บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 400

บทที่ 400 มรดกจักรพรรดิชิง โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า!

“ตอนนี้ข้าขอประกาศจบการทดสอบอย่างเป็นทางการ!”

จักรพรรดิชิงเหมือนกลัวว่าเสิ่นเทียนจะชักกระบี่มาฟันคนต่อ จึงรีบประกาศจบการทดสอบรอบที่สาม

เสิ่นเทียนถึงได้นำกระบี่ฟ้าสังหารที่ชักมาครึ่งหนึ่งเสียบเข้าไปในปอดใหม่อีกครั้งด้วยความรู้สึกอยากสนุกต่ออีก

เฮ้อ เพิ่งชักออกมาเอง เหตุใดถึงจบแล้วล่ะ!

รู้สึกว่ายังสนุกไม่พอเลย~

……

จักรพรรดิชิงมองเสิ่นเทียนกับสือหลิงหลงตรงหน้า แววตาเต็มไปด้วยความปลงอนิจจัง

การเปิดสุสานครั้งนี้กำไรเลือดสาดไม่มีขาดทุนเลย!

แม้ระหว่างนั้นจะ ‘ขรุขระ’ ไปบ้าง แต่สุดท้ายก็ทำให้เขาพึงพอใจมาก

ไม่นึกเลยว่าสุสานจักรพรรดิชิงเงียบเหงามาแสนปี เปิดเป็นครั้งแรกจะเจอกับผู้สืบทอดที่มีพรสวรรค์เลิศล้ำเช่นนี้

ไม่ว่าจะเป็นเสิ่นเทียนหรือสือหลิงหลง ก็สอดคล้องกับมรดกวิถีโอสถมาก

คุณสมบัติขององค์หญิงหลิงหลงก็สุดยอดยิ่งแล้ว รวมกับทักษะการตระหนักรู้เหนือชั้นของนาง เรียนศาสตร์หลอมโอสถสี่สิบเก้าชนิดได้ในสามวันสั้นๆ และยังได้รับการถ่ายทอดแท้จริงจากจักรพรรดิชิงในการทดสอบประลองสุดท้าย

ดังนั้น นี่จึงถือว่าเป็นผู้สืบทอดครึ่งหนึ่งของจักรพรรดิชิงแล้ว

ทางด้านเสิ่นเทียนยิ่งไม่ต้องพูด เจ้าหนูนี่มันปีศาจชัดๆ ต่อให้เป็นจักรพรรดิชิงที่พบเจอโอรสสวรรค์โบราณที่เป็นสุดยอดในห้าดินแดน ก็ไม่เคยเจอใครมีพรสวรรค์น่ากลัวเท่าเสิ่นเทียนมาก่อน

นี่ทำให้มหาจักรพรรดิยังสงสัยในชีวิตเชียว!

“ในเมื่อพวกเจ้าผ่านการทดสอบของข้า ก็จะได้รับมรดกของข้า ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะตั้งใจฝึกฝน เผยแพร่มรดกของข้า สร้างคุณูปการส่วนหนึ่งให้กับทุกสรรพสัตว์ใต้หล้า”

ก่อนจักรพรรดิชิงลอยขึ้นได้ช่วยเหลือทุกสรรพสัตว์ในโลก มีจิตใจโอบอ้อมอารี ต่อให้ลอยขึ้นไปแล้ว เขาก็ไม่อยากให้มรดกของตนเงียบหายไป

“ผู้เยาว์จะเผยแพร่ศาสตร์หลอมโอสถของผู้อาวุโส ช่วยทุกสรรพสัตว์ในโลก ไม่ทำให้ผู้อาวุโสผิดหวัง!”

เสิ่นเทียนกับสือหลิงหลงป้องมือพูดเสียงหนักแน่น

พวกเขากอดหัวใจแห่งความเคารพให้กับจักรพรรดิอันดับหนึ่งด้านวิถีโอสถเมื่อแสนปีก่อนท่านนี้อยู่แล้ว คนที่รักษาเจตนาเดิมในกลียุคได้หาได้ยากมากแล้ว!

การช่วยทุกสรรพสัตว์ในกลียุค หาได้ยากยิ่งกว่า

ผู้อาวุโสจักรพรรดิชิงควรค่าแก่การเคารพ!

“พวกเจ้ามีจิตใจเช่นนี้ ข้าปลื้มใจยิ่งนัก”

จักรพรรดิชิงพยักหน้า ใบหน้ามีเมตตา ก่อนจะเริ่มประกาศรางวัลที่สองคนได้รับ

“สือหลิงหลงได้การประเมินค่อนข้างสูงในสามการทดสอบ ได้รับคัมภีร์จักรพรรดิมรดกครึ่งส่วนของข้า และยังได้รับโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสุดยอดอีกต้นหนึ่ง”

จักรพรรดิชิงสะบัดแขนเสื้อ แสงสีเขียวครามสายหนึ่งพุ่งเข้าไปในกายสือหลิงหลง

ต้องบอกว่าจักรพรรดิชิงค่อนข้างใจกว้างเลย

ในมรดกพวกนี้รวมถึงคัมภีร์สองส่วน แบ่งเป็นคัมภีร์ร้อยว่านจักรพรรดิชิงกับคัมภีร์โอสถลับจักรพรรดิชิง

ในคัมภีร์ร้อยว่านจักรพรรดิชิง ได้บันทึกข้อมูลของว่านแปลกล้ำค่าแทบจะทั้งหมดในห้าดินแดนไว้ เช่นลักษณะ สรรพคุณยา ถิ่นฐานที่เหมาะสม สภาพแวดล้อมและวิธีการเลี้ยงเป็นต้น มีข้อมูลละเอียดถึงที่สุด

จากข้อมูลในบันทึก ไม่ใช่แค่ลงแรงน้อยได้ผลดีในการปลูกโอสถวิญญาณระดับสุดยอดและโอสถล้ำค่าเท่านั้น กระทั่งในแดนลับมากมายยังมีโอกาสหาโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุดได้เพิ่มขึ้นมาก

ส่วนคัมภีร์โอสถลับจักรพรรดิชิง ไม่ใช่แค่บันทึกประสบการณ์การหลอมโอสถทั้งชีวิตของจักรพรรดิชิงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการใช้การหลอมโอสถเป็นการฝึกฝนวิชาลับยกระดับตนเองได้

นี่ไม่ใช่แค่วิชาการหลอมโอสถ แต่ยังเป็นวิชาการฝึกบำเพ็ญ ไม่ด้อยไปกว่าคัมภีร์จักรพรรดิใด!

เมื่อรู้สึกถึงความทรงจำมรดกที่ลอยออกมาจากในความคิดแล้ว สือหลิงหลงใจสั่นสะท้าน พูดด้วยใบหน้ามีความสุข “ขอบคุณผู้อาวุโสจักรพรรดิชิงมาก”

ตนเป็นองค์หญิงของราชวงศ์ดินแดนกลาง สือหลิงหลงจะไม่รู้ได้อย่างไรว่ามรดกสองส่วนนี้หมายถึงอะไร

ที่จักรพรรดิชิงเป็นจักรพรรดิในวิถีโอสถอันดับหนึ่งได้ นี่เกี่ยวกับคัมภีร์จักรพรรดิวิถีโอสถสองเล่มนี้อย่างมาก

ตอนนี้ แค่ได้ครึ่งส่วนบนของมรดกสองชุดนี้มา ก็ทำให้สือหลิงหลงตื่นเต้นมากแล้ว หากให้เวลานางมากพอ หากตระหนักคัมภีร์จักรพรรดิวิถีโอสถครึ่งส่วนสองเล่มนี้ได้ ศาสตร์หลอมโอสถของนางจะทะยานถึงจุดสูงสุด

ใช้คัมภีร์จักรพรรดิวิถีโอสถครึ่งส่วนก็สร้างผู้สูงส่งสูงสุดในวิถีโอสถได้

นี่ก็คือความน่ากลัวของจักรพรรดิอันดับหนึ่งในวิถีโอสถ!

มิหนำซ้ำในรางวัลที่จักรพรรดิชิงมอบให้ยังมีโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสุดยอดต้นหนึ่ง

แสงสายหนึ่งตกลงมาจากกลางนภา มาพร้อมกับพลังชีวิตแก่กล้ายิ่ง เหมือนจะทำให้ทุกสรรพสิ่งคืนชีพได้ พลังวิญญาณพุ่งทะลักออกมา ทำให้ฟ้าดินแห่งนี้อยู่กลางสมุทรพลังวิญญาณ

แสงสว่างลดลงมาช้าๆ ลอยอยู่กลางมือสือหลิงหลง ปรากฏใบหน้าแท้จริงของมันออกมา

นั่นคือเมล็ดบัวเม็ดหนึ่ง สีทองทุกส่วนเหมือนหลอมขึ้นจากทองคำ แผ่พลังชีวิตรุนแรงยิ่ง

พลังชีวิตมหาศาลวนเวียนอยู่ในเมล็ดบัว ร่างเป็นปรากฏการณ์บัวครามหลายดอก น่ามหัศจรรย์อย่างยิ่ง มองทีแรกก็รู้ว่าเป็นโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสุดยอด

“เมล็ดบัวนี้เป็นเมล็ดบัวที่กำเนิดจากบัวครามระดับสิบสอง มีสรรพคุณเท่ากับโอสถศักดิ์สิทธิ์ หากเจ้าตั้งใจปลูกมัน บางทีอาจจะเป็นบัวครามต้นใหม่ได้”

จักรพรรดิชิงเอ่ยเนิบนาบ เล่าประวัติของเมล็ดบัวสีทองนี้

สือหลิงหลงพยักหน้า เก็บเมล็ดบัวไปอย่างระมัดระวัง

โอสถศักดิ์สิทธิ์สุดยอดล้ำค่าอย่างยิ่ง กระทั่งไม่ด้อยกว่าอาวุธอริยะ หากตกไปอยู่โลกภายนอกถึงกับทำให้ห้าดินแดนสั่นสะเทือน ต่อให้เป็นผู้อริยะก็ยังใจสั่นไหว

เมล็ดบัวครามมาอยู่ในมือ พลังวิญญาณที่เอ่อล้นอย่างยิ่งพลันไหลเข้าไปในกาย ทำให้แสงเทพของนางขยายออก เผยความมหัศจรรย์ออกมาทั้งหมด

เหมือนว่าขอแค่กินเมล็ดบัวนี้ก็จะกลายเป็นเซียนโดยพลัน

แต่สือหลิงหลงรู้ว่ามีเพียงหลอมมันเป็นยาลูกกลอนเท่านั้นถึงจะกระตุ้นประสิทธิภาพของมันได้ถึงขีดสุด

ดังนั้นสือหลิงหลงจึงกดอารมณ์ชั่ววูบในใจเอาไว้ เก็บเมล็ดบัวกลับไป

เมื่อเห็นดังนั้น จักรพรรดิชิงก็พยักหน้าเล็กน้อย

หากยังต้านความเย้ายวนของโอสถศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ แล้วจะก้าวไปสู่สุดยอดวิถีโอสถได้อย่างไร

จากนั้น จักรพรรดิชิงก็หันมามองเสิ่นเทียน เห็นเสิ่นเทียนมองเมล็ดบัวนั้นอย่างเฉยชา นัยน์ตาไม่มีความสนใจหรือละโมบใดๆ เลย

นี่ทำให้จักรพรรดิชิงแอบประเมินเสิ่นเทียนสูงขึ้นไม่น้อย

โอสถศักดิ์สิทธิ์ที่แม้แต่ผู้อริยะยังใจสั่นมาวางอยู่ตรงหน้า กลับไม่สนใจเลย แค่จิตใจตรงนี้ก็ทำให้คนแสดงอารมณ์ทางสีหน้าแล้ว

จักรพรรดิชิงไม่รู้ว่าเสิ่นเทียนมีโอสถศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้อยู่หนึ่งเข่งในกระเป๋า

อืม ใช้คำว่าหนึ่งเข่งเหมือนจะไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไร

น่าจะใช้คำว่าเป็นเข่งๆ ปกติเอาออกมาแทะเป็นผลไม้หลังมื้ออาหาร ถ้าไม่ใช่เพราะรู้สึกว่ากินเยอะไปจนเลี่ยน เสิ่นเทียนคงไม่รีบร้อนต้องการศาสตร์หลอมโอสถเช่นนี้

ถึงอย่างไรก็อยากเปลี่ยนรสชาติบ้าง วัตถุดิบอาหารเข้าคู่กันถึงจะได้รสชาติที่ดีกว่า

จะไปหวังให้เสิ่นเทียนทำหน้าน้ำลายหกกับเมล็ดบัวครามนี่รึ ไม่มีหวังหรอก

ถึงอย่างไรเจ้าจะน้ำลายไหลกับมันฝรั่งที่มีอยู่ทุกที่ในแปลงผักบ้านตัวเองหรือไม่ล่ะ

มันก็แค่อาหารพื้นๆ เท่านั้น!

…….

แน่นอน เสิ่นเทียนร่ำรวยเพียงใด จักรพรรดิชิงไม่รู้

เขาสูดลมหายใจเข้าลึกทีหนึ่ง ก่อนพูดกับเสิ่นเทียนเนิบนาบ

“สหายน้อยมีพรสวรรค์ที่สุดแห่งยุค เหนือยิ่งกว่าเจ้าหนูหลิงหลง ในกาลเวลาเนิ่นนานมานี้ คนที่มีพรสวรรค์อย่างเจ้าใช้มือเดียวยังนับนิ้วได้ แน่นอน ก็ยังด้อยกว่าตอนข้ายังหนุ่มเล็กน้อย”

ใบหน้าแก่ชราของจักรพรรดิชิงแดงขึ้นมา ไม่นานก็ปกปิดเอาไว้

“สหายน้อยได้การประเมินที่สูงยิ่งในการทดสอบทั้งสาม ได้รับมรดกทั้งหมดและสมบัติของข้า”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ จักรพรรดิชิงยังอดตกใจเองมิได้

แม้จะยังปากแข็ง แต่ในใจยอมรับเสิ่นเทียนไปนานแล้ว ไม่ว่าจะคุณสมบัติกายหรือพรสวรรค์ หรือว่ากำลังรบ เสิ่นเทียนเหนือกว่าที่จักรพรรดิชิงจินตนาการไว้

ดังนั้นจักรพรรดิชิงจึงตัดสินใจว่าจะเทกระเป๋ามอบมรดกทั้งหมดให้กับเสิ่นเทียน

เขารู้สึกว่าเสิ่นเทียนมีอนาคตไม่อาจจำกัดได้ บางทีอาจจะเดินไปบนเส้นทางที่ไม่เคยมีใครไปถึงมาก่อน!

หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ การมอบมรดกทั้งหมดให้กับเสิ่นเทียนก็เป็นเรื่องดี บางทีหมื่นปีจากนี้ ห้าดินแดนและโลกเซียนอาจจะยังมีศาสตร์หลอมโอสถของเขาสืบต่อไป!

เมื่อคิดได้ดังนั้น จักรพรรดิชิงยกมือใหญ่ขึ้น พลันมีแสงสีเขียวสายหนึ่งจมเข้าไปในกายเสิ่นเทียน

นั่นเป็นคัมภีร์จักรพรรดิวิถีโอสถของจักรพรรดิชิงเหมือนกัน แต่มรดกที่เสิ่นเทียนได้รับคือคัมภีร์ร้อยว่านจักรพรรดิชิงกับคัมภีร์โอสถลับจักรพรรดิชิงฉบับสมบูรณ์

เทียบกับมรดกที่องค์หญิงหลิงหลงได้รับแล้ว เสิ่นเทียนได้ของสมบูรณ์กว่า ล้ำค่ายิ่งกว่า แม้จะมีเพิ่มมาครึ่งส่วนล่าง แต่มูลค่าเทียบกับครึ่งส่วนบนที่ไม่สมบูรณ์แล้วคนละเรื่องกันเลย

ถึงอย่างไรคัมภีร์จักรพรรดิสมบูรณ์กับคัมภีร์จักรพรรดิไม่สมบูรณ์ก็ต่างกันอย่างยิ่ง กระทั่งมากกว่าสิบเท่า

หลังจากสัมผัสได้ถึงความทรงจำที่แล่นมาในความคิดแล้ว ดวงตาเสิ่นเทียนก็เปล่งแสงเทพผลุบๆ โผล่ๆ

ชั่วครู่เดียว เขาก็รู้ความหมายแฝงของคัมภีร์จักรพรรดิวิถีโอสถสองเล่มนี้

คัมภีร์จักรพรรดิวิถีโอสถสองเล่มนี้เกื้อหนุนกัน อย่างแรกเป็นโอสถล้ำค่าระดับสูงสุดเหลือคณานับ แต่อย่างหลังจะนำโอสถล้ำค่าพวกนี้ควบคู่กับการหลอมโอสถ ทำให้แสดงสรรพคุณยาออกมาได้ถึงระดับถึงอกถึงใจ

หากไปอยู่ในสำนัก ใช้เวลาไม่นานก็จะเพิ่มศักยภาพของแดนศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างมาก!

ต้องบอกว่าเขาได้ใช้ประโยชน์ของพวกนี้อย่างแท้จริง

มีคัมภีร์จักรพรรดิวิถีโอสถนี้ เสิ่นเทียนจะเสริมความแกร่งให้แปลงกุยช่าย…ให้แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ได้ดียิ่งขึ้น

ลองคิดดูสิ หากแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ได้คัมภีร์จักรพรรดิวิถีโอสถนี้ไป ก็จะปลูกโอสถศักดิ์สิทธิ์ได้ พัฒนาห่วงโซ่อุตสาหกรรมการหลอมโอสถได้

ถึงตอนนั้นจะมียาลูกกลอนมาให้ใช้ไม่ขาดสาย เพิ่มศักยภาพของศิษย์ในสำนักได้อย่างมาก

ศิษย์มีศักยภาพแกร่งขึ้น ก็จะออกไปหาทรัพยากรข้างนอกได้ มอบให้สำนักแลกเป็นยาลูกกลอน ใช้เป็นการตอบแทนแดนศักดิ์สิทธิ์

วนเวียนไปเป็นวัฏจักร เกิดเป็นห่วงโซ่วิถีแห่งการอยู่ร่วมกันอันสมบูรณ์

จะต้องเพิ่มศักยภาพให้แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แกร่งขึ้น เหนือกว่าแดนศักดิ์สิทธิ์อื่น!

จากนั้นเสิ่นเทียนจะใช้โอกาสนี้ เริ่มแผนการเก็บเกี่ยวกุยช่ายของเขา เพราะอย่างไรเก็บกุยช่ายตอนอ้วนสมบูรณ์ก็ดีกว่า

….

“ขอบคุณผู้อาวุโสจักรพรรดิชิงมาก!”

เสิ่นเทียนป้องมือ มรดกจักรพรรดิชิงเป็นของดีสำหรับเขาจริงๆ

“มรดกของข้าไม่ได้มีแค่นี้เลย”

“ผู้อาวุโสว่ามาได้เลย ผู้เยาว์จะช่วยอย่างสุดความสามารถ”

เอาของคนอื่นมาเยอะขนาดนี้แล้ว เสิ่นเทียนจึงเกรงใจที่จะปฏิเสธ อีกอย่างจักรพรรดิชิงเป็นคนใจดีมีเมตตามาตลอด มีใจผูกกับฟ้าดิน

ดูท่าคงจะไม่ขออะไรที่อันตราย ให้ข้าไปเสี่ยงตายอะไร

“ข้ายังมีโอสถจักรพรรดิอีกต้นหนึ่ง”

จักรพรรดิชิงเอ่ยจบก็หยิบบัวครามระดับสิบสองต้นหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อ

บัวครามดอกนั้นคล้ายกับปรากฏการณ์ก่อนหน้านี้ของจักรพรรดิชิง แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายพลังมหาศาล แสงเรืองรองไร้ที่สิ้นสุดวนเวียนบนบัวคราม เหมือนกับสมบัติสุดยอดสูงสุดที่กำเนิดขึ้นจากอากาศธาตุสลัว

บัวครามระดับสิบสองปรากฏ ทั้งสุสานจักรพรรดิเกิดพลังชีวิตแก่กล้ากระเพื่อมขึ้น ความมหัศจรรย์เอ่อล้น ซึมซาบถึงใจคน

แสงสีครามพุ่งขึ้นฟ้า บดบังท้องนภาฟ้าดิน ทำให้ฟ้าดินจมอยู่ภายใต้แสงสว่างไร้ที่สิ้นสุด

สมกับเป็นโอสถจักรพรรดิ แค่ปรากฏการณ์ที่โผล่มาก็น่าตกใจอย่างยิ่งแล้ว!

ต่อให้เป็นเสิ่นเทียน ตอนนี้ก็ยังใจลอยไปเล็กน้อย

ถึงอย่างไรเขาก็ไม่มีโอสถระดับนี้อยู่จริงๆ

อืม อยากกิน

……

จักรพรรดิชิงมองบัวครามระดับสิบสองในมือ พลางอดถอนหายใจมิได้

“ตอนแรกข้าอยากจะใช้บัวครามระดับสิบสองนี้หลอมโอสถสูงสุด…โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า! แต่ก็จนปัญญา การหลอมโอสถเสริมสวรรค์ยากยิ่ง ต้องใช้เพลิงเทพสูงสุดที่ปนเปื้อนไอเบิกฟ้าถึงจะหลอมขึ้นมาได้

ตอนแรกข้าเดินทางไปเขตทะเลเบิกฟ้าอย่างไม่เสียดาย อยากจะลองหลอมรวมไอเบิกฟ้าดู แต่สุดท้ายก็พลาด ข้าถึงได้เสียใจมาทั้งชีวิต เจ้าหนูมีคุณสมบัติกายแปลกมาก หลอมรวมได้กระทั่งไอเบิกฟ้า ข้าจึงหวังว่าสักวัน เจ้าจะหลอมโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าได้”

เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ จักรพรรดิชิงถอนหายใจหนักขึ้นเรื่อยๆ

ไอเบิกฟ้าต้องห้าม จะไปควบคุมมันได้ง่ายๆ ได้อย่างไร

ตอนแรกจักรพรรดิชิงใช้พลังบำเพ็ญสูงสุดหล่อหลอม ก็เกือบจะโดนไอเบิกฟ้าแว้งกัดและบาดเจ็บสาหัส

หลายหมื่นปีมานี้ ยากจะปล่อยวางได้มาตลอด

แต่การปรากฏตัวของเสิ่นเทียน แม้จะทำให้จักรพรรดิชิงได้เห็นความหวังเสี้ยวหนึ่ง แต่ก็ไม่กล้าหวังมากเกินไป

การรับไอเบิกฟ้าและหลอมรวมไอเบิกฟ้ามันคนละเรื่องกันเลย ความต่างในนั้น ไม่ต่างอะไรกับเมฆและดินเลน

จักรพรรดิชิงหวังแค่ว่าสักวันเสิ่นเทียนจะหลอมรวมไอเบิกฟ้าได้ หลอมโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าออกมาได้

ถึงอย่างไรคุณสมบัติกายของเสิ่นเทียนก็บ้ามาก บางทีอาจจะสร้างปาฏิหาริย์ได้

นี่จะถือว่าได้ทำปณิธานก่อนตายในชีวิตของเขาได้สำเร็จ

ทว่าเมื่อเสิ่นเทียนได้ฟังคำพูดของจักรพรรดิชิงแล้วพลันมีสีหน้าแปลกๆ

เรื่องง่ายแค่นี้ ต้องรอภายภาคหน้าด้วยรึ

“ผู้อาวุโสจักรพรรดิชิง ตอนนี้ผู้เยาว์ก็มั่นใจว่าจะหลอมโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าได้แล้ว”

เสิ่นเทียนมั่นใจมาก แต่จักรพรรดิชิงกลับทำหน้าสงสัย

“เจ้าหนูอย่าโอ้อวดความสามารถ การหลอมรวมไอเบิกฟ้าไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ ถึงเจ้าจะมีคุณสมบัติกายพิเศษ เก็บไอเบิกฟ้าได้ แต่อย่าไปหลอมรวมมันง่ายๆ เชียว ไม่เช่นนั้น หากถูกไอเบิกฟ้าแว้งกัด บางทีแม้แต่กายเนื้อนี้ของเจ้าก็อาจจะเสียหายได้!”

จักรพรรดิชิงยังเอ่ยไม่จบ เสิ่นเทียนก็ยื่นมือออกมาช้าๆ แสงสีขาวเงินสายหนึ่งวนเวียนออกมา

แสงสว่างขมุกขมัว ดูเหมือนสงบนิ่ง แต่กลับแผ่กลิ่นอายที่ทำให้คนตกใจและเปล่าเปลี่ยวได้

แสงสว่างนั้นคือไอเบิกฟ้าชัดๆ

“เป็นไปได้อย่างไร…เจ้าควบคุมไอเบิกฟ้าได้อย่างไร!”

ขนาดจักรพรรดิชิงที่มีจิตใจมั่นคงยิ่ง เมื่อเห็นไอเบิกฟ้าแล้วยังอดตกตะลึงมิได้

ช่วยไม่ได้ ก็นี่มันน่าตกใจมากจริงๆ

…..

ตั้งแต่โบราณกาลมา ยังไม่เคยได้ยินว่ามีใครควบคุมไอเบิกฟ้าได้ แม้แต่ในคัมภีร์โบราณยังไม่เคยมีบันทึกเกี่ยวกับมัน

จักรพรรดิชิงเองก็คาดเดาจากโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าได้ว่า อาจจะเป็นยุคดึกดำบรรพ์ที่ยาวนานยิ่งกว่าที่จะมีการคงอยู่ที่แข็งแกร่งหลอมรวมไอเบิกฟ้าได้สำเร็จ

หากไม่เช่นนั้น ก็คงไม่มีตำราโอสถเช่นนี้หลงเหลือมาแน่นอน

แต่นี่เป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น ไม่มีหลักฐานใดๆ

แต่ตอนนี้ เสิ่นเทียนควบคุมไอเบิกฟ้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ซึมออกมาข้างนอกแม้แต่น้อย

นี่ทำให้จักรพรรดิชิงตื่นตกใจอย่างยิ่ง ขณะเดียวกันยังเกิดความหวังขึ้นอย่างแรงกล้า

หากเสิ่นเทียนควบคุมไอเบิกฟ้าได้จริงๆ และมีไฟศักดิ์สิทธิ์ฟ้าดินทรงพลังสามชนิดในกายเขาช่วยอีก…

หรือว่าจะมีโอกาสหลอมโอสถสูงสุดนั้นออกมาได้จริงๆ กัน

นี่ข้าจะได้ประจักษ์ปณิธานก่อนตายในชีวิตของข้าอย่างนั้นรึ

…………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน