บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 421

บทที่ 421 ดินแดนกลางปะทะดินแดนบูรพา มหาศึกโอรสสวรรค์!

สี่ราชันเหนือใต้ออกตก เป็นตำแหน่งที่สูงศักดิ์ที่สุดในชนชั้นสูงราชสำนักมากมายของราชวงศ์เซียนต้าฮวง เป็นพี่น้องแท้ๆ ของจักรพรรดิสือรุ่นปัจจุบัน

และศักยภาพของราชันใต้และราชันเหนือก็ถือว่าอยู่สุดยอดของราชวงศ์เซียนต้าฮวง

ตนเป็นสององค์ชายที่มีสายเลือดของผู้เป็นราชาใหญ่ทั้งสอง พวกเขาย่อมสืบทอดสายเลือดราชนิกุลสูงสุด มีพรสวรรค์แกร่งอย่างยิ่ง

ก่อนที่สือเทียนจื่อจะประสูติ ทั้งสองคนนี้เป็นผู้โดดเด่นรุ่นเยาว์ของราชวงศ์เซียนต้าฮวง มองทุกคนด้วยความโอหัง

เคยได้รับขนานนามว่าสองดาราแห่งราชวงศ์เซียนต้าฮวง มีคุณสมบัติของเตรียมจักรพรรดิ!

จนกระทั่งสือเทียนจื่อประสูติ ชื่อเสียงของสองคนนี้ถึงถูกกดลงไป แต่ศักยภาพของพวกเขาไม่เป็นที่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นโอรสสวรรค์ที่สุดยอด

เมื่อเห็นองค์ชายราชันใต้และองค์ชายราชันเหนือปรากฏ โอรสสวรรค์ดินแดนบูรพาต่างรู้สึกกดดันเป็นเท่าตัว

บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รุ่นเจ็ดป้องมือกล่าว “หอหงส์ทองนี่พวกเราจองไว้แล้ว หวังว่าองค์ชายจะไม่สอดมือ!”

สององค์ชายปรากฏตัว ทำให้โอรสสวรรค์ดินแดนบูรพาต้องให้ความสำคัญ

ศักยภาพของสององค์ชายแข็งแกร่งอย่างยิ่ง บรรลุถึงผู้สูงศักดิ์สวรรค์นานแล้ว หากสู้กันจริงๆ โอรสสวรรค์ดินแดนบูรพาไม่มีความมั่นใจเลย

องค์ชายราชันเหนือทำเสียงขึ้นจมูก “จองไว้แล้วอย่างไร ถอยไปเสีย ข้าถูกใจอะไรไม่เคยมีใครไม่ยอมให้”

องค์ชายราชันเหนือวางอำนาจใหญ่โตมาตลอด ด้วยฐานะและศักยภาพของเขา จึงมีไม่กี่คนที่กล้าเป็นศัตรูกับเขา!

เถ้าแก่แท่นวิหคทองแดงรีบเดินเข้ามาพูดโน้มน้าว “บุตรศักดิ์สิทธิ์ท่านนี้ พวกท่านถอยสักก้าว ยกหอหงส์ทองให้ไปเถอะ! องค์ชายทั้งสองไม่ใช่คนที่พวกท่านจะล่วงเกินได้!”

การประกอบกิจการแก่นวิหคทองแดงในเมืองศักดิ์สิทธิ์สวรรค์ได้อย่างราบรื่น แท่นวิหคทองแดงจึงมีศักยภาพแฝงหยั่งลึกมาก

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น พวกเขาก็ยังไม่อยากล่วงเกินองค์ชายสุดยอดทั้งสองคนนี้

ราชสำนักมีฐานะเหนือชั้นในราชวงศ์เซียนต้าฮวง

การล่วงเกินราชสำนักเพื่อห้องพิเศษห้องเดียว นี่ไม่ฉลาดเลยจริงๆ

บุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ยอดฟ้าพูดเหยียดหยาม “ถ้ารู้จักเอาตัวรอดก็ไสหัวไปดีๆ เสีย องค์ชายจะใช้หอหงส์ทองต้อนรับองค์หญิงหลิงหลง กระสอบดินอย่างพวกเจ้าจะมาก่อกวนได้อย่างไร”

โอรสสวรรค์ของแดนศักดิ์สิทธิ์ยอดฟ้าดูถูกโอรสสวรรค์จากดินแดนบูรพาอยู่แล้ว ย่อมไม่ปล่อยโอกาสดูถูกทุกคน

เคหาสน์ม่วงรุ่นเจ็ดมองต่อไปไม่ได้ จึงตะโกนเสียงดัง “พวกเจ้าจะรังแกกันเกินไปแล้ว! ไม่รู้จักคำว่ามาก่อนได้ก่อนรึ”

กระทั่งโอรสสวรรค์แดนศักดิ์สิทธิ์บูรพาอื่นยังโมโหจัด พากันก้าวออกมา

องค์ชายราชันเหนือชำเลืองตามองโอรสสวรรค์ทุกคนอย่างเฉยชา ก่อนพูดจาเหยียดหยาม “หากพวกเจ้าไม่ยอม ก็ไปบนเวทีประลองสุญญะได้ หากชนะ หอหงส์ทองนี่จะยกให้พวกเจ้า!”

กลางเมืองศักดิ์สิทธิ์สวรรค์ห้ามต่อสู้กัน

ที่นี่คือแดนศักดิ์สิทธิ์ศึกษา ไม่ใช่สนามรบไว้ต่อสู้กัน

สำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยห้ามต่อสู้กันเอง ก็เพื่อไม่ให้เกิดการบาดเจ็บ

ใครทำผิดกฎข้อนี้จะถูกจัดการ ไม่ว่าใครก็เลี่ยงไม่ได้ ไม่เช่นนั้น องค์ชายราชันเหนือจะพูดมากขนาดนี้เพื่ออะไร คงจะโยนทุกคนออกไปนานแล้ว

แต่เวทีประลองสุญญะต่อสู้ได้!

เวทีประลองสุญญะสร้างขึ้นโดยสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ย ให้ศิษย์ไว้ประลองฝีมือกัน

เวทีประลองสุญญะสามารถวิวาทกันได้อย่างถูกต้องชอบธรรม!

ขอแค่ไม่เอาถึงชีวิตก็จะไม่มีใครกล่าวโทษ

เส้นทางการฝึกบำเพ็ญก็ต้องต่อสู้ไปเรื่อยๆ อยู่แล้ว ขัดเกลาตัวเองในการต่อสู้ ยกระดับศักยภาพ

หากสงบเกินไปจะทำให้คนเกิดความเกียจคร้านได้ แบบนี้จะได้ไม่คุ้มเสีย

สำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยมีเป้าหมายในการสร้างเวทีประลองสุญญะก็เพื่อสนับสนุนให้ศิษย์ประลองฝีมือกัน คนมากมายใช้เวทีประลองสุญญะมาวิวาทกัน แก้ความขัดแย้ง

เคหาสน์ม่วงรุ่นเจ็ดตะโกนเสียงดัง “สู้ก็สู้ ใครจะกลัวเจ้ากัน!”

เคหาสน์ม่วงรุ่นเจ็ดบินขึ้นไปก่อน มุ่งหน้าไปยังเวทีประลองสุญญะ

ยอดฟ้ารุ่นเจ็ดเผยแววตาเย็นชา ก่อนหัวเราะเยาะ “เคหาสน์ม่วงเจ็ด ข้านับถือในความกล้าไม่กลัวตายของเจ้ามาก! วันนี้ข้าจะให้เจ้าไปอยู่กับเคหาสน์ม่วงหก!”

บุตรศักดิ์สิทธิ์ยอดฟ้าเดินหน้า ขี่สายรุ้งเทพพุ่งไปเวทีประลอง

“สู้!”

เคหาสน์ม่วงรุ่นเจ็ดกระจายไอม่วง ยิงแสงเทพหมื่นจั้งปกคลุมฟ้าดิน พลังโอ่อ่ายิ่งใหญ่

แม้บุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงรุ่นเจ็ดจะมีพรสวรรค์โดดเด่นไม่เท่าฉีเซ่าเสวียน แต่ก็เป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่ พรสวรรค์ไม่ธรรมดา ฝึกคัมภีร์จักรพรรดิเคหาสน์ม่วงไปถึงขั้นสูงนานแล้ว

อาศัยศักยภาพของจุดสูงสุดดวงจิตดรุณกระตุ้นไอม่วงบูรพาสามหมื่นลี้ ก็พอจะสู้กับผู้สูงศักดิ์สวรรค์ธรรมดาได้

ก่อนจะเห็นไอม่วงไม่มีสิ้นสุดวนเวียนตัดสลับกัน รวมเป็นตะวันม่วงดวงหนึ่งส่องสะท้อนเวทีประลองสุญญะ

ยอดฟ้ารุ่นเจ็ดไม่สนใจเลย “ไม่เจียมตัว มีความสามารถอยู่แค่นี้เอง”

ยอดฟ้ารุ่นเจ็ดเปล่งแสงทั้งตัว แสงกระจายออกไปรอบๆ สะท้อนเป็นปรากฏการณ์หม้อหลอมยักษ์ข้างหลังใบหนึ่ง

หม้อหลอมยักษ์มีพลังอำนาจยิ่งใหญ่ทรงพลัง มีขนาดหมื่นจั้งมาพร้อมกับกำลังมหาศาลหมื่นชั่ง กำราบไอม่วงฟ้าดินทั้งหมด

“ข้าจะสอนให้เจ้าเป็นคนเอง! หม้อหลอมสยบภูลำธาร!”

ยอดฟ้ารุ่นเจ็ดเอ่ยอย่างเย็นชา ก่อนกระตุ้นหม้อหลอมยักษ์สีเงินให้กดทับลงมา

แสงสว่างจ้าละลานตาถึงที่สุด

หม้อหลอมสะท้อนเงาลงบนฟ้าดิน กลิ่นอายพลังหนักหน่วง กลายเป็นสายรุ้งสีเงินถาโถมลงมา ทำให้ไอม่วงจำนวนมากสั่นไหวไม่แน่นอน

การโจมตีนี้เหมือนจะกำราบทุกอย่าง!

“ตะวันม่วงขึ้นบูรพา!”

เคหาสน์ม่วงรุ่นเจ็ดเดินหน้าหนึ่งก้าว ไอม่วงพุ่งทะลักออกมากลายเป็นทะเลหมอกสีม่วงไหลเข้าไปในดวงตะวันม่วงไม่หยุด

ดวงตะวันม่วงใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนมีขนาดหมื่นจั้ง แสงม่วงวนเวียน มีเปลวไฟลอยขึ้นมาเอ่อล้น มาพร้อมกับพลานุภาพน่าสะพรึงพุ่งเข้าไป

บึ้ม!

เกิดเสียงดังสนั่น!

เสียงหม้อหลอมดังสะท้าน ไอม่วงระเบิดกระจาย

แม้แต่เวทีประลองสุญญะยังเริ่มสั่นสะเทือน เกิดคลื่นกระเพื่อมขึ้นมากมาย

การโจมตีของสองคนน่ากลัวอย่างยิ่ง ผู้แข็งแกร่งผู้สูงศักดิ์สวรรค์ปกติอาจจะต้านไว้ไม่ได้เลย

ดีที่อยู่เวทีประลองสุญญะ ผู้แข็งแกร่งระดับอริยะสร้างขึ้นมีพลังป้องกันแข็งแกร่ง ปกติจะทำลายไม่ได้เลย

สองคนถอยรูดออกไป ดวงตาขยับประกายจริงจัง

การโจมตีนี้สูสีกัน

ยอดฟ้ารุ่นเจ็ดทำเสียงขึ้นจมูก “มีความสามารถอยู่บ้าง แต่ยังไม่พอ ศักยภาพแฝงของดินแดนกลาง แดนป่าเถื่อนจะไปเทียบได้อย่างไร”

ตึง!

หม้อหลอมส่งเสียงดังขึ้น

ปรากฏหม้อหลอมเล็กสีเงินใบหนึ่งลอยขึ้นมาตรงหน้ายอดฟ้ารุ่นเจ็ด คล้ายกับปรากฏการณ์ข้างหลังเขาอย่างยิ่ง

หม้อหลอมเล็กเปล่งแสงสีสันหลากสี แผ่อำนาจเทพกลายเป็นขนาดร้อยจั้ง

บุตรศักดิ์สิทธิ์ยอดฟ้ารุ่นเจ็ดเคลื่อนหม้อหลอมเงินยักษ์ กลิ่นอายพลังพุ่งพรวดขึ้น!

บึ้ม!

อำนาจเทพกวาดล้างเข้าไป ถาโถมไปเหมือนคลื่นลูกยักษ์สูงเทียมฟ้า

ประกายหม้อสว่างจ้า ตกลงมาเหมือนหินภูเขา หนักพันชั่ง บดขยี้มวลอากาศแตกกระจาย

เคหาสน์ม่วงรุ่นเจ็ดมีสีหน้าจริงจัง นำทวนยาวมังกรเงินออกมา พลังของทวนแหลมคม ก่อนจะแทงรัวออกไป

ประกายทวนจู่โจมออกไปเหมือนกับพายุฝันดอกสาลี่ แทงห้วงอากาศแตกเป็นรูเต็มไปหมด!

บึ้ม!

สะเก็ดไฟแตกกระเซ็น!

หม้อใหญ่สีเงินกับทวนยาวมังกรเงินปะทะกันอย่างแรง พลังอำนาจเทพโหมซัดสาด หมุนตลบไปโดยรอบ

เคหาสน์ม่วงรุ่นเจ็ดหน้าเปลี่ยนสีไปอย่างรุนแรง เหมือนถูกพลังแข็งแกร่งยิ่งกระแทกใส่ ทำให้อวัยวะภายในสั่นสะเทือน!

พรวด!

โลหิตพุ่งมาจากปาก เคหาสน์ม่วงรุ่นเจ็ดกระเด็นออกไป กลิ่นอายพลังปั่นป่วน

……

“สมควรตาย!”

เคหาสน์ม่วงรุ่นเจ็ดกัดฟัน จ้องยอดฟ้ารุ่นเจ็ดด้วยความหวาดกลัว

ภายใต้การเสริมด้วยหม้อหลอมใหญ่สีเงิน ศักยภาพของยอดฟ้ารุ่นเจ็ดกลายเป็นน่าสะพรึงอย่างยิ่ง พลังอำนาจเอ่อล้นไม่อาจต้านได้!

โอรสสวรรค์ดินแดนบูรพาพูดด้วยความโกรธ “ต่ำช้า ไม่อยากเชื่อว่าจะใช้อาวุธวิญญาณระดับสูงสุด!”

หม้อหลอมเล็กสีเงินนั้นคืออาวุธวิญญาณระดับสูงสุด เพิ่มศักยภาพให้ยอดฟ้ารุ่นเจ็ดได้มหาศาล

โอรสสวรรค์ดินแดนกลางพูดเหยียดหยาม “ไอ้บ้านนอก อาวุธก็เป็นส่วนหนึ่งของศักยภาพอยู่แล้ว! ตัวเองยากจนก็อย่าไปโทษคนอื่นสิ ถ้ามีความสามารถพวกเจ้าก็ใช้ด้วยสิ!”

อาวุธวิญญาณระดับสูงสุดล้ำค่าอย่างยิ่ง ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งผู้สูงศักดิ์สวรรค์ส่วนใหญ่ก็อาจจะไม่มีใช้

จนถึงตอนนี้เคหาสน์ม่วงรุ่นเจ็ดมีเพียงอาวุธวิญญาณระดับสูงชิ้นเดียว

องค์ชายราชันใต้สือขุยมีอายุสองร้อยกว่าปี พลังบำเพ็ญถึงผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตอนปลาย

เขาลงนามสัญญากับเต่าดำทะเลอุดร มีพลังป้องกันไม่เป็นสองรองใคร

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ปกติทำลายการป้องกันเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ

พลังบำเพ็ญกับศักยภาพของเขา ยังแกร่งกว่าองค์ชายราชันเหนือเล็กน้อยด้วยซ้ำ

มีสองคนนี้อยู่ อย่าว่าแต่บุตรศักดิ์สิทธิ์รุ่นหนึ่งสิบคนเลย ต่อให้ยี่สิบคนก็ไม่กลัว!

……

องค์ชายราชันเหนือสือหลิงชำเลืองตามองทุกคนทีหนึ่ง ก่อนเอ่ยอย่างเฉยชา “โยนพวกมันออกไปให้หมด! องค์หญิงหลิงหลงจะมาถึงแล้ว อย่าทำให้องค์หญิงเสียอารมณ์!”

โอรสสวรรค์ดินแดนกลางรีบพยักหน้า ขณะจะโยนโอรสสวรรค์ดินแดนบูรพาออกไปให้หมดนั้น พลันปรากฏเงาคนกลุ่มหนึ่งตรงประตูทางเข้า

คนที่มาคือพวกเสิ่นเทียน

เมื่อทุกคนเห็นภาพนี้ก็อึ้งไปเล็กน้อย

พวกจางอวิ๋นถิงตั้งสติกลับมาได้ก็รีบตรงเข้าไป “พวกศิษย์พี่ไม่เป็นไรนะ”

จางอวิ๋นถิงมองบุตรศักดิ์สิทธิ์สตรีศักดิ์สิทธิ์ที่จมูกเขียวหน้าบวมพลางมุมปากกระตุก

อะไรกัน!

พวกศิษย์พี่บอกว่าจะเลี้ยงต้อนรับเราไม่ใช่รึ เหตุใดถึงกลายเป็นสภาพนี้

เทพสวรรค์รุ่นเก้าหน้าบวมตุ่ย กัดฟันพูดลมรั่วออกมา “อวิ๋นถิง พวกศิษย์พี่ไร้ประโยชน์เอง ตอนแรกจะเลี้ยงต้อนรับพวกเจ้า จัดเตรียมไว้แล้ว แต่ไม่นึกเลยว่าจะถูกคนแย่งที่!”

เทพสวรรค์รุ่นเก้าเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รุ่นก่อน ย่อมรู้จักพวกจางอวิ๋นถิง

จางอวิ๋นถิงถอนหายใจ ก่อนจะส่ายหน้า “ไฉนศิษย์พี่ต้องทำเช่นนี้! ข้าบอกเสมอว่าให้กลมเกลียวกันไว้ กลมเกลียวกันไว้ ศิษย์พี่ก็ไม่ฟัง เฮ้อ!”

โอรสสวรรค์ทุกคนเงียบ

นี่จะกลมเกลียวได้กับผีสิ

ใบหน้าถูกทุบตีบวมแล้ว เจ้าจะให้กลมเกลียวกันอีกหรือ

องค์หญิงหลิงหลงขมวดคิ้วเล็กน้อย นางถามเข้าประเด็นเลย “พวกท่านจะทำอะไรกัน”

องค์ชายราชันใต้เดินเข้ามา “หลิงหลง เจ้าพวกนี้ไม่รู้จักดีชั่ว ข้าเลยสั่งสอนให้แทนอาจารย์พวกมัน”

องค์หญิงหลิงหลงพูดด้วยความโกรธนิดๆ “ญาติผู้พี่ พวกท่านทำเช่นนี้ได้อย่างไร”

องค์หญิงหลิงหลงเกิดความตระหนกขึ้นมานิดๆ แล้ว

….

ทำอย่างไรดี

ญาติผู้พี่ทุบตีพวกศิษย์พี่ของพี่เสิ่นเทียนจนเป็นสภาพนี้ ข้าจะบอกกับพี่เสิ่นเทียนอย่างไร!

พี่เสิ่นเทียนจะโกรธข้าหรือไม่

จะไม่ชอบข้าหรือไม่

ยิ่งคิดยิ่งโกรธ องค์หญิงหลิงหลงจึงถลึงตามองสือหลิงกับสือขุยไปที

สือหลิงกับสือขุยทำหน้ามึนงง

อะไรกัน

เหตุใดเจ้าถึงโกรธกัน ก็แค่ทุบตีโอรสสวรรค์จากดินแดนบูรพาเอง มันจะอะไรนักหนา

สือหลิงกับสือขุยคับอกคับใจมาก แต่ไม่กล้าพูดอะไรมาก

องค์หญิงหลิงหลงเป็นที่โปรดปรานของจักรพรรดิสือ บิดาพวกเขายังเอ็นดูหลิงหลงมากด้วย

หากท่านพ่อพวกเขารู้ว่าทำให้องค์หญิงหลิงหลงโกรธ จะต้องถูกจัดการแน่นอน

นี่ไม่เท่าไร ถึงอย่างไรก็เป็นพ่อลูกแท้ๆ กัน คงไม่จัดการอะไรมาก

ที่สำคัญคือคนที่โปรดปรานองค์หญิงหลิงหลงไม่ได้มีแค่ผู้อาวุโสพวกนี้!

แต่ยังมีสือเทียนจื่อคนที่ได้รับขนานนามว่าผู้สูงส่งสูงสุดหนุ่ม!

…..

หากน้องเทียนจื่อรู้เข้า เกรงว่าคงถูกทุบตีจนหน้าบวม!

องค์ชายผู้โอหังทั้งสองเจอกับสือเทียนจื่อที่อายุน้อยกว่าพวกเขา ยังต้องยอมในทันที!

ถึงอย่างไรการทุบตีของเจ้าสัตว์ประหลาดน้อยนั่น ก็ไม่ใช่ว่าใครจะทนรับได้!

………………..