บทที่ 499 กระบี่นี้ เป็นที่สุดในประวัติการณ์
เซียนชั่วร้ายสามตนยืนกลางอากาศ ภายในกายมีปราณชั่วร้ายมหาศาลไหลเวียน บดบังฟ้าบังดวงตะวัน
ท้องนภามืดครึ้ม ลึกไร้แสงสว่าง
กลิ่นอายชั่วร้ายกระจายไปรอบๆ กระชากจิตวิญญาณคน
วิญญาณร้ายพวกนี้ ถึงขั้นแกร่งกว่าเซียนแท้วิญญาณร้ายสามตนก่อนหน้านี้
วิญญาณร้ายที่นำหน้ามามีเปลวเพลิงร้อนแรงวนเวียนรอบกาย อานุภาพสั่นสะท้านจิตวิญญาณ เผาผลาญห้วงอากาศหมื่นลี้ได้สบาย
มันเหมือนเทพชั่วร้ายมาเยือนโลกจากเหวลึกขุมนรก ไม่อาจเอาชนะได้เลย
เห็นได้ชัดว่าศักยภาพของมันเหนือเกินกว่าเซียนแท้ตนอื่นมาก
มันคือผีร้ายผู้นำเผ่าวิญญาณร้าย!
วิญญาณร้ายต่างแดนก็นำทัพโดยมัน บุกเข้ามาดินแดนทักษิณ
ภาพนี้ทำให้ทุกคนหน้าเหมือนเถ้าถ่าน นัยน์ตาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
ผู้บำเพ็ญที่มีพลังบำเพ็ญอ่อนแอล้มลงหมดสติไปแล้ว ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งเตรียมเซียนก็ยังมีสีหน้าหวาดกลัว ทำอะไรไม่ถูก
ด้วยกำลังตอนนี้ของห้าดินแดน ไม่มีใครต้านเซียนแท้สามตนนี้ได้เลย
หรือว่าดินแดนทักษิณจะต้องล่มสลายลงจริงๆ
……..
เซียนแท้สามตนมองไปรอบๆ นัยน์ตาเต็มไปด้วยการเหยียดหยาม
ในมุมมองพวกมัน คนพวกนี้เป็นดั่งมดปลวก ก่อคลื่นลมอะไรไม่ได้เลย
มีเพียงเสิ่นเทียนที่ทำให้ยอดเซียนแท้ทั้งสามสนใจ
ราชาภูตยิ้มเยาะ “เจ้าหนู คิดดีรึยัง เจ้ามอบสมบัติมาเสียดีๆ หรือว่าอยากถูกทรมานจนตายล่ะ”
มันมองกระดานหมากฟ้าขุ่นเป็นของในกระเป๋าตนแล้ว แค่อยากดูการดิ้นรนก่อนตายของมนุษย์เท่านั้น
เสิ่นเทียนเผยดวงตาเฉียบคม เอ่ยเหมือนแท่งน้ำแข็งทิ่มแทงกระดูก “เก่งจริงก็เข้ามาเอาเองสิ!”
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งเซียนแท้ในสภาพสูงสุด
เซียนชั่วร้ายในตอนนั้นไม่นับ ถึงอย่างไรมันก็บาดเจ็บสาหัส กำลังรบลดลงอย่างมาก อีกทั้งเสิ่นเทียนยังอาศัยกระดานหมากฟ้าขุ่นหลอมละลายมัน ไม่ได้ปะทะ
ตอนนี้โอรสสวรรค์ห้าดินแดนควบคุมกระดานหมากฟ้าขุ่นอยู่ ทำให้เสิ่นเทียนเสียกำลังเสริมไปอย่างมาก
แต่เขาไม่สนใจ เพราะเขาไม่ได้มีไพ่ตายแค่นี้
เขาก็อยากจะรู้เหมือนว่ากำลังรบตนไปถึงระดับใดแล้ว
…..
ราชาภูตหัวเราะเยาะ ก่อนทำเสียงขึ้นจมูก “เจ้าเด็กอวดดี พวกเจ้าไปฆ่ามัน!”
“ขอรับท่านราชาภูต!”
เซียนแท้วิญญาณร้ายสองตนได้ยินเช่นนั้นพลันพุ่งไปหาเสิ่นเทียน
พวกมันระเบิดแสงชั่วร้ายจากในกาย พลานุภาพโหมซัดสาดมาไม่ขาดสาย พุ่งขึ้นทะเลเมฆฟ้าเก้าชั้น
ปราณชั่วร้ายน่ากลัวพุ่งทะลักออกมา ส่องสะท้อนเป็นเงาชั่วร้ายสะท้านโลก
เงาชั่วร้ายสูงหลายหมื่นจั้ง ปกคลุมฟ้าดินเหมือนเทพชั่วร้าย
เซียนแท้สองตนดวงตาแดงฉาน คุมพลังแห่งฟ้าดินตบใส่เสิ่นเทียนอย่างเหี้ยมโหด
พริบตานั้นห้วงอากาศทลายลง
เงาชั่วร้ายน่ากลัวมาพร้อมกับพลังยิ่งใหญ่ เหมือนจะทำลายโลกนี้
เสิ่นเทียนดวงตาแวววาว พุ่งขึ้นเป็นแสงทองสว่างจ้าพุ่งขึ้นชั้นเมฆ
เขากำหมัด กลิ่นอายพลังสั่นสะเทือนแปดทิศ
พลังเลือดลมไหลหลากไปทั่วร่างเสิ่นเทียน ในสองหมัดมีพลังแห่งมังกรแท้วนเวียน อานุภาพหนักหมื่นชั่ง
หมัดหนึ่งชกออกไป สี่ทิศแตกกระจาย
ลำแสงหมัดเสิ่นเทียนปกคลุมโลก เหมือนมังกรเทพบรรพกาล เข่นฆ่ากับเซียนแท้วิญญาณร้าย
บึ้ม!
เกิดเสียงดังสนั่นปานฟ้าร้อง สั่นสะเทือนฟ้าดิน
แขนเงาชั่วร้ายนั้นถูกหมัดทำลาย หมอกเทาฟุ้งกระจาย
เซียนแท้วิญญาณร้ายตัวสั่นอย่างรุนแรง ถูกแว้งกัดอย่างน่ากลัวยิ่ง พลันกระเด็นลอยไปหมื่นจั้ง
…..
และตอนนี้เอง เซียนแท้อีกตนลอบโจมตี
หมอกชั่วร้ายไร้ขอบเขตไหลหลากเข้ามา เหมือนธารน้ำยาวปฐพีเก้าชั้น พุ่งมาจากทะเลโลหิตขุมนรก
ในนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอายพลังที่ทำให้คนหวาดกลัว หลอมละลายเซียนแท้ได้ง่ายดาย!
เสิ่นเทียนตาลุกวาว เปลวไฟพุ่งขึ้นฟ้าจากข้างหลัง!
เพลิงเทพหมุนม้วนฟ้าดิน กดทับท้องนภา ทำให้สิ่งชั่วร้ายเงามืดถอยไป
ข้างหลังเขารวมเป็นเงาหงส์หมื่นจั้ง โผบินฟ้าเก้าชั้น เพลิงเทพหมื่นสาย
เพลิงหงส์เทพอมตะกับไฟแท้สุริยะถาโถมออกไป ย้อมท้องนภาเป็นสีแดงเพลิง
เพลิงเทพร้อนแรงกับธารน้ำยาวขุมนรกไหลมารวมกัน เปล่งแสงสว่างจ้าถึงขีดสุด
ทว่าภายใต้เพลิงเทพนี้ ปราณชั่วร้ายเต็มฟ้าพลันถอยไปเหมือนหิมะ แตกสลายไปไม่หยุดหย่อน
เปลวเพลิงพุ่งขึ้นฟ้าสามฉื่อ จู่โจมใส่เซียนแท้วิญญาณร้ายอย่างต่อเนื่อง
เซียนแท้วิญญาณร้ายเห็นเช่นนั้นก็มีสีหน้าหวาดกลัว
มันรีบถอยไป ไม่กล้าให้โดนตัวแม้แต่นิด
พลังนี้น่ากลัวยิ่งนัก ทำให้เซียนแท้บาดเจ็บสาหัสได้
…..
เมื่อเห็นกำลังรบเสิ่นเทียน เซียนแท้สองตนก็มีสีหน้าจริงจัง
พวกมันพบว่าเจ้ามนุษย์นี่จัดการยากกว่าที่คิดไว้
“เราช่วยกัน ดูว่ามันจะต้านอย่างไร!”
เซียนแท้ตนหนึ่งก้าวออกมา เหนี่ยวนำให้ท้องนภาสั่นไหวอย่างรุนแรง
เงาชั่วร้ายข้างหลังเขาเคลื่อนตาม พลานุภาพล้นฟ้า จู่โจมเข้ามา
เซียนแท้อีกตนคอยจ้องหาโอกาสและเคลื่อนไหว เคลื่อนปราณชั่วร้ายมหาศาลกลายเป็นอาวุธชั่วร้ายแหลมคม ทะลวงห้วงอากาศ
สองฝ่ายพลันปะทะกัน พลังเทพน่ากลัวสะท้านฟ้าดิน ท้องนภาแตกกระจาย
ต่อให้เผชิญหน้ากับเซียนแท้สองตน เสิ่นเทียนก็ยังไม่ตื่นตระหนก
ข้างหลังเขาทยอยกันเกิดปรากฏการณ์ขึ้น แสงเรืองรองส่องสว่าง เกิดภาพสีสันหลากสีขึ้น
บางครั้งเสิ่นเทียนสำแดงวิชาเทพสวรรค์ เคลื่อนอัสนีเทพกำเนิดฟ้ามากมายพุ่งฟ้าเก้าชั้น
ประกายสายฟ้าทะลวงผ่าน น่ากลัวยิ่ง ทำลายปราณชั่วร้ายเซียนแท้วิญญาณร้ายแตกกระจาย ใบหน้าดำเกรียม
บางครั้งสำแดงวิชากิเลน เดินเก้าก้าวกิเลน ทุกก้าวเต็มไปด้วยอำนาจคุกคาม เหมือนขุนเขาเทพบรรพกาลตกลงมา อีกทั้งอานุภาพยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อเสิ่นเทียนเดินก้าวสุดท้าย เซียนแท้สองตนถูกกระแทกถอยไปหมื่นลี้
ทว่าทุกอย่างยังไม่จบลง เสิ่นเทียนออกมือไม่หยุด สำแดงวิชาสูงสุดของร้อยแปดขุนพลบรรพกาลถึงขีดสุด
ทุกวิชาจะเป็นสัญลักษณ์ของเจตจำนงมรรคสูงสุดอย่างหนึ่ง มีอานุภาพมหาศาล!
เซียนแท้สองตนหนังแตกเนื้อฉีกขาด ร้องโอดครวญไม่หยุด
พวกมันรู้สึกเหมือนตนถูกผู้แข็งแกร่งสุดยอดร้อยแปดคนปิดล้อมโจมตี ศีรษะดังวิ้งๆ ไปหมด
ทว่าทุกครั้งที่พวกมันคิดจะสวนกลับ เสิ่นเทียนจะหนีเข้ามิติ หลบการโจมตี
เซียนแท้สองตนโมโหคลั่ง ตะโกนด้วยความโกรธ “เจ้าเด็กเหม็นโฉ่ เก่งจริงก็อย่าหนีสิ! กล้าสู้กับพวกข้าซึ่งหน้าหรือไม่!”
พวกมันทนการโดนทรมานเช่นนี้ไม่ไหว อยากจะตัดสินแบบลูกผู้ชายกับเสิ่นเทียน
และตอนนี้เอง ในที่สุดเสิ่นเทียนก็หยุดนิ่ง ก่อนเอ่ยอย่างเฉยชา “ไฉนจะไม่กล้า ฝึกมาพอแล้ว ถึงเวลาจบการเล่นครั้งนี้เสียที”
เขาเพียงแค่เอาเซียนแท้สองตนเป็นหินลับดาบ ใช้ขัดเกลาเจตจำนงมรรคของตน
หลังผ่านการขัดเกลาในช่วงนี้ไป เสิ่นเทียนยิ่งตระหนักในเจตจำนงมรรคร้อยแปดชนิดลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม
กระทั่งแม้แต่ยอดพลังวิเศษปรากฏการณ์ครอบจักรวาลยังพัฒนาไปอีกขั้น
ถึงเวลาจบการต่อสู้น่าเบื่อนี่แล้ว!
….
เซียนแท้สองตนเห็นดังนั้นก็เผยแววตาเหี้ยมโหด
เจ้าหนูนี่อวดดีนัก โดนข้ายั่วยุทีเดียวก็ติดกับ!
ครั้งนี้ข้าอยากรู้นักว่ามันจะตายอย่างไร!
เสิ่นเทียนมีกลอุบายลี้ลับ หากใช้เจตจำนงมรรคตลอด ก็คงทำอะไรเขาไม่ได้
แต่ตอนนี้ เสิ่นเทียนกลับโอหังเสียจนจะปะทะกับพวกมันซึ่งหน้า เซียนแท้วิญญาณร้ายจะไม่ดีใจได้อย่างไร
เซียนแท้สองตนหัวเราะเยาะ “ฆ่า!”
พวกมันพุ่งทะยานไปข้างหน้า กดดันเสิ่นเทียน
พริบตานั้น ฟ้าดินพลันมืดครึ้มลงมาก
หมอกชั่วร้ายมหาศาลปกคลุมฟ้าดิน แสงสีเลือดพุ่งออกไป
ดวงตาสีเลือดปรากฏขึ้นกลางหมอกเทา สีแดงฉานแสบตาเหมือนตะวันโลหิต กระชากจิตวิญญาณคน
แสงสีเลือดมากมายตกลงมาจากฟ้า ปกคลุมโลกเหมือนพายุฝนดอกสาลี่
นี่คือวิชาต้องห้ามสูงสุดของเผ่าวิญญาณร้าย น่าสะพรึงถึงขั้นสังหารเตรียมจักรพรรดิได้
……
ทุกคนตื่นตกใจ หนาวสั่นอย่างยิ่ง
พวกเขาเผยแววตากังวล ไม่รู้ว่าเสิ่นเทียนจะต้านไหวหรือไม่
ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นกระบวนท่าสังหารของเซียนแท้!
ตอนนี้เองเสิ่นเทียนเคลื่อนไหวแล้ว
ข้างหลังเขาปรากฏแสงเทพไร้ขอบเขต
แสงเรืองรองพร่างพราวส่องสว่างไปรอบๆ วนเวียนหนาทึบ แสบตาถึงที่สุด
ปรากฏการณ์ร้อยแปดชนิดลุกโชนขึ้น กลายเป็นเทพโบราณร้อยแปดท่าน คำรามดังสนั่นจักรวาล
ขณะเดียวกันเสิ่นเทียนเปล่งแสงเทพทั้งตัว สว่างจ้าอย่างยิ่ง
ทวารพลันถูกปลุกขึ้น พลานุภาพสั่นสะเทือนฟ้าดิน
เสิ่นเทียนเหมือนราชันที่สุดแห่งยุค นำเทพโบราณร้อยแปดท่านสู้กับหมื่นโลก
เขามีสีหน้าเฉยเมย ชำเลืองตามองทุกสรรพสัตว์ “หมื่นวิถีครอบจักรวาล!”
ทันใดนั้นเทพโบราณร้อยแปดองค์เคลื่อนไหวพร้อมกัน แต่ละองค์มีหน้าตาน่าเกรงขาม กลิ่นอายพลังเอ่อล้นฟ้า
ฟ้าดินพลันแผ่พลังเทพมหาศาล ดินแดนหมื่นลี้พังทลายลงทันที
เทพโบราณร้องคำราม เหมือนดาราต่างแดนตกลงมา หมุนตลบฟ้าดิน
ชั่วพริบตาเดียว ดวงตาโลหิตมากมายถูกกดอัดระเบิดกระจายด้วยพลังนี้
วิชาต้องห้ามถูกทำลาย เซียนแท้สองตนกระอักเลือดคำใหญ่
พวกมันเผยแววตาตื่นกลัวยิ่ง รู้สึกถึงพลังที่ไม่อาจต่อต้านได้จู่โจมเข้ามา
“สู้ตาย!”
เซียนแท้สองตนกัดฟันด้วยความโกรธ โลหิตบริสุทธิ์ปะทุขึ้นในกาย กลายเป็นหมอกโลหิตหนาปกคลุมทั่วกาย
พวกมันกำลังปลุกพลังต้นกำเนิด ไม่เสียดายชีวิตเพื่อป้องกัน
พลังนี้น่ากลัวเกินไป ทำให้เซียนแท้ยังหวาดกลัว
บึ้ม!
การโจมตีนี้ฟ้าดินพังทลาย ผีร่ำไห้เทพโหยหวน
ห้วงอากาศไร้ขอบเขตพลันดับสลายเป็นความว่างเปล่า สภาพการณ์แทรกซึมถึงคน
ฝนโลหิตตกลงมากลางฟ้า เหมือนสัมผัสถึงขีดจำกัดฟ้าดิน ไม่อาจต้านทานได้
ภาพนี้ทำให้ทุกคนตาพร่ามัว พวกเขาเหมือนเห็นมหาศึกเทพมารมากมาย มารร้ายถูกเทพโบราณฉีกเป็นชิ้นๆ
…..
จนเมื่อฝนโลหิตหายไป ฟ้าดินไม่มีร่างของเซียนแท้ทั้งสองตนอีก
พวกมันดับสลายไปด้วยอำนาจเทพนี้ จิตสลาย ไม่เหลือซากศพ
มีเพียงเสิ่นเทียนที่ยืนกลางฟ้า ท่วงท่าสง่างามเหนือธรรมดา
เมื่อเห็นภาพนี้ ทุกคนเหม่อลอย
พวกเซิ่งหยางซวีเบิกตาโตอ้าปากค้าง ตื่นตกใจอย่างยิ่ง
“สวรรค์ นี่ข้าเห็นอะไรอยู่กันแน่”
“สหายเสิ่นเขา สังหารเซียนแท้ได้ในพริบตารึ”
“แกร่งเกินไปแล้ว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน