บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 449

บทที่ 449 หรือว่าจะเป็นนักรบวานรจริงๆ!

ชั่วขณะที่ทุกคนกำลังตกใจก็มีอีกกลิ่นอายพลังแข็งแกร่งพุ่งออกมา!

เห็นได้ชัดมากว่ามีผู้แข็งแกร่งกำลังมาเยือน!

กลิ่นอายพลังนั้นมหาศาลยากจะคาดเดา เหมือนคลื่นยักษ์สูงเทียมฟ้าถาโถมลงมา พลันดึงดูดสายตาของทุกคน!

ทุกคนมองตามไปก็เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังเดินมาช้าๆ!

คนนั้นสวมชุดคลุมขาวดั่งหิมะ มีสีหน้าเคร่งขรึม ทั่วร่างแผ่ความโอหังอวดดี!

คนนั้นมีกลิ่นอายพลังแข็งแกร่งเหมือนดวงตะวัน เปล่งแสงเทพสว่างจ้าทั้งตัว สั่นสะเทือนที่แห่งนี้!

“เป็นองค์ชายสือเทียนจื่อ!”

“เขาก็มาด้วยเหมือนกัน!”

มีคนร้องตกใจ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเคารพ

ตอนนั้นในสำนักมนุษย์ สือเทียนจื่อพูดเองว่าสู้บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไม่ได้ กระทั่งยกตำแหน่งอันดับหนึ่งสำนักมนุษย์ให้!

แต่การทำเช่นนี้ไม่ส่งผลกับชื่อเสียงของสือเทียนจื่อมากนัก เพราะอย่างไรก็เป็นสุดยอดโอรสสวรรค์ มีกำลังรบเหนือกว่าคนธรรมดา

การปรากฏตัวของสือเทียนจื่อย่อมก่อให้เกิดความฮือฮา!

สือเทียนจื่อลอยลงพื้น ไม่ได้สนใจคนอื่น แต่มองไปรอบๆ เขาเพ่งสายตามองเสิ่นเทียน ดวงตาเปล่งประกายแวววาว!

เวลานี้ สือเทียนจื่อเองก็ได้ข่าวผลการรบในเมืองทะเลบูรพาของเสิ่นเทียนเช่นกัน แม้เขาจะไม่มั่นใจว่าข่าวลือนี้มีน้ำผสมกี่ส่วน

แต่เขารู้ว่าเสิ่นเทียนมีกำลังรบแกร่งมาก อาจจะสู้กับเจ้าอริยะได้จริงๆ

นี่ไม่ส่งผลกับสือเทียนจื่อ แต่ยิ่งกระตุ้นความมุ่งมั่นต่อสู้ในใจ!

เขามองเสิ่นเทียนเป็นเป้าหมายไล่ตาม อยากจะเอาชัยชนะกลับคืนมาจากเขาให้ได้!

ยิ่งเสิ่นเทียนแกร่งมากเท่าไรก็ยิ่งปลุกเร้าเขามากเท่านั้น!

หลังเห็นสือเทียนจื่อมองมา เสิ่นเทียนก็พยักหน้าขานรับ ใบหน้าเผยรอยยิ้มเจิดจ้า

เพราะเขาเห็นหมอกม่วงไหลเวียนบนวงรัศมีดวงชะตาสีม่วงเข้มเหนือศีรษะสือเทียนจื่อ เหมือนว่าจะปรากฏภาพโชคลิขิตแล้ว

เห็นได้ชัดมากว่า ด้วยดวงชะตาของสือเทียนจื่อจะต้องได้มหาโชคลิขิตในโลกสะพานเชื่อมฟ้าแน่นอน

กุยช่ายที่ทั้งใหญ่และอุดมสมบูรณ์ต้นนี้ ในที่สุดก็ได้เก็บเกี่ยวแล้ว!

…..

และจากนั้นก็เกิดความวุ่นวายขึ้นในกลุ่มคนอีกครั้ง โดยเฉพาะโอรสสวรรค์บุรุษของสำนักมนุษย์ ยิ่งส่งเสียงดัง เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น

“เป็นเทพธิดาชิงเยวี่ย!”

“เทพธิดาออกด่านบำเพ็ญแล้ว!”

โอรสสวรรค์บุรุษมากมายถึงกับร้องตกใจ ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเคารพรัก

“สตรีที่ไม่ชอบต่อสู้นั่นก็มาด้วย!”

ฉีจ้านแปลกใจเล็กน้อย เงยหน้ามองไป

ก่อนที่สือเทียนจื่อกับเสิ่นเทียนจะเข้าสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ย คู่ต่อสู้ของเขาคือเทพธิดาชิงเยวี่ย!

แต่เทพธิดาชิงเยวี่ยไม่ชอบการต่อสู้ จะปิดด่านบำเพ็ญยาวนาน!

กล่าวได้ว่าเป็นหญิงชอบเก็บตัวที่สุด

ไม่นึกเลยว่าสะพานเชื่อมฟ้ามาเยือน จะดึงนางออกมาได้

เสิ่นเทียนได้ยินเช่นนั้นก็มองไปเช่นกัน เห็นร่างงดงามเดินมาอยู่ไม่ไกล นั่นคือหญิงสวมชุดกระโปรงเซียนหยกคราม ใบหน้างดงามดั่งหยก ผิวพรรณขาวผ่องเหมือนหิมะ

นางแผ่เอกลักษณ์เย็นเยือก หยิ่งยโส สงบนิ่ง รักสันโดษและไม่ต้องการสิ่งใดทั้งตัว

เหมือนกับเทพธิดาบนฟ้า ได้แต่มองแต่ไม่อาจหมิ่นประมาท

เทพธิดาชิงเยวี่ยปรากฏตัวขึ้น ทำให้โอรสสวรรค์บุรุษต่างหลงใหล!

นางไม่ได้มีแค่ศักยภาพแข็งแกร่ง แต่ยังงดงามเหมือนเซียนสวรรค์ นี่คือเทพธิดาของโอรสสวรรค์บุรุษสำนักมนุษย์

ธิดาสวรรค์มากมายพบเทพธิดาชิงเยวี่ยแล้วยังอดก้มหน้าลงมิได้ ละอายใจที่เทียบไม่ได้

สตรีคนนี้ควรอยู่แค่บนสวรรค์ หาได้ยากยิ่งในโลกมนุษย์

แม้แต่ฉีจ้านยังเกาศีรษะ “ถึงนางจะไม่งดงามเท่าสตรีเผ่าข้า แต่ก็มีความงามอยู่หลายส่วน คู่ควรกับพี่ใหญ่!”

เสิ่นเทียนพูดไม่ออก

ทุกคน “amp;*¥#%”

เจ้าลิงกังนี่พูดบ้าอะไร

อะไรคือเทพธิดาชิงเยวี่ยไม่งามเท่าหญิงงามเผ่าลิงพวกเจ้า ลิงตัวเมียปากแหลมแก้มลิงพวกนั้นจะเทียบกับเทพธิดาชิงเยวี่ยได้หรือ

เมื่อได้ฟังคำพูดของฉีจ้าน โอรสสวรรค์มากมายแอบกัดฟัน มุมปากกระตุกอย่างบ้าคลั่ง

หากไม่ใช่เพราะลิงกังนี่แข็งแกร่ง พวกเขาอาจจะพุ่งเข้าไปทุบตีมันสักยก!

ผีเท่านั้นที่รู้ว่ามุมมองด้านความงามของลิงน่ากลัวเพียงใด!

แต่คำพูดช่วงหลังก็พูดได้ถูกแล้ว พวกเขาอดตกใจขึ้นมามิได้!

เทพธิดาบนฟ้าเช่นนี้คู่ควรกับบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จริงๆ!

สองคนมีใบหน้าเป็นที่สุดแห่งยุค และยังมีศักยภาพแข็งแกร่งอย่างยิ่ง!

สองคนอยู่ด้วยกันเหมือนการประกบของสวรรค์ เป็นคู่ชีวิตแห่งเทพเซียน!

จางอวิ๋นซีและพวกองค์หญิงหลิงหลงกัดฟันงาม ดวงตาเหมือนกระบี่ ถลึงตามองฉีจ้านโหดๆ ทีหนึ่ง

อะไรคือคู่ควรกับศิษย์น้อง นางคู่ควรที่ใดกัน คนที่คู่ควรกับศิษย์น้อง/สหายเสิ่น มีเพียงข้าเท่านั้น!

……

ฉีจ้านรู้สึกเย็นที่แผ่นหลัง จึงเกาศีรษะด้วยความงุนงน ไม่เข้าใจความหมาย

และตอนนี้เองเทพธิดาชิงเยวี่ยย่างก้าวดอกบัวเดินตรงไปทางเสิ่นเทียน!

หลังเทพธิดาชิงเยวี่ยเห็นใบหน้าเสิ่นเทียนแล้วก็ตกตะลึงในใจ โลกนี้ ไม่อยากเชื่อว่าจะมีบุรุษรูปงามเหนือธรรมดาเช่นนี้

เทพธิดาชิงเยวี่ยมีจิตใจใสสะอาดปราศจากความปรารถนา โลกนี้มีน้อยคนมากที่จะทำให้นางหน้าเปลี่ยนสี!

แต่เมื่อได้พบเสิ่นเทียน จิตใจนางยังเกิดคลื่นกระเพื่อม ใบหน้างามแดงขึ้นมาเล็กน้อย!

เทพธิดาชิงเยวี่ยโค้งตัวเล็กน้อย “ขอคารวะศิษย์น้องเสิ่นเทียน! ศิษย์น้องเสิ่นเทียนสังหารเจ้าอริยะลัทธิวิญญาณร้ายได้ มีศักยภาพแข็งแกร่งจริงๆ สมกับเป็นมังกรในหมู่มนุษย์!”

นางเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์รุ่นสี่ของแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยก อาจารย์คือเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยก!

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกเคยแจ้งข่าวกับชิงเยวี่ยแล้วว่าให้นางผูกมิตรกับเสิ่นเทียน!

ดังนั้นนางถึงเข้ามาทักทายก่อน!

เสิ่นเทียนส่ายหน้ายิ้มๆ “ศิษย์พี่หญิงชิงเยวี่ยชมเกินไปแล้ว แค่ข่าวลือเท่านั้น! แซ่เสิ่นแค่ไล่เจ้าอริยะเสียหั่วไป ไม่ได้สังหารเขา”

เขาก็ยังถ่อมตัวมาก อธิบายออกไป

หากถูกคนจับตามอง นั่นจะไม่ใช่เรื่องดี!

ถึงอย่างไรปืนก็ยิงนกที่โผล่หัวมาก่อน!

ข้าชอบฟาร์มเงียบๆ มากกว่า

…..

แต่จากนั้นเสิ่นเทียนก็อึ้งไปเล็กน้อย สายตาจับจ้องหน้าผากของเทพธิดาชิงเยวี่ย!

เพราะเขาเห็นว่าเหนือศีรษะเทพธิดาชิงเยวี่ยมีวงรัศมีดวงตาสีม่วงสว่างจ้าอย่างยิ่งกำลังขยับแสงวูบวาบ!

กระทั่งในนั้นยังมีภาพโชคลิขิตลอยขึ้นมา!

เสิ่นเทียนดีใจอยู่ข้างใน!

มาแล้วๆ!

กุยช่ายใหญ่มาแล้ว!

สมกับเป็นอดีตอันดับหนึ่งสำนักมนุษย์ ดวงชะตาไม่ธรรมดาจริงๆ กระทั่งไม่ด้อยไปกว่าฉีจ้านเท่าไร!

เสิ่นเทียนมีความสุขในใจ กุยช่ายใหญ่ขนาดนี้ เขาจะต้องคว้าเอาไว้ให้ดี จะต้องเกาะเอาไว้!

เมื่อเห็นเสิ่นเทียนมองตนตลอด เทพธิดาชิงเยวี่ยก็หน้าแดงยิ่งกว่าเดิม

เหตุใดศิษย์น้องเสิ่นเทียนถึงจ้องข้าตลอดเลย หรือว่า…

ไม่รู้เพราะเหตุใด เทพธิดาชิงเยวี่ยถึงหน้าแดงขึ้นมานิดๆ!

…..

หลังเห็นบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เหมือนมีดาวล้อมเดือน แม้แต่เทพธิดาชิงเยวี่ยยังชื่นชอบเขา ในที่สุดก็มีคนอดใจไม่ไหวบ่นพึมพำ

“ก็แค่รุ่นเยาว์คนเดียว โม้เสียเกินจริงไปเลย ข้าว่าคงเป็นพวกมีชื่อเสียงจอมปลอม!”

บุรุษหนุ่มคนนั้นสวมชุดคลุมยาวสีแดงเพลิง ตรงหน้าผากมีสัญลักษณ์ดวงตะวัน!

คนนี้คือบุตรศักดิ์สิทธิ์รุ่นแรกของแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวัน!

แดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันไม่ถูกกับแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มาตลอด เมื่อเห็นบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์โด่งดังเช่นนี้ บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันรุ่นแรกยังไม่พอใจอยู่ข้างใน

เขารักและเคารพเทพธิดาชิงเยวี่ยมาตลอด เห็นนางฟ้าของตนไปใกล้ชิดเสิ่นเทียน ก็เหมือนกับกินมะนาวอมตะหมื่นปี อิจฉาขึ้นมาทันที

ดังนั้นเขาถึงก้าวออกมาอยากจะหาเรื่องต่อว่าเสิ่นเทียน!

บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันรุ่นแรกไม่เชื่อว่าเสิ่นเทียนจะมีกำลังเอาชนะเจ้าอริยะได้

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์มากมายยังไม่มีกำลังรบนี้ แล้วนับประสาอะไรกับบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ตัวจ้อย

คิดว่าเจ้าอริยะเป็นขยะ ถูกขยี้ตายไปตามใจรึ

คนที่ไปถึงระดับเจ้าอริยะได้ล้วนเป็นยอดฝีมืออาวุโสที่อยู่มาพันปีกระทั่งหลายพันปี ตอนหนุ่มสาวยังเป็นสุดยอดโอรสสวรรค์

การคงอยู่ระดับนี้จะถูกเด็กอายุยี่สิบกว่าปีขับไล่กระทั่งสังหารได้หรือ หลายพันปีมานี้ไปฝึกฝนบนตัวสุนัขกันหมดรึ

เก้าตะวันรุ่นแรกคิดว่าเสิ่นเทียนก็แค่ชอบเป็นที่สนใจของทุกคน เสแสร้งให้ตัวเองดูลึกลับ!

เสิ่นเทียนไม่สนใจ มีคนริษยาเขาเยอะมาก หรือว่าจะต้องไปหาถึงหน้าบ้านทุกคนเลยรึ

เขายังไม่ทันเอ่ย โอรสสวรรค์รอบกายเขาพลันระเบิดขึ้นแล้ว!

“เจ้าเด็กนี่พูดอะไร”

ฉีจ้านเดิมทีเป็นลิงฉุนเฉียวอยู่แล้ว จะไปทนให้คนมาใส่ร้ายเสิ่นเทียนได้อย่างไร

เขาเคารพเสิ่นเทียนเป็นพี่ใหญ่มานานแล้ว มีแต่ความเคารพ!

อีกทั้ง แม้แต่จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ยังให้เขาผูกมิตรกับเสิ่นเทียน

ไม่ว่าจะเนื่องด้วยตนหรือความยินยอมของบรรพบุรุษ เขาก็ต้องปกป้องชื่อเสียงของเสิ่นเทียน

ฉีจ้านเดินเข้ามา ถลึงตาโต จิตต่อสู้หมุนม้วนไปทั่วร่าง จ้องเก้าตะวันรุ่นแรกตาเขม็ง

เก้าตะวันรุ่นแรกตัวสั่น ถูกพลังของฉีจ้านกดขี่จนหน้าแดง!

ถึงอย่างไรฉีจ้านก็เป็นอันดับหนึ่งสำนักอสูร อีกทั้งพลังทะลวงพลังบำเพ็ญแล้วยังน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม!

ส่วนเก้าตะวันรุ่นแรกอยู่แค่สิบอันดับแรกรายนามโอรสสวรรค์สำนักมนุษย์ จะไปสู้ฉีจ้านได้อย่างไร!

ภายใต้การกดดันของฉีจ้าน บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันรุ่นแรกพูดยังพูดไม่ออกเลย!

“เจ้าหนู เจ้าทำเกินไปแล้ว!”

ทว่าตอนนี้เองมีกลิ่นอายพลังมหาศาลพุ่งเข้ามา กระแทกกลิ่นอายพลังของฉีจ้านสลายไป!

ก่อนจะเห็นชายวัยกลางคนเดินเข้ามา ใบหน้ามืดทะมึน ตรงหน้าผากยังมีสัญลักษณ์ดวงตะวันสามดวง

เมื่อเห็นคนนี้ปรากฏ บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันรุ่นแรกก็ทำหน้าดีใจใหญ่ ร้องด้วยความตกใจ “อาจารย์!”

คนนี้ก็คือเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวัน!

“มีอะไร ตาแก่อย่างเจ้าคิดจะสอดมือรึ”

แม้เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันจะปรากฏตัวแล้ว ฉีจ้านก็ยังไม่เกรงกลัว!

เมื่อถูกรุ่นเยาว์ยั่วยุต่อหน้าทุกคน เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันหรี่ตาลงเล็กน้อย ทำเสียงขึ้นจมูก “นี่เหมือนจะไม่เกี่ยวอะไรกับเผ่าวานรอัคคีเนตรทองกระมัง”

เผ่าวานรอัคคีเนตรทองเป็นขุมอำนาจไม่ธรรมดาเลยในดินแดนกลาง กระทั่งเหนือกว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวัน!

แต่นั่นเป็นเพียงศักยภาพแฝงของเผ่า ไม่ใช่ศักยภาพของฉีจ้าน

ถึงอย่างไรเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันก็เป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ อยู่มาพันกว่าปี พลังบำเพ็ญถึงเจ้าอริยะแล้ว

เขาย่อมไม่เห็นรุ่นเยาว์ฉีจ้านคนนี้อยู่ในสายตา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน