บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 455

บทที่ 455 ฝ่าเส้นทางโลหิตจากสถานการณ์อับจน!

กระดานหมากฟ้าขุ่นมีความหมายลี้ลับยากจะคาดเดา ทำให้ผู้แข็งแกร่งมากมายต้องก้มคำนับ

ตั้งแต่มันปรากฏมา มีผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วนเข้าไปทดสอบ แต่ก็ยังไม่มีใครแก้ได้

สถานการณ์หมากในกระดานหมากฟ้าขุ่นลงมาเพียงครึ่งหนึ่ง ยังมีช่องว่างให้สับเปลี่ยน แต่กลับกำหนดตัวหมากเข้าตาจนไว้แล้ว ไม่ว่าจะเปลี่ยนอย่างไร หมากขาวก็ยังยากจะหนีรอดจากหมากดำปิดล้อม

หมากขาวเหมือนสัตว์อ่อนแรง ถูกหมากดำที่เป็นกองทัพทหารนับพันนับหมื่นอุดไว้จนไม่มีทางหนี

ไม่ว่าเดินก้าวใดจะถูกปิดล้อมโจมตี ยากจะหนีรอดไปได้

ต่อให้เป็นคนชำนาญการเล่นหมาก ก็เพียงแค่ดื้อดึง ทำให้สถานการณ์รบแตกพ่ายช้าลงไปหน่อย

การจะแก้หมากได้อย่างสมบูรณ์ ไม่มีทางเลย!

…..

แต่แม้จะเป็นเช่นนั้นก็ยังมีผู้แข็งแกร่งมากมายเข้าไป ท้าสู้กับกระดานหมาก

แม้พวกเขาจะแก้หมากนี้ไม่ได้ แต่กลับได้ขัดเกลาตัวเองผ่านการต่อสู้บนกระดานหมาก

ที่นี่แฝงไว้ด้วยหลักการสูงสุดมหามรรค ทั้งยังมีกฎเกณฑ์ตกลงมา เสริมความแกร่งให้การตระหนักรู้ และยังได้ต่อต้านกับผู้แข็งแกร่งจากหมากดำ

นั่นคือเงามายาที่ยอดฝีมือโลกเซียนรวมมาจากพลังฤทธิ์สูงสุด เปลี่ยนไปตามศักยภาพของผู้ทดสอบ

ที่นี่ กล่าวได้ว่าเป็นแดนฝึกฝนที่ดีที่สุด

การต่อสู้กับศัตรูที่มีศักยภาพพอกัน จะเพิ่มกำลังรบขึ้นได้มากที่สุด

ถึงตรงนี้ คนส่วนใหญ่จะได้ประโยชน์มากมาย

ผู้แข็งแกร่งจากแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่มองจนหัวใจคันยิบ คิดจะเข้าไปทดสอบในกระดานหมากฟ้าขุ่น

ร่างเงาหลายร่างขี่สายรุ้งเทพบินไปทางกระดานหมากฟ้าขุ่น

คนโดยรอบร้องตกใจ “ยอดผู้แข็งแกร่งออกมือแล้ว พวกเขาจะไปได้ไกลเท่าไร”

บนกระดานล้วนเป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่และผู้อาวุโสสูงสุด พลังบำเพ็ญอยู่ระดับเจ้าอริยะ และยังมีเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวัน เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ยอดฟ้า พวกนี้ก็มีพลังบำเพ็ญบรรลุเจ้าอริยะแปดด่านเคราะห์แล้ว

กองกำลังแข็งแกร่งเช่นนี้ ไม่รู้ว่าจะแก้กระดานหมากฟ้าขุ่นได้หรือไม่

……

“ศิษย์น้อง เราก็ไปลองดูกันเถอะ”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตตาลุกวาว ดวงตาเปล่งประกายดาวเล็กๆ

ในกระดานหมากฟ้าขุ่นแฝงไว้ด้วยสมบัติมากมาย ไม่ใช่แค่อาวุธอริยะ แต่ยังมีอาวุธมหาอริยะและอาวุธเตรียมเซียน!

แม้แต่วิชาสูงสุดอย่างวิชาลับและวิชาโลกเซียนยังมี ขอแค่ฝ่าเข้าไป บางทีอาจจะได้มาทุกอย่าง!

นี่คือทรัพย์สมบัติมหาศาล ทำให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตสนใจมาก ต่อให้ตนใช้ไม่ได้ก็เอาไปแลกทรัพยากรบำเพ็ญได้

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตที่ฝึกเคล็ดคบเพลิงถังแตกมานานแล้ว ขัดสนมาก ยังจะไม่ฉวยโอกาสนี้กอบโกยไปเยอะๆ อีกหรือ

ผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อมเบาๆ “ในเมื่อศิษย์พี่สนใจตรงนี้ ข้าก็จะไปเป็นเพื่อน!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตยิ้มแป้น “เหอะๆ เช่นนั้นศิษย์น้องก็นำทางเลย”

เหตุใดเขาถึงลากเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไปด้วย

นั่นเพราะผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตไม่เข้าใจกระดานหมากนี้เลย การหาคนเข้าใจหมากนำทาง ย่อมได้ผลดีกว่าตนเดินไปเองมาก

“ข้าก็ไปด้วย!”

ฉีเต๋อหรงเจ้าเผ่าวานรอัคคีเนตรทองเดินออกมาเช่นกัน ดวงตาลุกวาว

เผ่านี้ชอบการต่อสู้อยู่แล้ว แม้เขาจะไม่เข้าใจหมาก แต่เห็นว่าได้ต่อสู้ก็คันมือไม่ไหว

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตพยักหน้า “ดี เราสามคนไปด้วยกัน!”

ฉีเต๋อหรงมีศักยภาพแข็งแกร่ง สามคนร่วมมือกันย่อมได้ทรัพยากรมากแน่นอน!

“ฮ่าๆ ดี! ข้าก็อยากจะรู้นักว่ากระดานหมากนี่มีอะไรพิเศษ!”

ฉีเต๋อหรงพุ่งขึ้น ขี่สายรุ้งเทพเข้าไปในกระดานหมากฟ้าขุ่น

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กับผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตมองหน้ากันก่อนจะขี่สายรุ้งเข้าไปเช่นกัน

…..

ทันใดนั้นกฎเกณฑ์ตกลงมาปกคลุมพวกเขาไว้ทั้งหมด สร้างเป็นโลกหนึ่งทิศ

สามคนพลันประจำตำแหน่งดาราบนกระดานหมาก รอบๆ เป็นอากาศธาตุสลัวขมุกขมัว ไม่มีอะไรเลย

ตอนที่ยังไม่ขยับ หมากดำจะไม่ปรากฏ

ถึงตรงนี้ ผู้บำเพ็ญที่เข้ามาในกระดานหมากฟ้าขุ่นจะสับสน ทำความเข้าใจกับสถานการณ์ทั้งหมดไม่ได้เลย

พวกเขาได้แต่ลองแก้ดูตามตำแหน่งในความทรงจำ

“ศิษย์น้อง เราจะไปที่ใด”

เมื่อเข้ามาในกระดานหมากฟ้าขุ่น ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตก็ยังไม่เดินสุ่มสี่สุ่มห้า เดินผิดหนึ่งก้าวจะเจอกับหมากดำปิดล้อม

หากถูกหมากดำจำนวนมากปิดล้อม ต่อให้เป็นเจ้าอริยะก็ต้องพ่ายแพ้

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอ่ยอย่างเฉยชา “ศิษย์พี่ ปกติก็บอกอยู่ว่าให้อ่านหนังสือเยอะๆ อ่านหนังสือดี ท่านก็ไม่ฟัง”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตเกาศีรษะ ยิ้มแหยๆ “มีศิษย์น้องก็พอแล้วไม่ใช่รึ ของน่าเบื่อแบบนั้น ข้าขี้เกียจอ่าน”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ส่ายหน้า ไม่สนใจผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกต แต่ศึกษากระดานหมาก

จากนั้นเขาเดินหนึ่งก้าว ปักหลักอีกตำแหน่งดารา

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตกับฉีเต๋อหรงรีบตามไป

บึ้ม!

เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น!

มีหมากดำตัวหนึ่งตกมาข้างกายพวกเขา ตามมาติดๆ

ในนั้นยังมีร่างเงาที่ปกคลุมด้วยประกายเซียนสามร่างก้าวออกมา พุ่งใส่สามคน

นี่คือร่างเงาที่จะปรากฏมาเท่ากับจำนวนคนที่ร่วมเดินทาง หากพวกเขาถูกหมากดำสองตัวปิดล้อม เช่นนั้นก็จะมีร่างเงาออกมาหกร่าง

ด้วยการอนุมานเช่นนี้ แม้คนเยอะจะมีกำลังมาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับที่นี่

หากถูกหมากดำปิดล้อมจำนวนมาก เช่นนั้นจะต้องเจอกับร่างเงาที่มากกว่า น่ากลัวกว่า!

…..

แม้สามร่างเงานี้จะแกร่ง แต่ก็เงอะงะเกินไป รู้จักแต่บุก ไม่มีสติปัญญาเลย ไม่นานพวกเขาก็ทำลายสามร่างเงาได้ทั้งหมด

“ศิษย์น้อง เจ้าเดินหมากไป ข้ากับราชาวานรจะจัดการเส้นทางเอง!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตกำกระบองเทพทอง กลิ่นอายพลังดุดัน

ฉีเต๋อหรงด้านข้างก็ควักกระบองหินยักษ์ออกมาเช่นกัน ยืนคู่กับผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกต เปล่งแสงทองทั้งตัว พวกเขาสองคนเหมือนกับเทพสงครามไร้พ่าย หมายจะกำราบศัตรูทุกคน

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พยักหน้าก่อนจะเดินหน้าต่อ

ตลอดทางราบรื่น ต่อให้เจอตัวหมากดำหลายตัวปิดล้อมก็ขวางไว้ไม่ได้

พวกเขาเดินหน้าไปเรื่อยๆ ยิ่งเดินยิ่งชำนาญกระดานหมาก ทั้งยังลองเปลี่ยนสถานการณ์ช่วยหมากขาวดูบ้าง

…..

ไม่ใช่แค่พวกเขา เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์อื่นยังทำเช่นนี้เหมือนกัน

พวกเขาศึกษากระดานหมากฟ้าขุ่นมาพันปี พบวิธีแก้บางส่วนแล้ว ไม่ได้แพ้ง่ายขนาดนั้น เพียงแต่ว่ายิ่งเดินถึงช่วงท้ายก็ยิ่งยากขึ้น

ทุกครั้งที่พวกเขาเดินหนึ่งก้าว หมากดำจะตามมาติดๆ กินพื้นที่เข้ามาเรื่อยๆ

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์หลายคนเดินไปเกือบร้อยก้าว สุดท้ายถูกหมากดำเจ็ดตัวปิดล้อม

ร่างเงาที่ปกคลุมด้วยประกายเซียนก้าวออกมาพร้อมกัน จู่โจมด้วยการโจมตีที่รุนแรงที่สุด ต่อให้เป็นเจ้าอริยะแปดด่านเคราะห์ก็ยังต้านการปิดล้อมของผู้แข็งแกร่งมากขนาดนี้ไม่ไหว

ไม่นานนัก พวกเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันกับเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ยอดฟ้าก็ถูกอัดปลิวออกมาทั้งหมด

“กระดานหมากฟ้าขุ่นไม่ธรรมดาจริงๆ!”

มีคนยิ้มแห้งๆ พลางส่ายหน้า พวกเขาศึกษามาพันปี ไม่สำเร็จเลยแม้แต่ครึ่งก้าว

และตอนนี้เองกลับมีประกายเซียนหลายร่างพุ่งออกมาจากกระดานหมากฟ้าขุ่น ตกในมือพวกเขา

เมื่อเห็นของพวกนั้น หลายคนตกใจระคนอิจฉาอย่างยิ่ง “ไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นอาวุเจ้าอริยะ!”

“และยังมีอาวุธมหาอริยะ!”

“เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันแกร่งมาก ไม่อยากเชื่อว่าจะได้รางวัลเช่นนี้มา!”

“ในอดีตที่ผ่านมา มีไม่กี่คนที่ได้รางวัลเช่นนี้ ไม่ธรรมดาจริงๆ”

เจ้าอริยะธรรมดาอยู่ที่นี่ ยังเดินได้มากสุดสิบกว่าก้าวก็พ่ายแพ้ พวกเขาก็ยังได้รางวัลเพียงอาวุธอริยะธรรมดา

เจ้าอริยะสุดยอดกลับเดินไปหลายสิบก้าวถึงเกือบร้อยก้าว ย่อมได้รางวัลงามกว่าเล็กน้อย

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันเป็นเจ้าอริยะแปดด่านเคราะห์ ทั้งยังตั้งใจศึกษากระดานหมากฟ้าขุ่น เดินไปได้ร้อยก้าว แม้สุดท้ายจะพ่ายแพ้ แต่ก็ยังได้รางวัลอาวุธมหาอริยะ

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันมีความสุขในใจ นี่เป็นเรื่องที่ได้หน้าได้ตาอย่างมาก

ถึงอย่างไรก็มีคนทดสอบเยอะมาก มีเพียงส่วนน้อยที่ได้อาวุธมหาอริยะ

…..

และตอนนี้เอง กระดานหมากฟ้าขุ่นเกิดการเปลี่ยนแปลง

มีเสียงดังสนั่นแว่วเข้ามา สั่นสะเทือนแก้วหู ทำให้สองหูคนดังวิ้ง

กฎเกณฑ์มากมายตกลงมา แผ่อำนาจคุกคามที่น่ากลัวสุดขีด ปกคลุมทั้งกระดานหมาก

ทุกคนเพ่งมองไป เห็นพวกเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สามคนเกิดการเปลี่ยนแปลง

พวกเขาเดินทางราบรื่นตลอด ไม่นานก็เดินไปหลายร้อยก้าว แม้จะมีอันตรายเล็กๆ แต่ด้วยศักยภาพของพวกเขาก็แก้ไขได้สบาย

แต่ยิ่งเดินถึงช่วงหลัง เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยิ่งรู้สึกแปลกๆ

ตัวหมากดำรอบๆ มีเยอะขึ้น และตำแหน่งของพวกเขาก็หดเล็กลงเรื่อยๆ ดูเหมือนจะถูกหมากดำปิดล้อมแล้ว

ประกายเซียนบนผิวกายเขากระเพื่อมอย่างรุนแรง “ที่นี่แก้ไม่ได้ เป็นแบบหมากเข้าตาจนครอบฟ้า!”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พยายามวิเคราะห์ทั้งแบบหมากครอบฟ้าอย่างเต็มที่ ปรากฏพบว่าสุดท้ายก็มีแต่ความว่างเปล่า

พวกเขาเดินวนไปรอบหนึ่ง สุดท้ายกลับมาที่เดิม

ส่วนหมากดำปรากฏมาปิดล้อมนานแล้ว ปิดตายพวกเขาไว้ที่นี่

หมากดำแต่ละตัวขยับแสงสีดำ กลิ่นอายพลังกระชากวิญญาณ กลิ่นอายพลังน่ากลัวหมุนม้วนฟ้าดิน

ในหมากดำพวกนี้มีประกายเซียนวนเวียน กฎเกณฑ์ตกลงมา มีร่างเงาก้าวออกมาทีละร่าง

พวกเขามีจำนวนมาก แผ่แรงกดดันวิญญาณแก่กล้า เหมือนกองทัพวิญญาณร้ายถาโถมเข้ามา พร้อมจะจู่โจมทุกเมื่อ

ตอนนี้ พวกเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สามคนเข้าสู่ทางตัน

ไม่ว่าจะเดินก้าวใดจะถูกหมากดำปิดล้อม หนีมาไม่ได้เลย!

“นี่มันที่บ้าอะไรกัน”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตทำหน้างุนงง ไม่นึกเลยว่าเรื่องราวจะกลายเป็นเช่นนี้

“ไม่มีทางเดิน มีเพียงสู้ อาจจะฝ่าเส้นทางโลหิตไปได้!”

ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สั่นไหว ยิงประกายสายฟ้าไม่มีสิ้นสุดออกมา กระตุ้นกฎเกณฑ์วิถีอัสนี พุ่งขึ้นขอบฟ้า!

เขาปกคลุมด้วยอัสนีเทพทั้งตัว แผ่กลิ่นอายพลังที่ทำให้คนหวาดกลัว

เหนี่ยวนำสายฟ้ามากมายมารวมกันที่นี่ เตรียมจะเริ่มศึกใหญ่

ที่นี่แปลกเกินไป ไม่อาจแก้ได้เลย แต่กลับทำให้พวกเขาเข้าสู่สถานการณ์อับจน

หากไม่ฝ่าออกไปจะต้องบาดเจ็บสาหัสแน่!

ร่างเงาพวกนั้นมีมากมายจริงๆ มีหลายร้อยร่าง ทุกร่างแผ่กลิ่นอายพลังแก่กล้า พลังบำเพ็ญก็พอๆ กับพวกเขา

แม้เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะสู้ข้ามขั้นได้ แต่ก็มีระดับที่แน่นอน จะมีใครจัดการกับศัตรูระดับเดียวกันหลายร้อยคนได้

“มาได้จังหวะพอดี ข้ากำลังรอศึกนี้อยู่เลย!”

ฉีเต๋อหรงแหงนหน้าคำรามขึ้นฟ้า รัวสองมือทุบหน้าอก ทั่วร่างเปล่งแสงสีทองสว่างจ้า!

จิตต่อสู้ห้าวหาญพุ่งออกมา หมุนม้วนฟ้าดิน พลังอำนาจมหาศาลยากจะปัดป้อง

“สมกับเป็นคู่อัจฉริยะเทพสวรรค์ในอดีต ยังมีท่วงท่าสง่างามเหมือนเดิมเลย!”

“และยังมีราชาวานรเผ่าวานรอัคคีเนตรทอง กำลังรบก็แข็งแกร่งสุดยอดเช่นกัน!”

“หรือว่าพวกเขาจะฝ่าทางตันไปได้”

พวกเขาอยู่โลกภายนอก เห็นได้ทั้งกระดาน รู้ว่าสามคนกำลังเผชิญอันตรายอย่างไร

หากเป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์อื่น ตอนนี้คงพ่ายแพ้ไปนานแล้ว

กำลังเช่นนี้ยากจะต้านไหว

แต่พวกเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไม่ใช่แค่ต้านแรงกดดันไว้ได้ กระทั่งยังบุกฝ่าไปข้างหน้า จะเปิดเส้นทางโลหิต

นี่จะน่ากลัวไปหน่อยแล้ว

…..

แต่พวกเขาสามคนในกระดานหมากฟ้าขุ่นรู้สึกถึงแรงกดดันรุนแรง ถึงอย่างไรก็เป็นร่างเงาหลายร้อยปิดล้อม มีจำนวนมาก พลังก็แข็งแกร่ง

แม้พวกเขาสามคนจะร่วมมือกันก็ไม่อาจกำจัดร่างเงาพวกนี้ทั้งหมดได้ในเวลาอันสั้น ในทางตรงข้ามการโจมตีของร่างเงาพวกนั้นน่าสะพรึงยิ่ง คนธรรมดาไม่อาจต่อต้านได้เลย

เนื่องจากฉีเต๋อหรงพุ่งไปหน้าสุด จึงรับการโจมตีรุนแรงที่สุด ไม่นานเขาอาบเลือดไปทั้งตัว เนื้อหนังปริแตก บาดเจ็บสาหัส

“ราชาวานร เจ้าถอยไปก่อน ให้ข้าจัดการเอง!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตเห็นดังนั้นก็รีบตรงเข้ามา สื่อให้ราชาวานรถอยไปพักฟื้น

“ไม่เป็นไร ข้ายังสู้ไหว!”

ฉีเต๋อหรงเช็ดโลหิตสีทอง แต่จิตต่อสู้ยังไม่ลดละ ยังจะสู้ต่อ

“พอแล้ว! หากเจ้าเลือดไหลต่อไปจะตายเอานะ! วางใจให้ข้าเถอะ กับอีแค่เงามายา ไม่อยู่ในสายตาข้าหรอก!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตขวางหน้าฉีเต๋อหรง แสงเทพวนเวียนข้างหลัง มีร่างเงาคล้ายกันเดินออกมาสองร่าง ตั้งรับศัตรูพร้อมกัน

เขากำลังปลุกหนึ่งปราณแปลงสามพิสุทธิ์ ใช้สามร่างแปลงสู้กับพวกเงามายา

บัวมรกตทุกคนมีกลิ่นอายพลังน่ากลัวอย่างยิ่ง สำแดงวิชาสูงสุด ปล่อยอานุภาพแก่กล้า

ตอนนี้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตดูยิ่งใหญ่มาก คิดจะใช้กำลังตัวคนเดียวปะทะกับกองทัพหมากดำ!

…..

ฉีเต๋อหรงเห็นดังนั้นก็ถอยไปพักฟื้น

แต่ไม่นานเขาก็มุมปากกระตุกอย่างบ้าคลั่ง

ภายใต้การปิดล้อมของผู้แข็งแกร่งหลายร้อย ต่อให้เป็นสามบัวมรกตก็ยังต้านไว้ได้ยาก ไม่นานเขาก็ถูกกระแทกถอยมา

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตพลันคืนร่างเดิม ร้องว๊ากเสียงดัง “ระยำ ต้องโหดขนาดนี้เลยรึ!

เฮ้ยๆๆ รอเดี๋ยวๆ!

โอ้ว ต้องรุนแรงขนาดนี้เลยรึ

ราชาวานร เจ้าหายดีรึยัง

มาๆ รีบมาเปลี่ยนตัวหน่อย!

มาๆๆ รีบมาเปลี่ยนตัวที!

ช่วยด้วย! ข้าต้านไม่ไหวแล้ว!

อ๊าก! ศิษย์น้องช่วยข้าด้วย!”

เสียงร้องโอดครวญของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตดังแว่วกลับมา

เขาถูกอัดจนหน้าไหม้เกรียม หนีหัวซุกหัวซุน ข้างหลังยังมีเงามายาเกือบร้อยร่างไล่ล่า

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก้าวเท้ายาวเข้ามา สายฟ้าประกายเซียนรอบกายสว่างจ้าอย่างยิ่ง ยิงประกายสายฟ้า

ทันใดนั้นเคราะห์อัสนีฟ้าดินขยายใหญ่ เคราะห์อัสนีมากมายถาโถมเข้ามา

ทำให้ที่นี่กลายเป็นทะเลสายฟ้าโดยพลัน!

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เหมือนกลายเป็นเทพเจ้าผู้คุมเคราะห์อัสนี กำลังคุมเคราะห์อัสนีไร้พรมแดนให้ถาโถมลงมา!

นี่คือบทต้องห้ามคัมภีร์จักรพรรดิเทพสวรรค์…เปลี่ยนร่างแปลงทัณฑ์สวรรค์

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ที่สำแดงเปลี่ยนร่างแปลงทัณฑ์สวรรค์เหมือนกับเมินเฉยเทพเจ้าของทุกชีวิต จะทำลายล้างฟ้าดินแห่งนี้!

เปรี้ยง!

เคราะห์อัสนีน่ากลัวจู่โจมลงมา ปกคลุมที่นี่ไว้ทั้งหมด

ทุกเคราะห์อัสนีที่ผ่าลงมาจะทำลายเงามายาหนึ่งร่างแหลกเป็นผุยผง

“ศิษย์น้องสุดยอดเลย! กับอีแค่เงามายาเล็กจ้อย

ยังกล้ารังแกข้าอีก!

กินกระบองของข้า!”

เมื่อเห็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มาช่วย ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตก็คึกคักขึ้นมาอีกครั้ง รีบจู่โจมสวนกลับ

สองคนร่วมมือกัน ต้านการบุกของกองทหารไว้ได้ชั่วคราว

แต่การจะฝ่าออกไปก็ยังยากอยู่นิดๆ!

……

โลกภายนอก

ทุกคนมีสีหน้าจริงจัง

กระดานหมากฟ้าขุ่นน่ากลัวขนาดนี้เชียว

แม้แต่พวกเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สามคนยังไม่อาจแก้ได้

มองไปทั้งห้าดินแดน ยังมีใครเดินกระดานหมากนี้ไปถึงก้าวสุดท้ายได้

นี่มันน่าเหลือเชื่อไปเลย!

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน