บทที่ 448 หลานเอ๋อร์ เป็นเจ้ารึ
ด้วยค่ายกลเคลื่อนย้าย เสิ่นเทียนกับฉีจ้านกลับถึงสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยอย่างรวดเร็ว
และเมื่อพวกเขากลับถึงสำนักศึกษาหลวง สิ่งที่ได้ยินมากที่สุดคือผลการรบในเมืองทะเลบูรพาของสองคน!
เรื่องของเมืองทะเลบูรพากลายเป็นข่าวร้อนแรงของจี้เซี่ย
ไม่มีใครไม่รู้ อีกทั้งยังเล่าลือไปเรื่อยๆ ยิ่งเล่าลือยิ่งเกินจริง!
สองคนที่ได้ฟังข่าวต่างมองหน้ากัน ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร
“พี่ใหญ่ ควรทำอย่างไรดี”
ฉีจ้านเกาศีรษะด้วยความมึนงง ไม่นึกเลยว่าข่าวลือจะน่ากลัวถึงเพียงนี้ โม้จนพวกเขาขึ้นฟ้าเลย
และที่ไร้เหตุผลยิ่งกว่านั้นคือข่าวลือนี้ยังกลายเป็นความจริง!
เมื่อฉีจ้านพลังบำเพ็ญทะลวงผู้อริยะสามด่านเคราะห์ ศักยภาพเพิ่มขึ้นอย่างมาก ก็สู้กับเจ้าอริยะได้จริงๆ!
ข่าวลือนี้ถูกต้องทุกอย่าง!
เสิ่นเทียนยิ่งไม่ต้องพูดถึง เขามุมปากกระตุก มึนงงนิดๆ ในใจ
คนพวกนี้ หรือว่าจะแอบติดกล้องในตัวข้าไว้ พวกเขารู้เรื่องในกระแสมิติปั่นป่วนได้อย่างไรกัน!
หรือว่ามีคนเบิกเนตร ซ่อนตัวแอบดูอยู่ข้างๆ คนพวกนี้พูดมั่วอะไรเป็นความจริงหมด!
จริงๆ เลย ไร้เหตุผลจริงๆ!
“ช่างเถอะ ปล่อยไปตามน้ำแล้วกัน!”
เสิ่นเทียนส่ายศีรษะ ไม่คิดจะออกหน้าอธิบาย
เขามีใจอยากอยู่เงียบๆ แต่ดูท่าสถานการณ์คงไม่อนุญาต
ตอนนี้ยิ่งไม่เหมาะจะอธิบาย ยิ่งอธิบายยิ่งเป็นปัญหา ดังนั้นสองคนจึงไม่ได้พูดกับคนอื่น แต่กลับไปปิดด่านบำเพ็ญ
เมื่อข่าวลือแพร่งพรายไปไกลขึ้นเรื่อยๆ ศิษย์ทุกคนในสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยต่างมั่นใจว่าสองคนมีกำลังรบเจ้าอริยะจริงๆ
เวลานี้สองคนมีชื่อเสียงโด่งดังมาก!
…..
ขณะเดียวกัน อาณาจักรต้าเหยียน
มีร่างเงาหนึ่งกำลังมุ่งหน้าไปอาณาจักรอย่างรวดเร็ว!
นั่นคือนักบวชหัวโล้นสวมจีวร ทั่วร่างแผ่พลังพุทธะศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์!
แต่พลังพุทธะนี้ไม่แน่นอน ผลุบๆ โผล่ๆ
จนเมื่อมันซ่อนตัวก็แทนที่ด้วยพลังมารที่รวดเร็วและดุดันยิ่ง!
เขาเหมือนกับนักบวชศักดิ์สิทธิ์ฝ่ายพุทธ และยังเหมือนราชามารที่สุดแห่งยุค!
คนนี้ก็คือหนึ่งในสี่เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงแห่งลัทธิวิญญาณร้าย…เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิง!
หลังจากเสียสุดยอดสองร่างธรรมไป เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงศักยภาพลดลงอย่างมาก เสียพลังบำเพ็ญไปพันปี!
เขาแค้นเสิ่นเทียนอย่างยิ่ง เหมือนธารน้ำบนสวรรค์เก้าชั้น ไหลหลากไม่ขาดสาย!
เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงคิดจะแก้แค้นเสิ่นเทียนมาตลอด แต่ทุกครั้งจะเสียเปรียบหนัก
เจ้าหนูนี่ชั่วร้ายจริงๆ!
สองร่างธรรมเขาสิ้นชีพลงเพราะไปล่าสังหารเสิ่นเทียน!
ผิดเป็นครู ในที่สุดเจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงก็ล้มเลิกการล่าสังหารเสิ่นเทียนอย่างซึ่งหน้า!
เขาตัดสินใจว่าจะลงมือกับคนในครอบครัวเสิ่นเทียน!
หลังจากผ่านความลำบากในช่วงนี้มา ในที่สุดเจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงก็สร้างร่างธรรมมาได้อีกสองร่าง!
หลังจากเตรียมทุกอย่างเรียบร้อย เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงก็กลั้นจิตสังหารในใจไว้ไม่ได้ เคลื่อนไหวมุ่งหน้าไปอาณาจักรต้าเหยียน!
เขาจะลงมือกับเสิ่นเซี่ยวจักรพรรดิแห่งอาณาจักรต้าเหยียน เพื่อเป็นการล้างแค้นเสิ่นเทียน!
เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “เสิ่นเทียน ข้าจะสังหารคนในครอบครัวเจ้าให้หมด!”
เขาย่ำเดินเข้าไปในตำหนักจักรพรรดิ
เขารวดเร็วยิ่งเหมือนกับสายลม ร่างเหมือนหลอมรวมกับอากาศเป็นหนึ่งเดียว!
ต่อให้ปรากฏตัวข้างกายคนอื่นก็ไม่มีใครสังเกตเห็นเลย!
……
สุสานพระสนมหลาน!
นี่คือสุสานของแม่นางพระสนมหลาน!
หลังจากพระสนมหลานสิ้นพระชนม์ เสิ่นเซี่ยวได้สร้างสวนสุสานให้นางเพื่อเป็นการเซ่นไหว้นาง!
ที่นี่เงียบสงบมาก มีเพียงเสิ่นเซี่ยวที่จะมาเป็นบางครั้ง คนอื่นห้ามเข้ามา
เสิ่นเซี่ยวถือดอกไม้ขาว มองป้ายหลุมศพตรงหน้า นัยน์ตาเต็มไปด้วยความคิดถึงและหวนรำลึก
เขาวางดอกไม้ขาว ทั้งยังจุดธูปหลายดอก
แววตาเสิ่นเซี่ยวแน่วแน่ มองป้ายหลุมศพพระสนมหลานพลางพูดเสียงเบา “หลานเอ๋อร์ เจ้ารู้หรือไม่ ตอนนี้เทียนเอ๋อร์ไม่ธรรมดาแล้วนะ ได้เข้าแดนศักดิ์สิทธิ์ ประสบความสำเร็จอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน!
ได้ยินว่าต่อให้อยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์ เทียนเอ๋อร์ก็ยังเป็นอัจฉริยะสูงสุด หากดวงวิญญาณเจ้าบนสวรรค์รับรู้ได้ จะต้องยิ้มร่าไปทั่วแดนปรโลกอย่างแน่นอน!”
…..
ตอนนี้เอง ห้วงอากาศข้างหลังเสิ่นเซี่ยวบิดเบี้ยว เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงร่างลอยขึ้นมาทันที
เมื่อเห็นเสิ่นเซี่ยว เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงก็ทำหน้าเหี้ยมโหด พูดอย่างน่ากลัว “ที่แท้ก็ซ่อนอยู่ที่นี่เอง วันนี้ข้าจะสังหารเจ้า ให้เจ้าเด็กเสิ่นเทียนได้ลิ้มรสของการเสียบุพการี! พวกมดปลวก ตายเสียเถอะ!”
แม้เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงจะอยู่ใกล้แค่เอื้อม เสิ่นเซี่ยวกลับไม่สังเกตเห็นเลย!
ถึงอย่างไรก็เป็นการคงอยู่เหนือกว่าเจ้าอริยะ ด้วยพลังบำเพ็ญของเสิ่นเซี่ยวไม่รู้ได้เลย!
เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงยื่นมือใหญ่ออกมา พลังฤทธิ์น่าสะพรึงรวมเป็นกรงเล็บมารเท่าฟ้า เหมือนจะตบเสิ่นเซี่ยวแหลกเป็นเศษเนื้อ
ตอนนี้เองมีไอม่วงวนเวียนขึ้นในอากาศ พลังมหาศาลยากจะคาดเดา
ไอม่วงตกมาจากห้วงอากาศ เหมือนกับธารน้ำเงินสวรรค์เก้าชั้น มากมายไม่ขาดสาย
ทว่าในนั้นกลับมีพลังยิ่งใหญ่ นำมาหมื่นกฎเกณฑ์ฟ้าดิน สร้างเป็นมือใหญ่สีม่วงตบใส่เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิง!
“อะไรกัน เป็นไปได้อย่างไร!”
เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงสัมผัสได้ถึงพลังน่าสะพรึงอย่างหนึ่ง ทำให้เขาจิตใจสั่นไหว ความกล้าจะพังทลายลง!
พลังนี้เหมือนหมื่นกฎเกณฑ์ตกลงมา มหาศาลยากจะปัดป้อง
‘หนี!’
เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงเกิดความคิดหนึ่งขึ้นในใจ ก็คือหนี!
หลังนั้นน่ากลัวเกินไปจริงๆ แค่สัมผัสก็ตาย ทำให้เขาไม่มีความคิดจะต่อต้านได้เลยแม้แต่น้อย!
เขาไม่อาจจินตนาการได้เลยว่าอาณาจักรต้าเหยียนเล็กๆ จะซ่อนพลังน่าสะพรึงเช่นนี้ไว้!
หรือว่าเสิ่นเทียนจะคาดเดาการเคลื่อนไหวของเขาได้ จึงเตรียมรับมือก่อน
ไม่มีทาง เด็กคนเดียวจะมีกลอุบายเช่นนี้ได้อย่างไร
เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงรู้สึกเหลือเชื่อ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาคาดเดา!
เขาพลันฉีกห้วงอากาศข้างหลัง จะหนีเข้าไป ทว่าเขายังไม่ทันขยับ มือใหญ่สีม่วงได้บีบเขาไว้
ผู้แข็งแกร่งอย่างเจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงอยู่ต่อหน้ามือใหญ่สีม่วงนี้ กลับเหมือนลูกนกถูกจับ ไม่ว่าเขาจะดิ้นรนอย่างไรก็ดิ้นไม่หลุดเลย
“เจ้าเป็นใครกันแน่”
เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงตื่นกลัวอย่างยิ่ง เขาไม่เคยรู้สึกถึงพลังที่น่ากลัวเช่นนี้มาก่อน เหมือนว่าจะปลิดชีพเขาได้ง่ายๆ
ทว่ากลับไม่มีคนตอบ!
มือใหญ่สีม่วงบีบเบา ๆ ห้วงอากาศเกิดคลื่นไร้รูปขึ้น!
ปัง!
กายเนื้อเกิดเสียงระเบิดดังขึ้น!
กายปัจจุบันพุทธมารหนึ่งยุคถูกบดขยี้เป็นหมอกโลหิต
จักรพรรดิเหยียนเสิ่นเซี่ยวเหมือนสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง เขาพลันหมุนตัวกลับมา มองห้วงอากาศที่บิดเบี้ยวลับๆ น้ำเสียงแหบแห้ง
“หลาน หลานเอ๋อร์ เป็นเจ้าหรือ”
…….
ขณะเดียวกัน ตำหนักศักดิ์สิทธิ์ดินแดนกลางที่ห่างไปเป็นล้านล้านลี้
สองร่างเงานั่งขัดสมาธิอยู่ ด้านหนึ่งมีพลังพุทธไม่มีสิ้นสุด อีกด้านมีพลังมารไม่มีสิ้นสุด!
สองร่างเงานี้คือสองกายธรรมที่เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงรวมออกมาใหม่
ก่อนหน้านี้กลัวเกิดเหตุไม่คาดคิด เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงจึงใช้กำลังวังชาและทรัพยากรไปจำนวนมากเป็นพิเศษเพื่อสร้างร่างกายธรรมขึ้นมาใหม่
นี่คือทักษะเทพเอาตัวรอด ขอแค่มีร่างธรรมหนึ่งยังอยู่ เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงก็ยังไม่ถือว่าตาย!
ทว่าตอนนี้เอง สองร่างธรรมเบิกตาโต นัยน์ตาเต็มไปด้วยความตื่นกลัว!
“นั่นมันพลังอะไร”
“กายปัจจุบันถูกสังหารในพริบตาเลยรึ”
กายอดีตของเจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงแผดเสียงตะโกน
สามร่างธรรมที่เขาใช้เวลาไปหลายพันปีในอดีต สูญสิ้นลงหมดแล้ว!
ร่างธรรมที่รวมขึ้นมาใหม่มีศักยภาพไม่ถึงหนึ่งส่วนสิบในตอนแรก!
พูดได้ว่าเจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงกลับไปก่อนปลดแอก เสียเวลาฝึกบำเพ็ญอย่างหนักไปหลายพันปี!
“เสิ่นเทียน ทุกอย่างเป็นเพราะเจ้า ข้าจะต้องฆ่าเจ้าให้ได้!”
กายอนาคตของเจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงคำรามด้วยความบ้าคลั่งเช่นกัน!
แต่ไม่นานนัก สองร่างธรรมก็ร้องด้วยความตกใจกลัว “มันบ้าอะไรกัน”
ก่อนจะเห็นพวกเขาสองคนพลันมีสีหน้าหวาดกลัว ร่างทยอยกันระเบิดกลายเป็นกองเถ้าธุลี!
มีเพียงเส้นไอม่วงกระจายมาจากอากาศ!
ทุกอย่างนี้ ก็ยังไม่มีใครสังเกตเห็น
……
ในถ้ำมารสุญญะที่ไร้แสงตะวันบางแห่ง วางรูปปั้นเทพมารน่ากลัวที่ไม่รู้นามไว้หลายรูป
ในทุกรูปปั้นจะเต็มไปด้วยพลังมารไม่มีสิ้นสุด แสงสีดำวูบไหว กลิ่นอายพลังน่ากลัวถึงที่สุด!
หากเป็นคนธรรมดามองทีเดียวจะตกลงเหวลึกทันที ถูกพลังมารควบคุมสติปัญญา กลายเป็นมารร้ายที่รู้จักแต่การเข่นฆ่ากระหายเลือด!
ที่นี่น่ากลัวยิ่งนัก เหมือนกับพลังแห่งบ่อเกิดมาร ไม่ใช่ที่ที่คนธรรมดาจะเข้าออกได้!
ตรงกลางถ้ำมารสุญญะวางโต๊ะมหึมาตัวหนึ่ง หลอมขึ้นมาจากต้นไม้ปีศาจระดับเจ้าอริยะ
เรื่องมูลค่ายากจะจินตนาการได้!
ทว่าตอนนี้เอง ห้วงอากาศในถ้ำมารสั่นไหว มีหลายร่างเงาลอยขึ้นมา
ร่างพวกนี้เป็นมายาเล็กน้อย แต่แผ่กลิ่นอายพลังน่ากลัว เป็นเงาสะท้อนของผู้แข็งแกร่งสุดยอด!
ที่นี่ คือฐานของลัทธิวิญญาณร้าย!
และร่างเงาพวกนี้คือผู้แข็งแกร่งสุดยอดของลัทธิวิญญาณร้าย!
มีสามร่างเงานั่งตรงโต๊ะ นั่นคือสามเจ้าผู้คุมกฎแห่งลัทธิวิญญาณร้าย เจ้าผู้คุมกฎเจิ้นอวี้ เจ้าผู้คุมกฎเทียนหลัวและเจ้าผู้คุมกฎจื่อเตี้ยน!
ลัทธิวิญญาณร้ายมีสี่เจ้าผู้คุมกฎ ทุกคนมีศักยภาพแข็งแกร่งที่สุด กุมทรัพยากรส่วนใหญ่ของลัทธิวิญญาณร้าย
นอกจากเจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงแล้ว อีกสามเจ้าผู้คุมกฎมาที่นี่กันหมด แต่กลับได้แต่นั่งในตำแหน่งล่าง
ตรงตำแหน่งประธานมีอีกสองร่างเงา พวกเขามีกลิ่นอายพลังแกร่งกว่าสามเจ้าผู้คุมกฎไปไกลมาก!
ขนาดสามเจ้าผู้คุมกฎพบสองคนนี้ยังต้องเคารพอย่างยิ่ง!
สองคนนี้ก็คือรองเจ้าลัทธิวิญญาณร้าย ราชันมารเชียนฮ่วนกับราชันมารเหลาฉิง
พวกเขาเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในลัทธิวิญญาณร้ายนอกจากเจ้าลัทธิวิญญาณร้าย รับผิดชอบงานทุกอย่างของลัทธิวิญญาณร้าย!
วันนี้เป็นการประชุมระดับสูงของลัทธิวิญญาณร้าย รองเจ้าลัทธิวิญญาณร้ายได้แจ้งให้ชนชั้นสูงทุกคนมาเข้าร่วมนานแล้ว
เมื่อเห็นยังมีตำแหน่งว่าง ราชันมารเชียนฮ่วนเอ่ยอย่างเฉยชา “เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิง เหตุใดถึงยังไม่มาอีก”
นี่คือการประชุมระดับสูงของลัทธิวิญญาณร้าย เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงที่เป็นสี่เจ้าผู้คุมกฎใหญ่กลับไม่มา ราชันมารเชียนฮ่วนจึงไม่พอใจมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน