บทที่ 400 มรดกจักรพรรดิชิง โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า!
“ตอนนี้ข้าขอประกาศจบการทดสอบอย่างเป็นทางการ!”
จักรพรรดิชิงเหมือนกลัวว่าเสิ่นเทียนจะชักกระบี่มาฟันคนต่อ จึงรีบประกาศจบการทดสอบรอบที่สาม
เสิ่นเทียนถึงได้นำกระบี่ฟ้าสังหารที่ชักมาครึ่งหนึ่งเสียบเข้าไปในปอดใหม่อีกครั้งด้วยความรู้สึกอยากสนุกต่ออีก
เฮ้อ เพิ่งชักออกมาเอง เหตุใดถึงจบแล้วล่ะ!
รู้สึกว่ายังสนุกไม่พอเลย~
……
จักรพรรดิชิงมองเสิ่นเทียนกับสือหลิงหลงตรงหน้า แววตาเต็มไปด้วยความปลงอนิจจัง
การเปิดสุสานครั้งนี้กำไรเลือดสาดไม่มีขาดทุนเลย!
แม้ระหว่างนั้นจะ ‘ขรุขระ’ ไปบ้าง แต่สุดท้ายก็ทำให้เขาพึงพอใจมาก
ไม่นึกเลยว่าสุสานจักรพรรดิชิงเงียบเหงามาแสนปี เปิดเป็นครั้งแรกจะเจอกับผู้สืบทอดที่มีพรสวรรค์เลิศล้ำเช่นนี้
ไม่ว่าจะเป็นเสิ่นเทียนหรือสือหลิงหลง ก็สอดคล้องกับมรดกวิถีโอสถมาก
คุณสมบัติขององค์หญิงหลิงหลงก็สุดยอดยิ่งแล้ว รวมกับทักษะการตระหนักรู้เหนือชั้นของนาง เรียนศาสตร์หลอมโอสถสี่สิบเก้าชนิดได้ในสามวันสั้นๆ และยังได้รับการถ่ายทอดแท้จริงจากจักรพรรดิชิงในการทดสอบประลองสุดท้าย
ดังนั้น นี่จึงถือว่าเป็นผู้สืบทอดครึ่งหนึ่งของจักรพรรดิชิงแล้ว
ทางด้านเสิ่นเทียนยิ่งไม่ต้องพูด เจ้าหนูนี่มันปีศาจชัดๆ ต่อให้เป็นจักรพรรดิชิงที่พบเจอโอรสสวรรค์โบราณที่เป็นสุดยอดในห้าดินแดน ก็ไม่เคยเจอใครมีพรสวรรค์น่ากลัวเท่าเสิ่นเทียนมาก่อน
นี่ทำให้มหาจักรพรรดิยังสงสัยในชีวิตเชียว!
“ในเมื่อพวกเจ้าผ่านการทดสอบของข้า ก็จะได้รับมรดกของข้า ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะตั้งใจฝึกฝน เผยแพร่มรดกของข้า สร้างคุณูปการส่วนหนึ่งให้กับทุกสรรพสัตว์ใต้หล้า”
ก่อนจักรพรรดิชิงลอยขึ้นได้ช่วยเหลือทุกสรรพสัตว์ในโลก มีจิตใจโอบอ้อมอารี ต่อให้ลอยขึ้นไปแล้ว เขาก็ไม่อยากให้มรดกของตนเงียบหายไป
“ผู้เยาว์จะเผยแพร่ศาสตร์หลอมโอสถของผู้อาวุโส ช่วยทุกสรรพสัตว์ในโลก ไม่ทำให้ผู้อาวุโสผิดหวัง!”
เสิ่นเทียนกับสือหลิงหลงป้องมือพูดเสียงหนักแน่น
พวกเขากอดหัวใจแห่งความเคารพให้กับจักรพรรดิอันดับหนึ่งด้านวิถีโอสถเมื่อแสนปีก่อนท่านนี้อยู่แล้ว คนที่รักษาเจตนาเดิมในกลียุคได้หาได้ยากมากแล้ว!
การช่วยทุกสรรพสัตว์ในกลียุค หาได้ยากยิ่งกว่า
ผู้อาวุโสจักรพรรดิชิงควรค่าแก่การเคารพ!
“พวกเจ้ามีจิตใจเช่นนี้ ข้าปลื้มใจยิ่งนัก”
จักรพรรดิชิงพยักหน้า ใบหน้ามีเมตตา ก่อนจะเริ่มประกาศรางวัลที่สองคนได้รับ
“สือหลิงหลงได้การประเมินค่อนข้างสูงในสามการทดสอบ ได้รับคัมภีร์จักรพรรดิมรดกครึ่งส่วนของข้า และยังได้รับโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสุดยอดอีกต้นหนึ่ง”
จักรพรรดิชิงสะบัดแขนเสื้อ แสงสีเขียวครามสายหนึ่งพุ่งเข้าไปในกายสือหลิงหลง
ต้องบอกว่าจักรพรรดิชิงค่อนข้างใจกว้างเลย
ในมรดกพวกนี้รวมถึงคัมภีร์สองส่วน แบ่งเป็นคัมภีร์ร้อยว่านจักรพรรดิชิงกับคัมภีร์โอสถลับจักรพรรดิชิง
ในคัมภีร์ร้อยว่านจักรพรรดิชิง ได้บันทึกข้อมูลของว่านแปลกล้ำค่าแทบจะทั้งหมดในห้าดินแดนไว้ เช่นลักษณะ สรรพคุณยา ถิ่นฐานที่เหมาะสม สภาพแวดล้อมและวิธีการเลี้ยงเป็นต้น มีข้อมูลละเอียดถึงที่สุด
จากข้อมูลในบันทึก ไม่ใช่แค่ลงแรงน้อยได้ผลดีในการปลูกโอสถวิญญาณระดับสุดยอดและโอสถล้ำค่าเท่านั้น กระทั่งในแดนลับมากมายยังมีโอกาสหาโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุดได้เพิ่มขึ้นมาก
ส่วนคัมภีร์โอสถลับจักรพรรดิชิง ไม่ใช่แค่บันทึกประสบการณ์การหลอมโอสถทั้งชีวิตของจักรพรรดิชิงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการใช้การหลอมโอสถเป็นการฝึกฝนวิชาลับยกระดับตนเองได้
นี่ไม่ใช่แค่วิชาการหลอมโอสถ แต่ยังเป็นวิชาการฝึกบำเพ็ญ ไม่ด้อยไปกว่าคัมภีร์จักรพรรดิใด!
เมื่อรู้สึกถึงความทรงจำมรดกที่ลอยออกมาจากในความคิดแล้ว สือหลิงหลงใจสั่นสะท้าน พูดด้วยใบหน้ามีความสุข “ขอบคุณผู้อาวุโสจักรพรรดิชิงมาก”
ตนเป็นองค์หญิงของราชวงศ์ดินแดนกลาง สือหลิงหลงจะไม่รู้ได้อย่างไรว่ามรดกสองส่วนนี้หมายถึงอะไร
ที่จักรพรรดิชิงเป็นจักรพรรดิในวิถีโอสถอันดับหนึ่งได้ นี่เกี่ยวกับคัมภีร์จักรพรรดิวิถีโอสถสองเล่มนี้อย่างมาก
ตอนนี้ แค่ได้ครึ่งส่วนบนของมรดกสองชุดนี้มา ก็ทำให้สือหลิงหลงตื่นเต้นมากแล้ว หากให้เวลานางมากพอ หากตระหนักคัมภีร์จักรพรรดิวิถีโอสถครึ่งส่วนสองเล่มนี้ได้ ศาสตร์หลอมโอสถของนางจะทะยานถึงจุดสูงสุด
ใช้คัมภีร์จักรพรรดิวิถีโอสถครึ่งส่วนก็สร้างผู้สูงส่งสูงสุดในวิถีโอสถได้
นี่ก็คือความน่ากลัวของจักรพรรดิอันดับหนึ่งในวิถีโอสถ!
มิหนำซ้ำในรางวัลที่จักรพรรดิชิงมอบให้ยังมีโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสุดยอดต้นหนึ่ง
แสงสายหนึ่งตกลงมาจากกลางนภา มาพร้อมกับพลังชีวิตแก่กล้ายิ่ง เหมือนจะทำให้ทุกสรรพสิ่งคืนชีพได้ พลังวิญญาณพุ่งทะลักออกมา ทำให้ฟ้าดินแห่งนี้อยู่กลางสมุทรพลังวิญญาณ
แสงสว่างลดลงมาช้าๆ ลอยอยู่กลางมือสือหลิงหลง ปรากฏใบหน้าแท้จริงของมันออกมา
นั่นคือเมล็ดบัวเม็ดหนึ่ง สีทองทุกส่วนเหมือนหลอมขึ้นจากทองคำ แผ่พลังชีวิตรุนแรงยิ่ง
พลังชีวิตมหาศาลวนเวียนอยู่ในเมล็ดบัว ร่างเป็นปรากฏการณ์บัวครามหลายดอก น่ามหัศจรรย์อย่างยิ่ง มองทีแรกก็รู้ว่าเป็นโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสุดยอด
“เมล็ดบัวนี้เป็นเมล็ดบัวที่กำเนิดจากบัวครามระดับสิบสอง มีสรรพคุณเท่ากับโอสถศักดิ์สิทธิ์ หากเจ้าตั้งใจปลูกมัน บางทีอาจจะเป็นบัวครามต้นใหม่ได้”
จักรพรรดิชิงเอ่ยเนิบนาบ เล่าประวัติของเมล็ดบัวสีทองนี้
สือหลิงหลงพยักหน้า เก็บเมล็ดบัวไปอย่างระมัดระวัง
โอสถศักดิ์สิทธิ์สุดยอดล้ำค่าอย่างยิ่ง กระทั่งไม่ด้อยกว่าอาวุธอริยะ หากตกไปอยู่โลกภายนอกถึงกับทำให้ห้าดินแดนสั่นสะเทือน ต่อให้เป็นผู้อริยะก็ยังใจสั่นไหว
เมล็ดบัวครามมาอยู่ในมือ พลังวิญญาณที่เอ่อล้นอย่างยิ่งพลันไหลเข้าไปในกาย ทำให้แสงเทพของนางขยายออก เผยความมหัศจรรย์ออกมาทั้งหมด
เหมือนว่าขอแค่กินเมล็ดบัวนี้ก็จะกลายเป็นเซียนโดยพลัน
แต่สือหลิงหลงรู้ว่ามีเพียงหลอมมันเป็นยาลูกกลอนเท่านั้นถึงจะกระตุ้นประสิทธิภาพของมันได้ถึงขีดสุด
ดังนั้นสือหลิงหลงจึงกดอารมณ์ชั่ววูบในใจเอาไว้ เก็บเมล็ดบัวกลับไป
เมื่อเห็นดังนั้น จักรพรรดิชิงก็พยักหน้าเล็กน้อย
หากยังต้านความเย้ายวนของโอสถศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ แล้วจะก้าวไปสู่สุดยอดวิถีโอสถได้อย่างไร
จากนั้น จักรพรรดิชิงก็หันมามองเสิ่นเทียน เห็นเสิ่นเทียนมองเมล็ดบัวนั้นอย่างเฉยชา นัยน์ตาไม่มีความสนใจหรือละโมบใดๆ เลย
นี่ทำให้จักรพรรดิชิงแอบประเมินเสิ่นเทียนสูงขึ้นไม่น้อย
โอสถศักดิ์สิทธิ์ที่แม้แต่ผู้อริยะยังใจสั่นมาวางอยู่ตรงหน้า กลับไม่สนใจเลย แค่จิตใจตรงนี้ก็ทำให้คนแสดงอารมณ์ทางสีหน้าแล้ว
จักรพรรดิชิงไม่รู้ว่าเสิ่นเทียนมีโอสถศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้อยู่หนึ่งเข่งในกระเป๋า
อืม ใช้คำว่าหนึ่งเข่งเหมือนจะไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไร
น่าจะใช้คำว่าเป็นเข่งๆ ปกติเอาออกมาแทะเป็นผลไม้หลังมื้ออาหาร ถ้าไม่ใช่เพราะรู้สึกว่ากินเยอะไปจนเลี่ยน เสิ่นเทียนคงไม่รีบร้อนต้องการศาสตร์หลอมโอสถเช่นนี้
ถึงอย่างไรก็อยากเปลี่ยนรสชาติบ้าง วัตถุดิบอาหารเข้าคู่กันถึงจะได้รสชาติที่ดีกว่า
จะไปหวังให้เสิ่นเทียนทำหน้าน้ำลายหกกับเมล็ดบัวครามนี่รึ ไม่มีหวังหรอก
ถึงอย่างไรเจ้าจะน้ำลายไหลกับมันฝรั่งที่มีอยู่ทุกที่ในแปลงผักบ้านตัวเองหรือไม่ล่ะ
มันก็แค่อาหารพื้นๆ เท่านั้น!
…….
แน่นอน เสิ่นเทียนร่ำรวยเพียงใด จักรพรรดิชิงไม่รู้
เขาสูดลมหายใจเข้าลึกทีหนึ่ง ก่อนพูดกับเสิ่นเทียนเนิบนาบ
“สหายน้อยมีพรสวรรค์ที่สุดแห่งยุค เหนือยิ่งกว่าเจ้าหนูหลิงหลง ในกาลเวลาเนิ่นนานมานี้ คนที่มีพรสวรรค์อย่างเจ้าใช้มือเดียวยังนับนิ้วได้ แน่นอน ก็ยังด้อยกว่าตอนข้ายังหนุ่มเล็กน้อย”
ใบหน้าแก่ชราของจักรพรรดิชิงแดงขึ้นมา ไม่นานก็ปกปิดเอาไว้
“สหายน้อยได้การประเมินที่สูงยิ่งในการทดสอบทั้งสาม ได้รับมรดกทั้งหมดและสมบัติของข้า”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ จักรพรรดิชิงยังอดตกใจเองมิได้
แม้จะยังปากแข็ง แต่ในใจยอมรับเสิ่นเทียนไปนานแล้ว ไม่ว่าจะคุณสมบัติกายหรือพรสวรรค์ หรือว่ากำลังรบ เสิ่นเทียนเหนือกว่าที่จักรพรรดิชิงจินตนาการไว้
ดังนั้นจักรพรรดิชิงจึงตัดสินใจว่าจะเทกระเป๋ามอบมรดกทั้งหมดให้กับเสิ่นเทียน
เขารู้สึกว่าเสิ่นเทียนมีอนาคตไม่อาจจำกัดได้ บางทีอาจจะเดินไปบนเส้นทางที่ไม่เคยมีใครไปถึงมาก่อน!
หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ การมอบมรดกทั้งหมดให้กับเสิ่นเทียนก็เป็นเรื่องดี บางทีหมื่นปีจากนี้ ห้าดินแดนและโลกเซียนอาจจะยังมีศาสตร์หลอมโอสถของเขาสืบต่อไป!
เมื่อคิดได้ดังนั้น จักรพรรดิชิงยกมือใหญ่ขึ้น พลันมีแสงสีเขียวสายหนึ่งจมเข้าไปในกายเสิ่นเทียน
นั่นเป็นคัมภีร์จักรพรรดิวิถีโอสถของจักรพรรดิชิงเหมือนกัน แต่มรดกที่เสิ่นเทียนได้รับคือคัมภีร์ร้อยว่านจักรพรรดิชิงกับคัมภีร์โอสถลับจักรพรรดิชิงฉบับสมบูรณ์
เทียบกับมรดกที่องค์หญิงหลิงหลงได้รับแล้ว เสิ่นเทียนได้ของสมบูรณ์กว่า ล้ำค่ายิ่งกว่า แม้จะมีเพิ่มมาครึ่งส่วนล่าง แต่มูลค่าเทียบกับครึ่งส่วนบนที่ไม่สมบูรณ์แล้วคนละเรื่องกันเลย
ถึงอย่างไรคัมภีร์จักรพรรดิสมบูรณ์กับคัมภีร์จักรพรรดิไม่สมบูรณ์ก็ต่างกันอย่างยิ่ง กระทั่งมากกว่าสิบเท่า
หลังจากสัมผัสได้ถึงความทรงจำที่แล่นมาในความคิดแล้ว ดวงตาเสิ่นเทียนก็เปล่งแสงเทพผลุบๆ โผล่ๆ
ชั่วครู่เดียว เขาก็รู้ความหมายแฝงของคัมภีร์จักรพรรดิวิถีโอสถสองเล่มนี้
คัมภีร์จักรพรรดิวิถีโอสถสองเล่มนี้เกื้อหนุนกัน อย่างแรกเป็นโอสถล้ำค่าระดับสูงสุดเหลือคณานับ แต่อย่างหลังจะนำโอสถล้ำค่าพวกนี้ควบคู่กับการหลอมโอสถ ทำให้แสดงสรรพคุณยาออกมาได้ถึงระดับถึงอกถึงใจ
หากไปอยู่ในสำนัก ใช้เวลาไม่นานก็จะเพิ่มศักยภาพของแดนศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างมาก!
ต้องบอกว่าเขาได้ใช้ประโยชน์ของพวกนี้อย่างแท้จริง
มีคัมภีร์จักรพรรดิวิถีโอสถนี้ เสิ่นเทียนจะเสริมความแกร่งให้แปลงกุยช่าย…ให้แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ได้ดียิ่งขึ้น
ลองคิดดูสิ หากแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ได้คัมภีร์จักรพรรดิวิถีโอสถนี้ไป ก็จะปลูกโอสถศักดิ์สิทธิ์ได้ พัฒนาห่วงโซ่อุตสาหกรรมการหลอมโอสถได้
ถึงตอนนั้นจะมียาลูกกลอนมาให้ใช้ไม่ขาดสาย เพิ่มศักยภาพของศิษย์ในสำนักได้อย่างมาก
ศิษย์มีศักยภาพแกร่งขึ้น ก็จะออกไปหาทรัพยากรข้างนอกได้ มอบให้สำนักแลกเป็นยาลูกกลอน ใช้เป็นการตอบแทนแดนศักดิ์สิทธิ์
วนเวียนไปเป็นวัฏจักร เกิดเป็นห่วงโซ่วิถีแห่งการอยู่ร่วมกันอันสมบูรณ์
จะต้องเพิ่มศักยภาพให้แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แกร่งขึ้น เหนือกว่าแดนศักดิ์สิทธิ์อื่น!
จากนั้นเสิ่นเทียนจะใช้โอกาสนี้ เริ่มแผนการเก็บเกี่ยวกุยช่ายของเขา เพราะอย่างไรเก็บกุยช่ายตอนอ้วนสมบูรณ์ก็ดีกว่า
….
“ขอบคุณผู้อาวุโสจักรพรรดิชิงมาก!”
เสิ่นเทียนป้องมือ มรดกจักรพรรดิชิงเป็นของดีสำหรับเขาจริงๆ
“มรดกของข้าไม่ได้มีแค่นี้เลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน