ตอนที่ 416 โอสถเสริมสวรรค์ ข้ากินเองไม่ดีกว่ารึ
เมื่อฟังคำพูดของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตจบ ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวก็มีสีหน้ากังวล
ไร้ความรู้สึกรึ…ซี้ด แค่คิดก็น่ากลัวแล้ว!
ศิษย์พี่ใหญ่เหมือนจะพูดมีเหตุผล
ข้าควรจะรุกก่อนหรือไม่
เกิดตอนนั้นศิษย์พี่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ความรู้สึกจริงๆ…
ไม่ได้การ ต้องรีบแล้ว!
…..
หืม
เหมือนจะมีอะไรแปลกๆ
เหตุใดถึงถูกศิษย์พี่ใหญ่วนเข้าไปล่ะ
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตยังคงอบรม “ศิษย์น้องหญิงไม่ต้องกลัวนะ! ชอบเขา ก็ต้องครอบครองเขา ไม่ว่าจะเขาจะปฏิเสธหรือไม่! หรือว่าเขาจะเอาอัสนีเทพกำเนิดฟ้าผ่าเจ้าได้กัน ขอแค่ไม่ผ่าก็อย่ากลัว!”
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวทำหน้าทั้งโกรธและอาย “ศิษย์พี่ไม่กลัว แล้วเหตุใดถึงปฏิเสธผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่ล่ะ ศิษย์น้องหญิงตันอูรอท่านมานานหลายปี แสดงความจริงใจแล้ว เหตุใดท่านถึงยังทำเป็นทองไม่รู้ร้อนมาตลอด”
บุพเพสันนิวาสระหว่างผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตกับผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวก็พัวพันไม่จบไม่สิ้นเช่นกัน
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่มีใจมาตลอด แต่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตกลับไม่ไยดี นี่ทำให้ทั้งสองคนไม่อาจเดินเคียงข้างกันได้
“แค่ก เจ้าเด็กนี่อย่าพูดมั่วนะ!”
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตทำหน้าเก้อเขินอย่างพบเห็นได้ยาก “ด้วยพรสวรรค์ของข้า จะต้องลอยขึ้นโลกเซียนแน่นอน พรสวรรค์ของตันอู่ต่ำเกินไป ไม่มีหวังบินขึ้น จะไปคู่ควรกับข้าได้อย่างไร!”
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตไม่ใช่คนโง่ จะไม่รู้ความคิดของผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่ได้อย่างไร เพียงแต่ว่าระหว่างสองคนต่างกันจริงๆ ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตไม่กล้าลงมือเลย!
ตั้งแต่โบราณมาความรักต่างแดนเป็นเรื่องเศร้า จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงความรักต่างโลก
ถึงตอนนั้นเขาอยู่โลกเซียนลงมาไม่ได้ จะไม่ทำให้คนอื่นเขาเป็นหม้ายสาวรึ
ไม่เป็นหม้ายก็ต้องถูกสวมเขา สรุปความรักต่างแดนไม่มีอะไรดีเลยจริงๆ
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวหัวเราะเบาๆ “ศิษย์พี่ใหญ่ก็หาทางมอบโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้ากับศิษย์น้องหญิงตันอู่ได้ โอสถนี้ปรับแก้คุณสมบัติของศิษย์น้องหญิงตันอู่ได้ บินขึ้นโลกเซียนได้ไม่ยากเลย!”
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตแบะปาก ก่อนหัวเราะเยาะ “หากมีโอสถเสริมสวรรค์จริงๆ ข้าก็กินเองสิ จะไปแบ่งให้คนอื่นได้อย่างไร”
ตอนนี้เอง ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่มาปรากฏตรงหน้าสองคน
นางมองผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตด้วยแววตาชื่นชอบ แม้แต่จังหวะก้าวยังเร็วขึ้นมาก
เหมือนยอดฝีมือผู้สูงศักดิ์สวรรค์ที่ใดกัน นี่มันแม่นางร้อยที่เพิ่งมีความรักครั้งแรกชัดๆ!
“ศิษย์พี่ฉู่เหอ! ศิษย์พี่หญิงบัวขาว! ในที่สุดข้าก็หาพวกท่านพบ”
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตมุมปากกระตุกเล็กน้อย “นางมาได้อย่างไรกัน แค่กๆ ศิษย์น้องหญิง นี่ก็สายแล้ว ข้ายังไม่เก็บผ้าห่มเลย ขอตัวก่อน”
เพิ่งเอ่ยจบ ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตก็กลายเป็นแสงสีทองหายไป
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวพูดไม่ออก
“ศิษย์พี่ฉู่เหอ ท่านจะไปที่ใดกัน”
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่มาอยู่ข้างผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาว แต่เห็นได้แต่เงาแผ่นหลัง
นี่ทำให้นางจิตตกนิดๆ “ศิษย์พี่หญิงบัวขาว เหตุใดศิษย์พี่ฉู่เหอพบข้าแล้วถึงไปเลยล่ะ เขารังเกียจข้าหรือไม่ ข้าทำอะไรผิดไปหรือ”
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวพูดด้วยความจนปัญญา “ศิษย์น้องหญิงตันอู่อย่าคิดเองเออเอง ศิษย์พี่ใหญ่อาจจะมีงานต้องทำก็ได้”
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวมองแผ่นหลังผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตแล้วอดถอนหายใจอยู่ภายในมิได้
เรื่องนี้ได้แต่ให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตจัดการเอง ใครสอดมือก็ไม่มีประโยชน์
เมื่อนึกถึงตรงนี้ ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวก็จนปัญญาอยู่ในใจ
ตัวเองก็เหมือนกันไม่ใช่รึ!
…..
ยามกลางคืน สียามราตรีค่อยๆ มืดลง!
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่กำลังฝึกฝนอยู่ในห้อง แต่กลับหยุดตลอดเวลา สงบนิ่งไม่ได้
ผ่านไปนานนางถึงอดถอนหายใจมิได้ “ข้าทำอะไรผิดไป เหตุใดศิษย์พี่ฉู่เหอถึงไม่ยอมสนใจข้า”
การมาแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ครั้งนี้ นางไม่ได้แค่มาร่วมพิธีแต่งตั้งบุตรศักดิ์สิทธิ์ เป้าหมายที่สำคัญกว่านั้นคืออยากพบผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกต!
แต่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตกลับไม่สนใจนาง ทำให้ในใจนางเต็มไปด้วยความหดหู่
ตอนนี้เองพลันมีของชิ้นหนึ่งโยนมาจากนอกหน้าต่าง
“ใคร”
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่รีบตามออกไป พบว่านอกห้องว่างเปล่าเงียบสงบ ไม่เห็นเงาใครเลย
“แปลก ดึกดื่นป่านนี้จะมีใครมาอีก”
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่ส่ายหน้า แม้นางจะไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก ถึงอย่างไรที่นี่ก็เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ มาตรการความปลอดภัยดีพร้อมยิ่ง
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่กลับมาในห้อง พบว่าบนพื้นมีขวดหยกสีขาวอยู่
เห็นได้ชัดว่าเจ้านั่นโยนเข้ามาก่อนหน้านี้
“ของอะไร”
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่เปิดขวดด้วยความแปลกใจ พลันมีกลิ่นหอมสดชื่นอบอวลเข้ามา
เมื่อหลิ่นหอมโชยเข้ามา ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่รู้สึกว่าจิตใจพลันใสสะอาดอย่างยิ่ง จุดที่เมื่อก่อนไม่ชัดเจนมากมายในการฝึกบำเพ็ญ ตอนนี้พลันเปิดโล่ง
ดมแค่กลิ่นหอมโอสถก็มีความรู้สึกเหมือนนั่งตระหนักรู้บางอย่าง
“นี่มัน…โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า!”
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่มองโอสถสีทองกลมอิ่มเอิบในขวด พลางอดใจสั่นขึ้นมามิได้
นางเสียงสั่นนิดๆ เต็มไปด้วยความตื่นเต้น “จะต้องเป็นศิษย์พี่ฉู่เหอแน่ๆ! ศิษย์พี่ฉู่เหอเขาจะต้องชอบข้าแน่!”
ยอมมอบโอสถเทพสูงสุดอย่างโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าให้กับนาง นอกจากผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตแล้ว นางไม่นึกถึงใครอีก!
เมื่อคิดได้ดังนั้น ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่ก็หน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย ภายในใจเต็มไปด้วยความอบอุ่น
….
อีกด้าน ตำหนักเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์
บางคนมองสัญญาขายตัวห้าร้อยปีในมือ สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายกระเพื่อมอย่างบ้าคลั่ง
ฮิๆๆๆๆๆๆ~
…..
เปรี้ยง!
สียามราตรีมืดมิด ไม่มีแสงดาวแม้แต่น้อย
รอบนอกแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เกิดเสียงฟ้าร้องดังสนั่น ประกายสายฟ้าสว่างวูบวาบ
มองไป ห่างไปหลายร้อยลี้มีสายฟ้าผ่า เมฆเคราะห์ภัยมารวมกัน เห็นได้ชัดว่ามีผู้อริยะกำลังฝ่าด่านเคราะห์ อีกทั้งไม่ใช่ผู้อริยะแค่คนเดียว แต่เป็นหลายคนกำลังฝ่าด่านเคราะห์พร้อมกัน
พวกนี้คือผู้อริยะที่ประมูลได้โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าไป
พวกเขาอดทนความตื่นเต้นในใจไม่ไหว จึงกินโอสถในทันที
เวลานี้ ในระยะหลายร้อยลี้รอบแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ พลังวิญญาณธาตุสายฟ้าหนาแน่นขึ้นไม่น้อย กระทั่งในโลกเล็กเทพสวรรค์ ศิษย์ระดับสร้างฐานและแก่นพลังทองยังเพิ่มความเร็วในการฝึกบำเพ็ญไปเป็นเท่าตัว!
เมื่อเห็นดังนั้น เยวี่ยอวิ๋นเต๋อตาเปล่งประกายสีทอง “พลังวิญญาณธาตุสายฟ้าเข้มข้นขนาดนี้ จะรวมอัสนีเทพกำเนิดฟ้าได้เท่าไรกัน!”
ใช่ เยวี่ยอวิ๋นเต๋อสนใจแล้ว!
คัมภีร์จักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์สามารถใช้พลังวิญญาณธาตุสายฟ้ารวมอัสนีเทพกำเนิดฟ้าได้
เคราะห์สวรรค์คือยาบำรุงชั้นดีสำหรับศิษย์สายตรงเทพสวรรค์
ดังนั้น เยวี่ยอวิ๋นเต๋อจึงพุ่งมาเกาะเคราะห์อัสนีอยู่ข้างๆ ผู้อริยะพวกนั้น ไม่ใช่แค่เขา ศิษย์สายตรงคนอื่นก็พากันมาเกาะเคราะห์อัสนีกันตามความยุยงของเยวี่ยอวิ๋นเต๋อ
ชั่วประเดี๋ยวเดียว ก็ปรากฏภาพแปลกประหลาดขึ้นตรงหน้าขุมอำนาจใหญ่ทุกฝ่าย
ใจกลางเคราะห์อัสนี ผู้อริยะสู้กับเคราะห์อัสนีอย่างเต็มที่ แผ่อำนาจเทพไม่มีสิ้นสุด นอกเคราะห์อัสนีเป็นศิษย์เทพสวรรค์นั่งล้อมรอบ กำลังเกาะเคราะห์อัสนี รวมอัสนีเทพกำเนิดฟ้า
สองอย่างเข้ากันมาก ไม่รบกวนกันและกัน!
นี่ทำให้ผู้อาวุโสจากแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อดปลงอนิจจังไม่ได้ “เยวี่ยอวิ๋นเต๋อ ฉลาดจริงๆ! ไม่สิ้นเปลืองทรัพยากรแม้แต่นิด เห็นทีว่าผู้อริยะฝ่าด่านเคราะห์พวกนั้น ตอนนี้คงจนปัญญากันน่าดูเลย!”
แต่ผู้อริยะฝ่าด่านเคราะห์ก็ไม่ได้ปฏิเสธที่ศิษย์เทพสวรรค์จะมาขอเคราะห์อัสนีเปล่าๆ ที่พวกเขาฝ่าด่านเคราะห์ได้เป็นเพราะโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า
โอสถสูงสุดเช่นนี้ ทำให้คุณสมบัติกายของผู้อริยะที่ใช้ผลัดเปลี่ยน ปกติจะฝ่าเคราะห์อัสนีสองขั้น
นี่ทำให้พวกเขาได้สัมผัสอย่างลึกซึ้งว่าโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าแกร่งเพียงใด
ทุกอย่างเป็นเพราะแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์!
ดังนั้น พวกเขาจึงถือโอกาสคืนน้ำใจให้กลับไปด้วย ถึงอย่างไรจากนี้อาจจะมีเรื่องต้องร้องขอแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อีก!
เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ไม่จำเป็นต้องไปคิดเล็กคิดน้อย
…..
มีแดนศักดิ์สิทธิ์ใดบ้างไม่มีผู้อริยะ
มีผู้อริยะคนใดบ้างที่ไม่อยากเสพโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า
ระดับฝ่าด่านเคราะห์จะยกระดับพลังได้ยากยิ่ง ปกติจะใช้เวลาพันปีเป็นหน่วยวัด
ผู้อริยะมากมายพลังบำเพ็ญถึงคอขวดแล้ว หลายพันปีก็อาจจะพัฒนาไม่ได้สักก้าวด้วยซ้ำ กระทั่งอายุขัยหมดลงก็ยังทะลวงคอขวดไม่ได้ก็ตายลงแล้ว
เมื่อมีโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าก็จะไม่เหมือนเดิม!
โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าลงท้องเม็ดหนึ่ง เคราะห์อัสนีจะให้เจ้าฝ่าได้ตามใจ!
แต่ขอแค่ฝ่าเคราะห์อริยะ อายุขัยของผู้อริยะก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
พวกวัตถุโบราณที่อยู่มาหลายปี อายุขัยใกล้จะสิ้นแล้วไม่มีทางไม่สนใจ!
หากพวกเขาอาศัยโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าทะลวงคอขวดเพิ่มอายุขัยได้ บางทีอาจจะได้พัฒนาไปอีกก้าว หากดวงดีบางทีอาจได้กลายเป็นเซียน!
ถึงอย่างไรโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าก็มีสรรพคุณปรับแก้คุณสมบัติและพรสวรรค์การตระหนักรู้!
นี่ทำให้ทุกอย่างที่เป็นไปไม่ได้กลายเป็นเป็นไปได้!
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ จึงยิ่งไม่มีใครอยากไปล่วงเกินแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์!
….
แม้แต่ผู้อริยะยังไม่อยาก ย่อมไม่มีใครขวางพวกเยวี่ยอวิ๋นเต๋อที่มาเกาะโชคเปล่าๆ
ดังนั้น เยวี่ยอวิ๋นเต๋อจึงหาผลประโยชน์ไปทีละแห่งอย่างไม่เกรงกลัวเลย เกาะจนต้องร้องเฮ้!
ขอใช้คำพูดเขา ‘ผลประโยชน์เปล่าทำให้ข้ามีความสุข!’
ถึงอย่างไรโอสถเสริมสวรรค์ก็เย้ายวนเกินไป ทำให้คนปฏิเสธไม่ได้
จากนั้น แค่กๆ ไม่มีจากนั้นแล้ว!
ทุกอย่างเป็นหินตกมหาสมุทร
คนน่าสงสารพวกนั้น สุดท้ายก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกต!
สุดท้ายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ออกหน้า แก้ปัญหาให้
นี่ทำให้บัวมรกตมีชื่อเสียงเหม็นโฉ่ยิ่งกว่าเดิม
……
พิธีแต่งตั้งบุตรศักดิ์สิทธิ์สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการ งานเลี้ยงก็เริ่มตามปกติ
เสิ่นเทียนยืนอยู่ข้างกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ “อาจารย์ งานประมูลโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าเมื่อวานเป็นอย่างไรบ้างขอรับ”
เสิ่นเทียนสงสัยเล็กน้อย เขาพบว่าผู้คนรอบตัวกำลังมองตน
เกิดอะไรขึ้น
ถึงข้าจะหน้าตาหล่อเหลา แต่ก็ไม่ต้องมองขนาดนี้ก็ได้กระมัง!
หรือว่าโอสถเสริมสวรรค์จะประมูลได้ไม่ได้อย่างที่คิด
คนพวกนี้เลยไม่พอใจกันรึ
ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อมเบาๆ ก่อนพูดนิ่งๆ “เทียนเอ๋อร์ งานประมูลเมื่อวานราบรื่นมาก สมบัติที่ประมูลได้จากโอสถเสริมสวรรค์จะเป็นของเจ้าทั้งหมด นี่ถือว่าเป็นของขวัญอวยพรให้เจ้าจากแดนศักดิ์สิทธิ์ด้วย”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอ่ยเสียงไม่ดัง แต่ผู้อริยะในที่นี้ได้ยินกันอย่างชัดเจน
นี่ทำให้พวกเขาถึงกับสูดลมหายใจเข้าลึก
ซี้ด~
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ใจกว้างจริงๆ!
ต้องรู้ว่ามูลค่าที่ได้มาจากโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าเมื่อวาน ยากจะจินตนาการได้!
นั่นคือสมบัติที่ผู้อริยะเก่าแก่ต้องควักสมบัติในบ้านออกมาทั้งหมดถึงจะเอาออกมาได้!
ของขวัญอวยพรเช่นนี้ กลับมอบให้บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ทั้งหมด
ฟุ้งเฟ้อ!
ฟุ้งเฟ้อยิ่งนัก!
เมื่อคิดได้ดังนั้น ผู้อริยะบางส่วนเกิดอารมณ์ความคิดเอ่อล้นขึ้นมาในใจ
หากข้าผูกมิตรที่ดีกับบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ก็อาจจะได้โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าก่อนใช่หรือไม่
ถึงแดนศักดิ์สิทธิ์จะเป็นคนจัดงานประมูล แต่นักหลอมโอสถคือบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์!
ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องใช้ความใกล้ชิดเอาผลประโยชน์มาให้ได้!
ผู้อริยะมากมายต่างใจสั่นไหวกันอย่างยิ่ง!
ใจสั่นไหวไม่สู้ลงมือทำ!
ไม่นานก็มีผู้อริยะเดินเข้ามา นัยน์ตาฉายแววเจ็บปวด
เขานำหม้อเล็กออกมาใบหนึ่ง “บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ช่างสมกับมีพรสวรรค์เลิศล้ำ อายุยังน้อยก็ประสบความสำเร็จเช่นนี้แล้ว เหนือธรรมดาจริงๆ!
นี่คืออาวุธอริยะ ‘หม้อหลอมอัคคีเหลว’ ภายในเป็นอัคคีเหลวหมื่นปี มีส่วนช่วยในการหลอมโอสถอย่างยิ่ง เป็นหม้อโอสถที่ผู้อริยะโอสถหลงหั่วหลอมเมื่อหมื่นปีก่อน วันนี้ข้าจะมอบหม้อนี้ให้กับสหายน้อย เป็นของขวัญอวยพร และยังเป็นการผูกวาสนาดีกัน!”
อาวุธอริยะที่ผู้อริยะคนนี้มอบให้ เป็นของที่เขาตั้งใจเลือกมา ไม่ใช่แค่เพื่อได้ความรู้สึกดีๆ จากเสิ่นเทียน แต่ยังหวังว่าเสิ่นเทียนจะพิจารณามอบโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าที่หลอมมาให้เขาก่อน!
ผู้อริยะรอบข้างเห็นดังนั้นก็อดด่าทอเขาเจ้าเล่ห์ในใจมิได้!
ผู้อริยะผู้ยิ่งใหญ่ ยอมมอบอาวุธอริยะใช้เป็นเส้นสายเพื่อโอสถเม็ดเดียวรึ
สารเลว ข้าจะไม่ทำเช่นนี้เด็ดขาด!
แต่จากนั้นเมื่อถึงตาคนพวกนี้ พวกเขาต่างมอบของขวัญอวยพรให้
ในของขวัญพวกนี้เริ่มจากโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุด ส่วนใหญ่จะเป็นอาวุธอริยะ
ผู้อริยะพวกนี้ต่างนำของดีมาอยากจะผูกวาสนาดีกับเสิ่นเทียน
ทั้งยังบอกว่าอาวุธอริยะเล็กจ้อย ไม่พอให้อุดฟันด้วยซ้ำ~
นั่นเรียกว่าไมตรีจิต!
…..
เสิ่นเทียนมองอาวุธอริยะกองใหญ่ตรงหน้า พลางทำหน้ามึนงง
ตั้งแต่เมื่อไรกันที่อาวุธอริยะกลายเป็นไร้ราคาเช่นนี้
ให้มาทีเป็นเข่ง นี่ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่าเป็นของเกรดเอหรือไม่
ผู้อาวุโสผู้อริยะพวกนี้จริงๆ เลย เจ้าว่าพวกเจ้าเกรงใจเช่นนี้จะดีจริงๆ หรือ
อึดใจเดียวก็ให้มาเยอะขนาดนี้ จะทำให้คนอื่นเขาเอาแบบอย่างที่ไม่ดีได้ง่ายๆ นะ
ข้าจะรับไว้! หรือว่ารับไว้!
หรือว่ารับไว้ดีนะ
………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน