บทที่ 471 สหายเสิ่น รับการโจมตีเต็มที่ของข้าเถอะ!
เมื่อได้รับมรดกพลังจิตจากเสิ่นเทียน โอรสสวรรค์ทุกคนมีสีหน้าดีใจ
นี่คือความเข้าใจในการตระหนักรู้ที่บริสุทธิ์ที่สุด มากมายมหาศาล แฝงไว้ด้วยหลักการสูงสุดมหามรรค ทำให้คนตระหนักรู้ได้อย่างรวดเร็ว
อีกทั้ง เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ในตำนานเสิ่นเทียนยังถ่ายทอดให้ด้วยตนเอง เรียกได้ว่าไม่อาจประเมินค่าได้
โอรสสวรรค์ทุกคนรู้ว่าเสิ่นเทียนมีพรสวรรค์สุดยอด กำลังรบเป็นหนึ่ง
การตระหนักรู้คัมภีร์จักรพรรดิของเขาจะต้องถึงระดับที่ลึกล้ำไม่อาจคาดเดาได้แน่นอน!
โอรสสวรรค์ทุกคนดีใจเหมือนบ้า รีบขอบคุณ “ขอบคุณท่านน้ามาก…”
พวกเขานั่งขัดสมาธิลง หลับตาตกอยู่ในห้วงความคิด เริ่มตระหนักมรดกพลังจิต
…..
เมื่อเห็นในที่สุดทุกคนก็เงียบลง เสิ่นเทียนก็พ่นลมหายใจยาว
เจ้าเด็กนี่พวกนี้ก่อเรื่องกันเก่งจริงๆ!
ขืนให้เป็นเช่นนี้ต่อไป ข้าจะมีหลานเพิ่มมาอีกเท่าไร
แค่กๆ แค่คิดก็ขนหัวลุกแล้ว
หลังจบเรื่องนี้ เสิ่นเทียนพบปัญหาหนึ่ง
รุ่นเยาว์พวกนี้ ส่วนใหญ่เป็นบุตรของโอรสสวรรค์ยุคพวกเขา
เหตุใดผู้บำเพ็ญห้าดินแดนถึงมีครอบครัวกันเร็วเช่นนี้ล่ะ
เสิ่นเทียนเพ่งสายตาเล็กน้อย ก่อนถามด้วยความแปลกใจ “ศิษย์พี่ เหตุใดโอรสสวรรค์มากมายถึงมีบุตรกัน”
โอรสสวรรค์พวก…หลี่ฉางเกอ คุนหมิงอะไรพวกนี้ ความจริงอายุแค่ไม่กี่ร้อยปีเท่านั้น
สำหรับอายุขัยของผู้อริยะที่ไปถึงหมื่นปีแล้ว อายุแค่นี้เรียกได้ว่าหนุ่มมาก
ปรากฏว่าพวกเขากลับมีบุตรกันเร็วเช่นนี้ ทั้งยังโตขนาดนี้แล้ว นี่น่าแปลกใจจริงๆ
ตามความเข้าใจเสิ่นเทียน มีผู้บำเพ็ญน้อยมากที่จะมีบุตรกันในอายุเท่านี้
ผู้บำเพ็ญเมื่อก่อน อายุหลายพันปีมีบุตรกันไม่แปลกเลย อีกทั้งผู้บำเพ็ญที่อายุพันกว่าปียังไม่มีคู่ครองก็มีให้เห็นถมไป
ทุกคนมีใจฝึกบำเพ็ญ คิดหาทางยกระดับศักยภาพ มีน้อยคนมากที่จะให้ความสำคัญกับความรักหญิงชาย ตบแต่งมีบุตรกัน
ปกติจะต้องรอประสบความสำเร็จที่แน่นอนก่อน ว่างไม่มีอะไรทำถึงได้คิดจะมีบุตรมาเล่น
ตอนนี้ผู้บำเพ็ญอายุร้อยปีก็เริ่มมีบุตร นี่อาจจะแปลกไปหน่อย
จางอวิ๋นถิงยิ้มเล็กน้อย ก่อนอธิบาย “เพราะมหาเคราะห์ภัยมาเยือน ราชวงศ์เซียนต้าฮวงเลยส่งเสริมให้เหล่าโอรสสวรรค์ตบแต่งและมีบุตรกันเร็วๆ มีบุตรกันมาเยอะๆ จะได้เสริมความแกร่งให้กับศักยภาพแฝงของผู้บำเพ็ญห้าดินแดน!
แนวความคิดเช่นนี้ปกติจะไปตกอยู่ในทุกครัวเรือน ดังนั้นทุกๆ หลายสิบปีจะปรากฏโอรสสวรรค์กลุ่มหนึ่ง”
เสิ่นเทียนพูดไม่ออก
หรือว่าต้องมีบุตรถึงจะต้านสิ่งนี้ไว้ได้กัน
แต่ว่าก็มีเหตุผลจริงๆ
เนื่องจากยุคแห่งการแย่งชิงถือบังเกิด พลังวิญญาณเอ่อล้น กฎเกณฑ์ใกล้ชิด โอรสสวรรค์ยุคนี้เติบโตกันเร็วมาก
อย่างเช่นโอรสสวรรค์หลายคนในยุคนี้ เพิ่งอายุยี่สิบสามสิบกว่าปีก็ทะลวงผู้สูงศักดิ์สวรรค์แล้ว
หากเป็นเมื่อก่อน นี่เป็นเรื่องที่ให้คิดยังไม่กล้าคิดเลย
ไม่มีหลายร้อยปีพันปีก็ไม่มีทางทำได้
และการเสริมความแกร่งให้การกำเนิด ยิ่งมีบุตรมากเท่าไรก็ยิ่งอาจจะกำเนิดโอรสสวรรค์ที่มีพรสวรรค์สุดยอดเยอะกว่าเดิม
หนึ่งในหมื่น หนึ่งในล้าน ให้กำเนิดสุดยอดโอรสสวรรค์สองสามคนก็ไม่ถือว่ายาก!
แม้ห้าดินแดนกำลังเจอมหาเคราะห์ภัย วิญญาณร้ายต่างแดนรุกรานมาไม่หยุด แต่ด้วยศักยภาพแฝงของขุมอำนาจใหญ่ต่างๆ ก็ยังต้านไว้ได้ช่วงหนึ่ง
ช่วงเวลานี้ก็เพียงพอจะให้บุตรมากมายเติบใหญ่ขึ้น เข้ากลุ่มผู้แข็งแกร่ง ร่วมกันต้านมหาเคราะห์ภัย
…..
ตอนนี้เองเหล่าโอรสสวรรค์ทุกคนตระหนักรู้ความเข้าใจในคัมภีร์จักรพรรดิลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ
ฝนแสงสว่างสาดกระจายกลางนภา โปรยปรายลงมาเหมือนดอกผลึก ทำให้ที่นี่เต็มไปด้วยกลิ่นอายตระหนักรู้
กลิ่นอายพลังของเหล่าโอรสสวรรค์ยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เตรียมพร้อมรอปะทุ รับการชะล้างจากฝนลำแสง กลายเป็นมหัศจรรย์ยิ่งขึ้น
พวกเขาแผ่พลังลี้ลับมาจากในกาย เปล่งแสงเทพหนาทึบทั้งตัว ตระหนักรู้มหามรรคฟ้าดินไปเรื่อยๆ
ครืนๆๆ!
พลังเทพน่าสะพรึงมากมายมหาศาลดั่งมหาสมุทร ยิ่งใหญ่ถึงที่สุด
เพียงชั่วครู่ก็มีคนตระหนักรู้สำเร็จ พลังบำเพ็ญเพิ่มขึ้นอย่างมาก
กลิ่นอายการทะลวงพลังพุ่งออกมา หมุนม้วนฟ้าดิน ทำให้ทั้งแท่นวิหคทองแดงถูกพลังวิญญาณมากมายปกคลุม
ไม่นานนัก โอรสสวรรค์ทุกคนได้รับผลประโยชน์ในการตระหนักรู้ครั้งใหญ่ กระทั่งคนที่ทะลวงพลังบำเพ็ญเล็กยังมีไม่น้อย
พวกเขาตื่นขึ้นมาช้าๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความยินดี ตื่นเต้นกันมาก
ทุกคนร้องตกใจ “เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ตระหนักคัมภีร์จักรพรรดิลึกซึ้งมาก ทิ้งห่างพวกเราไปหลายสิบขุม”
“หลังตระหนักความเข้าใจในคัมภีร์จักรพรรดิแล้ว ข้าเข้าใจในคัมภีร์จักรพรรดิเพิ่มขึ้นไปหลายเท่าเลย!”
“ข้าก็เหมือนกัน ข้าฝึกคัมภีร์จักรพรรดิสุริยันถึงขั้นสูงแล้ว!”
“ข้าด้วย ข้าด้วย!”
“ข้าก็เช่นกัน”
“ขอบคุณผู้อาวุโสเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์มาก!”
“ขอบคุณท่านน้ามาก!”
…….
โอรสสวรรค์ทุกคนซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง หลังผ่านการตระหนักรู้ครั้งนี้ พวกเขาได้ประโยชน์ไปไม่น้อย อย่างน้อยก็ประหยัดเวลาการฝึกฝนอย่างหนักไปหลายสิบปี
ดังนั้นโอรสสวรรค์ทุกคนจึงซึ้งใจและเคารพเสิ่นเทียนมาก
ทว่าช่วงที่พวกเขาจะลุกขึ้นขอบคุณนั้นก็พบว่าเสิ่นเทียนพลันกลายเป็นแสงเทพ พุ่งไปบนชั้นเมฆเก้าหมื่นจั้ง
เมื่อเห็นภาพนี้ ทุกคนทำหน้างุนงง ไม่เข้าใจเหตุผล
“เหตุใดเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ถึงไปล่ะ”
“ใช่! ตอนแรกข้าว่าจะหารือกับเขาว่าจะรับท่านน้าข้าไว้หรือไม่อยู่เลย!”
“ใช่ๆ ท่านน้าข้ารอมาหลายปี ถึงเวลาออกเรือนแล้ว!”
“ข้าก็เช่นกันๆ!”
…..
บนทะเลเมฆ เสิ่นเทียนเหงื่อตก
เขาพ่นลมหายใจยาว ใบหน้าเต็มไปด้วยความปวดไข่ “ฟู่ ยังดีที่ข้าตั้งตัวทัน! หากให้เจ้าหนูพวกนี้เกาะแกะ คงหัวระเบิดแน่! เป็นผู้อาวุโสอะไรกัน น่ากลัวชะมัด!”
เสิ่นเทียนผู้กล้าหาญไร้พ่ายมาตลอด เจอกับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ เช่นนี้ก็ต้องถอย
เพราะจิตใจของเขาแทบจะไม่เปลี่ยนไปเลยกับเมื่อร้อยปีก่อน จู่ๆ มีคนมาพูดเรื่องรักใคร่มากขนาดนี้ ใครจะไปรับไหวกัน!
ดังนั้นต้องถอยก่อน ไปตั้งหลัก!
พอเห็นว่าในที่สุดก็สลัดเจ้าหนูพวกนี้หลุดได้ เสิ่นเทียนก็โล่งอก
…..
ตอนนี้เองห้วงอากาศสั่นไหวอย่างรุนแรง มิติบิดเบี้ยว แสงสว่างวนเวียน เต็มไปด้วยกลิ่นอายน่าเกรงขาม
ห้วงอากาศถูกพลังสูงสุดบางอย่างฉีกออก ปรากฏถ้ำแสงสว่างแสบตายิ่งลอยขึ้นมา
ในนั้นมีแสงสว่างพร่างพราว แสงเรืองรองหนาทึบ พลังยิ่งใหญ่
เสิ่นเทียนเพ่งสายตามอง เห็นสองร่างคนก้าวออกมาจากในความว่างเปล่า
หนึ่งในนั้นสวมชุดคลุมยาวสุภาพสีม่วง รูปร่างสูงใหญ่ ในดวงตาเหมือนซ่อนฟ้าดินไว้ ลึกล้ำยิ่ง
แต่กลิ่นอายพลังเขาอ่อนนุ่มมาก ระหว่างย่างก้าวเหมือนหลอมรวมกับฟ้าดิน ว่างเปล่าลอยล่อง ทำให้คนจับต้องไม่ได้
ส่วนอีกคนสวมชุดคลุมขาว ตรงระหว่างคิ้วเผยการผ่านโลกมาอย่างโชกโชนเสี้ยวหนึ่ง ความดื้อรั้นหายไปส่วนหนึ่ง แต่มีความเป็นผู้ใหญ่เพิ่มมา
เขามีกลิ่นอายพลังแข็งแกร่งถึงที่สุด แม้จะซ่อนไว้ในกาย ก็ยังรู้สึกได้ว่ากายเนื้อมีพลังที่บ้าคลั่งอย่างยิ่ง
สองคนนี้คือจักรพรรดิฮวงสือกับสือเทียนจื่อ
เมื่อเห็นดังนั้น ม่านตาเสิ่นเทียนหดลงเล็กน้อย
ต่อให้ถึงระดับอย่างเขาก็ยังไม่อาจอ่านจักรพรรดิฮวงสือได้ แต่กลับรู้สึกลึกล้ำไม่อาจคาดเดายิ่งกว่าเดิม
เสิ่นเทียนปลงในใจ จักรพรรดิฮวงสือช่างสมกับเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในห้าดินแดน
มีผู้แข็งแกร่งระดับนี้ปกป้องอยู่ ต่อให้เป็นวิญญาณร้ายต่างแดนก็ไม่อาจบุกห้าดินแดนได้ง่ายๆ!
จากนั้นเสิ่นเทียนหันไปมองสือเทียนจื่อ เขาพบว่าพลังบำเพ็ญของเจ้านี่ก้าวหน้าอย่างมากเช่นกัน
เวลาร้อยแปดสิบปีทำให้สือเทียนจื่อทะลวงจากผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตอนกลางไปอริยะแท้หกด่านเคราะห์แล้ว!
แต่ด้วยกำลังรบของสือเทียนจื่อ ต่อให้เผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งระดับมหาอริยะก็ยังสู้ไหว!
สมกับเป็นยอดผู้สูงส่งหนุ่มในตอนนั้น มีพรสวรรค์แข็งแกร่งจริงๆ!
พอนึกถึงตรงนี้ เสิ่นเทียนก็เดินไปด้วยรอยยิ้ม “อาสือ สหายเทียนจื่อ ไม่ได้พบกันนานเลย!”
จักรพรรดิฮวงสือเผยรอยยิ้มอ่อนโยน “กลับมาแล้วรึ”
หลังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังของเสิ่นเทียน จักรพรรดิฮวงสือก็พาสือเทียนจื่อมา
เสิ่นเทียนพยักหน้าก่อนจะพูดปลง “ปิดด่านบำเพ็ญเลยเถิดไปถึงได้ออกมาช้า”
จักรพรรดิฮวงสือพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “เทียนเอ๋อร์ เจ้าปิดด่านบำเพ็ญในกระดานหมากฟ้าขุ่นนานขนาดนี้ จะต้องได้อะไรมามากมายแน่นอน!”
เขาเข้าใจในโลกสะพานเชื่อมฟ้าอย่างยิ่ง จะไม่รู้ว่ากระดานหมากฟ้าขุ่นหมายถึงอะไรได้อย่างไร
นั่นคือแดนโชคลิขิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกสะพาน มีโชคลิขิตยิ่งใหญ่
อีกทั้งตอนที่สือเทียนจื่อกลับมายังบอกจักรพรรดิฮวงสือถึงสถานการณ์ในกระดานหมากฟ้าขุ่นอย่างละเอียด
ดังนั้น จักรพรรดิฮวงสือย่อมรู้ว่าเสิ่นเทียนได้มรดกจากราชาเซียนฟ้าขุ่น
เสิ่นเทียนพยักหน้า “ได้มาจริงๆ ศักยภาพเพิ่มขึ้นมาส่วนหนึ่ง”
อยู่ต่อหน้าจักรพรรดิฮวงสือ เสิ่นเทียนก็ยังถ่อมตัวมาก
จักรพรรดิฮวงสือยิ้มสบายใจ “ดี ดีมาก! มีเจ้าอยู่ ห้าดินแดนมีความหวังเพิ่มมาอีกหน่อยแล้ว!”
จักรพรรดิฮวงสือมองเสิ่นเทียนเป็นลูกหลานตนมานานแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่มอบคัมภีร์จักรพรรดิดึกดำบรรพ์กับท้อเซียนอมตะให้เขา
เห็นเสิ่นเทียนประสบความสำเร็จเช่นนี้ ภายในใจเขาจึงเต็มไปด้วยความปลื้มใจ
…..
เสิ่นเทียนพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนชะงักไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ยขึ้น “อาสือ โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าที่ท่านบอกในตอนนั้น ข้าหลอมสำเร็จแล้ว เพียงแต่ว่าไม่ใช่โอสถเสริมสวรรค์ท้อเซียน แต่เป็นโอสถเสริมสวรรค์กล้วยหอม!”
เสิ่นเทียนเล่าสถานการณ์ในจวนสัประยุทธ์ให้จักรพรรดิฮวงสือฟัง “โอสถเสริมสวรรค์กล้วยหอมมีประสิทธิผลไม่เท่าโอสถเสริมสวรรค์ท้อเซียน แซ่เสิ่นจึงยินดีจะมอบโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าสองเม็ดเป็นการชดเชย”
เมื่อเอ่ยจบ เสิ่นเทียนก็นำโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าออกมาสองเม็ด ส่งให้จักรพรรดิฮวงสือ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน