บทที่ 429 ข้ายังไม่ได้ออกแรงเลย เหตุใดเจ้าถึงแตกแล้ว
สี่อัจฉริยะเทพสวรรค์สำแดงอานุภาพเปิดยอดเขาวิญญาณสิบลูกแรก สร้างความตื่นตะลึงไปทั้งแปดทิศ
ฉีเซ่าเสวียนกับหวังเสินซวีก็ไม่ยอมล้าหลังเช่นกัน ก้าวออกมาเตรียมท้าสู้กับยอดเขาวิญญาณสิบลูกแรก!
การปรากฏตัวของสองคนทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ร้อนแรง
ถึงอย่างไรผลการต่อสู้ของพวกเขาก็โดดเด่นยิ่งกว่าสี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ แบ่งกันเอาชนะพวกสือหลิงกับสือขุย มากพอจะทำให้สองคนนี้มีชื่อเสียงโด่งดังสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ย
“บุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงจะออกมือแล้วรึ”
“ได้ยินว่าฉีเซ่าเสวียนมีท่วงท่าแห่งมหาจักรพรรดิ ไม่รู้ว่าจะเลือกยอดเขาใด”
“แต่ก็น่าจะไม่แย่ไปกว่ายอดเขาที่สี่อัจฉริยะเทพสวรรค์เลือกกระมัง!”
“และยังมีบุตรศักดิ์สิทธิ์ท้องนภา สายเลือดท้องนภาแข็งแกร่งมาตลอด!”
“ดูท่าศักยภาพของบุตรศักดิ์สิทธิ์คนนี้คงไม่อ่อนแอไปที่ใด!”
“ใช่ ได้ยินว่าเขาเคยเอาชนะท่านผู้ยิ่งใหญ่ผู้นั้นได้ในพริบตาเดียว!”
…..
ฉีเซ่าเสวียนเป็นอดีตอันดับหนึ่งในรายนามแก่นพลังทองดินแดนบูรพา มีชื่อเสียงเลื่องลือไปถึงดินแดนกลางมานานแล้ว!
ก่อนหน้าที่เสิ่นเทียนจะปรากฏกาย เขาใช้พลังไร้พ่ายประกาศศักดากับรุ่นเยาว์ดินแดนบูรพา ทำให้คนมากมายเคารพยำเกรง
ทว่าหวังเสินซวีเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ท้องนภารุ่นนี้ก็ไม่อ่อนแอเช่นกัน และที่สำคัญกว่านั้นคือเขาเคยตัดชีวิตไปหลายร้อยปีในขณะประมือกับสือขุย เอาชนะสือขุยได้ในพริบตา
ขอไม่พูดว่าเอาชนะสือขุยได้ในกระบวนท่าเดียว แต่พลังโจมตีต้องน่ากลัวเพียงใดกัน
แค่การ ‘ประมือกระชับมิตร’ เช่นนี้ ยังกล้าตัดอายุขัยไปหลายร้อยปี…
เดาว่าทั้งห้าดินแดนคงมีไม่กี่คนที่กล้าล่วงเกิน
ถึงอย่างไรคนโหดก็กลัวมึน คนมึนกลัวคนไม่กลัวตาย!
……
กลิ่นอายพลังแข็งแกร่งที่แผ่มาจากฉีเซ่าเสวียนกับหวังเสินซวีทำให้โอรสสวรรค์มากมายแอบกลัวในใจ
นั่นคือพลังของผู้แข็งแกร่งระดับหลอมรวมเทพ!
ทะลวงระดับหลอมรวมเทพได้ด้วยอายุเท่านี้ นี่คือผู้โดดเด่นสูงสุดในโอรสสวรรค์รุ่นเดียวกันของห้าดินแดน!
เหล่าโอรสสวรรค์เฝ้ารอคอยเป็นอย่างยิ่งว่ากำลังรบของสองคนจะแกร่งเพียงใด
……
หวังเสินซวีมองยอดเขาสี่ลูกแรกด้วยดวงตาร้อนแรง
ด้วยพลังบำเพ็ญและฐานะของพวกเขา ย่อมเลือกยอดเขาวิญญาณลูกที่สี่และสาม
ในยอดเขาวิญญาณสิบลูกแรกที่อ่อนแอที่สุดก็ต้องมีกำลังรบผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตอนกลางถึงจะทำลายได้แล้ว ยอดเขาวิญญาณลูกที่สี่และสามต้องมีกำลังรบของจุดสูงสุดผู้สูงศักดิ์สวรรค์!
ส่วนยอดเขาวิญญาณลูกที่สองกับหนึ่งน่ากลัวยิ่งกว่า ต้องมีกำลังรบระดับผู้อริยะถึงทำลายได้
ยอดเขาวิญญาณลูกที่หนึ่งกับสองย่อมไม่อยู่ในขอบเขตการใคร่ครวญของสองคน แม้พวกเขาจะท้าสู้ข้ามขั้นได้ แต่ก็ไม่คิดว่าตนจะมีกำลังรบท้าสู้ระดับอริยะได้
หวังเสินซวีมองยอดเขาวิญญาณตั้งตระหง่านตรงหน้าพลางเผยรอยยิ้ม “ฉีเซ่าเสวียน เจ้ากล้าประชันกับข้าหรือไม่”
หวังเสินซวีเลิกคิ้วขึ้น ยั่วยุฉีเซ่าเสวียน
หลังจากทะลวงระดับหลอมรวมเทพ หวังเสินซวีมีอายุขัยเพิ่มมากขึ้น ส่วนลึกในใจพองโตยิ่งกว่าเดิม
เขาอยากชิงฉายาอันดับหนึ่งใต้ฟ้ากับฉีเซ่าเสวียนมานานแล้ว
แต่ก็จนปัญญาเพราะฉีเซ่าเสวียนก็มีกำลังรบไม่ธรรมดา หากสู้กับเขาจะต้องสู้สุดชีวิตกันนานมาก ไม่รู้ว่าจะเสียอายุขัยไปกี่ปี!
ดังนั้นเขาจึงอยากประชันกับฉีเซ่าเสวียนด้วยวิธีอื่นอย่างแท้จริง
ฉีเซ่าเสวียนดวงตาวาววับ ก่อนเอ่ยอย่างเฉยชา “ไฉนจะไม่กล้าล่ะ”
หวังเสินซวีมีศักยภาพไม่ธรรมดา ซึ่งฉีเซ่าเสวียนคิดว่าเป็นศัตรูที่แกร่งที่สุดในการชิงอันดับหนึ่งใต้ฟ้า
ฉีเซ่าเสวียนมีจิตใจโอหังมาตลอด คิดว่าตนไม่อ่อนแอกว่าใครใต้เสิ่นเทียน!
เขาย่อมไม่ปฏิเสธการท้าสู้ของหวังเสินซวี!
หวังเสินซวียกมุมปากเล็กน้อย ก่อนพูดหัวเราะอย่างสนุกสนาน “ดีมาก เช่นนั้นแซ่หวังขอไปก่อนละ”
เมื่อเอ่ยจบเขาก็เหยียบอากาศ พุ่งไปยอดเขาวิญญาณลูกที่สามก่อน
“คิกๆ ฉีเซ่าเสวียนเจ้าโง่กระมัง แซ่หวังโจมตียอดเขาวิญญาณลูกที่สามได้เมื่อไร เจ้าก็แพ้แล้ว!”
หวังเสินซวีมีความคิดชัดเจนมาก
ยอดเขาวิญญาณลูกที่สามกับสี่มีความยากไม่ต่างกันมาก ต้องมีกำลังรบของจุดสูงสุดผู้สูงศักดิ์สวรรค์ถึงจะเปิดได้ ขอแค่เขาเปิดยอดเขาวิญญาณลูกที่สามได้ก็จะอยู่เหนือกว่าฉีเซ่าเสวียน
ถึงอย่างไรที่สามก็เจ๋งกว่าที่สี่!
หากเขาเปิดยอดเขาวิญญาณลูกที่สามได้จะต้องได้โอ้อวดครั้งใหญ่!
ฉีเซ่าเสวียนหน้าไม่เปลี่ยนสีไป แค่เอ่ยนิ่งๆ “รอเจ้าเปิดได้ก่อนแล้วค่อยว่ากันเถอะ!”
หวังเสินซวีตะโกนเสียงดัง “ดูให้ดี แซ่หวังโจมตีภูเขานี้ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ!”
เมื่อพูดจบหวังเสินซวีก็เปล่งแสงเทพในกาย พลังแห่งมิติไหลหลาก รวมเป็นดาบยาวมิติยักษ์!
พริบตานั้น ดาบยาวลากผ่านออกไปและฉีกห้วงอากาศ แทงใส่ยอดเขาวิญญาณลูกที่สาม!
ชิ้ง!
ดาบมิติฟันใส่ผนังหินยอดเขาวิญญาณลูกที่สาม ก่อเกิดแสงเรืองรองไม่มีสิ้นสุด
กฎเกณฑ์สีสันหลากสีพุ่งออกเหมือนคลื่น บดบังฟ้าบังดวงตะวัน!
หมอกวนเวียนหนาทึบบนยอดเขาวิญญาณลูกที่สาม ลำดับกฎเกณฑ์เชื่อมต่อฟ้าดิน ผนึกมากมายพุ่งขึ้นฟ้า!
ดาบแห่งมิติแหลมคม ฉีกผนึกเป็นรูใหญ่
“ฉีเซ่าเสวียน เห็นหรือไม่! ไม่นานแซ่หวังก็จะทำลายผนึกได้!”
หวังเสินซวีพกความมั่นใจมาเต็ม มั่นใจว่ายอดเขาวิญญาณลูกที่สามขวางตนไม่ได้แน่!
ทว่าภาพต่อมากลับทำให้เขาโกรธจนกระทืบเท้า
พบว่ารูที่ถูกฟันแตกบนยอดเขาวิญญาณลูกที่สามกลับยังมีผนึกวนเวียนอยู่ชั้นหนึ่ง ทั้งยังมีพลังกฎเกณฑ์ไหลเวียนไม่ขาดสาย ฟื้นฟูรอยแยก
“ระยำ ข้าพลาดอะไรไปหรือไม่ เล่นเช่นนี้ได้ด้วยรึ”
หวังเสินซวีเบิกตาโต ผนึกบ้านี่ฟื้นฟูตัวเองได้ด้วยรึ
ผนึกยอดเขาวิญญาณลูกที่สามวนเวียน ไม่นานก็คืนสภาพรอยแยกนั้นกลับมาเป็นดังเดิม!
ดาบแห่งมิติ!
กระบี่แห่งมิติ!
ตัดมิติ!
หวังเสินซวีรีบออกกระบวนท่าสังหารจำนวนมาก อยากจะใช้การโจมตีรุนแรงเปิดยอดเขาวิญญาณลูกที่สาม!
ทว่าต่อให้เขาทุ่มสุดความสามารถก็ยังห่างจากการทำลายผนึกอีกไม่น้อย!
นอกจากนี้ ฉีเซ่าเสวียนยังเดินเข้ามา เริ่มใช้บุคลิกองอาจห้าวหาญโจมตียอดเขาวิญญาณลูกที่สี่!
ก่อนจะเห็นเขาถือง้าวมังกรสวรรค์ ไอม่วงพวยพุ่งข้างหลัง รวมเป็นปรากฏการณ์มังกรม่วงคำรามจักรวาล!
เขาพลันกวัดแกว่งง้าวมังกรสวรรค์ ฟันเป็นประกายทวนน่าสะพรึง พลังอำนาจสะท้านฟ้า
ในไม่กี่กระบวนท่า ยอดเขาวิญญาณลูกที่สี่ถูกทำลายเป็นรอยแตกร้าว
ยอดเขาวิญญาณมีกฎเกณฑ์วนเวียนเช่นกัน ฟื้นฟูรอยแตกร้าวเรื่อยๆ หมายจะต้านไว้ ทว่าความเร็วในการฟื้นฟูช้ากว่ายอดเขาวิญญาณลูกที่สามไม่น้อย
ประกายคมของง้าวมังกรสวรรค์แหลมคม ขณะกวัดแกว่งประกายทวน ยังต่อต้านพลังของผนึกไปเรื่อยๆ
ฉีเซ่าเสวียนออกมืออย่างทรงพลัง ไอม่วงภูผานทีสามสิบสามชั้นส่องสะท้อนฟ้าดิน ง้าวมังกรสั่นสะเทือนและขยับแสงแปดทิศ ฟันลงอย่างดุดัน
แสงเทพสว่างวูบไหว กลายเป็นมังกรเทพไอม่วงฟันใส่ยอดเขาวิญญาณลูกที่สี่
พลังเทพไม่มีสิ้นสุดถาโถมออกมาทำลายผนึกของยอดเขาวิญญาณลูกที่สี่
เดิมทีฉีเซ่าเสวียนมีกำลังรบไม่ธรรมดาอยู่แล้ว หลังใช้โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า คุณสมบัติกายยิ่งเกิดการผลัดเปลี่ยน เหนือกว่าขีดจำกัด!
เขาออกมืออย่างเต็มที่ ระเบิดอานุภาพไม่ด้อยไปกว่าการโจมตีเต็มที่ของจุดสูงสุดผู้สูงศักดิ์สวรรค์!
ต่อให้ยอดเขาวิญญาณลูกที่สี่จะเต็มไปด้วยผนึกก็ยืนหยัดได้ไม่นาน ถูกพลังแก่กล้าของฉีเซ่าเสวียนทำลายลง
เมื่อเห็นภาพนี้ โอรสสวรรค์มากมายเผยแววตาตื่นตกใจ
“สมกับเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วง ไม่อยากเชื่อว่าจะใช้สามสิบหกกระบวนท่าก็เปิดยอดเขาวิญญาณลูกที่สี่ได้!”
“กำลังรบเช่นนี้ พวกเราห่างชั้นเทียบไม่ได้เลย!”
“สมกับเป็นอดีตโอรสสวรรค์ที่แกร่งที่สุดในดินแดนบูรพา ไม่ธรรมดาจริงๆ!”
…..
จากนั้นเหล่าโอรสสวรรค์ก็เบนสายตาไปที่หวังเสินซวี
“แต่ว่าทางบุตรศักดิ์สิทธิ์ท้องนภา เหตุใดยังเปิดไม่ได้อีก”
“เหมือนว่าก่อนหน้านี้ข้าจะได้ยินบุตรศักดิ์สิทธิ์ท้องนภาบอกว่าทำลายยอดเขาวิญญาณที่สามง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือไม่ใช่รึ หรือว่าจะฟังผิดไป”
“บุตรศักดิ์สิทธิ์ท้องนภาดูจะอ่อนแอไปหน่อยนะ โจมตีใส่ตั้งนานแล้วยังไม่เป็นผลอะไรมากเลย”
“เป็นโอรสสวรรค์ระดับหลอมรวมเทพตอนต้นเหมือนกัน เหตุใดถึงต่างกันมากขนาดนี้”
…..
หวังเสินซวีมีสีหน้าร้อนใจ ก่อนพูดพึมพำ “เยื่อชั้นนี้ทะลวงยากชะมัดเลย! ขืนยังทำลายไม่ได้อีก แซ่หวังได้ขายหน้าไปถึงบ้านแน่”
ยอดเขาวิญญาณลูกที่สามกับสี่ แม้จะต้องใช้กำลังรบจุดสูงสุดผู้สูงศักดิ์สวรรค์ถึงจะทำลายได้ แต่ผนึกของยอดเขาวิญญาณลูกที่สามก็ยังแกร่งกว่ายอดเขาวิญญาณลูกที่สี่เล็กน้อย อีกทั้งพลังฟื้นฟูยังแกร่งกว่า
การโจมตีปกติพอจะบดไปได้ แต่ต้องใช้เวลานานมาก
“บ้าจริง อย่างมากก็กลับไปเรียนแบบเต่าดำต่อแล้วกัน! ยอดเขาวิญญาณสุนัข เจ้ารับกระบวนท่าของข้าเถอะ!”
ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป ชื่อเสียงได้เหม็นโฉ่ไปหมดแน่!
มิหนำซ้ำฉีเซ่าเสวียนยังทำสำเร็จแล้ว กำลังกอดอกรอดูอยู่
หวังเสินซวีไม่อยากเสียเวลา ต่อให้ต้องตัดชีวิตก็ต้องเปิดยอดเขาวิญญาณลูกที่สามให้ได้!
เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาก็ออกมือทันที เผาอายุขัยหกร้อยปีรวมเป็นหัตถ์ยักษ์มิติ ก่อนจะตบใส่ยอดเขาวิญญาณลูกที่สามอย่างฉับพลัน
การโจมตีเผาชีวิตไม่เหมือนกัน
เมื่อฝ่ามือยิ่งใหญ่กดลงมา กฎเกณฑ์ยอดเขาวิญญาณลูกที่สามพลันแตกกระจาย
ยอดเขาวิญญาณใหญ่ปรากฏในฟ้าดิน พลังวิญญาณไม่มีสิ้นสุดละลายเป็นกระแสคลื่นหลั่งทะลักออกไปรอบๆ
ยอดเขาวิญญาณลูกที่สาม…เปิด!
ในที่สุดก็เปิดยอดเขาวิญญาณลูกที่สามได้ หวังเสินซวีมีใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
เขามองฉีเซ่าเสวียนด้วยความลำพองใจ รูจมูกแหงนขึ้นฟ้า “ฉีเซ่าเสวียนเจ้าเห็นแล้วหรือไม่ เปิดได้ในฝ่ามือเดียว สุดหรือไม่”
ฉีเซ่าเสวียนชำเลืองตามองเขาทีหนึ่ง ก่อนจะพ่นหลายคำออกมาอย่างเย็นชา “หกร้อยปี!”
หวังเสินซวีมุมปากกระตุก อดเกิดความทุกข์ขึ้นในใจมิได้
ครั้งนี้ขาดทุนยับ เสียไปหกร้อยปีเต็มๆ!
แต่ตัดชีวิตไปแล้ว จะไม่โอ้อวดได้อย่างไร
เขายืดอกขึ้นพูดเยาะเย้ย เอ่ยปากแข็งว่า “ยอดเขาวิญญาณข้ามีอันดับสูงกว่าเจ้า”
“เจ้าตัดอายุขัยไปหกร้อยปี!”
“ยอดเขาวิญญาณข้ามีพลังวิญญาณเข้มข้นว่ายอดเขาวิญญาณของเจ้า!”
“เจ้าตัดอายุขัยไปหกร้อยปี!”
หวังเสินซวีอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา “ไม่พูดถึงหกร้อยปีไม่ได้รึ”
ฉีเซ่าเสวียนมีใบหน้าไร้อารมณ์ “เจ้าตัดอายุขัยมากกว่าห้าร้อยปีไปหนึ่งร้อยปี”
หวังเสินซวีไม่รู้จะพูดอย่างไรแล้ว
…….
เหล่าโอรสสวรรค์มองหวังเสินซวีที่ยืนบนยอดเขาวิญญาณลูกที่สามอย่างโอหัง มุมปากถึงกับกระตุกขึ้นมา
เจ้านี่เป็นคนโหดมาก ตัดชีวิตเหมือนกับของเล่นเลย!
ล่วงเกินไม่ได้ ภายภาคหน้าต้องห่างเจ้านี่ไว้หน่อย ถึงอย่างไรจู่ๆ ก็ตัดชีวิตโจมตี ใครจะต้านไหวกัน!
เสิ่นเทียนมองหวังเสินซวีพลางรู้สึกปวดไข่นิดๆ เช่นกัน
เจ้าเด็กนี่สิ้นเปลืองจริงๆ แล้วเมื่อไรถึงจะเติมอายุขัยเต็ม
มาถึงสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยสองวันก็ตัดอายุขัยไปพันกว่าปีแล้ว ตัดชีวิตเช่นนี้ เป็นเต่าหมื่นปีก็ไม่พอให้เผา!
หรือว่าการตัดชีวิตจะน่าเสพติดเหมือนเรื่องนั้นกัน
เสิ่นเทียนเห็นใบหน้าขาวซีด ขอบตาดำของหวังเสินซวีแล้วพยักหน้าเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน