บทที่ 426 บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ห่วงใยโลกหล้า
บนเวทีประลองสุญญะ การต่อสู้ของสิบผู้สูงศักดิ์สวรรค์กับสี่อัจฉริยะเทพสวรรค์กำลังจะปิดฉากลง
สี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ยืนกลางฟ้าด้วยความโอหัง อาบแสงเทพสายฟ้า องอาจไร้พ่ายเหมือนเทพและมาร!
พวกเขายึดครองหนึ่งทิศ เหนี่ยวนำสายฟ้าฟ้าดินเปลี่ยนเวทีประลองเป็นทะเลสายฟ้า เหมือนจะทำลายล้างฟ้าดิน
อัสนีเทพกำเนิดฟ้าถาโถมลงมา ประกายสายฟ้าไม่มีสิ้นสุดปกคลุมท้องนภา ฟ้าดินมืดครึ้ม ตะวันจันทราถอดสี
อัสนีคลั่งพุ่งออกมา แสงเทพสว่างไปรอบๆ!
ม่านแสงอาวุธอริยะที่สิบผู้สูงศักดิ์สวรรค์ร่วมมือกันสำแดงถูกจู่โจมสั่นไหวอย่างรุนแรง กระเพื่อมไม่หยุด!
บึ้ม เปรี๊ยะๆๆๆๆ!
ประกายสายฟ้าไหลหลากเหมือนเทพสายฟ้าคำราม
สุดท้ายผู้สูงศักดิ์สวรรค์อ่อนแรงลง สิ้นกำลังวังชาไปทั้งหมด
กึก!
ม่านแสงอาวุธอริยะถูกทำลาย ประกายสายฟ้ามากมายไหลเข้าไป สายฟ้าดังเปรี๊ยะๆ งูสายฟ้าบินว่อน
พริบตาเดียว สิบผู้สูงศักดิ์สวรรค์ถูกค่ายกลอัสนีฟ้าเทพสวรรค์ปกคลุม จนเมื่อประกายสายฟ้าหายไป สิบผู้สูงศักดิ์สวรรค์นอนอยู่กับพื้น เส้นผมตั้งชี้
ใบหน้าพวกเขาดำเกรียม ปากพ่นควันขาว ร่างชักกระตุกไม่หยุด!
ศึกนี้ สิบผู้สูงศักดิ์สวรรค์พ่ายแพ้ย่อยยับ!
สี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ลงพื้นมาช้าๆ ชำเลืองตามองโอรสสวรรค์ดินแดนกลาง
“ขอถามหน่อย ยังมีใครอยากขึ้นเวทีมาให้การสั่งสอนอีก ยังมีใครอีก!”
……
เมื่อเห็นสี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ดั่งเทพมาร โอรสสวรรค์ดินแดนกลางทุกคนต่างมีแววตาซับซ้อน
ศิษย์เทพสวรรค์รุ่นนี้แข็งแกร่งอย่างยิ่ง!
ไม่ใช่แค่สี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ที่สู้ข้ามขั้นมาสี่รุมสิบ แต่ยังมีบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ที่แขวนอริยะแท้หกด่านเคราะห์ทุบตีได้อีก
ดวงชะตาฟ้าดินไหลไปรวมเทพสวรรค์กันหมด แบบนี้แดนศักดิ์สิทธิ์อื่นก็ได้เล่นแต่ขนสิ!
จะว่าไปนี่ก็เป็นการประลองฝีมือกัน เห็นๆ อยู่ว่าเทพสวรรค์เป็นนักแสดงหลัก!
แต่พวกเจ้าแย่งบทเด่นเช่นนี้ คิดว่าสนุกนักหรือ
โอรสสวรรค์ดินแดนกลางอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา ขวัญกำลังพลันลดลงต่ำสุด
ขณะเดียวกันพวกเขาก็ถอนหายใจอยู่ข้างใน ‘โอรสสวรรค์ดินแดนบูรพาผงาดขึ้นแล้ว ไม่อาจขวางทางได้!’
หลายพันปีมานี้ โอรสสวรรค์รุ่นเดียวกันประมือกัน จะเป็นโอรสสวรรค์ดินแดนกลางที่กำราบโอรสสวรรค์ดินแดนบูรพาตลอด
ทว่าโอรสสวรรค์ดินแดนบูรพารุ่นนี้กลับเป็นปีศาจ แม้แต่บุตรศักดิ์สิทธิ์อาวุโสยังแขวนทุบตีได้ นี่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย
…..
องค์ชายราชันเหนือสือหลิงมองสี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ที่มีพลังคุกคามด้วยแววตาตื่นตะลึง
แม้ศักยภาพของสี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ตอนนี้ หากสู้ตัวต่อตัวยังห่างชั้นกับเขามาก
แต่เขารู้ดีว่าสี่คนนี้มีพรสวรรค์สูงยิ่ง หากเขาลดพลังบำเพ็ญมาดวงจิตดรุณ เจอกับใครในสี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ ก็เกรงว่าอาจจะไม่ชนะแน่นอน
หากโอรสสวรรค์สี่คนอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์อื่น ทุกคนจะเป็นตัวเต็งบุตรศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน กระทั่งบางแดนศักดิ์สิทธิ์ หลายพันปีมานี้ยังไม่เจอผู้สืบทอดบุตรศักดิ์สิทธิ์ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้มาก่อน
ทว่าเจ้าพวกนี้กลับไปกองรวมกันในแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ อีกทั้งยังสามัคคีกันเช่นนี้ น่าแปลกใจจริงๆ
ต้องเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ที่มีพรสวรรค์เลิศล้ำเพียงใดถึงจะกำราบพวกเขาได้
น่าเหลือเชื่อ!
สือหลิงสูดลมหายใจเข้าลึกทีหนึ่ง “แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มีอัจฉริยะถือกำเนิด วันนี้แซ่สือได้เปิดโลกกว้างเลย!”
โอรสสวรรค์ดินแดนกลางในที่นี้ล้วนเป็นผู้โดดเด่นในรุ่นเดียวกัน แต่กลับถูกคนข้ามพลังบำเพ็ญมาเอาชนะ
ความแกร่งของโอรสสวรรค์ดินแดนบูรพารุ่นนี้ไม่เป็นที่ต้องสงสัยเลย
“สหายเสิ่น พวกข้าขอตัวก่อน!”
สือหลิงเตรียมจะกลับ
ก่อนหน้านี้พวกเขาขัดแย้งกับโอรสสวรรค์ดินแดนบูรพาก็เพื่อแย่งหอหงส์ทอง
ตอนนี้โอรสสวรรค์ดินแดนกลางพ่ายแพ้ย่อยยับ พวกเขาจึงไม่มีหน้าอยู่ที่นี่อีก
ทว่าพวกเขายังไม่ทันออกจากหอวิหคทองแดงกลับถูกเสิ่นเทียนขวางไว้
สือหลิงใจบีบรัดตัวนิดๆ “สหายเสิ่น มีอะไรจะชี้แนะรึ”
ได้ยินว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มีผู้อาวุโสบัวมรกต หลังจากวิวาทแล้วจะต้องเรียกร้องเงิน ขู่รีดไถและปล้น
บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รุ่นหนึ่งเยวี่ยอวิ๋นเต๋อเอาอย่างนิสัยนี้มาเต็มๆ
บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รุ่นสิบเสิ่นเทียนคงไม่ติดนิสัยเช่นนี้มาหรอกกระมัง
เมื่อนึกได้ดังนั้น สือหลิงก็มองเสิ่นเทียนอย่างระแวง
แต่ไม่นานเขาก็ซึมอีกครั้ง เพราะเขาพบเรื่องน่าจำใจคือตนเหมือนจะต่อต้านไม่ได้เลย อีกทั้งบุตรศักดิ์สิทธิ์คนนี้ เล่าลือว่าเคยสังหารอริยะแท้หกด่านเคราะห์มาแล้ว
แค่พวกศิษย์ตัวเล็กๆ พวกนั้นร่วมมือกันยังทำให้พวกสือหลิงลำบาก หากเสิ่นเทียนอยากได้จริงๆ สือหลิงจะไม่ให้ได้หรือ
เฮ้อ ดูท่าคงได้แต่ยอมแล้ว
……
เสิ่นเทียนไม่รู้ว่าในใจสือหลิงได้เพิ่มบทน่าเคลิบเคลิ้มใจให้กับตนส่วนหนึ่ง
เป้าประสงค์ที่เขาเรียกโอรสสวรรค์ดินแดนกลางทุกคนไว้ก็ง่ายมาก นั่นคือผูกวาสนาดี
แม้โอรสสวรรค์ดินแดนบูรพากับดินแดนกลางจะไม่ถูกกันเล็กๆ น้อยๆ แต่เสิ่นเทียนมองว่านี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
ด้วยศักยภาพของเสิ่นเทียน ดูเจ้าพวกนี้ต่อสู้กันก็เหมือนลูกชายโง่บ้านตนไปวิวาทกับลูกชายโง่บ้านข้างๆ
ขอแค่ลูกชายโง่บ้านตนไม่แพ้ เจ้าจะโกรธอะไร
มิหนำซ้ำคนหนุ่มเลือดร้อน ใครบ้างตอนหนุ่มไม่เคยชิงอันดับในรายนามเคโอ!
แม้โอรสสวรรค์ดินแดนกลางพวกนี้จะรูจมูกชี้ฟ้า ก็ยังยอมแพ้อย่างตรงไปตรงมา ล้วนเป็นบุรุษที่อุจจาระออกไปนอกห้องน้ำ
การผูกมิตรกับคนพวกนี้ ขอแค่ได้รับการยอมรับจากพวกเขา ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกแทงข้างหลัง
แค่กๆ!
และที่สำคัญกว่านั้น ดวงชะตาเจ้าพวกนี้ไม่อ่อนแอเลย!
คนใหญ่คนโตท่านนั้นเคยบอกว่าต้องรวมพลังทุกอย่างที่สามัคคีกันได้!
แน่นอน ก็ต้องเก็บเกี่ยวกุยช่ายทั้งหมดที่เก็บเกี่ยวได้!
เมื่อคิดได้ดังนั้นเสิ่นเทียนจึงพูดด้วยรอยยิ้ม “สหายสือ พวกศิษย์พี่แดนศักดิ์สิทธิ์ดินแดนกลางทุกท่าน วันนี้ทุกคนไม่สู้กันย่อมไม่รู้จักกัน สู้มาร่วมงานเลี้ยงด้วยกัน เป็นสหายกันไว้ดีหรือไม่”
สององค์ชายทำหน้าอึ้งงัน มึนงงกับทัศนคติของเสิ่นเทียน
พี่น้องเจ้าเพิ่งทุบตีข้าเสร็จ เจ้ากลับเชิญข้าทานอาหารด้วยรึ
ฟาดด้วยกระบองแล้วก็ให้พุทราหวานรึ
…..
เสิ่นเทียนนำของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานขวดหนึ่งมาจากแหวนเวหา แววตาจริงใจ “แซ่เสิ่นยังมีของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานอยู่ ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บให้ทุกคนได้”
โอรสสวรรค์ดินแดนกลางบาดเจ็บกันไม่น้อยเลย โดยเฉพาะสิบผู้สูงศักดิ์สวรรค์ เกือบถูกสายฟ้าของสี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ผ่าพิการ
ตอนนี้ไม่เก็บเกี่ยวกุยช่าย จะให้รอปีใหม่รึ
โอรสสวรรค์ดินแดนกลางมองขวดหยกขาวที่บรรจุของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานด้วยอาการมึนงงยิ่งกว่าเดิม
ก่อนหน้านี้ยังสู้กันดุเดือด จู่ๆ เข้าก็เข้ามา จะให้พวกเรารับไว้อย่างไร
โดยเฉพาะฟ้าทมิฬรุ่นเจ็ดกับเก้าตะวันรุ่นเจ็ด ก่อนหน้านี้พวกเขาอิจฉาที่โอรสสวรรค์ดินแดนบูรพาได้เสพโอสถมาก ไม่นึกเลยว่าของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานจะมีส่วนของพวกเขาสองคนด้วย
สองคนยกมือขึ้นสั่นไหวเบาๆ ไม่รู้จะรับหรือไม่รับดี!
…..
โอรสสวรรค์บางคนตั้งสติกลับมาได้ก็ทำหน้าละอายใจ “บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ใจกว้างเช่นนี้ พวกข้ารับไว้ไม่ได้!”
“ก่อนหน้านี้พวกเราล่วงเกินทุกท่านไป หวังว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์จะไม่ถือสา”
ตอนนี้เองโอรสสวรรค์ดินแดนกลางทุกคนมีความรู้สึกซับซ้อนมาก
พวกเขาไม่คิดเลยว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะใจกว้างเช่นนี้ ไม่ใช่แค่ไม่แค้นที่พวกเขาทำร้ายบุตรศักดิ์สิทธิ์ดินแดนบูรพาทุกรุ่น แต่ยังมอบของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานรักษาให้พวกเขาอีก
ต้องรู้ว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เป็นคนโหดที่แม้แต่อริยะแท้ยังฟาดปลิวไปได้
หากเป็นคนอื่นที่มีศักยภาพเช่นนี้ คงพุ่งเข้ามากดพวกเขาถูไปกับพื้นนานแล้ว!
แต่บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กลับไม่ได้พึ่งพาคนแกร่งรังแกคนอ่อนแอ ซ้ำยังทำคุณทดแทนแค้น
โอรสสวรรค์ดินแดนกลางอบอุ่นในใจ อดปลงอนิจจังมิได้!
บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ เป็นผู้ยิ่งใหญ่จริงๆ!
แต่นี่พัวพันไปถึงปัญหาของเกียรติ แม้จะอยากได้มาก แต่พวกเขาก็ยังเอ่ยปฏิเสธเจตนาดีของเสิ่นเทียน
ถึงอย่างไรก็เพิ่งถูกอีกฝ่ายทุบตีมา คงไม่มีหน้าไปผูกมิตรด้วยเท่าไร
เสิ่นเทียนยิ้ม “สหายทุกท่านไม่ต้องเกรงใจ! พวกเราเป็นโอรสวรรค์สุดยอดห้าดินแดน ก็ควรมีจิตใจกว้างหน่อย โลกแห่งการแย่งชิงมักจะหมายถึงโลกแห่งมหาเคราะห์ภัย หากมองไปถึงเรื่องความสงบสุขและหายนะของทั้งห้าดินแดน ความขัดแย้งเล็กน้อยแค่นี้ระหว่างบูรพากับดินแดนกลางไม่ใช่ความขัดแย้งเลย
บางทีสักวันหนึ่ง พวกเราอาจจะต้องให้คู่ต่อสู้ในอดีตระวังหลังให้ ฝากชีวิตไว้กับกันและกัน ถึงตอนนั้น ความขัดแย้งเล็กน้อยแค่นี้มันจะเท่าไรกันเชียว”
โอรสสวรรค์ดินแดนกลางได้ฟังคำพูดเสิ่นเทียนแล้วใจสั่นสะท้าน!
นี่ คือปณิธานของบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รึ
พวกเรายังชิงอันดับกำลังรบในรุ่นเยาว์อยู่เลย แต่บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ห่วงใยทุกชีวิตในห้าดินแดน
ชั้นสูง ชั้นสูงจริงๆ!
มิน่า จักรพรรดิฮวงสือถึงเอ่ยถึงเขาเป็นพิเศษ
แค่จิตใจตรงนี้ โอรสสวรรค์ธรรมดาก็ไม่อาจเทียบได้แล้ว!
ความต่างระหว่างสองคนเหมือนกับเมฆและดินเลน!
องค์ชายราชันเหนือสือหลิงฟังแล้วเลือดร้อน ตะโกนเสียงดังขึ้นมา “สหายเสิ่นพูดดี! น้ำใจของสหายเสิ่น พวกเราจะปฏิเสธได้อย่างไร ขอรับไว้ด้วยความละอายใจ!”
หากเป็นของปกติ โอรสสวรรค์พวกนี้ต้องไม่ยอมรับเด็ดขาดแน่ พวกเขาก็ต้องมีเกียรติเหมือนกัน!
แต่นี่เป็นของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพาน มากพอจะสั่นใจโอรสสวรรค์ดินแดนกลาง ปฏิเสธไม่ได้!
หากตนรักษาบาดแผลเอง อย่างน้อยต้องนอนบนเตียงสิบวันถึงครึ่งเดือน แต่ถ้ากินของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพาน จะฟื้นฟูพวกเขาได้เร็วที่สุด
ของเหลวเทพเช่นนี้ อีกทั้งบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยังให้มาเปล่าๆ ลองถามดูว่ามีใครปฏิเสธได้บ้าง
โอรสสวรรค์ดินแดนกลางคล้อยตามคำพูดสือหลิง รับของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานมาแล้วพากันเอ่ยขอบคุณ
“ขอบคุณบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มาก!”
“บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ใจกว้าง!”
……
จากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น โอรสสวรรค์ดินแดนกลางต่างยอมรับเสิ่นเทียนจากใจจริง
ต่อให้เป็นสือเทียนจื่อก็อาจจะทำเช่นนี้ไม่ได้!
หืม~
เหตุใดแซ่สือถึงคิดเช่นนี้ได้ล่ะ
องค์ชายเทียนจื่อคือความภูมิใจของราชวงศ์เซียนต้าฮวง และยังเป็นหน้าตาของโอรสสวรรค์ดินแดนกลาง!
แต่ว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็เหมือนจะไม่เลวเช่นกันนะ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน