บทที่ 477 สังหารเตรียมเซียนต่อเนื่อง โทสะของเสิ่นเทียน!
บุรุษคนนี้ก็คือเสิ่นเทียน
เดินทางมาล้านล้านลี้ ในที่สุดเขาก็มาถึงเขตทะเลเบิกฟ้า
เสิ่นเทียนมองไปรอบๆ มองสภาพการณ์ดั่งนรกบนดิน ดวงตาสองข้างเย็นชาขึ้นทีละนิด
เขาไม่นึกเลยว่าสงครามทะเลอุดรจะดุเดือดขนาดนี้
ผู้บำเพ็ญมากมายสู้ตาย เสียงเข่นฆ่าดังไปไกลหมื่นลี้ ภาพกลิ่นคาวเลือดมีให้เห็นทุกที่ สะท้านใจคน ทำให้คนหนาวสั่น
มังกรดำตัวหนึ่งถูกวิญญาณร้ายเปิดอกทะลวงท้อง ลำไส้อวัยวะภายในสาดกระจาย
แต่เขาก็ยังฝืนสู้ เอากรงเล็บมังกรแทงไปในหน้าอกวิญญาณร้าย บดขยี้หัวใจแหลกเป็นผุยผง
คุนยักษ์ตัวหนึ่งถูกตัดศีรษะ โลหิตพุ่งขึ้นฟ้าสามฉื่อ
แต่เขาระเบิดตัวเองก่อนตาย พาวิญญาณร้ายหลายตนตายไปด้วยกัน
วิญญาณร้ายเกิดมามีนิสัยเหี้ยมโหด ฉุนเฉียวดุร้าย เข่นฆ่าตามอำเภอใจ
ผู้บำเพ็ญทะเลอุดรสาบานว่าจะต่อต้านสุดชีวิต แม้ต้องบาดเจ็บสาหัส ก็ต้องลากคู่ต่อสู้ฝังกระดูกไว้ที่นี่ด้วยเช่นกัน
สถานการณ์โหดร้ายอย่างยิ่ง เต็มไปด้วยความเศร้าและทุกข์ระทม ทำให้คนเลือดโทสะพุ่งทะลัก
มองไปที่ใดศพจะกองเป็นภูเขา โลหิตไหลเป็นมหาสมุทร
ตอนนี้ดวงตาเสิ่นเทียนเย็นเยียบทิ่มแทงกระดูก เหมือนนรกเยือกแข็ง แช่แข็งได้ทุกสิ่งอย่าง
ต่อมา เสิ่นเทียนมองไปที่เอ๋าปิงกับเสิ่นเอ๋าเสวี่ย
เสิ่นเอ๋าเสวี่ยในชุดกระโปรงขาวย้อมเลือดเป็นสีแดงสด ไม่รู้ว่าเป็นของศัตรูหรือของนางเอง กวัดแกว่งกระบี่ฟ้าสังหารในมืออย่างเต็มที่ สังหารวิญญาณร้าย
ใบหน้านางเต็มไปด้วยความแน่วแน่และเด็ดขาด แม้คนข้างกายจะล้มลงไปเรื่อยๆ ก็ไม่คิดจะถอยแม้แต่นิด
เอ๋าปิงในชุดกระโปรงดำย้อมเป็นคราบโลหิตด่างๆ ฝืนกระแทกศัตรูถอยไป
แต่นัยน์ตานางเต็มไปด้วยความเศร้า บนใบหน้ายังมีคราบน้ำตาที่ยังไม่แห้ง ดูไร้เรี่ยวแรงยิ่งนัก
…….
เมื่อเห็นภาพนี้ เสิ่นเทียนก็ระเบิดพลังออกมา
ทันใดนั้นเอง อากาศปริแตก
ห้วงอากาศหมื่นจั้งพังทลายลงทันที กฎเกณฑ์ไม่มีสิ้นสุดทลายลง เกิดเป็นภาพทำลายล้าง
เขาแผ่เปลวไฟมหาศาลมาทั้งตัว เหมือนดวงตะวันใหญ่สว่างจ้าพลันระเบิดออก หมุนม้วนฟ้าดิน
ห่างไปไม่ไกล วิญญาณร้ายเตรียมเซียนนั้นหน้าเปลี่ยนสีไป มีสีหน้าตื่นกลัวขึ้นมา
เขารู้สึกถึงจิตสังหารเย็นเยือกอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน แทบจะทำให้เขาตัวแข็งทื่อ!
“ถอย!”
วิญญาณร้ายเตรียมเซียนเกิดความคิดแรกขึ้นในใจก็คือออกห่างจากเจ้ามนุษย์คนนี้
เขากลายเป็นลำแสงชั่วร้ายถอยไปหมื่นจั้งทันที ไม่กล้าอยู่ต่อเลยแม้แต่นิด
ตอนนี้เขามีความรู้สึกหนึ่งในใจ หากช้าไปเพียงครึ่งเค่อก็อาจจะตายที่นี่ได้
จิตสังหารนี่น่ากลัวมากจริงๆ ทำให้จิตใจคนปริแตก
เสิ่นเทียนไม่ได้สนใจวิญญาณร้ายที่หนีไป แต่เดินไปข้างหน้า
เอ๋าปิงตัวสั่น ริมฝีปากเปิดออกเล็กน้อย สายตาจ้องตัวเขา
เสิ่นเทียนเผยแววตาอ่อนโยน เช็ดคราบน้ำตาบนหน้านางช้าๆ
“เจ้า ในที่สุดก็กลับมาแล้ว!”
เอ๋าปิงเสียงสั่น จิตใจไม่อาจสงบลงได้
เสิ่นเทียนพยักหน้าก่อนพูดนิ่งๆ “รอข้าเดี๋ยว ไปแล้วเดี๋ยวกลับมา”
เมื่อเอ่ยจบ เสิ่นเทียนก็หมุนตัวกลับ
เอ๋าปิงเหม่อมองแผ่นหลังเสิ่นเทียน ไม่รู้เพราะเหตุใดจิตใจถึงสงบลงโดยพลัน
เหมือนว่ามีบุรุษคนนี้อยู่ ทุกอย่างจะเปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นดี
…..
เสิ่นเทียนมองวิญญาณร้ายเตรียมเซียน
เขาถอยไปหลายหมื่นจั้งแล้วถึงค่อยๆ หยุดลง
วิญญาณร้ายเตรียมเซียนเกิดความตื่นกลัวอย่างยิ่ง ไม่อาจขจัดไปได้เลย
เขาหันกลับมา เห็นเสิ่นเทียนไม่ตามมาก็โล่งอก
ทันใดนั้นเอง วิญญาณร้ายเตรียมเซียนเบิกตาโต นัยน์ตาเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ
เห็นปีกขนนกสีทองมหึมาพลันลอยขึ้นข้างหลังเสิ่นเทียน แสงสว่างจ้าแสบตา
ปีกทองขยับ พุ่งทะลวงฟ้าดินด้วยพลังแห่งห้วงมิติไม่มีสิ้นสุด
เสิ่นเทียนพลันหายวับไป
ฟ้าดินมีเพียงแสงทองปรากฏ พริบตาเดียวก็หายไป จับร่องรอยไม่ได้
จนเมื่อเขาปรากฏตัวก็มาอยู่ข้างหลังวิญญาณร้ายเตรียมเซียนแล้ว
“อะไรกัน”
วิญญาณร้ายเตรียมเซียนมีสีหน้าตื่นตกใจ เหมือนไม่นึกเลยว่าเสิ่นเทียนจะเร็วขนาดนี้!
เขารีบหมุนตัวกลับ ระเบิดพลังชั่วร้ายในกาย รวมหมัดชั่วร้ายมหึมาชกใส่เสิ่นเทียน
ลำแสงชั่วร้ายพุ่งออกไปพร้อมกับพลังน่าสะพรึง
นี่คือหมัดที่วิญญาณร้ายเตรียมเซียนทุ่มสุดกำลังแล้ว มีพลังทำลายล้างภูผานที
เขามีความรู้สึกอย่างหนึ่ง หากไม่ออกมือเต็มที่ก็อาจจะไม่มีโอกาสแล้ว
เสิ่นเทียนเคร่งขรึมไม่เกรงกลัว มือกำหมัดชกสวนกลับไปตรงๆ
พลังดารารอบกายวนเวียน สว่างพร่างพราวแสบตา
แสงดารามากมายวนเวียนรอบสองหมัด เหมือนดาวตกล้านล้านก้อนตกลงมา ทำลายล้างทุกสรรพสัตว์
อึดใจเดียว เสิ่นเทียนชกออกไปพันสองร้อยกว่าหมัด ทะลวงอากาศ กระแทกท้องนภาแตกกระจาย
แขนวิญญาณร้ายเตรียมเซียนสลายหายไปในทันที กระทั่งกายเนื้อยังเริ่มระเบิด แตกกระจาย ถูกอัดแหลกเป็นผุยผง
เขายังไม่ทันได้ร้องโอดครวญด้วยซ้ำ แม้แต่จิตวิญญาณยังสลายไปด้วย
เวลานี้ โดยรอบต่างตื่นตกใจ
ทุกคนอ้าปากค้าง จิตใจสั่นสะท้านอย่างรุนแรง
พวกเขาจ้องร่างเงาสง่างามดั่งหยก องอาจห้าวหาญที่สุดแห่งยุคกลางฟ้า ดวงตาเปล่งประกายขึ้นมา
นี่ คือศักยภาพที่แท้จริงของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เสิ่นเทียนรึ
ทะเลอุดรมีความหวังแล้ว!
…….
เมื่อเห็นเสิ่นเทียนสังหารวิญญาณร้ายเตรียมเซียนได้ในพริบตา ทุกคนก็จิตใจสั่นกระเพื่อม
เวลานี้ พวกเขาถูกวิญญาณร้ายกดดันมาตลอด ขวัญกำลังทหารลดลงถึงต่ำสุดมานานแล้ว
ตอนนี้เสิ่นเทียนออกมือแก่กล้า สังหารวิญญาณร้ายเตรียมเซียนได้ ทำให้ขวัญกำลังใจทหารเพิ่มขึ้นมาก กลับไปถึงจุดสูงสุดอีกครั้ง
“เหล่าพี่น้อง เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เสิ่นเทียนมาแล้ว ทะเลอุดรรอดแล้ว!”
“ยืนหยัดไว้ รอกำลังเสริมมา ก็จะไล่ลูกวิญญาณร้ายพวกนี้ออกจากห้าดินแดนไปได้”
“ฆ่า ฆ่าพวกมันให้หมด!”
ผู้บำเพ็ญเผ่าทะเลตะโกนเสียงดัง พลังอำนาจยิ่งใหญ่ขึ้น
ภายใต้พลังนี้ ทุกคนเหมือนได้สูบเลือดไก่ กล้าหาญกันขึ้นเรื่อยๆ
ผู้บำเพ็ญที่เดิมทีถูกกดทุบตีพลิกตัวมาเป็นเจ้านาย กลับมาเป็นฝ่ายกำราบวิญญาณร้ายระดับเดียวกัน
ส่วนผู้บำเพ็ญที่เดิมทีสูสีกันก็จุดไฟเลือดนักรบขึ้น สู้จนคู่ต่อสู้กระอักเลือดไม่หยุด
ผู้บำเพ็ญทะเลอุดรชนะกันอย่างต่อเนื่อง สู้จนวิญญาณร้ายถอยไปชั่วคราว ชิงเอาพลังอำนาจกลับคืนมา
เมื่อเห็นภาพนี้ ทุกคนดีใจ
พวกเอ๋าเย่กับคุนซวีปลงอนิจจังอย่างยิ่ง
เจ้าหนูเสิ่นช่างสมกับเป็นนบุตรแห่งสวรรค์โดยแท้จริง พอปรากฏตัวก็ทำให้สถานการณ์ของทะเลอุดรพลิกกลับมา
แต่ว่าการจะชนะศึกนี้ ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น!
……
ตอนนี้เองในที่สุดเซียนชั่วร้ายก็ได้สติกลับมา ดวงตาเขาขยับประกายชั่วร้ายลึกๆ “กับอีแค่เด็กน้อยคนเดียว คิดจะช่วยโลกรึ ส่งมาตายเปล่าๆ จัดการมัน!”
เซียนชั่วร้ายไม่สนใจความตายของวิญญาณร้ายเตรียมเซียนเล็กจ้อยตนนั้นเลย
ตอนนี้เขาส่งเตรียมเซียนออกไปห้าตน หรือว่าจะจัดการเจ้าหนูนี่ไม่ได้กัน
“ขอรับท่าน!”
ทันใดนั้นเอง วิญญาณร้ายเตรียมเซียนห้าตนที่เข่นฆ่าอยู่ในกลุ่มคนก็มารวมกัน พวกเขาแผ่พลังชั่วร้ายทั้งตัว พลังน่าสะพรึงถึงที่สุด
“ใครว่ามีเพียงคนเดียว เจ้าไม่เห็นข้าอยู่ในสายตาอย่างนั้นรึ”
เวลานี้ห้วงอากาศแตกออกอีกครั้ง ก่อนจะมีร่างหนึ่งก้าวออกมา
คนนี้ก็คือผู้อาวุโสบัวมรกตฉู่หรงเหอ
ฉู่หรงเหอถือกระบองเทพทอง กลิ่นอายพลังน่าเกรงขาม มองทุกคนด้วยความโอหัง
ระหว่างควงกระบองยาวยังทำลายอากาศแตกกระจาย ทำให้วิญญาณร้ายที่คิดจะเข้าใกล้เลือดอาบ ดับสลายไป
เมื่อเห็นภาพนี้ พลังทางฝั่งผู้บำเพ็ญทะเลอุดรก็เพิ่มมากขึ้นอีก
“ผู้อาวุโสบัวมรกตก็มาด้วย”
“แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ส่งกำลังเสริมมาครั้งนี้ พวกเรามีความหวังมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว”
ฉู่หรงเหอมีชื่อเสียงไม่เบาในทะเลอุดรเช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นยุคที่รุ่งเรืองที่สุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน