บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 479

บทที่ 479 สังหารเซียนแท้!

เมื่อได้ฟังคำพูดของเซียนชั่วร้าย วิญญาณร้ายเตรียมเซียนสิบห้าตนต่างมีสีหน้าดีใจใหญ่

หากพวกเขาหลอมรวมตัวหมากฟ้าขุ่นพวกนี้ได้ จะต้องลบล้างความอัปยศก่อนหน้านี้ได้แน่นอน

วิญญาณร้ายทุกตนออกมือ พลังชั่วร้ายไหลเชี่ยวกราก ทำให้ตัวหมากทั้งหมดสั่นสะเทือน บินไปในค่ายกล

เมื่อเห็นภาพนี้ ผู้บำเพ็ญทะเลอุดรต่างตื่นตกใจใหญ่

หากวิญญาณร้ายพวกนั้นชิงสมบัติสุดยอดพวกนี้ไป จะไม่พลิกสถานการณ์กลับมารึ

กระทั่ง แม้แต่เสิ่นเทียนยังตกอยู่ในอันตราย

ทุกคนเผยแววตากังวล ไม่รู้ว่าเสิ่นเทียนจะจัดการอย่างไร

…..

ทว่า เสิ่นเทียนก็ยังเฉยเมยอย่างยิ่ง นัยน์ตาเผยการเย้าหยอก

เขาหัวเราะเยาะ “พอรึ ไม่พอยังมีให้อีก!”

เสิ่นเทียนโบกมือกว้าง พลันมีตัวหมากหลายพันตัวพุ่งออกมา ตัวหมากพวกนั้นมีแสงเทพเวียนวน พลันพุ่งใส่ค่ายกล

วิญญาณร้ายทุกตนมีสีหน้าดีใจใหญ่ อดหัวเราะเยาะมิได้ “เจ้าหนูนี่กำลังรนหาที่ตาย รอข้าคุมสมบัติสุดยอดนี่ได้ก่อน จะสังหารมันได้แน่ ดูท่าครั้งนี้พวกเราจะร่ำรวยกันแล้ว!”

วิญญาณร้ายเตรียมเซียนทุกตนยื่นมือใหญ่มาคว้าตัวหมาก

เสิ่นเทียนใบหน้าเย็นยะเยือกยิ่ง มุทรามือเปลี่ยนไป

“กระบี่เทพผนึกดาราสวรรค์!”

ตัวหมากพวกนั้นระเบิดอานุภาพที่รุนแรงอย่างยิ่ง น่าสะพรึงถึงที่สุด

พลังดาราไม่มีสิ้นสุดกระจายออกมา ส่องแสงสีสันหลากสี ราศีแผ่ไปโดยรอบ

ตัวหมากที่ดูเหมือนธรรมดาพวกนั้นพลันกลายเป็นแสงดาราตกลงมา พลังอำนาจทำลายล้างทุกสิ่ง!

ท้องนภาพลันถูกทะลวง กระบี่แสงดารานับร้อยนับพันพุ่งเข้ามาเหมือนดอกสาลี่พายุคลั่ง ยิงม่านแสงป้องกันเป็นรูพรุน

“อะไรกัน”

วิญญาณร้ายทุกตนมีสีหน้าหวาดกลัว รีบปลุกพลังชั่วร้าย จะสร้างค่ายกลป้องกันขึ้นใหม่

ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าสมบัติสุดยอดนี้ ทุกอย่างไร้เรี่ยวแรง

ไม่นาน ยอดค่ายกลป้องกันที่เตรียมเซียนวิญญาณร้ายทุกตนสร้างขึ้นถูกทำลายลง

สายฟ้าเคราะห์ภัยไหลรวมเข้าไป ระเบิดพลังชั่วร้ายของวิญญาณร้ายทุกตนแตกกระจาย

เสิ่นเทียนย่อมไม่ปล่อยโอกาสนี้ไป เขาพุ่งทะยานบุกเข้าไป

ปรากฏการณ์มากมายปะทุขึ้นข้างหลังเขาทั้งหมด อานุภาพสั่นสะเทือนจักรวาล

สัตว์เทพสิบทิศคำรามสั่นฟ้าดิน ปรากฏการณ์มังกรหงส์ทองโลกหล้า…

และยังมีพลังดารามหาศาลอบอวล แปลงเป็นแดนเทวาดารา พลังอำนาจทลายทุกสิ่งได้

เวลานี้ เตรียมเซียนวิญญาณร้ายทุกตนใจสั่นสะท้าน นัยน์ตาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและหวาดกลัว

เสิ่นเทียนพุ่งทะยาน เรียกเตาหลอมเทพสุริยะมาสู้กับเตรียมเซียนวิญญาณร้ายทุกตน

อานุภาพน่าสะพรึงหมุนม้วนท้องนภา ทำให้ฟ้าถอดสี ตะวันจันทราไร้แสงสว่าง

“เอ่อ…อ๊าก!”

“อย่านะ!”

เสียงร้องโอดครวญดังกึกก้อง แหลมเล็กอย่างยิ่ง ใครได้ยินถึงกับใจสั่นไหว

เสิ่นเทียนองอาจห้าวหาญไร้พ่าย ภายใต้การเสริมพลังด้วยเคราะห์ภัยสามพันทำให้เหมือนเซียนสงครามที่สุดแห่งยุค สังหารมารเงามืดใต้หล้า

ไม่นานวิญญาณร้ายทุกตนเลือดอาบ ภาพน่าตื่นตกใจ

มีคนถูกหมัดเทพฟ้าขุ่นบดเป็นโจ๊กเนื้อ โลหิตสาดกระจายพันลี้ เลือดย้อมผืนฟ้าดารา

มีคนถูกกระบี่เดียวแบ่งร่าง พลังเลือดลมพุ่งขึ้นฟ้า ศพยังกระจายไปตามอำเภอใจ

และยังมีคนถูกไฟแท้สุริยะเผาเป็นเถ้าถ่าน ศพสลายไป จิตวิญญาณดับสลาย

วิญญาณร้ายเตรียมเซียนสิบห้าตนเดิมทีแข็งแกร่งอย่างยิ่ง มีพลังน่ากลัวพอจะทำลายขุมอำนาจเก้าส่วนของทะเลอุดร

แต่กลับไม่มีแรงต่อต้านเหมือนมดปลวกต่อหน้าเสิ่นเทียน

กองเลือดสาดกระจายภายใต้เงากระบี่แสงดาบ เลือดเหมือนน้ำตกเหมือนธารน้ำยาว กระเซ็นตกลงมา

ฝนโลหิตโหมกระหน่ำ ย้อมทะเลอุดรเป็นสีแดง

…….

เพียงชั่วครู่เดียว วิญญาณร้ายเตรียมเซียนสิบห้าตนถูกสังหารจนหมดสิ้น

ภาพน่าสะพรึงกลัว น้ำทะเลกลายเป็นสีแดงฉาน เศษชิ้นส่วนแขนขากระจาย

ห้วงอากาศรอบๆ เต็มไปด้วยสภาพทรุดโทรม ถูกทำลายเป็นรูมากมาย ถล่มเป็นซากปรักหักพัง

แม้แต่พลังแห่งฟ้าดินยังไม่อาจคืนสภาพมันกลับมาในเวลาอันสั้น

ศึกนี้เป็นหินตกกระทบฟ้า สังหารจนฟ้าดินแตกตัว

ทว่าเสิ่นเทียนมีสีหน้าเฉยชา ยืนบนฟ้า ทั่วร่างอาบแสงเคราะห์ภัยอัสนี

สายฟ้าเคราะห์ภัยไม่มีสิ้นสุดชะล้างลงมา กระแทกใส่ร่างเขา กลายเป็นพลังเทพบริสุทธิ์วนเวียนรอบฟ้า

ผ่านไปไม่นานเท่าไร เคราะห์ภัยสามพันก็ถาโถมลงมาเสร็จสิ้น เมฆเคราะห์ภัยค่อยๆ ถอยไป

ในที่สุดเสิ่นเทียนก็ปรากฏมาตรงหน้าทุกคน เขาแผ่พลังอริยะแก่กล้า กลิ่นอายพลังหมุนม้วนฟ้าดิน

กายเนื้อใสแวววาวสว่างจ้าแสบตา เปล่งแสงเทพไม่มีสิ้นสุด เหมือนมีพลังมหาศาลไหลเวียน

ตอนนี้ศาสตร์หลอมปราณแก่นพลังทองของเสิ่นเทียนทะลวงพลังสำเร็จ บรรลุระดับผู้อริยะขั้นแรก

แต่พลังที่แผ่มาจากในกายเขาน่ากลัวกว่าเตรียมเซียน ทำให้คนมากมายใจสั่นสะท้าน

…..

ทุกคนมองภาพนี้จนตาพร่ามัว

เอ๋าปิงเพ่งมองห้วงอากาศ มองร่างเงาเหมือนเทพเหมือนมารนั้นพลางยกมุมปากเล็กน้อย

สมกับเป็นบุรุษที่ข้าเลือก แข็งแกร่งจริงๆ

เสิ่นเอ๋าเสวี่ยด้านข้างจิตใจสั่นกระเพื่อม ปลงอนิจจังอย่างยิ่ง

นี่คือศักยภาพแท้จริงของท่านพ่อรึ

แข็งแกร่งมากจริงๆ!

ท่านพ่อ คือเป้าหมายที่ข้าจะไล่ตาม

กลับไปจะต้องหมั่นฝึกฝน จะให้ขายหน้าท่านพ่อไม่ได้

เสิ่นเอ๋าเสวี่ยเผยแววตาแน่วแน่ ตั้งปณิธานเงียบๆ ในใจ

เอ๋าอูมองจนตาเหม่อลอย อดพึมพำมิได้ “เจ้าหนูฉีเซ่าเสวียนไปอยู่ที่ใดกัน เหตุใดถึงไม่มาช่วย ถ้าเมื่อก่อนรออีกสองสามปีก็คงได้ลงนามสัญญากับพี่เสิ่นเทียนแล้ว

พลาดไปแล้ว!”

…..

ทุกคนต่างตกตะลึงกับกำลังรบของเสิ่นเทียน

องอาจห้าวหาญเช่นนี้ กำลังรบเช่นนี้เหนือกว่าโอรสสวรรค์ทุกคนในอดีต ไม่มีใครเทียบได้

ตอนนี้เขาฝ่าด่านเคราะห์เป็นผู้อริยะ ศักยภาพจะน่ากลัวถึงระดับใดกัน

ไม่กล้าคิด ไม่กล้าคิดเลย!

……

ตรงรูหนอนมิติ เซียนชั่วร้ายเผยแววตาตกใจ

พรสวรรค์และกำลังรบของเสิ่นเทียนน่าตกใจยิ่งนัก ทำให้เซียนแท้จริงยังต้องตกตะลึง

เขาไม่เคยพบโอรสสวรรค์ที่น่ากลัวขนาดนี้มาก่อน เรียกได้ว่าไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติการณ์

“เหล่าวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ถอยจากโลกนี้ก่อน”

เซียนชั่วร้ายเอ่ยอย่างเย็นชา สั่งให้กองทัพถอย

เสิ่นเทียนมีกำลังรบน่ากลัวเกินไป แม้แต่วิญญาณร้ายเตรียมเซียนสิบแปดตนยังไม่ใช่คู่ต่อสู้เขา ถูกสังหารลงที่นี่

ขืนให้เผ่าวิญญาณร้ายที่เหลืออยู่ต่อมีแต่จะตายเปล่า

กำลังรบที่เสิ่นเทียนแสดงออกมาทำให้เซียนชั่วร้ายเกิดความกลัว

หากไม่ใช่เพราะรูหนอนมิติไม่มั่นคง ไม่อาจมาเยือนด้วยตนเอง เขาจะต้องสังหารเสิ่นเทียนที่นี่แน่

ถึงอย่างไรเสิ่นเทียนก็มีพรสวรรค์น่ากลัวมากจริงๆ สะท้านโลกา

หากให้เขาเติบใหญ่ขึ้น จะต้องคุกคามถึงแผนการบุกโลกนี้ของเผ่าวิญญาณร้ายแน่นอน

เซียนชั่วร้ายตัดสินใจแล้ว กลับไปจะติดต่อผู้แข็งแกร่งในเผ่าให้เปิดเส้นทางใหม่ทันที ให้ผู้แข็งแกร่งสูงสุดมาเยือน

ต้องสังหารเสิ่นเทียนให้เร็วที่สุด ขจัดภัยร้ายในภายหลัง

……

เมื่อได้ฟังคำพูดของเซียนชั่วร้าย วิญญาณร้ายเตรียมเซียนอีกสามตนที่เหลือต่างรีบถอยมา

พวกเขาตกใจกลัวกับกำลังรบของเสิ่นเทียนแล้ว ตกใจจนจิตใจแทบปริแตก

หากอยู่ที่นี่ต่อไป คงยากจะหนีรอดจากความตาย

วิญญาณร้ายเตรียมเซียนสามตนรีบปล่อยคู่ต่อสู้ก่อนพุ่งกลับไปในรูหนอนมิติ จะออกจากโลกนี้ไปก่อน

ส่วนวิญญาณร้ายตนอื่นก็ถอยมาทั้งหมด ทำให้โลกนี้กลับมาสงบลงชั่วคราว

เมื่อเห็นดังนั้น ผู้แข็งแกร่งทะเลอุดรต่างโล่งอก

ดีที่พวกเขายื้อไว้จนเสิ่นเทียนมา ไม่อย่างนั้นที่นี่คงกลายเป็นแดนมรณะไปนานแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน