บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 422

บทที่ 422 สี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ ข้าจะสู้กับสิบคน!

โอรสสวรรค์ดินแดนกลางทุกคนไม่ยอมอยู่ในใจ

ไม่นึกเลยว่าองค์หญิงหลิงหลงจะกล่าวโทษพวกเขาเพื่อโอรสสวรรค์ดินแดนบูรพาไม่กี่คน แม้แต่สององค์ชายยังหนีไม่รอด

แต่ก็จนปัญญาเพราะองค์หญิงหลิงหลงมีฐานะสูงส่ง ทำให้พวกเขาไม่กล้าล่วงเกิน

แต่ไม่กล้าล่วงเกิน ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ยอมอยู่ในใจ

บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันพูดพึมพำ “ก็แค่ทุบตีพวกขยะดินแดนบูรพาเองไม่ใช่รึ ศักยภาพตัวเองอ่อนแอ จะไปโทษใครได้”

ในสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ย โอรสสวรรค์ดินแดนกลางอยู่รั้งท้ายมาตลอด

ไม่ว่าจะศักยภาพแฝงหรือภูมิหลัง ก็ไม่อาจเทียบกับโอรสสวรรค์ดินแดนกลางได้ โอรสสวรรค์ดินแดนบูรพาถูกสั่งสอน ก็จงยอมรับเสียดีๆ เถอะ มีน้อยคนมากที่จะกู้หน้ากลับมาได้

พวกเขาเอาชนะโอรสสวรรค์ดินแดนบูรพาบนเวทีประลองสุญญะอย่างถูกต้อง ต่อให้เป็นสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยก็ไม่สอดมือ

โอรสสวรรค์ดินแดนบูรพาได้ยินดังนั้นพลันโกรธจัด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ แพ้ก็คือแพ้ พูดมากไปก็ไม่มีประโยชน์

เทพสวรรค์รุ่นเก้าฝืนพูดยิ้มแย้ม “พวกศิษย์น้องทั้งหลาย เราเปลี่ยนที่กันเถอะ!”

“ไม่ได้!”

จางอวิ๋นซีกับฟางฉางเจ้าคนเจ้าอารมณ์สองคนนี้โกรธแล้ว!

คนอื่นมารังแกศิษย์พี่ตน นี่จะไปทนได้อย่างไร

สองคนพุ่งขึ้นเวทีประลองสุญญะ ยืนอยู่กลางฟ้าดินอย่างโอหัง มองโอรสสวรรค์ดินแดนกลางพวกนั้นอย่างเย็นชา

“พวกเจ้าว่าอะไรนะ เก่งจริงพูดมาอีกทีสิ!”

บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันทำเสียงขึ้นจมูก “พวกเขายินดีจะประลองกับเรา แพ้ก็ได้แต่บอกว่าศักยภาพไม่ได้เรื่อง!”

ถึงจางอวิ๋นซีจะมากับองค์หญิงหลิงหลง แต่พวกเขากลัวองค์หญิงหลิงหลง ไม่ได้กลัวคนอื่น

…..

ฟางฉางยิ้มเยาะ “เหอะๆ ดีมาก! เช่นนั้นเราก็มาลองดูกัน! ข้าอยากรู้นักว่าโอรสสวรรค์ดินแดนกลางจะแกร่งเพียงใด!”

“ข้าไม่สู้กับคนไร้ชื่อเสียง!”

ดวงตาฟางฉางเหมือนกระบี่ เอ่ยอย่างเฉยชา “แซ่ฟาง คือศิษย์สายตรงรุ่นสิบของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์!”

เมื่อเอ่ยจบ โอรสสวรรค์ดินแดนกลางต่างหัวเราะเยาะ!

“กับอีแค่ศิษย์สายตรง ยังกล้ามายั่วยุพวกข้ารึ พวกโอหัง ไม่รู้ว่าคำว่าตายเขียนอย่างไรหรือ”

“ไม่เห็นใครในสายตาจริงๆ!”

“สหายเก้าตะวัน ไปสั่งสอนมันให้เป็นคนหน่อยเถอะ!”

บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันดวงตามืดทะมึน แผ่กลิ่นอายดุร้ายออกมาทั้งตัว

กับอีแค่ศิษย์สายตรงเล็กจ้อยคนเดียว กลับกล้ายั่วยุบุตรศักดิ์สิทธิ์แดนแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันอย่างเขารึ

บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันทำเสียงขึ้นจมูก “ช่างไม่รู้อะไรเสียเลย!”

เขาพุ่งขึ้นเวทีประลองสุญญะ จากนั้นมีดวงตะวันร้อนแรงลอยขึ้นสามดวง แผ่พลังอำนาจยิ่งใหญ่!

เขามองออกว่าฟางฉางบรรลุเพียงดวงจิตดรุณตอนปลาย แต่เขาเป็นเก้าตะวันรุ่นเก้า บรรลุจุดสูงสุดดวงจิตดรุณมานานแล้ว

รับมือกับศิษย์สายตรงของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์คนเดียว แค่เรื่องง่ายๆ ไม่ใช่รึ

แดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันกับแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไม่ลงรอยกันมาตลอด แอบประชันกันมาตลอด โดยเฉพาะเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สังหารผู้อริยะของแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันด้วยกระบี่เดียว ทำให้แดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันขายหน้ายับเยิน

แดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันไม่กล้าไปกู้หน้าคืนจากเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ได้แต่มาหาเรื่องบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ทุกรุ่นในสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ย

เก้าตะวันรุ่นเก้าคิดจะสั่งสอนฟางฉางสักตั้ง กู้ศักดิ์ศรีของแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันคืนมา!

เขาชิงออกมือก่อน ดวงตะวันร้อนแรงสามดวงข้างหลังเปล่งประกายระยิบระยับ หมุนม้วนเข้ามาพร้อมกับอุณหภูมิร้อนระอุ เผาห้วงอากาศเป็นความว่างเปล่า

คัมภีร์เทพยุทธ์เก้าตะวันที่แดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันฝึกฝนกับคัมภีร์จักรพรรดิเก้าตะวันของมหาจักรพรรดิอีกาทองมาจากแหล่งที่มาเดียวกัน

เก้าตะวันรุ่นเก้าอาศัยพลังบำเพ็ญดวงจิตดรุณตอนปลายก็เคลื่อนสามตะวันได้ มีพรสวรรค์ไม่ธรรมดาเลย

ดวงตะวันร้อนแรงสามดวงอยู่ค้ำฟ้า ประกายไฟร้อนแรงพลันปะทุขึ้น กลายเป็นเปลวไฟไหลหลากถาโถมเข้าใส่ฟางฉาง

ฟางฉางสีหน้าไม่เปลี่ยน ประกายสายฟ้ารอบตัวกระจายออก แสงเทพสีสันหลากสีพุ่งขึ้นฟ้า

ข้างหลังเขารวมเป็นปรากฏการณ์กิเลนใหญ่ตัวหนึ่ง แสงเทพปัญจธาตุหมุนวนไม่ขาด กลิ่นอายพลังทรงอำนาจ

โฮก!

ปรากฏการณ์กิเลนผนึกแดนกลางส่งเสียงคำราม ก่อนพุ่งเข้าใส่สามดวงตะวันพร้อมกับประกายสายฟ้าปัญจธาตุ

บึ้ม!

แสงเทพกระจายออก พลานุภาพน่าสะพรึงกลัว!

สองคนพลันถูกแสงเทพไม่มีสิ้นสุดปกคลุม คลื่นพลังน่าสะพรึงถาโถมเข้าไป ทำให้ท้องนภาสั่นสะเทือน หากไม่ใช่เพราะที่นี่มีค่ายกลคุ้มกัน เกรงว่าแม้แต่อากาศยังถูกทำลาย พลังอำนาจแข็งแกร่งถึงที่สุด

เมื่อสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังการต่อสู้ที่ระเบิดมาจากเวทีประลองสุญญะแล้ว เหล่าโอรสสวรรค์ดินแดนกลางต่างแอบตกใจ

ศิษย์สายตรงรุ่นนี้ของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มีศักยภาพแข็งแกร่งขนาดนี้เชียว ถึงขนาดสูสีกับเก้าตะวันรุ่นเก้าได้!

จางอวิ๋นซีด้านข้างมีสีหน้าเฉยชา ก่อนจะกวาดสายตามองไปที่ยอดฟ้ารุ่นเจ็ด

จางอวิ๋นซีพูดด้วยความเย็นชา “เจ้า ขึ้นมา!”

ยอดฟ้ารุ่นเจ็ดพลันโกรธจัด ทำเสียงหึทีหนึ่ง “รนหาที่ตาย!”

ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะถูกนางแพศยาดูถูก นี่จะไปยอมได้อย่างไร

ยอดฟ้ารุ่นเจ็ดพลันระเบิดพลังออกมา เคลื่อนหม้อหลอมยักษ์กดทับใส่จางอวิ๋นซี

หม้อหลอมยักษ์ขยับแสงวาววับ ปะปนกับแสงสีเงินสว่างแสบตา ทำให้ปรากฏการณ์หม้อหลอมยักษ์น่าสะพรึงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

เหมือนกับขุนเขาเทพบรรพกาลกดทับลงมา

เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของบุตรศักดิ์สิทธิ์ ยอดฟ้ารุ่นเจ็ดจึงใช้อาวุธวิญญาณระดับสูงสุด จะกำราบจางอวิ๋นซีด้วยพลังแก่กล้า!

จางอวิ๋นซีมีดวงตาดั่งหิมะ แสงเทพสว่างทั่วตัว พลังทรงอำนาจขึ้นเรื่อยๆ

อัสนีเทพกำเนิดฟ้าธาตุทองสีทองสว่างจ้าปะทุออกมาจากในกายนาง พุ่งขึ้นฟ้าไปพร้อมกับกลิ่นอายพลังทำลายล้าง ประกายสายฟ้าตัดสลับ สายฟ้ากระจายออก เหมือนเคราะห์สวรรค์มาเยือน!

พยัคฆ์ขาวธาตุทองหมื่นจั้งคำรามฟ้าดิน ทำลายห้วงอากาศแตกกระจาย ทำให้เขตนี้ถล่มทลายลง จะกลายเป็นซากปรักหักพัง

ปรากฏการณ์พยัคฆ์ขาวคำรามนภาพลันปะทุขึ้น เหมือนสัตว์เทพบรรพกาลปรากฏกายและพุ่งเข้าใส่หม้อหลอมยักษ์

ยอดฟ้ารุ่นเจ็ดพลันรู้สึกถึงแรงกดดันเพิ่มมากขึ้น แม้แต่แววตายังจริงจังขึ้นมา

“หม้อหลอมกำราบฟ้าดิน!”

ยอดฟ้ารุ่นเจ็ดคำรามเสียงดัง เคลื่อนปรากฏการณ์หม้อหลอมยักษ์ปกคลุมใส่พยัคฆ์ขาวธาตุทอง

หม้อหลอมยักษ์กลายเป็นแสงสีขาวหนาทึบ พลันปกคลุมใส่พยัคฆ์ขาวธาตุทอง

เงามายาควบแน่นเป็นของจริง กดอัดพยัคฆ์ขาวธาตุทองไว้ในหม้อหลอม แสงเทพสว่างพร่างพราวไหลเวียนในหม้อหลอมยักษ์ แฝงไว้ด้วยพลังมหาศาลหดตัวเข้ามาเรื่อยๆ จะบดขยี้พยัคฆ์ขาวธาตุทองในนั้นให้แหลกเป็นเสี่ยงๆ!

ขณะเดียวกัน หม้อหลอมเล็กนั้นยังคลุมใส่จางอวิ๋นซี กดอัดนางไปพร้อมๆ กัน!

จางอวิ๋นซีทำเสียงขึ้นจมูกทีหนึ่ง นางเคลื่อนอัสนีเทพธาตุทองเต็มผืนฟ้าขึ้นมา กลายเป็นคมสายฟ้าที่เฉียบคมและบ้าคลั่งพุ่งเข้าไป

ชิ้ง!

เกิดเสียงโลหะกระทบกัน!

หม้อหลอมเล็กสีเงินถูกอัสนีเทพกำเนิดฟ้าธาตุทองกระแทกถอยไป ประกายสายฟ้าที่พุ่งออกมาวนเวียนรอบตัวยอดฟ้ารุ่นเจ็ด ทำให้เขาตัวสั่นอย่างรุนแรง!

ประกายสายฟ้ากระจายออก งูอัสนีปลิวว่อน หลากสีและยังสว่างพร่างพราว!

ชั่วพริบตาเดียว ยอดฟ้ารุ่นเจ็ดถูกผ่าไหม้เกรียม เส้นผมตั้งชี้ ตกลงบนเวทีประลองสุญญะ

…..

โอรสสวรรค์ดินแดนกลางใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ “เป็นไปได้อย่างไร”

ยอดฟ้ารุ่นเจ็ดมีศักยภาพไม่ธรรมดา อาศัยอานุภาพของอาวุธวิญญาณระดับสูงสุด สู้กับผู้สูงศักดิ์สวรรค์ได้!

ทว่าในการสู้กับจางอวิ๋นซี กลับพ่ายแพ้เร็วเช่นนี้เลยหรือ

อีกด้านหนึ่ง สุดท้ายดวงตะวันร้อนแรงสามดวงก็ถูกกิเลนกำราบลง อัสนีเทพปัญจธาตุพุ่งออกไปย้อมท้องนภา

ท้ายที่สุดดวงตะวันสามดวงถูกทำลาย และยังมีร่างคนหนึ่งกระเด็นออกมา ตกลงพื้นอย่างแรง นั่นคือเก้าตะวันรุ่นเก้า ถูกฟางฉางถีบออกจากเวทีประลองสุญญะ!

“อะไรกัน”

โอรสสวรรค์ดินแดนกลางตกใจเล็กน้อย เก้าตะวันรุ่นเก้าก็แพ้รึ

ศิษย์สายตรงรุ่นสิบของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แกร่งขนาดนี้เชียว

จางอวิ๋นซีกับฟางฉางสองคนยืนบนเวทีประลองสุญญะ มองโอรสสวรรค์ดินแดนกลางจากด้านบน

“นี่คือศักยภาพของโอรสสวรรค์ดินแดนกลางรึ เหอะ ก็ได้แค่นี้!”

โอรสสวรรค์ดินแดนกลางโมโหจัด พวกเขาเคยถูกใครหยามเกียรติเช่นนี้ด้วยรึ

ก่อนจะมีโอรสสวรรค์อีกสองคนพุ่งขึ้นไป ยืนประจันหน้าสองคน พลังเย็นยะเยือก

นั่นคือบุตรศักดิ์สิทธิ์รุ่นเจ็ดของแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันกับแดนศักดิ์สิทธิ์ฟ้าทมิฬ พลังบำเพ็ญอยู่จุดสูงสุดดวงจิตดรุณ

พวกเขาเปล่งแสงเทพทั้งตัว แสงเทพสว่างจ้า เผยกลิ่นอายพลังแข็งแกร่ง

นั่นคืออาวุธวิญญาณระดับสูงสุด สวมจากศีรษะจรดเท้า ทำให้กำลังรบพวกเขาพลันพุ่งพรวดขึ้น!

“จะไปยอมให้พวกเจ้าหยามศักดิ์ศรีของโอรสสวรรค์ดินแดนกลางได้อย่างไร”

บุตรศักดิ์สิทธิ์สองคนทำเสียงขึ้นจมูก ก่อนจะกระตุ้นอาวุธวิญญาณระดับสูงสุดจู่โจมใส่สองคน

โอรสสวรรค์ดินแดนบูรพาด้านล่างตะโกนเสียงดัง “พวกเจ้าอย่าหน้าไม่อายให้มากนัก! สู้ไม่ได้ก็เปลี่ยนอาวุธ! ไม่อยากเชื่อว่าจะสวมอาวุธวิญญาณทั้งชุดมาสู้กับพวกศิษย์น้อง!”

โอรสสวรรค์ดินแดนบูรพาจะไม่โกรธได้อย่างไร ก่อนหน้านี้ที่พวกเขาแพ้ให้โอรสสวรรค์ดินแดนกลางไม่ใช่เพราะศักยภาพไม่พอ แต่เป็นเรื่องความต่างของอุปกรณ์

ตอนนี้โอรสสวรรค์ดินแดนกลางกลับจะใช้ไม้นี้มารับมือกับจางอวิ๋นซีและฟางฉาง ถ้าไม่ใช่เพราะบาดเจ็บ พวกเขาก็เตรียมจะเข้าไปสู้อีกรอบแล้ว!

โอรสสวรรค์ดินแดนกลางมองเหยียด ขี้เกียจจะสนใจเจ้าพวกนี้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่คิดว่าการใช้อุปกรณ์เสริมพลังเป็นเรื่องไม่ถูกต้องอะไร!

แสงเทพหลากสีพุ่งมาจากอาวุธวิญญาณระดับสูงสุด แผ่พลังอำนาจเทพ ทำให้ท้องนภาสั่นสะเทือน

เวทีประลองสุญญะพลันถูกแสงเทพมากมายวนเวียน สว่างแสบตาถึงที่สุด ทำให้คนมองเห็นไม่ชัด

บุตรศักดิ์สิทธิ์รุ่นเจ็ดทั้งสองมองออกว่าจางอวิ๋นซีกับฟางฉางมีศักยภาพไม่ธรรมดา ฝึกคัมภีร์จักรพรรดิเทพสวรรค์ถึงระดับสูงสุด หากสู้กันตามปกติ พวกเขาก็อาจจะไม่ชนะ

แต่พวกเขามีศักยภาพแฝงลึกล้ำ ต่อให้เป็นผู้สูงศักดิ์สวรรค์ก็อาจจะไม่มีอาวุธวิญญาณระดับสูงสุด แต่พวกเขาเอาออกมาได้

บุตรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองไม่เชื่อว่าอาวุธวิญญาณระดับสูงสุดทั้งชุดจะกำราบเจ้าสองคนนี้ไม่ได้

บึ้ม!

บึ้ม!

บึ้ม!

เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นกลางเวทีประลองสุญญะ!

แสงเทพหลากสีพุ่งกระจายไปรอบๆ ทะลวงผ่านห้วงอากาศไม่มีสิ้นสุด

คลื่นพลังน่าสะพรึงเหมือนจะทำลายภูผานที แผ่กลิ่นอายพลังที่ทำให้คนหวาดกลัว เห็นได้ชัดว่ากำลังเกิดมหาศึกสะท้านฟ้า

โอรสสวรรค์ดินแดนกลางเต็มไปด้วยความมั่นใจ ด้วยศักยภาพของบุตรศักดิ์สิทธิ์รุ่นเจ็ดทั้งสอง ประกอบกับอาวุธวิญญาณระดับสูงสุดทั้งตัว ก็เพียงพอจะกำราบบุตรศักดิ์สิทธิ์รุ่นเดียวกันได้

การรับมือกับเจ้าหนูรุ่นสิบสองคน เป็นเรื่องง่ายๆ ไม่ใช่รึ

ตึง!

ตึง!

…..

เสียงกายเนื้อปะทะกันดังขึ้น

กลางแสงเรืองรองไม่มีสิ้นสุด สองร่างพุ่งออกมากระแทกกับพื้นอย่างแรง เกิดฝุ่นดินคละคลุ้ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน