บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 428

บทที่ 428 แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ผู้โดดเด่นกว่าใครเพียงหนึ่งเดียว!

แสงสว่างข้างหลังกุ้ยกงกงสว่างขึ้นเรื่อยๆ ดวงตะวันร้อนแรงหกดวงเหมือนเตาหลอมฟ้าดิน!

เขาเดินหน้า เหยียบสายรุ้งเทพดวงตะวัน สว่างแสบตาถึงที่สุด เดินกดดันไปทางยอดเขาวิญญาณลูกที่ยี่สิบเอ็ด

“บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันพุ่งไปยอดเขาวิญญาณลูกที่ยี่สิบเอ็ดแล้ว!”

“เขาจะทำได้จริงๆ รึ”

ทุกคนมีสีหน้าหวาดกลัว ดวงตาไม่กะพริบ

คัมภีร์จักรพรรดิสุริยันที่กุ้ยกงกงฝึกฝนเดิมทีมีต้นกำเนิดเดียวกับคัมภีร์เทพยุทธ์เก้าตะวัน!

คัมภีร์เทพยุทธ์เก้าตะวันเป็นเพียงส่วนแตกแขนงของคัมภีร์จักรพรรดิสุริยัน

คัมภีร์จักรพรรดิสุริยันต่างหากคือของแท้ พลังที่เผยออกมาย่อมทำให้คนตื่นตกใจได้ง่ายกว่า

ดังนั้น ทุกคนจึงคิดเหมือนกันว่ากุ้ยกงกงคือบุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวัน!

บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันที่แท้จริงมุมปากกระตุกอย่างบ้าคลั่ง

มองบุตรศักดิ์สิทธิ์ปลอมที่แกร่งกว่าเขาพลางอยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา

บึ้ม!

แสงสว่างจ้า ส่องสะท้อนฟ้าดิน!

กุ้ยกงกงเคลื่อนหกตะวันกลายเป็นดาวตกฝนเพลิงพุ่งโจมตีใส่ยอดเขาวิญญาณลูกที่ยี่สิบเอ็ด!

พริบตาเดียวประกายไฟพุ่งขึ้นฟ้า สีสันหลากสีโดดเด่น!

ยอดเขาวิญญาณยิงแสงสว่างพร่างพราวออกมา เหนี่ยวนำหมื่นวิชาตกลงมา พลังวนเวียนหนาทึบยิ่งใหญ่

ประกายเซียนมันวาวปกคลุมรอบนอกยอดเขา กลายเป็นม่านเซียนธารน้ำเงินตกลงมาจากยอดเขา ตัดขาดทุกอย่าง

ดวงตะวันร้อนแรงปะทะกับม่านแสง เกิดคลื่นกระเพื่อมไม่มีสิ้นสุด ทำให้กฎเกณฑ์สั่นกระเพื่อม!

โอรสสวรรค์ทุกคนมีสีหน้าจริงจัง “เปิดไม่ได้รึ”

พลังที่กุ้ยกงกงกระตุ้นออกมาน่ากลัวอย่างยิ่ง แม้จะเทียบกับการโจมตีของจุดสูงสุดดวงจิตดรุณที่สำเร็จด้วยแก่นพลังทองเก้ารอบไม่ได้ แต่ก็ไม่ต่างกันมาก

แม้จะเป็นเช่นนั้นก็ยังไม่อาจเปิดยอดเขาวิญญาณลูกที่ยี่สิบเอ็ดได้หรือ

บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันถอนหายใจโล่งอก “ยังดีๆ”

หากกุ้ยกงกงเปิดได้จริงๆ บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันกังวลว่าผู้อาวุโสในแดนศักดิ์สิทธิ์พวกนั้นจะกำจัดเขาออกจากตำแหน่งบุตรศักดิ์สิทธิ์จริงๆ

จากนั้นก็โยนกิ่งใบสมอสันติภาพให้กับบุตรศักดิ์สิทธิ์ปลอมที่โผล่มาจากที่ใดไม่รู้

ถึงอย่างไรกุ้ยกงกงก็แสดงกำลังรบออกมาได้แกร่งมาก บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันยังละอายใจเทียบไม่ได้ เกิดความรู้สึกอันตรายในใจอย่างรุนแรง

ทว่าจากนั้นบุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันก็ดวงตาเหม่อลอย ตัวสั่นอย่างรุนแรง

เพราะเขาเห็นว่ากุ้ยกงกงไม่ได้ยอมแพ้ แต่นำกระบี่ยาวที่มีแสงทองไหลเวียนออกมา

กระบี่ยาวขยับแสงวาววับ มีอัคคีเทพสุริยันวนเวียน พลานุภาพน่าสะพรึงถึงที่สุด!

เมื่อรู้สึกถึงอานุภาพของกระบี่ยาวนั้น บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันถึงกับหลุดเสียง “ไม่ใช่กระมัง ยังมีอาวุธอริยะอีกรึ”

บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันรู้สึกเหลือเชื่อ ไม่อยากเชื่อว่ากุ้ยกงกงจะมีอาวุธอริยะอีก!

อีกทั้งยังเป็นกระบี่อริยะที่ประสานกับวิชา เพิ่มกำลังรบได้อย่างมากที่สุด!

ต้องรู้ว่าเขาเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์รุ่นนี้ของแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวัน ยังไม่มีอาวุธอริยะเลย แต่บุตรศักดิ์สิทธิ์ปลอมนี่กลับมีอาวุธอริยะกระบี่ยาว!

ขอพูดความจริง บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันอิจฉาแล้ว!

เขาเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่ ยังเทียบกับพวกไร้ชื่อเสียงเรียงนามไม่ได้!

มีสิทธิ์อะไรกัน

….

ตอนนี้ ในใจโอรสสวรรค์คนอื่นมีความคิดไม่ต่างกับบุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันเท่าไร เพราะอย่างไรอาวุธอริยะก็ไม่ใช่ผักกาดขาวข้างถนน แต่เป็นทรัพยากรหายาก!

ต่อให้เป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์จากทุกแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ยังไม่ได้มาครองกันง่ายๆ ดังนั้น ทุกคนจึงยิ่งมั่นใจว่ากุ้ยกงกงคือบุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวัน

ถึงอย่างไรแม้แต่บุตรศักดิ์สิทธิ์ยังอาจจะไม่ได้มีกันง่ายๆ หากไม่ใช่บุตรศักดิ์สิทธิ์ จะไปมีอาวุธอริยะที่แข็งแกร่งเช่นนี้ได้อย่างไร

เหตุผลนี้ก็ชัดเจนอยู่แล้ว!

ความจริง กระบี่อริยะตะวันเดือดในมือกุ้ยกงกง เสิ่นเทียนได้มาจากสุสานจักรพรรดิอีกาทอง!

มหาจักรพรรดิอีกาทองมอบป้ายคำสั่งมหานทีให้เสิ่นเทียน ย่อมมอบสมบัติในสุสานทั้งหมดให้กับเขา

เสิ่นเทียนก็เจอกระบี่อริยะเล่มนี้จากในกองสมบัติของมหาจักรพรรดิอีกาทอง

กระบี่อริยะเล่มนี้ไม่ได้มีประโยชน์กับเสิ่นเทียนมาก เขามีกระบี่คู่ม่วงครามและกระบี่ฟ้าสังหารแล้ว

จึงมอบกระบี่อริยะตะวันเดือดให้กับกุ้ยกงกง ถึงอย่างไรก็ไม่อยากให้ผลประโยชน์ไปตกอยู่ในมือคนนอก ประจวบเหมาะกับที่กระบี่อริยะตะวันเดือดสอดคล้องกับคัมภีร์จักรพรรดิอีกาทองที่กุ้ยกงกงฝึกฝน ทำให้กำลังรบของกุ้ยกงกงเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

หลังจากกุ้ยกงกงได้กระบี่อริยะตะวันเดือดมา ก็ชอบจนวางไม่ลง

ตอนนั้นถึงกับจะใช้กระบี่อริยะตะวันเดือดนี้ตอบแทนคุณองค์ชาย ปกป้องความปลอดภัยและเกียรติขององค์ชาย

และตอนนี้คือโอกาสดีมาก!

…..

กุ้ยกงกงถือกระบี่อริยะตะวันเดือด อาบอัคคีเทพตะวัน เหมือนกับควบคุมดวงตะวันฟ้าดิน!

แสงเทพดวงตะวันยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ส่องสะท้อนฟ้าดิน ทำให้แสงเทพบนยอดเขาวิญญาณถอดสีออกทั้งหมด!

กุ้ยกงกงกวัดแกว่งกระบี่อริยะตะวันเดือด ฟันแสงกระบี่ค้ำฟ้า ข้ามผ่านฟ้าดินลงมาอย่างเหี้ยมโหด!

ปราณกระบี่ร้อนแรงเหมือนกับแสงสว่างวูบวาบของดวงตะวัน พลันระเบิดออก เหนี่ยวนำฟ้าดินสั่นไหว กฎเกณฑ์ปั่นป่วน

ผนึกยอดเขาวิญญาณที่แข็งแกร่งไม่อาจทำลายได้ก็ยังถูกฟันแตกลาย แสงเทพสว่างจ้า!

“มีหวังรึ”

เมื่อเห็นภาพนี้ โอรสสวรรค์ทุกคนตาเป็นประกาย

พวกเขาก็อยากดูว่ายอดเขาวิญญาณลูกที่ยี่สิบเอ็ดจะอัศจรรย์เพียงใดกัน

ถึงอย่างไรโอรสสวรรค์รุ่นนี้ก็ไม่มีใครแตะต้องยอดเขาวิญญาณลูกใกล้กับด้านหน้าได้มากขนาดนี้!

…..

กุ้ยกงกงมีสีหน้าตื่นเต้น เห็นความหวังจะเปิดได้แล้วก็ระเบิดพลังไม่มีกักไว้อีก!

“ทำลายให้ข้า!”

กุ้ยกงกงตะโกนเสียงเบา กระบี่อริยะตะวันเดือดฟันออกไปกลางอากาศ

แสงเทพถูกเหนี่ยวนำ อัคคีเทพสุริยันตัดสลับกันรวมเป็นทานตะวันสุริยันตกลงมาทันที

ตึง!

ฟ้าดินสั่นสะเทือน ยอดเขาวิญญาณโคลงเคลง!

ในที่สุดยอดเขาวิญญาณลูกที่ยี่สิบเอ็ดก็รับไม่ไหว ถูกกุ้ยกงกงฟันสองกระบี่พังลง แสงเทพกระจายไปรอบๆ

พลังวิญญาณเข้มข้นเหมือนกับคลื่นยักษ์ล้นฟ้า กระเพื่อมโหมซัดสาด ระบายออกมาจากยอดเขาวิญญาณ ลุกลามไปในฟ้าดิน

โอรสสวรรค์ทุกคนตื่นตกใจอย่างยิ่ง เหมือนอยู่ในมหาสมุทรพลังวิญญาณ รับแรงกระแทกของพลังวิญญาณ

สมกับเป็นยอดเขาวิญญาณที่อยู่แถวหน้า ยอดเขาวิญญาณแถวหลังไม่อาจเทียบได้เลย

ระดับความเข้มข้นของพลังวิญญาณยอดเขาลูกที่ยี่สิบเอ็ดเหนือกว่ายอดเขาวิญญาณลูกที่สามสิบหลายเท่า พลังวิญญาณรวมเป็นหมอกแล้ว

…..

แต่เทียบกับยอดเขาวิญญาณแล้ว ทุกคนให้ความสำคัญกับกุ้ยกงกงที่เปิดยอดเขาวิญญาณได้มากกว่า

นั่นคือยอดเขาวิญญาณที่ต้องมีกำลังรบจุดสูงสุดดวงจิตดรุณที่สำเร็จด้วยแก่นพลังทองเก้ารอบถึงจะทำลายได้ แต่กลับถูกกุ้ยกงกงฟันทำลายด้วยสองสามกระบี่!

นี่จะไม่ทำให้คนตกใจได้อย่างไร

โอรสสวรรค์หลายคนพากันสนทนากัน “แดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันมีบุตรศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ ถูกลิขิตไว้ว่าไม่ให้ธรรมดาจริงๆ!”

“แดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันได้สมบัติล้ำค่าไปจริงๆ ไม่อยากเชื่อว่าจะหาโอรสสวรรค์เช่นนี้มาเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ได้!”

“เฮ้ย ดูท่าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าจันทราของข้าคงถูกแซงหน้าไปแล้ว!”

…..

ไม่ใช่แค่มีคนชมเชยความแกร่งของกุ้ยกงกง กระทั่งยังมีคนเดินเข้ามาจะผูกมิตรกับกุ้ยกงกง

“บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวัน ข้าคือบุตรศักดิ์สิทธิ์ผลาญฟ้า หวังว่าจะได้ศึกษาบำเพ็ญร่วมกับบุตรศักดิ์สิทธิ์”

“ข้าคือศิษย์สายตรงแดนเทวา หวังว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันจะชี้แนะได้”

“บ่าวมาจากแดนเทวาครองคู่ ไม่รู้ว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันมีคู่ครองแล้วหรือไม่”

…..

โอรสสวรรค์แก่นพลังทองหกรอบเจ็ดรอบพวกนี้ ไม่มีศักยภาพพอจะเปิดยอดเขาวิญญาณ ดังนั้นพวกเขาจึงอยากผูกมิตรกับโอรสสวรรค์ที่เกิดยอดเขาวิญญาณได้

บางทีอาจจะได้เกาะเข้าไปฝึกในยอดเขาวิญญาณ!

ไม่มีใครปฏิเสธโอกาสในการเข้ายอดเขาวิญญาณได้!

มิหนำซ้ำ นี่ยังเป็นยอดเขาวิญญาณลูกที่ยี่สิบเอ็ด

บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันได้ฟังคำพูดพวกนี้แล้วก็มุมปากกระตุกอย่างบ้าคลั่ง “ข้าต่างหากบุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวัน! ข้าต่างหาก!”

กุ้ยกงกงทำหน้ามึนงง บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันเป็นใครกัน

แต่ไม่นานเขาก็ตั้งสติกลับมาได้ จึงเผยรอยยิ้ม “สหายทุกท่าน ข้าไม่ใช่บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวัน! เป็นเพียงบ่าวรับใช้ของบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เท่านั้น ข้าประสบความสำเร็จในทุกวันนี้ได้ก็เพราะความเมตตาอันล้นพ้นขององค์ชาย”

หากไม่ได้เสิ่นเทียน กุ้ยกงกงก็ยังเป็นขันทีอยู่อาณาจักรต้าเหยียน จะไปได้รับความรู้สึกเป็นดาวล้อมเดือนได้อย่างไร

ความซาบซึ้งใจที่มีต่อเสิ่นเทียนในใจเขารุนแรงยิ่งกว่าเดิม

พอได้ฟังคำพูดของกุ้ยกงกง ทุกคนนิ่งอึ้งไป ตั้งตัวไม่ทัน

โอรสสวรรค์ที่แกร่งขนาดนี้ไม่ใช่บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวัน แต่เป็นบ่าวรับใช้รึ

ล้อเล่นอะไรกัน

บ่าวรับใช้บ้านใครจะโหดได้ขนาดนี้

กำลังรบเทียบเท่ากับจุดสูงสุดดวงจิตดรุณที่สำเร็จด้วยแก่นพลังทองเก้ารอบ ทั้งยังให้อาวุธอริยะกับบ่าวรับใช้ แต่ข้ายังไม่มีอาวุธอริยะด้วยซ้ำ!

หืม ไม่ใช่สิ!

บ่าวรับใช้ของบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์!

เช่นนั้นก็ไม่แปลกแล้ว!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน