บทที่ 434 ให้สวรรค์เป็นอาจารย์ สู้กับสวรรค์! (2)
ฉีจ้านเหมือนเข้าใจคำพูดของสือเทียนจื่อ เขาพลันเข้าใจแจ่มแจ้งขึ้นมา
“ก็ใช่ เทียนจื่อน่าจะเป็นบุตรชายของสวรรค์ ไม่ใช่สวรรค์! ข้าต้องสู้กับสวรรค์ ไม่ใช่บุตรของสวรรค์! บุตรชายของสวรรค์ต้องไม่แกร่งเท่าสวรรค์แน่นอน เจ้า ไม่คู่ควรเป็นคู่ต่อสู้ของข้า! ไสหัวไป ให้เสิ่นเทียนมา!”
โอรสสวรรค์ทุกคนต่างงุนงง
ไม่อยากเชื่อว่าจะพูดจาเช่นนี้กับสือเทียนจื่อ
ทุกคนมองสือเทียนจื่อ พบว่ามุมปากเขากระตุกอย่างบ้าคลั่ง
เจ้าลิงนี่สมองมีปัญหากระมัง!
นี่มันตรรกะเทพเซียนอะไรกัน
ทว่าฉีจ้านกลับไม่สนใจสือเทียนจื่ออีกแล้ว
เขาเบนสายตาไปมองเสิ่นเทียน “เจ้าคือเสิ่นเทียนรึ มาสู้กับข้าเถอะ!”
เสิ่นเทียนมึนงง ข้าเพียงแค่มาดูอะไรสนุกๆ เหตุใดไฟถึงลามมาถึงตัวข้าได้
เขาเกาศีรษะ “สหายฉี เราเจอกันครั้งแรกก็สู้กันเช่นนี้ ไม่ดีกระมัง!”
ฉีจ้านไม่สนใจอะไรมากขนาดนั้น เขามีใจพิสูจน์มรรค ตอนนี้หาเป้าหมายพบแล้วจะไปยอมแพ้ได้อย่างไร
ก็แค่เจอกันครั้งแรกไม่ใช่รึ!
จัดการง่าย!
ฉีจ้านหันกลับไปและหันกลับมาอีกครั้ง “ตอนนี้ เราไม่ได้เจอกันครั้งแรกแล้ว!”
เสิ่นเทียนมีเส้นสีดำขึ้นเต็มหน้าผาก
เจ้าลิงกัง สมองมีแต่ฟองอากาศกระมัง!
ทันใดนั้นเสิ่นเทียนก็เพ่งสายตามองเหนือศีรษะฉีจ้าน
ตรงนั้นเห็นเป็นวงรัศมีดวงชะตาสีม่วงเปล่งแสงระยิบระยับวงหนึ่ง อีกทั้งยังมีภาพโชคลิขิตลอยออกมาลับๆ
ออกมาแล้ว!
จะออกมาแล้ว!
ในที่สุดก็ออกมาแล้ว!
เสิ่นเทียนตาเป็นประกาย ใบหน้าเผยรอยยิ้ม “สหายฉี พวกเรามา…”
“เจ้าหนู กินกระบองของข้า!”
เสิ่นเทียนยังไม่ทันพูดจบ ฉีจ้านก็ควงกระบองใหญ่สีดำพุ่งเข้ามาหาเขา
เขาอดทนรอไม่ไหวนานแล้ว ขี้เกียจพูดมากก็ออกมือทันที
กระบองใหญ่สีดำเหมือนเสาสวรรค์พุ่งเข้ามาอย่างน่าเกรงขาม พลังมหาศาลยากจะปัดป้อง กระแทกห้วงอากาศแตกเป็นรู!
เสิ่นเทียนจนปัญญา แสงเทพขยับวูบวาบใต้เท้า กระตุ้นย่างก้าวเงาเทพอสุนีบาตหลบการโจมตีนี้
“สหายฉี กลมเกลียวกันไว้ๆ!”
เสิ่นเทียนคิดจะโน้มน้าว แต่ฉีจ้านไม่ฟังเลย ควงกระบองพุ่งเข้ามาตรงๆ
พริบตาเดียวกระบองใหญ่สีดำขยายใหญ่ขึ้น ทั้งยังหนาและยาว
กระบองใหญ่สีดำหลายร้อยจั้งพุ่งเข้ามา กระเทือนห้วงอากาศแตกกระจาย
ฉีจ้านสมกับเป็นผู้แข็งแกร่งสุดยอดสำนักอสูร มีพละกำลังบ้าคลั่งถึงที่สุด พลังมหาศาลยากจะป้องกันได้
เหมือนว่าจะพลิกกลับฟ้าดินแห่งนี้!
ทว่าต่อให้เขามีจะมีพละกำลังบ้าคลั่งกว่านี้ก็ยังโจมตีไม่ถูกเสิ่นเทียน เขาหลบหลีกได้หมด
ฉีต้านโกรธจนเกาหูเกาแก้ม ก่อนพูดเสียงดัง “เหตุใดเจ้าถึงหนีไปหนีมาอย่างกับลิง มาสู้กับข้าซึ่งๆ หน้าสิ!”
โอรสสวรรค์ทุกคนพูดไม่ออก
ตัวเองเป็นลิงแท้ๆ กลับยังว่าคนอื่นเขาเป็นลิง!
ไล่ตามไม่ทันยังจะให้คนอื่นเขาอย่าหลบอีก
สุดยอดจริงๆ!
เสิ่นเทียนพลันลอยขึ้นมาอย่างเงียบเชียบ ก่อนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “สหายฉีอย่าโกรธไปเลย เข่นฆ่ากันไม่ดีหรอก สู้มานั่งดื่มชา เดี๋ยวออกไปฝึกฝนด้วยกันดีกว่านะ!”
เสิ่นเทียนถูกใจกุยช่ายใหญ่ต้นนี้แล้ว จึงไม่อยากเอาจริงกับเขา
ถึงอย่างไรเกิดทำเสียหายขึ้นมาจะทำอย่างไร
จะไม่พลาดโชคลิขิตไปเลยรึ
ถึงเสิ่นเทียนจะเก็บโชคลิขิตของฉีจ้านมาได้เลยผ่านภาพโชคลิขิต แต่ถ้าทำเช่นนั้น ดวงชะตาเขาจะไม่เพิ่มขึ้น ถึงตอนนั้นก็จะได้ไม่คุ้มเสีย!
เพราะอย่างไรตั้งแต่พลังบำเพ็ญศาสตร์หลอมกายเทพมารทะลวงพลังครั้งก่อน ดวงชะตาเขาลดลงมาจนถึงตอนนี้ยังไม่ฟื้นกลับไปเลย
ตอนนี้เสิ่นเทียนยังคงพะว้าพะวังอยู่นิดๆ
อีกอย่างเขาไม่มีความแค้นกับฉีจ้าน การชิงโชคลิขิตเขาทำให้เขาดวงซวยหนัก
ดังนั้นเสิ่นเทียนจึงยึดมั่นความคิดเกาะได้ก็เกาะไป แบบนี้จะได้ประโยชน์ทั้งเจ้าและข้า ได้ดีด้วยกันทั้งสองฝ่าย!
…..
ฉีจ้านส่ายหน้า จิตต่อสู้เอ่อล้น “เอาชนะแซ่ฉีก่อน แล้วค่อยมาพูดเรื่องไร้สาระพวกนั้นกับข้า!”
เขาพุ่งเข้ามาอีกครั้ง ดวงตาเร่าร้อนอย่างยิ่ง
ดวงตาเขายิงประกายแสงสีทองสว่างจ้า เหมือนมองทะลุทุกสรรพสิ่งในโลก!
ตนเป็นนายน้อยเผ่าวานรอัคคีเนตรทอง ฉีจ้านจึงฝึกเนตรทองเนตรอัคคีวิชาลับในเผ่าสำเร็จมานานแล้ว!
ด้วยวิชานี้ ทำให้ฉีจ้านพอจะเห็นจุดลงเท้าของเสิ่นเทียนจึงจู่โจมเข้าไปก่อน ขวางเขาเอาไว้
แต่ก็ไม่มีประโยชน์ เขาทำลายสิ่งปลูกสร้างสำนักมนุษย์หมดแล้วก็ยังโจมตีไม่โดนเสิ่นเทียน แต่กลับทำให้โอรสสวรรค์รอบข้างหลบไม่ทัน ถูกประกายกระบองฟาดกระอักเลือด
เมื่อเห็นภาพนี้ ในที่สุดเสิ่นเทียนก็เดินออกมา
เขาพบว่าเจ้าลิงนี่พูดไม่รู้เรื่องเลย มีเพียงสู้กับเขาเท่านั้นถึงจะทำให้เขาใจเย็นลงได้!
หากไม่เช่นนั้น บางทีที่นี่อาจจะถูกเจ้าลิงมุทะลุนี่ทำลายแหลกเป็นเสี่ยงๆ ได้!
พอคิดถึงตรงนี้ เสิ่นเทียนก็ไม่หลบอีก แต่ออกมือทันที
ฟุบ!
ฟุบๆ!
ฟุบๆๆ!
เถากลืนกินเซียนพุ่งออกไปทีละเส้น รัดฉีจ้านไว้เหมือนกับมังกรเวียนว่าย
ขณะเดียวกันข้างหลังเสิ่นเทียนยังเปล่งแสงสว่างจ้า บุปผาฟากฝั่งดอกหนึ่งเปล่งแสงสว่างไสว ความจริงและมายาแปรเปลี่ยนหลอมรวมสู่มิติ
ฉีจ้านไม่ทันตั้งตัวก็ถูกเถากลืนกินเซียนรัดไว้แน่นก่อนจะลากเข้าไปในมิติ!
ทุกคนเห็นสองคนหายไปแล้วก็มีสีหน้าตื่นตกใจ
“ไม่รู้ว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะเอาชนะเจ้าลิงนั่นได้หรือไม่!”
“ถึงเจ้าลิงเหม็นจะโอหัง แต่ก็จะดูถูกศักยภาพไม่ได้เลยนะ”
“หวังว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะเอาชนะเจ้านั่นได้นะ!”
…….
ทุกคนเริ่มเป็นกังวลแทนเสิ่นเทียนแล้ว
ถึงอย่างไรเสิ่นเทียนก็เป็นสัญลักษณ์เป็นหน้าเป็นตาของสำนักมนุษย์ หากแพ้ให้กับโอรสสวรรค์เผ่าอสูรก็คงขายหน้ายับเยินแน่!
โดยเฉพาะสือเทียนจื่อยังยอมรับแล้วว่าเสิ่นเทียนต่างหากคืออันดับหนึ่งสำนักมนุษย์
พวกเขาเชื่อแน่นอน เพราะสือเทียนจื่อไม่มีทางเอาตัวเองมาสร้างบารมีให้บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แน่นอน
แต่ว่าแข็งแกร่งอย่างสือเทียนจื่อก็ยังแพ้ให้กับบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์หรือ
เช่นนั้นบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แข็งแกร่งเพียงใดกันแน่
ทว่าสือเทียนจื่อหันหน้าจากไปแล้ว ไม่อธิบายอะไรเลย
เขาเป็นคนตรงไปตรงมา ในเมื่อแพ้ให้กับเสิ่นเทียน ย่อมไม่แยแสจะปิดบังไว้
พอเห็นดังนั้น โอรสสวรรค์ทุกคนต่างสูดลมหายใจเข้าลึก
ตายตาหลับแล้ว!
…….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน