
การปรากฏของโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าก็เพื่อเติมสิ่งที่สวรรค์ประทานมาไม่เพียงพอ ทำให้ตัวเองมีแนวโน้มสมบูรณ์มากขึ้น ขอพูดอย่างไม่โม้เลยคือ นี่เรียกได้ว่าพลิกฟ้าปรับแก้ดวงชะตา!
‘ข้าอยากรู้นักว่าโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้ามันพิเศษอย่างไรกันแน่’
ดวงตาเสิ่นเทียนเปล่งประกายแสงสว่างขึ้นเรื่อยๆ ภายใต้การแปลด้วยเนตรมรรคสวรรค์ประทาน ต่อให้เป็นตำราโอสถยุคดึกดำบรรพ์ก็ยังตระหนักรู้ได้ทั้งหมด
ปรากฏการณ์มากมายพลันลอยขึ้นข้างหลังเสิ่นเทียน ส่องสะท้อนอานุภาพน่าสะพรึง
อัคคีอรุณใต้พุ่งทะลักออกมากลายเป็นม่านแสงเปลวเพลิงสายหนึ่ง บดบังฟ้าบังดวงตะวัน
ภายใต้ม่านเพลิงนี้ ตะวันสีทองลุกโชตช่วงสิบดวงลอยขึ้นมา
ไฟแท้สุริยะทุ่มกำลังออกมา ปรากฏการณ์สิบตะวันค้ำฟ้าสั่นสะเทือนฟ้าดิน ทำให้เขตนี้ปกคลุมอยู่ใต้ดวงตะวันร้อนแรง
ยังไม่ใช่แค่นี้ ในกายเสิ่นเทียนยังมีแสงสีแดงสายหนึ่งพุ่งออกมา
เงามายาหงส์สีแดงสยายปีก หมุนม้วนนภาเก้าชั้น สะท้อนออกมาเป็นเงาหงส์พันจั้ง
หลังจากผ่านการต่อสู้ก่อนหน้านี้มา เพลิงอมตะหงส์เทพในกายเสิ่นเทียนขยายใหญ่ขึ้น ไม่อ่อนแอไปกว่าไฟศักดิ์สิทธิ์อีกสองชนิด
เพลิงทั้งสามออกมาพร้อมกัน เผาห้วงอากาศข้างหลังเสิ่นเทียนเป็นความว่างเปล่า สร้างเป็นเขตแดนเพลิงไร้ที่สิ้นสุด
“รวม!”
เสิ่นเทียนตะโกนเสียงต่ำ ใช้มือประสานมุทรา
เวลานี้ เปลวเพลิงร้อนแรงทั้งสามพลันหลั่งทะลักขึ้นมา ประกายไฟสว่างจ้าบดบังท้องนภารอบกาย ทำให้ฟ้าดินเข้าสู่กลางเปลวไฟไร้พรมแดน
อากาศถูกไฟศักดิ์สิทธิ์สามชนิดเผาทำลาย เผยเป็นความว่างเปล่ามืดมิดน่าหวาดหวั่น แต่ในความว่างเปล่ามืดมิดกลับมีเปลวไฟสามชนิดสว่างขึ้นมา ขับไล่ความมืดออกไป ส่องสะท้อนเป็นแสงสว่าง
ภายใต้การควบคุมของเสิ่นเทียน ไฟศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามวนเวียนตัดสลับกันและกัน เริ่มหลอมรวมกันช้าๆ
กลิ่นอายพลังที่น่ากลัวอย่างยิ่งแผ่มาจากเปลวไฟ มากพอจะเผาผู้สูงศักดิ์สวรรค์เป็นเถ้าถ่านได้ แต่สุดท้ายทุกอย่างก็โอนเอนไปทางความเงียบสงบ
เปลวไฟสามสีในความว่างเปล่าแกว่งไกวไม่หยุด มองดูเหมือนธรรมดา แต่กลับแฝงไว้ด้วยกลิ่นอายพลังที่ทำให้ผู้อริยะยังหวาดกลัว
แต่นี่ยังไม่จบ อาศัยแค่เปลวไฟสามสีนี้ยังไม่เพียงพอ การจะหลอมโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าต้องใช้เพลิงเทพสูงสุดที่ปนเปื้อนไอเบิกฟ้า
ไอเบิกฟ้าพุ่งออกมาจากในตัวเสิ่นเทียน วนเวียนอย่างหนาทึบ เผยความขมุกขมัวออกมาอย่างเต็มที่
ตอนนี้ กายเนื้อเสิ่นเทียนกลายเป็นใสแวววาว เหมือนแกะสลักจากหยก แสงเทพสาดส่อง แสงเรืองรองหนาทึบวนเวียนไม่ขาดสาย
ภายใต้การควบคุมด้วยกายกำเนิดฟ้าสวรรค์ประทาน ไอเบิกฟ้าที่บ้าคลั่งถึงที่สุดนั้นกลายเป็นโอนอ่อนยิ่ง ถูกเขาควบคุมอย่างง่ายดาย!
มุทรามือเสิ่นเทียนเปลี่ยนไปอีกครั้ง
ไอเบิกฟ้าบนผิวกายเขาพลันปะทุขึ้น กลายเป็นแสงสีขาวเงินสายหนึ่งพุ่งไปทางเปลวไฟสามสี
บึ้ม!
เกิดเสียงดังสนั่น!
ประกายไฟร้อนแรงพุ่งทะลัก เปลวไฟสามสีกับไอเบิกฟ้าวนเวียนเข้าด้วยกัน เกิดเป็นปรากฏการณ์น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง
รอบนอกเปลวไฟสามสี ไอเบิกฟ้าเหมือนกับรูยักษ์หุบเหวลึก กินเปลวไฟพวกนี้ไปทั้งหมด พลังงานบ้าคลั่งหมุนม้วนไปทั้งฟ้าดิน ทำให้อากาศผืนใหญ่พังทลายลงและฉีกขาด
นี่คือพลังงานที่บ้าคลั่งอย่างยิ่งสองชนิด ปะทะกันและกัน ทำลายท้องนภา!
“กำราบให้ข้า!”
เสิ่นเทียนตะโกนเสียงต่ำ เคลื่อนไอเบิกฟ้าอย่างบ้าคลั่ง ให้เพลิงเทพทั้งสามหลอมรวมกัน ทันใดนั้นไอเบิกฟ้าพลันปกคลุมเปลวไฟสามสี สองสิ่งผสมผสานกัน
สุดท้ายก่อตัวขึ้นเป็นเปลวไฟที่ไม่เคยมีมาก่อน
นั่นยังคงเป็นเปลวเพลิงสามสี เพียงแต่ผิวกายมีไอเบิกฟ้าสีขาวเงินวนเวียนอยู่ชั้นหนึ่ง ดูมหัศจรรย์อย่างมาก
แต่กลิ่นอายเปลวเพลิงที่กำเนิดใหม่กลับน่ากลัวยิ่งกว่าก่อนหน้านี้มาก
ต่อให้เป็นผู้อริยะค่อนข้างอ่อนแอโดนเปลวไฟชนิดนี้ เกรงว่าคงถูกเผากลายเป็นเถ้าถ่านได้
“ในที่สุดก็สำเร็จ”
เสิ่นเทียนเก็บงานและลุกขึ้น พ่นลมหายใจยาว
การหลอมรวมไฟศักดิ์สิทธิ์เบิกฟ้าไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ในนี้ซ่อนความน่าสะพรึงยิ่งเอาไว้ หากไม่ระวังเพียงนิดเดียวก็อาจจะจุดชนวนไฟศักดิ์สิทธิ์หรือไอเบิกฟ้าให้ระเบิดได้ กระจายเป็นอานุภาพน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง
มีเพียงทำให้ทุกอย่างสมดุลกันเท่านั้นถึงจะควบคุมพลังงานนี้ได้
ดีที่เสิ่นเทียนมีศักยภาพแฝงลึกล้ำ ใช้กายกำเนิดฟ้าสวรรค์ประทานควบคุมไอเบิกฟ้าได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งยังใช้คัมภีร์คบเพลิงกำเนิดฟ้าควบคุมพลังไฟศักดิ์สิทธิ์สามชนิด ถึงหลอมรวมไอเบิกฟ้ากับเปลวเพลิงสามสีได้ กำเนิดเป็นไฟศักดิ์สิทธิ์กำเนิดฟ้า
“เจ้าหนูนี่ ไม่อยากเชื่อว่าจะทำได้จริงๆ!”
จักรพรรดิชิงตัวสั่นอย่างรุนแรง ดวงตาจ้องเปลวไฟสามสีกำเนิดฟ้าตรงหน้าเสิ่นเทียนเขม็ง สายตาทำใจเลื่อนผ่านไปไม่ได้แม้แต่ครู่เดียว
จักรพรรดิชิงที่เป็นจักรพรรดิอันดับหนึ่งวิถีโอสถ จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเปลวเพลิงนี้หมายความว่าอย่างไร
เปลวเพลิงนี้มีอานุภาพไร้ขีดจำกัด ละลายโอสถวิญญาณเป็นแก่นสำคัญได้ในพริบตา
ไม่ใช่แค่ลดเวลาการหลอมลงอย่างมาก แต่ยังเผาทำลายเศษกาก ยกระดับความบริสุทธิ์ของโอสถได้ และที่สำคัญที่สุดคือไฟศักดิ์สิทธิ์กำเนิดฟ้าชนิดนี้ สามารถเพิ่มท่วงทำนองวิญญาณเบิกฟ้าของไอแห่งสวรรค์ประทานส่วนหนึ่งกับโอสถวิญญาณได้
และนี่ก็เป็นกุญแจสำคัญในการปรับแก้ดวงชะตา ยกระดับคุณสมบัติ
เปลวเพลิงชนิดนี้ คือสิ่งที่นักหลอมโอสถทุกคนเฝ้าใฝ่หา
ต่อให้จักรพรรดิชิงจะมีความรู้กว้างขวาง แต่หลังได้เห็นเปลวเพลิงสามสีเบิกฟ้าแล้ว นัยน์ตายังเกิดความอิจฉาขึ้นมาอย่างชัดเจน
ถ้าตอนนั้นเขามีไฟศักดิ์สิทธิ์เบิกฟ้าชนิดนี้ ศาสตร์หลอมโอสถจะต้องพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นแน่นอน
ไม่สิ สองขั้น!
สามขั้น!
สี่ขั้น!
ห้าขั้น!
……
ในสุสานจักรพรรดิชิงมีกลิ่นมะนาวมาจากที่ใดกัน
จักรพรรดิชิงมุมปากกระตุกอย่างบ้าคลั่ง
ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าภายในใจ เปรี้ยวมาก!
และตอนนี้ แสงสว่างสีเขียวครามสายหนึ่งลอยขึ้นมาตรงหน้าเสิ่นเทียน
แสงสีครามส่องสว่างกลายเป็นหม้อสำริดโอสถยักษ์ ลอยอยู่กลางอากาศ แผ่กลิ่นอายพลังยิ่งใหญ่
นั่นคือหม้อสำริดจักรพรรดิชิง เป็นหม้อหลอมโอสถมรดกของจักรพรรดิชิง
ถึงมันจะมีระดับเพียงอาวุธเตรียมจักรพรรดิ แต่จักรพรรดิชิงก็ใช้มาตลอด ประโยชน์ในด้านการหลอมโอสถไม่ด้อยไปกว่าอาวุธจักรพรรดิ
หากใช้หม้อนี้หลอมโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า ก็จะเพิ่มโอกาสสำเร็จขึ้นมาก กระทั่งต่อให้เอาเตาหลอมเทพสุริยะมาหลอมโอสถ ผลลัพธ์ก็อาจจะไม่ดีเท่าหม้อจักรพรรดิชิง
อีกทั้งการกระตุ้นอาวุธจักรพรรดิกับกระตุ้นอาวุธเตรียมจักรพรรดิ ยังใช้พลังฤทธิ์เทียบกันไม่ได้เลย
เสิ่นเทียน ไม่อยากโดนอาวุธจักรพรรดิสูบพลังจนหมดอีก ถึงอย่างไรตอนนี้เขาก็อ่อนแรงอยู่แล้ว~
“ขึ้น!”
เสิ่นเทียนโบกมือ ฝาหม้อสำริดจักรพรรดิชิงพุ่งขึ้นฟ้า แสงสีครามขยับวูบวาบ
จากนั้นไฟสามสีเบิกฟ้าหลั่งทะลักออกมา รวมกลางหม้อสำริดจักรพรรดิชิง ไฟลุกโชตช่วงขึ้นมา
ทันใดนั้น หม้อใหญ่สีครามกลายเป็นสีแดงฉานอย่างยิ่ง เหมือนกับแผ่นเหล็กที่ร้อนถึงขีดสุด อุณหภูมิน่ากลัวอย่างยิ่ง
แต่ไม่นานนัก เมื่อกฎเกณฑ์สีเขียวครามพุ่งออกมา หม้อสำริดจักรพรรดิชิงก็ลดอุณหภูมิลงมาด้วยความเร็วสูงสุด กลับมาอยู่ในสภาพเดิม
เมื่อเห็นดังนั้น เสิ่นเทียนตาเป็นประกาย
หม้อสำริดจักรพรรดิชิงเป็นของดี และยังควบคุมอุณหภูมิได้ด้วยตัวเองอีก
ถึงอย่างไรก็เป็นอาวุธเตรียมจักรพรรดิ อีกทั้งจักรพรรดิชิงยังบ่มเพาะมาแสนปี รับการหลอมมาเป็นหมื่นเพลิง แข็งแรงทนทานมาก
หากเป็นหม้อสำริดอื่น เกรงว่าคงไม่อาจรับพลังงานเปลวเพลิงสามสีเบิกฟ้านี้ได้ ต้องถูกพลังงานแก่กล้าระเบิดหม้อแน่นอน
จากนั้นเสิ่นเทียนเร่งรัดใช้แหวนเก็บของ นำโอสถวิญญาณและโอสถศักดิ์สิทธิ์ออกมาทีละต้น
ของพวกนี้เป็นโอสถวิญญาณเสริมที่จักรพรรดิชิงเตรียมไว้หลอมโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าเมื่อแสนปีก่อน
เมื่อโอสถวิญญาณและโอสถศักดิ์สิทธิ์พวกนั้นปรากฏขึ้น แม้แต่ฟ้าดินยังอบอวลไปด้วยพลังวิญญาณรุนแรง ทุกต้นล้วนเป็นโอสถศักดิ์สิทธิ์ที่ล้ำค่าอย่างยิ่ง
ในนั้นมีต้นที่มีระดับไม่ด้อยไปกว่าเมล็ดบัวครามอยู่ องค์หญิงหลิงหลงเห็นแล้วแววตาเต็มไปด้วยความชื่นชมและเลื่อมใส
แต่เสิ่นเทียนทำหน้าไม่สนใจ ใบหน้าเขามีแต่ความเฉยชา
ถึงอย่างไรโอสถวิญญาณ โอสถศักดิ์สิทธิ์พวกนี้ เขายังมีอีกกองใหญ่ในแหวนเก็บของ กินจนเบื่อแล้ว
ที่เรียนศาสตร์หลอมโอสถก็เพื่อ…
อืม ไม่เล่าน้ำแล้ว~
…….
มิหนำซ้ำการหลอมโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า ของพวกนี้ไม่ใช่วัตถุดิบหลัก เป็นเพียงของเสริมเท่านั้น!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน