บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 455

บทที่ 455 ฝ่าเส้นทางโลหิตจากสถานการณ์อับจน!

กระดานหมากฟ้าขุ่นมีความหมายลี้ลับยากจะคาดเดา ทำให้ผู้แข็งแกร่งมากมายต้องก้มคำนับ

ตั้งแต่มันปรากฏมา มีผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วนเข้าไปทดสอบ แต่ก็ยังไม่มีใครแก้ได้

สถานการณ์หมากในกระดานหมากฟ้าขุ่นลงมาเพียงครึ่งหนึ่ง ยังมีช่องว่างให้สับเปลี่ยน แต่กลับกำหนดตัวหมากเข้าตาจนไว้แล้ว ไม่ว่าจะเปลี่ยนอย่างไร หมากขาวก็ยังยากจะหนีรอดจากหมากดำปิดล้อม

หมากขาวเหมือนสัตว์อ่อนแรง ถูกหมากดำที่เป็นกองทัพทหารนับพันนับหมื่นอุดไว้จนไม่มีทางหนี

ไม่ว่าเดินก้าวใดจะถูกปิดล้อมโจมตี ยากจะหนีรอดไปได้

ต่อให้เป็นคนชำนาญการเล่นหมาก ก็เพียงแค่ดื้อดึง ทำให้สถานการณ์รบแตกพ่ายช้าลงไปหน่อย

การจะแก้หมากได้อย่างสมบูรณ์ ไม่มีทางเลย!

…..

แต่แม้จะเป็นเช่นนั้นก็ยังมีผู้แข็งแกร่งมากมายเข้าไป ท้าสู้กับกระดานหมาก

แม้พวกเขาจะแก้หมากนี้ไม่ได้ แต่กลับได้ขัดเกลาตัวเองผ่านการต่อสู้บนกระดานหมาก

ที่นี่แฝงไว้ด้วยหลักการสูงสุดมหามรรค ทั้งยังมีกฎเกณฑ์ตกลงมา เสริมความแกร่งให้การตระหนักรู้ และยังได้ต่อต้านกับผู้แข็งแกร่งจากหมากดำ

นั่นคือเงามายาที่ยอดฝีมือโลกเซียนรวมมาจากพลังฤทธิ์สูงสุด เปลี่ยนไปตามศักยภาพของผู้ทดสอบ

ที่นี่ กล่าวได้ว่าเป็นแดนฝึกฝนที่ดีที่สุด

การต่อสู้กับศัตรูที่มีศักยภาพพอกัน จะเพิ่มกำลังรบขึ้นได้มากที่สุด

ถึงตรงนี้ คนส่วนใหญ่จะได้ประโยชน์มากมาย

ผู้แข็งแกร่งจากแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่มองจนหัวใจคันยิบ คิดจะเข้าไปทดสอบในกระดานหมากฟ้าขุ่น

ร่างเงาหลายร่างขี่สายรุ้งเทพบินไปทางกระดานหมากฟ้าขุ่น

คนโดยรอบร้องตกใจ “ยอดผู้แข็งแกร่งออกมือแล้ว พวกเขาจะไปได้ไกลเท่าไร”

บนกระดานล้วนเป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่และผู้อาวุโสสูงสุด พลังบำเพ็ญอยู่ระดับเจ้าอริยะ และยังมีเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวัน เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ยอดฟ้า พวกนี้ก็มีพลังบำเพ็ญบรรลุเจ้าอริยะแปดด่านเคราะห์แล้ว

กองกำลังแข็งแกร่งเช่นนี้ ไม่รู้ว่าจะแก้กระดานหมากฟ้าขุ่นได้หรือไม่

……

“ศิษย์น้อง เราก็ไปลองดูกันเถอะ”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตตาลุกวาว ดวงตาเปล่งประกายดาวเล็กๆ

ในกระดานหมากฟ้าขุ่นแฝงไว้ด้วยสมบัติมากมาย ไม่ใช่แค่อาวุธอริยะ แต่ยังมีอาวุธมหาอริยะและอาวุธเตรียมเซียน!

แม้แต่วิชาสูงสุดอย่างวิชาลับและวิชาโลกเซียนยังมี ขอแค่ฝ่าเข้าไป บางทีอาจจะได้มาทุกอย่าง!

นี่คือทรัพย์สมบัติมหาศาล ทำให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตสนใจมาก ต่อให้ตนใช้ไม่ได้ก็เอาไปแลกทรัพยากรบำเพ็ญได้

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตที่ฝึกเคล็ดคบเพลิงถังแตกมานานแล้ว ขัดสนมาก ยังจะไม่ฉวยโอกาสนี้กอบโกยไปเยอะๆ อีกหรือ

ผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อมเบาๆ “ในเมื่อศิษย์พี่สนใจตรงนี้ ข้าก็จะไปเป็นเพื่อน!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตยิ้มแป้น “เหอะๆ เช่นนั้นศิษย์น้องก็นำทางเลย”

เหตุใดเขาถึงลากเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไปด้วย

นั่นเพราะผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตไม่เข้าใจกระดานหมากนี้เลย การหาคนเข้าใจหมากนำทาง ย่อมได้ผลดีกว่าตนเดินไปเองมาก

“ข้าก็ไปด้วย!”

ฉีเต๋อหรงเจ้าเผ่าวานรอัคคีเนตรทองเดินออกมาเช่นกัน ดวงตาลุกวาว

เผ่านี้ชอบการต่อสู้อยู่แล้ว แม้เขาจะไม่เข้าใจหมาก แต่เห็นว่าได้ต่อสู้ก็คันมือไม่ไหว

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตพยักหน้า “ดี เราสามคนไปด้วยกัน!”

ฉีเต๋อหรงมีศักยภาพแข็งแกร่ง สามคนร่วมมือกันย่อมได้ทรัพยากรมากแน่นอน!

“ฮ่าๆ ดี! ข้าก็อยากจะรู้นักว่ากระดานหมากนี่มีอะไรพิเศษ!”

ฉีเต๋อหรงพุ่งขึ้น ขี่สายรุ้งเทพเข้าไปในกระดานหมากฟ้าขุ่น

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กับผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตมองหน้ากันก่อนจะขี่สายรุ้งเข้าไปเช่นกัน

…..

ทันใดนั้นกฎเกณฑ์ตกลงมาปกคลุมพวกเขาไว้ทั้งหมด สร้างเป็นโลกหนึ่งทิศ

สามคนพลันประจำตำแหน่งดาราบนกระดานหมาก รอบๆ เป็นอากาศธาตุสลัวขมุกขมัว ไม่มีอะไรเลย

ตอนที่ยังไม่ขยับ หมากดำจะไม่ปรากฏ

ถึงตรงนี้ ผู้บำเพ็ญที่เข้ามาในกระดานหมากฟ้าขุ่นจะสับสน ทำความเข้าใจกับสถานการณ์ทั้งหมดไม่ได้เลย

พวกเขาได้แต่ลองแก้ดูตามตำแหน่งในความทรงจำ

“ศิษย์น้อง เราจะไปที่ใด”

เมื่อเข้ามาในกระดานหมากฟ้าขุ่น ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตก็ยังไม่เดินสุ่มสี่สุ่มห้า เดินผิดหนึ่งก้าวจะเจอกับหมากดำปิดล้อม

หากถูกหมากดำจำนวนมากปิดล้อม ต่อให้เป็นเจ้าอริยะก็ต้องพ่ายแพ้

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอ่ยอย่างเฉยชา “ศิษย์พี่ ปกติก็บอกอยู่ว่าให้อ่านหนังสือเยอะๆ อ่านหนังสือดี ท่านก็ไม่ฟัง”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตเกาศีรษะ ยิ้มแหยๆ “มีศิษย์น้องก็พอแล้วไม่ใช่รึ ของน่าเบื่อแบบนั้น ข้าขี้เกียจอ่าน”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ส่ายหน้า ไม่สนใจผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกต แต่ศึกษากระดานหมาก

จากนั้นเขาเดินหนึ่งก้าว ปักหลักอีกตำแหน่งดารา

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตกับฉีเต๋อหรงรีบตามไป

บึ้ม!

เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น!

มีหมากดำตัวหนึ่งตกมาข้างกายพวกเขา ตามมาติดๆ

ในนั้นยังมีร่างเงาที่ปกคลุมด้วยประกายเซียนสามร่างก้าวออกมา พุ่งใส่สามคน

นี่คือร่างเงาที่จะปรากฏมาเท่ากับจำนวนคนที่ร่วมเดินทาง หากพวกเขาถูกหมากดำสองตัวปิดล้อม เช่นนั้นก็จะมีร่างเงาออกมาหกร่าง

ด้วยการอนุมานเช่นนี้ แม้คนเยอะจะมีกำลังมาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับที่นี่

หากถูกหมากดำปิดล้อมจำนวนมาก เช่นนั้นจะต้องเจอกับร่างเงาที่มากกว่า น่ากลัวกว่า!

…..

แม้สามร่างเงานี้จะแกร่ง แต่ก็เงอะงะเกินไป รู้จักแต่บุก ไม่มีสติปัญญาเลย ไม่นานพวกเขาก็ทำลายสามร่างเงาได้ทั้งหมด

“ศิษย์น้อง เจ้าเดินหมากไป ข้ากับราชาวานรจะจัดการเส้นทางเอง!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตกำกระบองเทพทอง กลิ่นอายพลังดุดัน

ฉีเต๋อหรงด้านข้างก็ควักกระบองหินยักษ์ออกมาเช่นกัน ยืนคู่กับผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกต เปล่งแสงทองทั้งตัว พวกเขาสองคนเหมือนกับเทพสงครามไร้พ่าย หมายจะกำราบศัตรูทุกคน

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พยักหน้าก่อนจะเดินหน้าต่อ

ตลอดทางราบรื่น ต่อให้เจอตัวหมากดำหลายตัวปิดล้อมก็ขวางไว้ไม่ได้

พวกเขาเดินหน้าไปเรื่อยๆ ยิ่งเดินยิ่งชำนาญกระดานหมาก ทั้งยังลองเปลี่ยนสถานการณ์ช่วยหมากขาวดูบ้าง

…..

ไม่ใช่แค่พวกเขา เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์อื่นยังทำเช่นนี้เหมือนกัน

พวกเขาศึกษากระดานหมากฟ้าขุ่นมาพันปี พบวิธีแก้บางส่วนแล้ว ไม่ได้แพ้ง่ายขนาดนั้น เพียงแต่ว่ายิ่งเดินถึงช่วงท้ายก็ยิ่งยากขึ้น

ทุกครั้งที่พวกเขาเดินหนึ่งก้าว หมากดำจะตามมาติดๆ กินพื้นที่เข้ามาเรื่อยๆ

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์หลายคนเดินไปเกือบร้อยก้าว สุดท้ายถูกหมากดำเจ็ดตัวปิดล้อม

ร่างเงาที่ปกคลุมด้วยประกายเซียนก้าวออกมาพร้อมกัน จู่โจมด้วยการโจมตีที่รุนแรงที่สุด ต่อให้เป็นเจ้าอริยะแปดด่านเคราะห์ก็ยังต้านการปิดล้อมของผู้แข็งแกร่งมากขนาดนี้ไม่ไหว

ไม่นานนัก พวกเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันกับเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ยอดฟ้าก็ถูกอัดปลิวออกมาทั้งหมด

“กระดานหมากฟ้าขุ่นไม่ธรรมดาจริงๆ!”

มีคนยิ้มแห้งๆ พลางส่ายหน้า พวกเขาศึกษามาพันปี ไม่สำเร็จเลยแม้แต่ครึ่งก้าว

และตอนนี้เองกลับมีประกายเซียนหลายร่างพุ่งออกมาจากกระดานหมากฟ้าขุ่น ตกในมือพวกเขา

เมื่อเห็นของพวกนั้น หลายคนตกใจระคนอิจฉาอย่างยิ่ง “ไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นอาวุเจ้าอริยะ!”

“และยังมีอาวุธมหาอริยะ!”

“เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันแกร่งมาก ไม่อยากเชื่อว่าจะได้รางวัลเช่นนี้มา!”

“ในอดีตที่ผ่านมา มีไม่กี่คนที่ได้รางวัลเช่นนี้ ไม่ธรรมดาจริงๆ”

เจ้าอริยะธรรมดาอยู่ที่นี่ ยังเดินได้มากสุดสิบกว่าก้าวก็พ่ายแพ้ พวกเขาก็ยังได้รางวัลเพียงอาวุธอริยะธรรมดา

เจ้าอริยะสุดยอดกลับเดินไปหลายสิบก้าวถึงเกือบร้อยก้าว ย่อมได้รางวัลงามกว่าเล็กน้อย

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันเป็นเจ้าอริยะแปดด่านเคราะห์ ทั้งยังตั้งใจศึกษากระดานหมากฟ้าขุ่น เดินไปได้ร้อยก้าว แม้สุดท้ายจะพ่ายแพ้ แต่ก็ยังได้รางวัลอาวุธมหาอริยะ

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันมีความสุขในใจ นี่เป็นเรื่องที่ได้หน้าได้ตาอย่างมาก

ถึงอย่างไรก็มีคนทดสอบเยอะมาก มีเพียงส่วนน้อยที่ได้อาวุธมหาอริยะ

…..

และตอนนี้เอง กระดานหมากฟ้าขุ่นเกิดการเปลี่ยนแปลง

มีเสียงดังสนั่นแว่วเข้ามา สั่นสะเทือนแก้วหู ทำให้สองหูคนดังวิ้ง

กฎเกณฑ์มากมายตกลงมา แผ่อำนาจคุกคามที่น่ากลัวสุดขีด ปกคลุมทั้งกระดานหมาก

ทุกคนเพ่งมองไป เห็นพวกเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สามคนเกิดการเปลี่ยนแปลง

พวกเขาเดินทางราบรื่นตลอด ไม่นานก็เดินไปหลายร้อยก้าว แม้จะมีอันตรายเล็กๆ แต่ด้วยศักยภาพของพวกเขาก็แก้ไขได้สบาย

แต่ยิ่งเดินถึงช่วงหลัง เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยิ่งรู้สึกแปลกๆ

ตัวหมากดำรอบๆ มีเยอะขึ้น และตำแหน่งของพวกเขาก็หดเล็กลงเรื่อยๆ ดูเหมือนจะถูกหมากดำปิดล้อมแล้ว

ประกายเซียนบนผิวกายเขากระเพื่อมอย่างรุนแรง “ที่นี่แก้ไม่ได้ เป็นแบบหมากเข้าตาจนครอบฟ้า!”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พยายามวิเคราะห์ทั้งแบบหมากครอบฟ้าอย่างเต็มที่ ปรากฏพบว่าสุดท้ายก็มีแต่ความว่างเปล่า

พวกเขาเดินวนไปรอบหนึ่ง สุดท้ายกลับมาที่เดิม

ส่วนหมากดำปรากฏมาปิดล้อมนานแล้ว ปิดตายพวกเขาไว้ที่นี่

หมากดำแต่ละตัวขยับแสงสีดำ กลิ่นอายพลังกระชากวิญญาณ กลิ่นอายพลังน่ากลัวหมุนม้วนฟ้าดิน

ในหมากดำพวกนี้มีประกายเซียนวนเวียน กฎเกณฑ์ตกลงมา มีร่างเงาก้าวออกมาทีละร่าง

พวกเขามีจำนวนมาก แผ่แรงกดดันวิญญาณแก่กล้า เหมือนกองทัพวิญญาณร้ายถาโถมเข้ามา พร้อมจะจู่โจมทุกเมื่อ

ตอนนี้ พวกเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สามคนเข้าสู่ทางตัน

ไม่ว่าจะเดินก้าวใดจะถูกหมากดำปิดล้อม หนีมาไม่ได้เลย!

“นี่มันที่บ้าอะไรกัน”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตทำหน้างุนงง ไม่นึกเลยว่าเรื่องราวจะกลายเป็นเช่นนี้

“ไม่มีทางเดิน มีเพียงสู้ อาจจะฝ่าเส้นทางโลหิตไปได้!”

ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สั่นไหว ยิงประกายสายฟ้าไม่มีสิ้นสุดออกมา กระตุ้นกฎเกณฑ์วิถีอัสนี พุ่งขึ้นขอบฟ้า!

เขาปกคลุมด้วยอัสนีเทพทั้งตัว แผ่กลิ่นอายพลังที่ทำให้คนหวาดกลัว

เหนี่ยวนำสายฟ้ามากมายมารวมกันที่นี่ เตรียมจะเริ่มศึกใหญ่

ที่นี่แปลกเกินไป ไม่อาจแก้ได้เลย แต่กลับทำให้พวกเขาเข้าสู่สถานการณ์อับจน

หากไม่ฝ่าออกไปจะต้องบาดเจ็บสาหัสแน่!

ร่างเงาพวกนั้นมีมากมายจริงๆ มีหลายร้อยร่าง ทุกร่างแผ่กลิ่นอายพลังแก่กล้า พลังบำเพ็ญก็พอๆ กับพวกเขา

แม้เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะสู้ข้ามขั้นได้ แต่ก็มีระดับที่แน่นอน จะมีใครจัดการกับศัตรูระดับเดียวกันหลายร้อยคนได้

“มาได้จังหวะพอดี ข้ากำลังรอศึกนี้อยู่เลย!”

ฉีเต๋อหรงแหงนหน้าคำรามขึ้นฟ้า รัวสองมือทุบหน้าอก ทั่วร่างเปล่งแสงสีทองสว่างจ้า!

จิตต่อสู้ห้าวหาญพุ่งออกมา หมุนม้วนฟ้าดิน พลังอำนาจมหาศาลยากจะปัดป้อง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน