บทที่ 425 แซ่เสิ่นจะอยู่เงียบๆ เหตุใดถึงยากเช่นนี้!
การต่อสู้ของฉีเซ่าเสวียนกับสือหลิงดุเดือดยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
ไอม่วงสามสิบสามชั้นภูผานทีกำราบท้องนภา แสดงอำนาจไร้พ่ายออกมาอย่างชัดเจน
เขาใช้มือข้างหนึ่งควบคุมไอม่วงภูผานที อีกมือกวัดแกว่งง้าวมังกรสวรรค์ สำแดงทักษะรบคัมภีร์จักรพรรดิมังกรแท้กับวิชาคุนเผิงออกมาอย่างถึงที่สุด
พลังเทพเจ้าไม่มีสิ้นสุดไหลเวียนออกมา เหมือนกับคลื่นลูกใหญ่ กระแทกใส่สือหลิงจนสงสัยในชีวิต!
เจ้าเด็กนี่มันอะไรกัน
เพิ่งทะลวงระดับหลอมรวมเทพก็มีกำลังรบเช่นนี้รึ
ข้าเป็นผู้แข็งแกร่งระดับหลอมรวมเทพตอนกลางผู้ยิ่งใหญ่ กลับถูกเจ้าหนูที่เพิ่งหลอมรวมเทพทุบตีหรือ
ล้อเล่นอะไรกัน
หรือว่าวันนี้ออกจากบ้านมาไม่ดูปฏิทิน เจอกับผีกัน
หากไม่ใช่เพราะเห็นฉีเซ่าเสวียนทะลวงดวงจิตดรุณไปหลอมรวมเทพกับตา สือหลิงคงคิดว่าเขาเป็นตาแก่จุดสูงสุดหลอมรวมเทพ แสร้งเป็นเด็กหนุ่มมาเย้าหยอกเขา!
แต่ไม่นานเขาก็ได้สติกลับมา เริ่มเคลื่อนพลังสวนกลับ
สือหลิงเป็นองค์ชายราชันเหนือ ย่อมมีศักยภาพไม่ธรรมดา กำราบคู่ต่อสู้มาตลอด ใช้พลังไร้พ่ายเรียกได้ว่าเป็นผู้สูงส่ง!
ไม่เคยมีใครสู้กับเขาได้นานเช่นนี้มาก่อน กระทั่งกำราบเขา
จิตต่อสู้ในใจสือหลิงพลันลุกขึ้นมา!
เขาเปล่งแสงทองรอบตัว สว่างจ้าเหมือนดวงตะวัน พุ่งขึ้นเมฆนภา ท้องฟ้าถอดสี
ปรากฏการณ์พญาเผิงปีกทองบดบังฟ้าบังดวงตะวัน คำรามเสียงดังสนั่นฟ้าดิน ทำลายไอม่วงเต็มฟ้า ไอม่วงสามสิบสามชั้นภูผานทีพังทลายลงทั้งหมด!
……
ฉีเซ่าเสวียนเพ่งสายตามองเล็กน้อย เขารู้สึกว่ากลิ่นอายพลังของสือหลิงเปลี่ยนไป เหมือนกับสัตว์ร้ายโบราณ มีพลังดุร้ายอย่างยิ่ง!
สือหลิงหลุดจากพันธนาการของไอม่วงภูผานที ทั่วร่างอาบแสงทองเหมือนเทพเจ้ามาเยือน
เขาจ้องฉีเซ่าเสวียน ดวงตาร้อนแรง “เจ้าแกร่งมาก สู้กับผู้สูงศักดิ์สวรรค์ปกติได้ น่าเสียดาย เจ้ามาเจอข้า! ศึกนี้ เจ้าถูกลิขิตว่าต้องแพ้เหนือ!”
สือหลิงควงดาบตะวันจันทราฟ้าดินในมือก่อนวาดใส่ท้องนภา
พริบตานั้นแสงเทพพุ่งออกมา พลังแห่งตะวันจันทราหมุนวนไม่หยุด ปะปนกับแสงทองแสบตา
พญาเผิงปีกทองสว่างจ้าไหลเวียนอยู่บนดาบตะวันจันทราฟ้าดิน พลานุภาพรวดเร็วและดุดันขึ้นเรื่อยๆ ไม่อาจต้านทานได้!
“เก้าตัดสังหารปักษาสวรรค์!”
สือหลิงพุ่งขึ้น หลอมรวมกับดาบตะวันจันทราฟ้าดินเป็นหนึ่งเดียว เหมือนกับเผิงสวรรค์แนบกาย กำลังฟันปีกเทพ ทำลายล้างภูผานที!
ไอดาบสีทองถูกฟันออกมา ทะลวงผ่านเวทีประลองสุญญะ ทำลายห้วงอากาศ น่าสะพรึงถึงที่สุด
“มาได้จังหวะพอดี!”
ดวงตาสีม่วงตรงระหว่างคิ้วฉีเซ่าเสวียนเปล่งแสงสว่างจ้า แสงสีสันพร่างพราวพุ่งออกมาจากระหว่างคิ้ว ตรงเข้าจู่โจมปรากฏการณ์เผิงสวรรค์
แสงวิบัติเนตรม่วงพลันพุ่งออกไปพร้อมกับพลังสูงสุด ปะทะกับเก้าตัดสังหารปักษาสวรรค์ กระจายมันออกไปเรื่อยๆ จนทำลายล้างสิ้นซาก!
ฉีเซ่าเสวียนไม่เคยหยุดเลย ปรากฏการณ์คุนเผิงที่ปรากฏมาข้างหลังกับปรากฏการณ์มังกรเทพ สองสิ่งวนเวียนกัน พุ่งเข้าไปในง้าวมังกรสวรรค์ทั้งหมด!
ตอนนี้ กลิ่นอายพลังของฉีเซ่าเสวียนทรงอำนาจอย่างยิ่ง เหมือนกับเทพสงครามผู้กุมการเข่นฆ่า จะชี้ขาดฟ้าดิน!
“คุนเผิงเทพมังกรสังหาร!”
ฉีเซ่าเสวียนคำรามเสียงดัง ง้าวมังกรสวรรค์กวาดห้วงอากาศ กระจายพลังแห่งคุนเผิงเทพมังกรออกไป พลังสั่นสะเทือนแปดทิศ!
บึ้ม!
แสงเทพระเบิดกระจาย กฎเกณฑ์ปั่นป่วน!
อานุภาพเทพเจ้ายิ่งใหญ่พุ่งทำลายเส้นขอบฟ้า ปั่นป่วนท้องนภา ทำลายค่ายกลคุ้มกันแตกเป็นรูใหญ่
โอรสสวรรค์ในที่นี้ต่างมีสีหน้าตื่นตะลึง เหลือเชื่อ
ค่ายกลคุ้มกันของเวทีประลองสุญญะแห่งนี้วางโดยปรมาจารย์ระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์จุดสูงสุดของสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ย มีน้อยคนนักที่จะทำลายได้!
แต่ตอนนี้คลื่นพลังการต่อสู้ของฉีเซ่าเสวียนกับองค์ชายราชันเหนือกลับน่าสะพรึงถึงเพียงนี้ ทำให้คนหนาวสั่น!
ทุกคนอดเฝ้ารอคอยมิได้ว่าศึกนี้ใครจะแพ้ใครจะชนะกันแน่
เวทีประลองสุญญะกลับมาชัดเจนอีกครั้ง ปรากฏการณ์พญาเผิงปีกทองที่เดิมทีทรงอำนาจนั้นกำลังถูกปรากฏการณ์คุนเผิงเทพมังกรกลืนกิน แสงทองอ่อนลง!
บึ้ม!
เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น!
องค์ชายราชันเหนือกระแทกกับเวทีประลองสุญญะอย่างแรงจนเป็นหลุมใหญ่บนเวที
แท่นวิหคทองแดงใหญ่เงียบสงัด
โอรสสวรรค์ดินแดนกลางดวงตาเหม่อลอย ดูเหลือเชื่อ
ไม่ใช่กระมัง!
องค์ชายราชันเหนือแพ้รึ
โอรสสวรรค์ดินแดนบูรพารุ่นนี้แกร่งเกินไปหน่อยกระมัง!
หรือว่าฐานะของโอรสสวรรค์ดินแดนบูรพาจะพลิกกลับในรุ่นนี้
สำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยเป็นแหล่งรวมโอรสสวรรค์ห้าดินแดน แต่คนที่แกร่งที่สุดมาตลอดคือโอรสสวรรค์ดินแดนกลาง
ผู้แข็งแกร่งโอรสสวรรค์ดินแดนกลางทุกรุ่นมีศักยภาพแก่กล้า วางฐานะราชันที่ไม่อาจสั่นคลอนได้ในสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ย!
แต่ตอนนี้โอรสสวรรค์รุ่นนี้ของดินแดนบูรพาปรากฏมา ทำให้พวกเขาเกิดวิกฤติร้ายแรง!
“องค์ชายราชันใต้ต้องชนะแน่นอน!”
โอรสสวรรค์ดินแดนกลางฝากความหวังไว้กับองค์ชายราชันใต้
สถาณการณ์รบชัดเจน บุตรศักดิ์สิทธิ์ท้องนภาสมกับคำว่าท้องนภา ถูกองค์ชายราชันใต้ทุบตีเหมือนสุนัขตกน้ำ รู้จักแต่ลนลานหนี ไม่มีที่ให้สวนกลับเลย!
ศึกนี้ชนะแน่นอน!
….
องค์ชายราชันใต้สือขุยเห็นสือหลิงพ่ายแพ้ก็ขมวดคิ้วมุ่น
สถานการณ์ไม่ดีกับทางโอรสสวรรค์ดินแดนกลางมากแล้ว จะต้องมีคนก้าวออกมาเอาชนะถึงจะกู้ศักดิ์ศรีคืนได้!
สือขุยไม่อยากเสียเวลา เขาจะใช้พลังแก่กล้าตีหวังเสินซวีให้แตกกระเจิง!
โฮก!
เต่าดำเงยหน้าคำรามขึ้นฟ้า แม่น้ำทมิฬไม่มีสิ้นสุดไหลหลากออกมา ปกคลุมฟ้าดิน
สือขุยจะตัดห้วงมิตินี้ ให้หวังเสินซวีใช้พลังแห่งมิติหนีไม่ได้อีก
กลางท้องนภา แม่น้ำทมิฬไม่มีสิ้นสุดตกลงมา กฎเกณฑ์วนเวียน ผนึกฟ้าดิน แช่แข็งห้วงอากาศทั้งหมด
หวังเสินซวีหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย สัมผัสได้ว่ามิติถูกผนึก จะต้องรับมืออย่างเต็มที่แล้ว
หวังเสินซวีคำรามเสียงต่ำ “เจ้าเต่าแก่ เจ้าบังคับข้าเองนะ! สายเลือดแห่งท้องนภาไม่อ่อนแอกว่าใคร!
หลอมรวมเทพ ทะลวง!”
เหมือนรู้สึกถึงความแกร่งของสือขุย หรืออาจจะเพราะไม่อยากตามหลังฉีเซ่าเสวียน
ในที่สุดหวังเสินซวีก็ร้อนใจ ไม่อำพรางพลังอีก
เขากระตุ้นเคล็ดวิชา แสงเทพสว่างจ้าวนเวียนในกาย แสงเทพสว่างไปรอบๆ ส่องแสงโลกหล้า!
ข้างหลังสะท้อนเป็นเงามายา ไร้เงาไร้รูป แต่แผ่กลิ่นอายพลังที่ทำให้คนหวาดกลัว เหมือนว่าแค่สัมผัสเพียงนิดเดียวก็ตกลงไปในหุบเหวไม่มีสิ้นสุด!
ห้วงอากาศกำลังสั่นกระเพื่อม บิดเบี้ยวไหลมารวมกันไม่หยุด สร้างเป็นมิติอัศจรรย์ขึ้นหลายแห่ง ทั้งยังพังทลายลงทั้งหมด
แม่น้ำทมิฬนั้นสลายหายไปภายใต้คลื่นมิตินี้
มหามรรคท้องนภาลี้ลับมหัศจรรย์ ควบคุมพลังแห่งฟ้าดิน แฝงไว้ด้วยมหามรรคกฎเกณฑ์ คนธรรมดายากจะสัมผัสได้
แต่หวังเสินซวีมีกายศักดิ์สิทธิ์ท้องนภา มีพลังควบคุมมิติโดยธรรมชาติ!
พลังแห่งมิติไม่มีสิ้นสุดเหมือนกับกฎเกณฑ์ตกลงมา ไหลเข้าไปในกายหวังเสินซวีทั้งหมด ทำให้มีแสงเทพกฎเกณฑ์วนเวียนรอบกายเขา แม้แต่ร่างกายยังเป็นมายา เหมือนไม่อยู่ในฟ้าดินนี้!
บึ้ม!
กลิ่นอายพลังมหาศาลปะทุออกมา พุ่งขึ้นนอกเมฆนภาเก้าชั้น ปั่นป่วนท้องฟ้า!
ตอนนี้ หวังเสินซวีทะลวงระดับหลอมรวมเทพแล้ว!
มีความสุข!
รักเลยๆ!
นี่คือระดับหลอมรวมเทพรึ
ไม่ใช่แค่เพิ่มศักยภาพให้แซ่หวัง แม้แต่อายุขัยยังเพิ่มไปสามพันปี!
นั่นคือสามพันปีเชียว!
แซ่หวังตัดชีวิตได้อีกแล้ว!
หวังเสินซวีกำลังฮึกเหิม ชำเลืองตามองสือขุยทีหนึ่ง “เจ้าเต่าแก่ คอยดูว่าแซ่หวังจะสับเจ้าอย่างไร!”
อายุขัยเพิ่มมาสามพันปี หวังเสินซวีรู้สึกว่าเขาสู้ได้แล้ว!
เขาออกมือทีก็ใช้อายุขัยห้าสิบปี กลายเป็นดาบยาวมิติฟันใส่สือขุย
การโจมตีที่ตัดชีวิตไม่เหมือนกัน ทำให้สือขุยในระดับหลอมรวมเทพตอนปลายรู้สึกถึงอันตรายร้ายแรง
สือขุยรวมเป็นปรากฏการณ์เต่าดำ กลายเป็นหมวกเกราะเต่าดำต้านดาบยาวมิตินี้ไว้!
แก๊ง!
สะเก็ดไฟแตกกระจาย เกราะเต่าเกิดรอยดาบขึ้นชัดเจน แต่ก็ยังห่างจากการทำลายอีกไม่น้อย
หวังเสินซวีเบิกตาโต “บ้าจริง เหตุใดเต่าดำแก่ถึงแข็งขนาดนี้”
สือขุยลงนามสัญญากับเผ่าเต่าดำทะเลอุดร ฝึกคัมภีร์จักรพรรดิเต่าดำ จึงมีการป้องกันที่แข็งแกร่งยิ่ง ต่อให้เป็นจุดสูงสุดผู้สูงศักดิ์สวรรค์ธรรมดาก็ไม่อาจทำลายการป้องกันเขาได้
แม้หวังเสินซวีจะเพิ่งทะลวงหลอมรวมเทพ ทั้งยังตัดอายุไปห้าสิบปี แต่ก็ยังยากจะทำลายการป้องกันได้
โอรสสวรรค์ดินแดนกลางด้านข้างถอนหายใจ พวกเขาก็คิดว่าหวังเสินซวีจะโหดเหมือนฉีเซ่าเสวียน ทะลวงหลอมรวมเทพแล้วกดสือขุยทุบตีได้!
เจ้าเด็กนี่ก็ยังเป็นตัวตลกจริงๆ!
ชั่วขณะที่หวังเสินซวีกำลังอึ้งอยู่นั้น สือขุยเข้ามาแล้ว ใช้หมัดเทพราชันอหังการชกเขาปลิวออกไป
ฉีเซ่าเสวียนชำเลืองตามองหวังเสินซวีอย่างเฉยชา “ปัญญาอ่อน!”
หวังเสินซวีพลันโกรธจัด กระโดดขึ้นมาพูด “เจ้าคนแซ่ฉีอย่าดูถูกกัน วันนี้แซ่หวังจะบอกเจ้าว่าอะไรคือสายเลือดแห่งท้องนภาไม่อ่อนแอกว่าใคร ยอดตราหัตถ์มิติ!”
แต่ดูจากสายตาพวกเขาแล้วไม่เหมือนเสแสร้ง น่าจะไม่ใช่ของปลอม
อืม เจ้าสองคนนี้อวดดีก็เรื่องของอวดดี แต่ก็เป็นคนตรงไปตรงมาไม่เห็นแก่ตัว
หวังเสินซวีไม่ตบคนยิ้มให้อยู่แล้ว จึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ที่ไหนกันๆ พวกข้าเทียบกับบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แล้ว เหมือนกับเมฆและดินเลน! แซ่หวังรับสหายเสิ่นไม่ได้แม้แต่กระบวนท่าเดียวด้วยซ้ำ!”
ถึงอย่างไรก็โม้จนเป็นนิสัย หวังเสินสวีอ้าปากก็โม้เลย
โอรสสวรรค์ดินแดนกลางด้านข้างได้ยินดังนั้นพลันสงสัยในชีวิต!
ไม่ใช่กระมัง!
บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แกร่งขนาดนั้นเชียว
องค์ชายราชันใต้กับองค์ชายราชันเหนือมุมปากกระตุกรัวๆ
พวกเขาสองคนยังรับมือบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไม่ได้แม้แต่กระบวนท่าเดียวรึ
เช่นนั้นพวกข้าจะรับไม่ได้แม้แต่ครึ่งกระบวนท่าหรือไม่ หรือว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ฝ่าด่านเคราะห์เป็นผู้อริยะแล้ว
องค์ชายราชันเหนือเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เขารู้สึกว่าหวังเสินซวีคุยโม้ แต่ไม่มีหลักฐาน!
ทว่าฉีเซ่าเสวียนก็ก้าวออกมาเช่นกัน ก่อนพูดปลงอนิจจัง “สหายเสิ่นสง่าผ่าเผยที่สุดแห่งยุค พวกข้าเทียบไม่ติดเลย! ต่อให้เป็นอริยะแท้หกด่านเคราะห์ก็ยังถูกสหายเสิ่นทุบทีเดียวปลิว เจ้าว่าแข็งแกร่งหรือไม่”
เมื่อเอ่ยถึงเสิ่นเทียน ฉีเซ่าเสวียนมีใบหน้าเต็มไปด้วยความเลื่อมใส
โอหังอย่างเขายังเลิกคิดที่จะเทียบชั้นกับเสิ่นเทียนมานานแล้ว
อันดับหนึ่งในดินแดนบูรพาไม่มีหวังแล้ว ก็ตั้งมั่นเป็นอันดับหนึ่งใต้ฟ้าแล้วกัน!
“บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์…ทุบอริยะแท้ค้อนเดียวปลิวรึ”
“น่ากลัวเกินไปแล้ว!”
โอรสสวรรค์ดินแดนกลางสูดลมหายใจเข้าลึก ภายในใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
การคงอยู่เช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะล่วงเกินได้
สือหลิงกับสือขุยมองหน้ากัน ต่างเห็นถึงความรู้สึกโชคช่วยและหวาดกลัวในแววตากันและกัน!
ด้วยศักยภาพของฉีเซ่าเสวียนกับหวังเสินซวี จึงไม่จำเป็นต้องโกหกเลย หากเป็นตามที่พวกเขาบอกจริงๆ บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์คือผู้แข็งแกร่งฝ่าด่านเคราะห์แน่นอน!
อย่างแย่ที่สุดก็ต้องเป็นผู้สูงส่งมรรคสูงสุดหนุ่มอย่างสือเทียนจื่อ
หากพวกเขาท้าสู้กับบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก่อน คงมีแต่พ่ายแพ้น่าเวทนากว่านี้
เมื่อได้ฟังสองคนโม้ให้ตน เสิ่นเทียนถึงกับมุมปากกระตุกเล็กน้อย
เจ้าฉี นี่เจ้าเรียนอะไรไม่ดีมา รู้จักเลียคนอื่นแล้วรึ
ช่วยให้ข้าเป็นบุรุษรูปงามที่อยู่เงียบๆ ได้หรือไม่
……..
ตอนนี้เอง สือหลิงกับสือขุยเดินเข้ามา ป้องมือให้เสิ่นเทียน “บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ก่อนหน้านี้พวกข้าล่วงเกินไป ขออย่าได้ถือสาเลย ไม่นึกเลยว่าแม้แต่อริยะแท้หกด่านเคราะห์ยังถูกสหายเสิ่นทุบปลิว เป็นมังกรในหมู่มนุษย์จริงๆ พวกข้านับถือ!”
เสิ่นเทียนปาดเหงื่อ ก่อนพูดอย่างจนปัญญา “องค์ชายทั้งสองเกรงใจไปแล้ว แซ่เสิ่นแค่โชคช่วยเท่านั้น อริยะแท้นั่นไม่ได้ใช้ศักยภาพทั้งหมด”
ต้องอยู่เงียบๆ ไว้ ฟาร์มเงียบๆ ต่างหากคือราชธรรม
สือหลิงส่ายหน้า “สหายเสิ่นไม่ต้องถ่อมตัว แค่ทุบอริยะแท้ปลิวไปได้ก็มีความสามารถแล้ว! ด้วยท่วงท่าสง่างามของสหายเสิ่น จะต้องมีชื่อเสียงเลื่องลือโลกหล้าแน่นอน!”
สือขุยพยักหน้า “ข้าก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน!”
อริยะแท้มีศักยภาพแข็งแกร่งเพียงใด ต่อให้ไม่ใช้กำลังทั้งหมดก็ไม่ใช่สิ่งที่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์จะสั่นคลอนได้!
บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไม่ใช่แค่สั่นคลอนอริยะแท้ได้ แต่ยังเอาค้อนฟาดปลิวไป นี่มันโหดเกินไปแล้ว!
สององค์ชายเกิดความคิดจะเชื้อเชิญขึ้น
หากพวกเขาดึงเสิ่นเทียนเข้าราชวงศ์เซียนต้าฮวงได้ จะต้องได้รางวัลแน่นอน!
นี่คือโอรสสวรรค์ที่สุดแห่งยุค ขอแค่ไม่สิ้นชีพ ภายภาคหน้าจะต้องเป็นการคงอยู่ที่ใหญ่ยักษ์ที่สุดในห้าดินแดนแน่นอน!
ตอนนี้ไม่เชื้อเชิญผูกมิตร ตอนนี้ไม่ประจบไม่เลีย แล้วจะให้รอไปถึงเมื่อไร
เวลานี้ เสียงสรรเสริญเยินยอมากมายดังขึ้นข้างกายเสิ่นเทียน
เสิ่นเทียนจะทำอะไรได้ ได้แต่พูดว่าโชคช่วยอย่างสุดชีวิต
ทว่ากลับไม่ทำให้เจ้าพวกนี้มองเขาด้อยลง แต่กลับประจบหนักยิ่งกว่าเดิม
“บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รุ่นนี้ไม่ใช่แค่มีศักยภาพแข็งแกร่ง แต่ยังถ่อมตัวเช่นนี้อีก หาได้ยากจริงๆ”
“อายุไม่ถึงร้อยปีก็เคยสังหารอริยะแท้หกด่านเคราะห์ มีอนาคตไม่มีที่สิ้นสุดเลย!”
“ไม่รู้ว่าเทียบกับองค์ชายสือเทียนจื่อแล้ว ใครจะแกร่งกว่ากัน!”
“ต่อให้เป็นองค์ชายสือเทียนจื่อก็อาจจะสังหารอริยะแท้หกด่านเคราะห์ไม่ได้กระมัง!”
……
กำลังสิ้นหวัง!
เจ้าพวกนี้ฟังภาษาคนเข้าใจหรือไม่
ข้าแค่อยากอยู่เงียบๆ หน่อย เหตุใดถึงได้ยากขนาดนี้ล่ะ!
…………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน