บทที่ 457 ภาพดาราจักรวาล
ตอนนี้เอง ทุกคนเพ่งสมาธิไปที่กระดานหมากฟ้าขุ่น
คำพูดของสยงเหมิ่งก่อนหน้านี้ทำให้คนมากมายเกิดความสงสัยในใจ
พวกเขาคิดว่าเสิ่นเทียนเดินหมากเช่นนี้จะต้องมีความลับบางอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าด้วยศาสตร์การเล่นหมากของพวกเขาเลยไม่เข้าใจ
ดังนั้น ทุกคนจึงอยากดูว่าเสิ่นเทียนจะแก้กระดานหมากนี้อย่างไร
ตอนนี้เอง เสิ่นเทียนเดินหน้าไปกับสือเทียนจื่อเรื่อยๆ
ทุกครั้งสือเทียนจื่อจะถามตำแหน่งการลงหมากของเสิ่นเทียน จากนั้นเดินหน้าอีก
เสิ่นเทียนโต้ตอบไวมาก ไม่ต้องคิดนานมากเหมือนคนอื่น ดังนั้นสองคนจึงเดินหมากกันเร็วมาก
ตำแหน่งการเดินหมากของพวกเขาแปลกมาก ไม่มีหลักการทั่วไปเลย ผลของการเดินหมากไม่เปลี่ยนไปมาก แม้บางครั้งจะถูกหมากดำขวาง แต่ก็มีจำนวนน้อยมาก ไม่ต้องกลัว
ด้วยศักยภาพของสองคนจึงจัดการเงามายาที่เดินมาจากหมากดำได้
คนจากโลกภายนอกเผยแววตาสับสน มองด้วยความงุนงง
พูดให้ถูกคือพวกเขาไม่เข้าใจกระดานหมากนี้เลย เพราะวิธีการเดินหมากของเสิ่นเทียนไม่สมเหตุผลมาก ไม่มีศาสตร์การเล่นหมากเลยสักนิด
แต่มีสิ่งหนึ่งที่มั่นใจได้คือวิธีของพวกเขา ต้องไม่มีทางรอดแน่นอน เพราะหมากดำปรากฏมาในรูปแบบปิดล้อมแล้ว ล้อมหมากขาวไว้ทั้งหมด อีกไม่นานหมากขาวจะถูกกลืนกินปิดล้อมสังหาร
…..
และสือเทียนจื่อไม่รู้ทุกอย่างนี้
สือเทียนจื่อกำลังอยู่ในห้วงความดีใจ เพราะเขาพบว่าทุกครั้งเสิ่นเทียนจะมีความคิดตรงกับเขา
เขาดีใจมาก คิดว่าศาสตร์การเล่นหมากของตนอาจจะไม่ได้แย่อย่างที่คิด เพราะอย่างไรเสิ่นเทียนก็มีศาสตร์การเล่นหมากชำนาญ และเขามีความคิดเหมือนกับเสิ่นเทียน
นั่นหมายความว่าศาสตร์การเล่นหมากของเขาต้องไม่ธรรมดาแน่นอน
สือเทียนจื่อปลงอนิจจังในใจ
ดูท่าแซ่สือคงประเมินตัวเองต่ำไปมาตลอด ที่แท้ข้าก็เป็นอัจฉริยะวิถีหมาก!
“สหายเสิ่น แซ่สือมีข้อเสนอ ก้าวต่อไปเดินตรงนี้เป็นอย่างไร”
สือเทียนจื่ออยากลองเลือกตำแหน่งดูบ้าง เขาคิดว่าตนเข้าใจแก่นแท้ของการเดินหมากแล้ว อยากจะพิสูจน์
เสิ่นเทียนพยักหน้า “วีรบุรุษมักมีความคิดคล้ายคลึงกัน แซ่เสิ่นก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน!”
เขาเชื่อในการเลือกของสือเทียนจื่อมาก
เมื่อได้ฟังคำตอบของเสิ่นเทียน สือเทียนจื่อก็ก้าวไปอย่างแน่วแน่
ลงมาแล้วก็ยังปลอดภัยอยู่จริงๆ
สือเทียนจื่อทำหน้าดีใจ “ขอบคุณที่สหายเสิ่นชี้แนะมาก แซ่สือเข้าใจแล้ว”
เขาปลงในใจอย่างยิ่ง สหายเสิ่นสมกับเป็นสหายสนิทในชีวิตนี้ของแซ่สือจริงๆ
ตามข้างกายสหายเสิ่น ได้เรียนรู้อะไรมากมาย!
เสิ่นเทียนยิ้ม “สหายสือมีพรสวรรค์เหนือกว่าคนอื่น ข้าบอกแล้วว่าเจ้าทำได้!”
เขามองหน้าผากของสือเทียนจื่อ ด้านบนมีภาพหนึ่งลอยอยู่ลับๆ
…..
สองคนเดินหน้าต่อไป แต่ยิ่งเดินไปช่วงหลัง สถานการณ์ก็ซับซ้อนขึ้น
พวกเขาเริ่มถูกหมากดำปิดล้อม แม้จำนวนไม่เยอะ แต่ก็เข้าสู่สถานการณ์หยุดชะงัก
ถึงตรงนี้สือเทียนจื่อไม่กล้าเดินหมากตามใจแล้ว กลัวว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้น
เขามองเสิ่นเทียนก่อนถามอีกครั้ง “สหายเสิ่น ก้าวต่อไปจะเดินอย่างไรดี”
เสิ่นเทียนชี้ไปตำแหน่งหนึ่ง “ตรงนี้ สหายสือเจ้าคิดอย่างไร”
สือเทียนจื่อพยักหน้า “แซ่สือก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน”
เสิ่นเทียนยิ้ม “ในเมื่อเราคิดเหมือนกัน เช่นนั้นต้องไม่ผิดแน่”
สือเทียนจื่อพยักหน้าอย่างจริงจัง “สหายเสิ่นพูดมีเหตุผล พวกเราเดินก้าวต่อไปตรงนี้แล้วกัน”
เมื่อเห็นภาพนี้ ทุกคนมุมปากกระตุกอย่างบ้าคลั่ง
ตอนนี้พวกเขาเพิ่งเข้าใจ นี่มีความลับอะไรที่ไหนกัน นี่มันสองคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรจึงเดินหมากมั่วต่างหาก ดูเหมือนควบคุมดุดันดั่งพยัคฆ์ แต่ความจริงทุกอย่างมั่วหมด!
ศาสตร์การเล่นหมากเช่นนี้ หาสักคนลงไป บางทีอาจจะเดินได้ดีกว่าพวกเขา
ปรากฏว่าสองคนนี้ยังคิดว่าตนเองมีศาสตร์การเล่นหมากสูงส่ง ช่างน่าเห็นใจ
อืม สองคนนี้สุดยอดจริงๆ!
ผู้แข็งแกร่งอาวุโสคนหนึ่งส่ายหน้า “จบแล้ว”
สองคนดูเหมือนปลอดภัย แต่ถูกหมากดำล้อมไว้หมดแล้ว กล่าวได้ว่าตอนนี้สถานการณ์หมากไม่มีทางรอดใดๆ เลย
หมากดำเยอะขึ้นเรื่อยๆ กระดานหมากตายลงเรื่อยๆ สุดท้ายจะแตกพ่ายย่อยยับ พวกเขาเดินก้าวใดจะเจอกับทางตัน
แต่สือเทียนจื่อไม่รู้ เขายังเดินก้าวสุดท้ายด้วยความมั่นใจ!
บึ้ม!
แสงเทพพุ่งขึ้นฟ้า สีสันหลากสีสว่างจ้า
ปรากฏหมากดำลอยขึ้นรอบทิศ ล้อมพวกเขาไว้ทั้งหมด คลื่นพลังน่ากลัวหมุนม้วนเข้ามา พุ่งขึ้นฟ้า สะเทือนทะเลหมอกฟ้าเก้าชั้น
เงามายามากมายเดินออกมาจากหมากดำ กลิ่นอายพลังน่ากลัวสุดขีด เหมือนจะพลิกกลับฟ้าดิน
ภาพนี้เหมือนจะทำลายล้างฟ้าดิน
ผู้แข็งแกร่งอาวุโสส่ายหน้าถอนหายใจ “พวกเขาสองคนเดินมาถึงก้าวนี้ได้เพราะดวงดีทั้งนั้น แต่กระดานหมากตายแล้ว ไม่มีแรงให้พลิกกระดานอีก ไม่รู้ว่าพวกเขาจะฝ่าออกไปได้หรือไม่!”
สถานการณ์ตอนนี้อันตรายกว่าสถานการณ์ของพวกเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก่อนหน้า
หมากดำมีจำนวนมากจนยากจะจินตนาการได้ มองไปมีแต่สีดำมืด
ทุกคนมองแล้วใจสั่นไหว หนาวสั่นไปทั้งตัว
ถูกหมากดำปิดล้อมมากขนาดนี้ แม้แต่มหาอริยะยังนองเลือด
ด้วยกำลังรบของบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กับสือเทียนจื่อ ก็อาจจะออกไปไม่ได้อย่างปลอดภัย
ทุกคนคิดว่าสองคนมีแนวโน้มไปทางร้ายมากกว่าดี
สือเทียนจื่อหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย เขามองกองทัพหมากดำไม่มีสิ้นสุดพลางรู้สึกขนหัวลุก
“สหายเสิ่น ตอนนี้เอาอย่างไรดี”
ต่อให้เป็นคนที่มีศาสตร์การเล่นหมากแย่กว่านี้ก็รู้ว่าไม่มีทางให้ไป
เสิ่นเทียนพูดอย่างมีแผนอยู่ในใจแล้ว “ไม่เป็นไร พวกเรารอดูการเปลี่ยนแปลงของมันก่อน!”
สือเทียนจื่อเผยแววตาแปลกใจ ปลงอนิจจังอยู่ในใจ
สมกับเป็นสหายเสิ่น เจอกับสถานการณ์เช่นนี้ยังไม่ตื่นตระหนก
ข้าเทียบกับสหายเสิ่นแล้ว สภาพจิตใจต่างกันมาก
เมื่อคิดได้ดังนั้นสือเทียนจื่อก็สงบนิ่งลง เตรียมจะทำศึก
….
ทว่าพลันมีเสียงแห่งมหามรรคดังแว่วมาจากอากาศ
เสียงมรรคไหลเอื่อย ดังก้องฟ้าดิน
ทันใดนั้นทุกคนใจสั่นสะท้าน มองไปก็เห็นบนฟ้ากระดานหมากฟ้าขุ่นมีเงาเลือนรางลอยอยู่สองร่าง
นั่นเป็นบุรุษกับเด็กกำลังเล่นหมากกัน สถานการณ์บนกระดานหมากตรงหน้าพวกเขาเหมือนกับที่พวกเสิ่นเทียนสองคนเดินทุกประการ
เมื่อเห็นกระดานหมากถูกกำหนดแล้ว บุรุษหยัดกายขึ้นช้าๆ ทางด้านเด็กก็รีบยืนขึ้น
“อาจารย์ ไปครั้งนี้เพราะเหตุใด”
เสียงของเด็กเหมือนดังมาจากกาลเวลาไร้ที่สิ้นสุด ข้ามผ่านจากยุคโบราณมาถึงปัจจุบัน
ว่างเปล่าลอยล่อง ทำให้คนจับต้องไม่ได้
ทุกคนใจสั่นสะท้าน ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงเกิดการเปลี่ยนแปลงประหลาดเช่นนี้ขึ้น
บุรุษถอนหายใจ “เหยียบต่างแดน สังหารวิญญาณร้าย สยบกลียุค พิทักษ์อาณาประชาราษฎร์”
เสียงนี้เคร่งขรึมจริงจัง ระหว่างพูดยังแผ่ความน่าเกรงขามออกไปอย่างมาก
เด็กถามอีกครั้ง “อาจารย์จะกลับมาเมื่อไร”
ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความกังวลและอาลัยอาวรณ์ เหมือนการแยกจากครั้งนี้จะไม่ได้พบกันชั่วนิรันดร์
บุรุษตอบกลับ “เมื่อสงครามสงบลง อาจารย์จะกลับมา”
……
คำสนทนานี้ดูเหมือนสั้น แต่กลับทำให้คนมากมายเกิดคลื่นลูกใหญ่ขึ้นในใจ
มีคนจิตใจหม่นหมองเงียบๆ มีคนน้ำตาคลอ เกิดความเศร้าในใจ
พวกเขาเหมือนเห็นช่วงที่มหาเคราะห์ภัยยุคโบราณมาเยือน ฟ้าดินถูกข้าศึกเข้ายึด
ทุกที่มีแต่ภูเขาศพทะเลกระดูก โลหิตไหลนองเห็นสายน้ำ
ผู้แข็งแกร่งมากมายก้าวออกจากบ้านไปสู่สนามรบ ต้องสู้สงครามโลหิตกับศัตรูต่างแดน ปกป้องครอบครัว
แต่สุดท้ายคนมากมายสิ้นชีพลง เหลือไว้เพียงความหม่นหมองเศร้าสลดให้ชนรุ่นหลัง
นี่คือชะตาชีวิตของพวกเขา และเป็นความจำใจของพวกเขา
แม้พวกเขาจะปกป้องครอบครัว แต่ก็ไม่อาจได้กลับบ้านเกิด ไม่ได้พบคนรู้จักเก่าอีกครั้ง
…..
จิตใจของทุกคนตกอยู่ในห้วงคำพูดนี้
ตอนนี้ท้องฟ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น
ท้องฟ้าสว่างสดใสพลันมีดาราเต็มฟ้าและแสงสว่างตกลงมา ปกคลุมฟ้าดิน
จุดแสงดาวสว่างจ้าถึงที่สุด สะท้อนลงบนกระดานหมากฟ้าขุ่น ปกคลุมตัวพวกเสิ่นเทียนสองคนไว้ทั้งหมด
พวกเขาอยู่กลางแสงสว่างไม่มีที่สิ้นสุด สัมผัสการชะล้างของแสงดาว ท่วงท่าสง่างามเป็นที่สุด
ทันใดนั้น พลังมิติแก่กล้าพุ่งออกมาจากกลางกระดานหมากฟ้าขุ่น พริบตาเดียวร่างเงาสองคนพลันหายไปต่อหน้าต่อตาทุกคน
แม้แต่กระดานหมากฟ้าขุ่นยังปิดลง หายไปในโลกสะพาน
เมื่อเห็นภาพนี้ ทุกคนมีสีหน้าตกใจกลัว
“เกิดอะไรขึ้น บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กับสือเทียนจื่อไปที่ใดกัน”
“กระดานหมากฟ้าขุ่นก็ปิดลงแล้ว พวกเขาเหมือนจะถูกเคลื่อนย้ายไปรึ!”
“เหตุใดถึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้”
“หรือว่าพวกเขาจะแก้กระดานหมากฟ้าขุ่นได้จริงๆ”
…….
ตั้งแต่ที่กระดานหมากฟ้าขุ่นปรากฏ ยังไม่เคยเกิดเหตุการณ์ประหลาดเช่นนี้มาก่อน แต่ตอนนี้ ไม่ใช่แค่มีเสียงมรรคตกลงมา แม้แต่กระดานหมากฟ้าขุ่นยังเกิดการเปลี่ยนแปลงประหลาดขึ้น
เห็นทีว่าคงมีแต่การผ่านกระดานหมากนี้เท่านั้นถึงอธิบายสถานการณ์นี้ได้ชัดเจน
คนมากมายร้องอุทาน “ที่แท้ในนี้ก็มีความลับอยู่จริงด้วย!”
“ประสบการณ์พวกเรายังน้อยไป”
“บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ต่างหากคืออัจฉริยะศาสตร์การเล่นหมากที่แท้จริง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน