บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 399

บทที่ 399 มหาจักรพรรดิสมัยบรรพกาล น่ากลัวยิ่งนัก!

จักรพรรดิชิงมองเสิ่นเทียนที่มีปรากฏการณ์มากมายวนเวียน มีกลิ่นอายพลังน่ากลัว

เขารู้สึกว่าโลกทัศน์ทั้งสามถูกกระทบกระเทือนอย่างแรง จะพังทลายลง

ต่อให้เขาจะเจอสุดยอดโอรสสวรรค์ที่สุดแห่งยุคมาจนชิน แต่ก็ไม่เคยเจอปีศาจที่มีศักยภาพน่ากลัวเช่นนี้มาก่อน!

ใช้ระดับพลังนิพพานระเบิดพลังเทียบเท่ากับระดับผู้อริยะรึ

อย่าว่าแต่ทั้งห้าดินแดนเลย ต่อให้มองไปในยุคโบราณก็ไม่มีใครทำได้!

ถ้าเจ้าบอกว่าระดับนิพพานสู้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ได้ นี่ไม่เท่าไร ไม่ได้หายาก โอรสสวรรค์ที่มีพรสวรรค์สุดยอดก็ทำได้

ถ้าบอกว่าผู้สูงศักดิ์สวรรค์สู้ผู้อริยะได้ ข้าก็ยอมรับได้ ถึงอย่างไรก็มีการคงอยู่อย่างผู้สูงศักดิ์สวรรค์มรรคสูงสุด

แต่ถ้าเจ้าบอกว่านิพพานสู้ผู้อริยะ ข้าจะพลิกมือตบบัวครามแปดทิศให้!

คิดว่าหลอกใครอยู่!

ไม่รู้หรือว่าต่ำกว่าผู้อริยะล้วนเป็นมดปลวก

ผู้สูงศักดิ์ระดับนิพพานกับผู้อริยะระดับฝ่าด่านเคราะห์ สองสิ่งไม่ได้ห่างกันแค่ดาวดวงเดียว

กล่าวได้ว่าเทียบได้กับร่องหุบเขาโลกสวรรค์ ไม่อาจข้ามผ่านได้!

แต่ตอนนี้จักรพรรดิชิงอยากจะตบตัวเอง ตื่นๆ

หรือว่าเสี้ยวดวงจิตข้าอยู่มานานเกินไป ข้าเลยสายตาพร่ามัวไปแล้ว

พลังนี้…

ซี้ด~

เหตุใดถึงรู้สึกกลัวนิดๆ

ตอนนี้เอง เสิ่นเทียนมองจักรพรรดิชิงพลางเดินออกมาช้าๆ

เขาย่างก้าวเดิน ปรากฏการณ์มากมายข้างหลังขยับตาม สัตว์เทพส่งเสียงคำราม ฟ้าดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

เดินหนึ่งก้าว แม้แต่ห้วงอากาศยังรับพลังงานนี้ไม่ไหว เริ่มถล่มลงมาอย่างแรง

ตอนนี้กลิ่นอายพลังของเสิ่นเทียนพุ่งถึงจุดสูงสุด

เขาจะกระตุ้นพลังที่แกร่งที่สุด สู้กับมหาจักรพรรดิในระดับพลังเดียวกัน ดูว่าใครจะแข็งแกร่งใครจะอ่อนแอ!

“หัตถ์กำเนิดทะลวงฟ้า!”

เสิ่นเทียนคำรามเสียงต่ำ ยกมือขวาขึ้นมาช้าๆ

พลังงานสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินหลั่งทะลักเข้าไป เปล่งแสงสว่างพร่างพราวยิ่ง

มือใหญ่ยักษ์ลอยขึ้นมาจากอากาศ ใหญ่พันจั้ง ด้านบนมีปัญจธาตุวนเวียน สีสันหลากสี แผ่กลิ่นอายที่ทำให้คนหวาดผวา

มือยักษ์พลันพุ่งออกไป บดบังท้องนภาโดยพลัน

กดลงมาเหมือนกับขุนเขาเทพร่วงหล่น

“สหายน้อย…”

ร่างแยกจักรพรรดิชิงอยากจะพูดบางอย่าง เช่น ‘กลมเกลียวกันไว้ดีกว่า’ ‘บุรุษออกปากไม่ออกมือ’ อะไรเทือกนี้

แต่มือยักษ์ตบลงมาแล้ว พลังสั่นสะเทือนแปดทิศหกประสาน!

บึ้ม!

เกิดเสียงดังสนั่น!

มวลอากาศรอบๆ พลันถล่มลง เผยเป็นความว่างเปล่าผืนใหญ่ กฎเกณฑ์พังทลายลง ลำดับปั่นป่วนอยู่นานก็ฟื้นกลับมาไม่ได้

แม้แต่ร่างแยกระดับนิพพานของจักรพรรดิชิงยังระเบิดกระจายโดยพลัน

อานุภาพของการโจมตีเดียวน่าสะพรึงอย่างยิ่ง!

……

เมื่อเห็นจักรพรรดิชิงกลายเป็นอากาศธาตุไปใต้อานุภาพฝ่ามือแล้ว เสิ่นเทียนก็ใช้หัตถ์กำเนิดทะลวงฟ้าเกาศีรษะอย่างผู้บริสุทธิ์

ผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ ถูกข้าตบทีเดียวตายไปเช่นนี้รึ

อืม กลยุทธ์! นี่ต้องเป็นกลยุทธ์แน่นอน!

ครืน~

ทันใดนั้นมวลอากาศสั่นสะเทือน ควันสีครามลอยขึ้น

ดอกบัวครามดอกหนึ่งเบ่งบานจากความว่างเปล่า กำเนิดพลังชีวิตแรงกล้า จากนั้นบัวครามบานออก ร่างเงาสีครามเดินออกมาจากกลางดอกบัวช้าๆ

คนนี้ก็คือจักรพรรดิชิง เพียงแต่เขามีสีหน้าไม่เป็นธรรมชาติอย่างมาก

“คนหนุ่มเจ้าไม่มีคุณธรรมในการต่อสู้เสียเลย ไม่อยากเชื่อว่าจะลอบโจมตีคนแก่อายุแสนปีอย่างข้า ตามกฎการประลองดั้งเดิมแล้ว น่าจะให้สองฝ่ายเตรียมพร้อมก่อนแล้วค่อยออกมือ

เมื่อครู่ข้ายังไม่ได้บอกเริ่ม เจ้าก็ออกมือลอบโจมตี ข้าประมาทจึงไม่ได้หลบ แต่ตามกฎแล้ว นี่ไม่ถูกต้อง คนหนุ่มเจ้าดูแลตัวเองให้ดีๆ ครั้งหน้าอย่าทำเช่นนี้อีก”

……..

จักรพรรดิชิงเหมือนจะเขินนิดๆ บ่นไปมาไม่หยุด ใบหน้าแดงหน่อยๆ

เสิ่นเทียนเกาศีรษะ “ผู้อาวุโส ข้าบอกไปก่อนแล้ว…”

จักรพรรดิชิงทำเสียงขึ้นจมูก “ข้ายังไม่ได้เตรียมพร้อมเลย! รอบเมื่อครู่ไม่นับ รอข้าพร้อมก่อน เราค่อยมาสู้กันอีก”

ตลก ใครจะยอมรับเรื่องนี้ได้กัน

เขาเป็นมหาจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ กลับถูกเจ้าหนูระดับนิพพานระเบิดร่างแยก หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ข้าจะไม่ขายหน้ายับเยินรึ

“เจ้าหนู ต่อไปข้าจะเอาจริงแล้ว เจ้าจะต้องใช้กำลังทั้งหมด ดูตัวเองให้ดีๆ!”

เพื่อกู้หน้ากลับมา จักรพรรดิชิงจึงเตรียมจะเอาจริงแล้ว

ผิวกายจุดเปลวเพลิงครามร้อนแรงขึ้นมาอีกครั้ง ปรากฏการณ์ดอกบัวระดับสิบสองข้างหลังเขาพลันขยายออก

ดอกบัวมากมายกลายเป็นแสงเทพสีครามพุ่งโจมตีใส่เสิ่นเทียน

“เจ้าหนูดูให้ดี การโจมตีนี้เป็นยอดวิชาของข้า เพลิงโอสถผลาญฟ้า!”

จักรพรรดิชิงคำรามลากยาว เพลิงครามในกายพลันปะทุขึ้น หมุนม้วนฟ้าดิน

เปลวเพลิงครามถาโถมลงมา กลายเป็นดอกบัวเพลิงมหึมาดอกหนึ่งปกคลุมทั้งฟ้าดิน เหมือนจะหลอมละลายมวลอากาศแห่งนี้

นี่คือเปลวเพลิงกฎเกณฑ์ที่จักรพรรดิชิงรวมขึ้นด้วยพลังบำเพ็ญสูงสุด บ่มเพาะมาแสนปี มีอานุภาพไม่ด้อยไปกว่าไฟศักดิ์สิทธิ์

“มาได้จังหวะพอดีเลย!”

เสิ่นเทียนตาเปล่งแสงเทพ กระตุ้นเนตรมรรคสวรรค์ประทาน เหมือนอยากจะส่องช่องโหว่ในนั้น

“หงส์เยือนเก้าสวรรค์!”

พลันปรากฏเงามายาหงส์ไฟขึ้นข้างหลังเสิ่นเทียน สูงพันจั้ง มีอานุภาพสั่นสะเทือนท้องนภา

ขณะเดียวกัน อัคคีอรุณใต้กับไฟแท้สุริยะยังพุ่งทะลักออกมาทั้งหมด วนเวียนรอบเงาหงส์ ทำให้อานุภาพของเงาหงส์นี้น่ากลัวยิ่งกว่าเดิม!

จากนั้นหงส์สยายปีกและพุ่งลงมาจากเก้าสวรรค์พร้อมกับเปลวเพลิงไร้ที่สิ้นสุด ปะทะกับเปลวเพลิงสีครามเต็มพื้น

เวลานี้ประกายไฟลุกท่วมฟ้า

เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นอย่างรุนแรง ทำให้ห้วงอากาศแตกกระจาย เปลวไฟเผาความว่างเปล่า

ทั้งมิติถูกทะเลเพลิงถาโถม ดับสูญไปกลางเปลวเพลิง

…..

“เจ้าหนู เปลวเพลิงร้อนแรงมากเชียวนะ! วัยหนุ่มก็ดี ปกติคงไม่ค่อยได้ระบายไฟเท่าไรหรอกกระมัง! ยืนหยัดต่อไป ข้าจะบอกเจ้าว่ารักษากายหยางบริสุทธิ์ไว้ การฝึกวิชาจะแข็งแกร่งอย่างมาก เหมือนตอนนี้ข้าอายุแสนปีแล้ว ทุกเช้ายังโด่ชี้ฟ้า โด่ชี้ฟ้าเจ้ารู้จักหรือไม่”

ท่ามกลางประกายไฟไร้ที่สิ้นสุด มีเสียงพูดแจ้วดังมาไม่ขาด

อืม เขากำลังใช้เสี้ยวความคิดมาปรับความตื่นตะลึงในใจของตน ขณะเดียวกันยังแก้เขิน

ต้องบอกว่าเสิ่นเทียนไม่ใช่แค่มีกำลังรบสะท้านฟ้า แต่ยังมีการควบคุมเปลวไฟเหนือกว่าที่จักรพรรดิชิงคาดการณ์ไว้

เปลวเพลิงที่เสิ่นเทียนควบคุมล้วนเป็นไฟศักดิ์สิทธิ์ฟ้าดิน กระทั่งในนั้นยังมีไฟแท้สุริยะอันเป็นอันดับสองในรายนามไฟศักดิ์สิทธิ์ มีอานุภาพไร้ขีดจำกัด

ภายใต้การกระตุ้นด้วยคัมภีร์จักรพรรดิเทพหงส์ อัคคีอรุณใต้กับไฟแท้สุริยะถูกกระตุ้นถึงขีดสุด มีอานุภาพผลาญฟ้า

มิหนำซ้ำในกายเสิ่นเทียนยังแฝงด้วยไฟศักดิ์สิทธิ์ชนิดที่สาม…เพลิงอมตะหงส์เทพ!

แม้จะยังเป็นเพียงเมล็ดพันธุ์เพลิง แต่ก็มีอานุภาพไม่ธรรมดา

ไฟศักดิ์สิทธิ์สามชนิดปรากฏมาพร้อมกัน มีอานุภาพมหาศาล แม้แต่เปลวเพลิงครามจักรพรรดิยังต้านไว้ไม่ได้ ถูกกลืนกินหดเล็กลงเรื่อยๆ

เพลิงอมตะหงส์เทพในกายเสิ่นเทียนขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ผ่านการกินเปลวเพลิงครามจักรพรรดิ!

บึ้ม!

เกิดเสียงระเบิดดังสนั่น ประกายไฟสลายไป

จักรพรรดิชิงเก็บเปลวเพลิงครามกลับไป ใบหน้ามีแต่ความปวดใจ

“เปลวเพลิงครามของข้า!”

จักรพรรดิชิงไม่คาดคิดเลยว่าเปลวเพลิงครามที่เขาบ่มเพาะมาหมื่นปี จะถูกกินพลังงานไปมากกว่าครึ่งในการปะทะ ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเก็บมือทัน เปลวเพลิงครามพวกนี้อาจจะกลายเป็นสารอาหารไฟศักดิ์สิทธิ์ไปหมดแล้ว

นี่ทำให้จักรพรรดิชิงปวดใจ และยังอดใจบ่นมิได้

เจ้าหนูนี่จะมีไฟศักดิ์สิทธิ์สามชนิดก็ช่างเถอะ แต่ว่ายังรวมไฟศักดิ์สิทธิ์สามชนิดเป็นหนึ่งเดียว เพิ่มอานุภาพขึ้นอีก!

ในฟ้าดินแห่งนี้ จะมีเปลวเพลิงใดต้านเจ้านี่ได้

นี่มันไม่สมเหตุผลเลย!

เจ้าหนูนี่คงไม่ได้มาร่วมการทดสอบ แต่มายั่วยุข้ากระมัง!

จักรพรรดิชิงอยากจะร้องไห้~

……..

“บัวครามแปลงฟ้าดิน!”

แต่ถึงเสิ่นเทียนจะแข็งแกร่ง แต่จักรพรรดิชิงก็ต้องเอาหน้าไว้เช่นกัน เป็นมหาจักรพรรดิหนึ่งยุคผู้ยิ่งใหญ่ จะไปแพ้ให้รุ่นเยาว์ได้อย่างไร!

จักรพรรดิชิงออกมืออีกครั้ง ปรากฏการณ์บัวระดับสิบสองขยายใหญ่อย่างบ้าคลั่ง บดบังทั้งฟ้าดินแห่งนี้

นี่ก็คือพลังแห่งบัวครามของจักรพรรดิชิง

เล่าลือว่าจักรพรรดิชิงแปลงกายมาจากบัวครามโบราณต้นหนึ่ง จากนั้นก็ก้าวสู่จุดสูงสุด พิสูจน์มรรคเป็นมหาจักรพรรดิ

ดังนั้นพลังแห่งบัวครามจึงเป็นพลังต้นกำเนิดที่แกร่งที่สุดของจักรพรรดิชิง

ตอนนี้จักรพรรดิชิงเร่งพลังเปลวไฟทั้งหมด ฟ้าดินพลันถูกยึดครอง

“เจ้าเด็กบ้า ระวังด้วย!”

จักรพรรดิชิงเอ่ยด้วยความน่าเคารพ ก่อนเคลื่อนพลังแห่งบัวครามกดอัดใส่แผ่นดิน

บัวครามสั่นกระเพื่อม บัวครามระดับสิบสองบานออกด้วยโทสะ ยิงแสงเรืองรองออกมาหมื่นสาย กระจายออกไปรอบๆ

ทันใดนั้น ท้องนภาถูกแสงเรืองรองมากมายฉีกทำลาย เกิดเป็นความว่างเปล่าผืนใหญ่

แสงเรืองรองทุกสายรวมขึ้นจากพลังแห่งกฎเกณฑ์ กลายเป็นบัวครามมากมายตกลงมาจากท้องนภา บัวครามพวกนี้งดงามอย่างยิ่ง เหมือนเปราะบาง แต่กลับมีอำนาจคุกคามน่ากลัวอย่างยิ่ง

ตอนนี้ฟ้าดินเปลี่ยนสีไปอย่างมาก!

กลางฟ้าครามโบราณ มีเพียงบัวต้นเดียวที่หมายจะกำราบท้องนภา!

เมื่อเห็นภาพนี้ เนตรมรรคสวรรค์ประทานของเสิ่นเทียนเปล่งแสงสว่างยิ่งกว่าเดิม แสงเทพพลันยิงออกไป

ก่อนหน้านี้ข้าถูกราชินีหงส์อมตะขี่มาครึ่งเดือน อึดอัดใจเป็นที่สุด แต่นั่นก็เป็นราชินีหงส์อมตะระดับผู้อริยะ จึงไม่มีกำลังต่อต้าน

ตอนนี้สู้ในระดับพลังเดียวกัน ยังคิดจะกดขี่ข้าอีกรึ

ไม่มีทาง!

ไม่มีทางเด็ดขาด!

“ชีวิตข้าเป็นอิสระ ใครจะกล้าอยู่สูงส่ง”

เสิ่นเทียนใช้มือกำอากาศ พลันมีแสงสว่างปะทุขึ้น

ปรากฏค้อนยักษ์อันหนึ่งลอยขึ้นมาในมือเขา

ทันทีที่ปรากฏค้อน ก็เผยพลังอำนาจมหาศาล พลังสั่นสะเทือนแปดทิศ!

“ผู้อาวุโสจักรพรรดิชิงระวังด้วย ผู้เยาว์จะสู้เต็มกำลังแล้ว!”

เสิ่นเทียนพุ่งทะยานเข้าไป ประกายแสงบนผิวกายเหมือนดวงดาราขยับแสง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน