บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 495

บทที่ 495 ไม่อย่างนั้น พวกเจ้าก็เข้ามาพร้อมกันเลย!

เมื่อได้ฟังคำพูดของเจียงไท่อี่ เสิ่นเทียนก็ยิ้มกว้างกว่าเดิม

ชุดคลุมขาวของเขาแกว่งไกวตามสายลม เหมือนเซียนบนฟ้าลงบนแท่นผนึกเทพช้าๆ “มาเถอะ ข้าอยากรู้นักว่าวิชาจักรพรรดิอัสนีที่ว่าจะแข็งแกร่งเพียงใดกัน”

เจียงไท่อี่แสยะปาก “ถ้าอย่างนั้น ข้าจะให้เจ้าได้สัมผัสหน่อย”

เขาเหยียบอากาศพุ่งขึ้นมา

ประกายสายฟ้ามากมายพุ่งออกมาทั้งหมด สว่างจ้าแสบตา ส่องสะท้อนบนฟ้าดิน

อัสนีเทพปราณฟ้าดินมากมายหมุนม้วนท้องนภา เปล่งแสงระยิบระยับ แผ่อำนาจคุกคามแก่กล้า

ท้องนภาเปลี่ยนไป ประกายสายฟ้าเชื่อมจักรวาลฟ้าดิน เหมือนจะเปลี่ยนที่นี่เป็นนรกสายฟ้า

เจียงไท่อี่ก้าวเข้าไปกลางทะเลอัสนี สายฟ้าข้างหลังหมื่นชั่ง พลังสั่นสะเทือนแปดทิศ

เสิ่นเทียนตาเป็นประกายเล็กน้อย แอบปลงอยู่ในใจ

แม้เจียงไท่อี่จะมีพลังบำเพ็ญเพียงมหาอริยะสิบเอ็ดด่านเคราะห์ แต่พลังที่ระเบิดออกมาไม่ด้อยไปกว่าเตรียมเซียนสิบห้าด่านเคราะห์

ไม่นึกเลยว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยุคนี้จะแกร่งขนาดนี้ สมกับเป็นอัจฉริยะชนรุ่นหลัง!

อีกทั้งเจียงไท่อี่ยังมีวิชาจักรพรรดิอัสนีแกร่งกว่าคัมภีร์จักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์เล็กน้อย

แน่นอน เทียบกับวิชาเทพสวรรค์ของเสิ่นเทียนแล้วไม่ได้ต่างกันแค่หนึ่งดาวครึ่ง

วิชาเทพสวรรค์เป็นมรดกจากร้อยแปดขุนพลสวรรค์ยุคบรรพกาล เดิมทีลี้ลับยากจะคาดเดาอยู่แล้ว

ตอนนี้เสิ่นเทียนหลอมรวมวิชาเทพสวรรค์เข้ากับมหามรรคอื่น จึงน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม

ดังนั้นวิชาเทพสวรรค์ของเสิ่นเทียนจึงเทียบได้กับยอดผู้สูงส่งวิชาอัสนี อยู่สูงสุด

……

ตอนนี้เจียงไท่อี่เตรียมพร้อมแล้ว พลังโหมซัดสาด ทำให้ฟ้าดินถอดสี

เขายกม่านตาขึ้นเล็กน้อย ก่อนเอ่ยราบเรียบ “สหายท่านนี้ ยอมแพ้ตอนนี้ยังทัน สายฟ้าไร้ดวงตา หากผ่าเจ้าพิการ อย่ามาโทษแซ่เจียงแล้วกัน!”

เจียงไท่อี่มองว่าคนที่ต่อกรกับเขาได้มีเพียงโอรสสวรรค์ที่สุดแห่งยุคอย่างเซิ่งหยางซวีกับเซี่ยงฉงโหลวเท่านั้น

คนไร้ชื่อเสียงอย่างเสิ่นเทียน เขาแค่พลิกมือก็ทำให้บาดเจ็บสาหัสได้แล้ว

เสิ่นเทียนยิ้มเรียบๆ “เข้ามาเถอะ!”

เจียงไท่อี่น้ำเสียงเย็นชาขึ้นทีละนิด ไม่รู้จักเป็นตาย เขาตะโกนเสียงต่ำออกไป

“สู้!”

ในมือเขามีอักขระลี้ลับลอยขึ้นมา เคลื่อนอัสนีเทพปราณฟ้าดิน

อัสนีเทพปราณฟ้าดินสว่างจ้าแสบตา ลากผ่านกลางอากาศเป็นสายรุ้งเทพ เหมือนดาวหางตกลงมา รวดเร็วถึงที่สุด

ฟ้าดินมืดครึ้ม ตะวันจันทราไร้แสงสว่าง

…..

รอบๆ มีโอรสสวรรค์มากมายกำลังมองดูการต่อสู้นี้ รวมสมาธิตั้งมั่น

หนึ่งเพราะเจียงไท่อี่แข็งแกร่ง พรสวรรค์ยังเป็นสุดยอดในรุ่นเดียวกัน การได้ดูการต่อสู้ของเขาจะได้ตระหนักรู้ไม่น้อย

สองเพราะพวกเขาอยากดูเสิ่นเทียนปล่อยไก่ เพื่อระบายความแค้นในใจ

ถึงอย่างไรผู้บำเพ็ญหญิงคนนั้นเมื่อครู่นี้ก็ด่าว่าพวกเขาจนไม่มีที่ยืนเพราะเสิ่นเทียน

เมื่อเห็นเจียงไท่อี่ออกมือ ก็มีคนร้องตกใจขึ้นมาทันที “ไม่นึกเลยว่าปิดด่านบำเพ็ญมาหลายปี เจียงไท่อี่จะพัฒนาศักยภาพขึ้นอีกแล้ว”

“ไม่อยากเชื่อว่าเจ้าเด็กนี่จะกล้าท้าสู้กับบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ไม่รู้จักเป็นตายเลย”

“อัสนีเทพปราณฟ้าดินมากขนาดนี้น่ากลัวจริงๆ แม้แต่เตรียมเซียนยังต้านไม่ไหว เขาจบสิ้นแล้ว”

“ข้าว่าเจ้าหนูหน้าขาวนี่คงถูกสายฟ้าผ่าจนหน้าดำแน่”

ทุกคนพูดเยาะเย้ย อยากเห็นเสิ่นเทียนขายหน้า

ทว่าพวกเขาเห็นว่าเสิ่นเทียนหน้าไม่เปลี่ยนสีเลย ยังคงเฉยชา

เห็นเขายืนนิ่งกลางอากาศ ปล่อยให้สายฟ้าชะล้าง

พริบตานั้น ประกายสายฟ้าปกคลุมฟ้าดิน อานุภาพน่าสะพรึงหมุนม้วนมาไม่ขาดสาย แม่น้ำภูเขาสั่นสะเทือน

พลังทำลายล้างโหมซัดสาด สายฟ้าตกลงมา

เสิ่นเทียนยังคงชุดคลุมขาวลอยล่อง ไม่ปนเปื้อนธุลีดินใดๆ ดุจดั่งเทพเซียน

เจียงไท่อี่เพ่งสายตามองเล็กน้อย ก่อนพูดด้วยความตกใจระคนสงสัย “หืม เกิดอะไรขึ้น ไม่เป็นผลรึ หรือว่าอานุภาพอัสนีเทพปราณฟ้าดินจะยังไม่พอกัน”

เขารู้สึกได้ลับๆ ว่ามีอะไรแปลกไป ยังไม่เคยมีใครจัดการอัสนีเทพปราณฟ้าดินได้สบายเช่นนี้มาก่อน

หรือว่าข้าแซ่เจียงจะไม่ได้ออกมือมาหลายวัน พลังบำเพ็ญวิถีอัสนีถดถอยกัน

พอนึกได้ดังนั้น เจียงไท่อี่เพ่งสายตาเล็กน้อย ประกายแววตาวูบไหว เตรียมออกมืออย่างเต็มที่

บึ้ม!

พลังบ้าคลั่งยิ่งปะทุออกมา

เห็นเจียงไท่อี่เปล่งประกายสายฟ้ารอบกาย สว่างจ้าแสบตาเหมือนดวงตะวัน

ข้างหลังเขาเป็นปรากฏการณ์สายฟ้ามหึมายิ่งลอยขึ้น พลานุภาพเอ่อล้นฟ้า

ปรากฏการณ์รวมเป็นเงามายาหลายหมื่นจั้ง บดบังฟ้าบังดวงตะวัน เหมือนเทพสายฟ้า

เขาเคลื่อนไหวแล้ว…มาพร้อมกับอานุภาพอัสนีไม่มีสิ้นสุด ห้วงอากาศทลายลง

ทว่าตอนนี้เองเสิ่นเทียนหรี่ตาลงเล็กน้อย พ่นลมหายใจขุ่นออกมาคำหนึ่ง “ถึงตาข้าแล้ว”

กลิ่นอายพลังเขาพุ่งขึ้นไม่หยุด จนถึงจุดสูงสุด มีพลังไร้พ่าย

รอบกายเขาพลันระเบิดอัสนีเทพกำเนิดฟ้าไร้ขอบเขต กลายเป็นทะเลสายฟ้าม้วนไปแปดทิศ

ประกายสายฟ้าทุกสายเต็มไปด้วยกลิ่นอายที่ทำให้คนหวาดกลัว

เขาควงหมัดขวาออกไป เหนี่ยวนำอัสนีเทพกำเนิดฟ้าไร้ขอบเขตพุ่งไปอย่างเหี้ยมโหด

“อะไรกัน!”

เจียงไท่อี่เบิกตาโตด้วยความเหลือเชื่อ

ตั้งแต่เขาเกิดมาก็อาบบึงน้ำอัสนีเทพฟ้าดิน ฝึกวิชาจักรพรรดิอัสนีถึงขั้นสูง ถึงกุมอัสนีเทพปราณฟ้าดินได้มากขนาดนี้

ทว่า อัสนีเทพกำเนิดฟ้าก็ยังเป็นสิ่งที่เขาแตะต้องไม่ได้

สิ่งนี้คือต้นกำเนิดสายฟ้า เป็นสัญลักษณ์ของพลังสูงสุด

ทว่าเขากลับได้เห็นจากตัวบุรุษที่ไร้ชื่อเสียง จึงตื่นตกใจอย่างยิ่ง

โดยเฉพาะอานุภาพที่ระเบิดมาจากอัสนีกำเนิดฟ้าทำให้อัสนีเทพปราณฟ้าดินสั่นไหว ไม่กล้าต่อต้าน

และตอนนี้เองเสิ่นเทียนจู่โจมลงมา ฟ้าดินพลันถูกปกคลุมด้วยอัสนีเทพกำเนิดฟ้า

พริบตานั้นเงามายาจักรพรรดิอัสนีถูกกลืนกิน อัสนีเทพปราณฟ้าดินดับสลายไปเรื่อยๆ

เจียงไท่อี่ตัวสั่นสะท้าน กระเด็นออกไปเหมือนว่าวเชือกขาด ลอยไปหลายลี้ถึงได้หยุดอย่างมั่นคง

เขาตะโกนเสียงดังด้วยความโกรธ

“ไม่มีทาง ข้าคือบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เจียงไท่อี่ จะไปแพ้คนอื่นด้านความชำนาญวิชาอัสนีได้อย่างไร มารดาเถอะ สู้!”

เขามีดวงตาจริงจัง กัดฟันพุ่งเข้าไป

ทันใดนั้น ประกายสายฟ้าไหลเวียนในกายเจียงไท่อี่ วนเวียนรอบกาย

เขายืนในอากาศเหมือนหลอมรวมกับสายฟ้าเป็นหนึ่งเดียว แปลงเป็นเทพเจ้าผู้กุมเคราะห์สวรรค์

เจียงไท่อี่กดมือลงมา ห้วงอากาศพังทลาย มิติไหลหลาก ถาโถมไปพันลี้

เคราะห์อัสนีรวมขึ้นกลางนภา พลันตกลงมา สั่นสะเทือนฟ้าดิน

เคราะห์อัสนีสีดำมีขนาดหมื่นจั้ง กลิ่นอายทำลายล้างไหลเชี่ยวกราก

สายฟ้าเคราะห์ภัยสีดำมากมายพลันตกลงมา อานุภาพเอ่อล้นฟ้า น่าตื่นตกใจยิ่ง ทำให้ทั้งแท่นผนึกเทพสั่นสะเทือน

โอรสสวรรค์ที่สุดแห่งยุคพวกนั้นที่อยู่ห่างไปไม่ไกลเดิมทีกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด ยังถูกพลังนี้ดึงดูดความสนใจ เผยแววตาตื่นตกใจ

เซิ่งหยางซวีลูบคาง “เจ้าเด็กเจียงไท่อี่เป็นบ้าอะไรถึงสำแดงวิชาลับ”

พวกเขาเป็นสุดยอดโอรสสวรรค์ห้าดินแดน ส่วนใหญ่เข้าใจในวิชาของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี

เซี่ยงฉงโหลวเผยแววตาลึกล้ำ “นอกจากเราแล้วยังมีใครกดดันเจียงไท่อี่ถึงขนาดนี้ได้อีก น่าสนใจ ดูท่าคงมีสุดยอดโอรสสวรรค์ลึกลับโผล่มาอีกแล้ว”

ด้วยศักยภาพของเจียงไท่อี่ ถือว่าอยู่ในกลุ่มสุดยอดโอรสสวรรค์ อยู่แนวหน้าของรายนาม

เมื่อเห็นเขาเสียหน้าขนาดนี้ ทุกคนจึงหยุดมือชั่วคราว อิทธิฤทธิ์สลายไป เตรียมดูละครฉากใหญ่

…..

อีกด้านหนึ่ง การต่อสู้ระหว่างอวี้ซวีจื่อกับเอ๋าเลี่ยก็หยุดลงเช่นกัน

พวกเขามีศักยภาพสูสีกัน ตัดสินแพ้ชนะไม่ได้ง่ายขนาดนั้น

ตอนนี้ อวี้ซวีจื่อมองไปทางลานต่อสู้ของเจียงไท่อี่

ในดวงตาเขาเหมือนมีดวงดารามากมายหมุนโคจร มองเห็นความจริง

อวี้ซวีจื่อกำลังใช้เนตรมรรคสวรรค์ประทาน ส่องความจริงในนั้น แต่ยิ่งเขามองนานเท่าไรก็ยิ่งขมวดคิ้วมุ่นมากเท่านั้น

เพราะอวี้ซวีจื่อพบว่าเขาอ่านเสิ่นเทียนไม่ได้ จึงเกิดคลื่นลูกใหญ่ขึ้นในใจ

เนตรมรรคสวรรค์ประทานของตนกลับส่องไม่ได้!

เอ๋าเลี่ยกอดอก หัวเราะเยาะไม่หยุด “เจียงไท่อี่แย่แล้ว! ล่วงเกินใครไม่ว่า ไปล่วงเกินสหายเสิ่นหยวนของข้า!”

เอ๋าเลี่ยเห็นเสิ่นเทียนลงมือกับตา กำลังรบแข็งแกร่งมีพลังไร้พ่าย

วิญญาณร้ายระดับเตรียมเซียนยังดีดนิ้วทีเดียวดับ อยู่คนละระดับกับพวกเขาเลย

เจียงไท่อี่กล้าประลองกับคนโหดเช่นนี้ เรียกว่าหาเรื่องให้โดนทุบตีชัดๆ

……

แต่นอกจากเอ๋าเลี่ยแล้ว คนอื่นคิดว่าเจียงไท่อี่ชนะแน่นอน

เพราะอย่างไรเขาก็สำแดงวิชาลับในวิชาจักรพรรดิอัสนี

ต่อให้เป็นโอรสสวรรค์สุดยอดของห้าดินแดนก็มีน้อยคนที่ต้านไว้ได้

ทว่าเสิ่นเทียนก็ยังมีสีหน้าเฉยชายิ่ง

เขามองเคราะห์อัสนีสีดำที่จู่โจมเข้ามาไม่หยุด กลิ่นอายพลังในกายปะทุขึ้นโดยพลัน

ดวงตาเขาขยับประกายสายฟ้า เหมือนจะกินคน

ร่างเขาเป็นมายาขึ้นมา กฎเกณฑ์มากมายไหลหลาก แสงเรืองรองสว่างไปรอบๆ หลอมรวมเคราะห์อัสนีฟ้าดินเป็นหนึ่งเดียว

เขากำลังสำแดงวิชาลับสูงสุดควบคุมฟ้าดิน ระเบิดอานุภาพที่สูงสุดยิ่งกว่าเดิม!

วิชานี้คือเปลี่ยนร่างแปลงทัณฑ์สวรรค์

เพียงแต่ว่าผ่านการปรับแก้ด้วยวิชาเทพสวรรค์ เสิ่นเทียนจึงคุมวิชาจักรพรรดิอัสนีได้ถึงระดับสูงสุดแล้ว

เขาแปลงเป็นเคราะห์อัสนีกำเนิดฟ้าดิน คุมกฎเกณฑ์วิถีอัสนีทั้งหมด

เสิ่นเทียนสะบัดแขนเสื้อเบา ฟ้าดินเปลี่ยนสี

เคราะห์อัสนีสีดำที่จู่โจมเข้ามาหยุดชะงักกลางอากาศ

เจียงไท่อี่พลันตะลึงค้าง พูดด้วยความตื่นกลัว “เป็นไปได้อย่างไร”

เขาพบว่าเคราะห์อัสนีพวกนั้นหลุดจากการควบคุม เหมือนมีคนแย่งสิทธิ์การคุมสายฟ้าไปจากมือเขา

และตอนนี้เอง เสิ่นเทียนสะบัดแขนเสื้อเบาๆ “ไป!”

ทันใดนั้น เคราะห์อัสนีสีดำพวกนั้นเปลี่ยนทิศทางและผ่ากลางศีรษะเจียงไท่อี่

“ไม่กระมัง!

อย่าเล่นเช่นนี้ได้หรือไม่

มารดาเถอะ อย่าทำข้า!”

เจียงไท่อี่พลันถูกเคราะห์อัสนีไร้ขอบเขตปกคลุม ส่งเสียงกรีดร้องดังสนั่นฟ้าดิน

ประกายสายฟ้าไหลหลากไปบนแท่นผนึกเทพ วนเวียนฟ้าเก้าชั้น แผ่พลังน่าสะพรึงกลัวยิ่ง

ในประกายสายฟ้าไร้ขอบเขต ร่างเงาของเจียงไท่อี่ผลุบๆ โผล่ๆ กำลังวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน น่าสงสารยิ่งนัก

ภาพนี้ทำให้ทุกคนงงเป็นไก่ตาแตก

กระทั่งมีคนไม่เชื่อภาพนี้

เขาออกแรงขยี้ตา พูดงึมงำ “นี่ข้าเห็นอะไรอยู่ บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กำลังถูกฟ้าผ่ารึ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน