บทที่ 500 ข้า คือราชันมนุษย์รุ่นสองรึ
เมื่อสามเซียนแท้สิ้นชีพลง ผู้บำเพ็ญห้าดินแดนก็ได้ขวัญกำลังใจเพิ่มขึ้นมาก
เจียงไท่อี่ดวงตาวาววับ เลือดร้อนเดือดพล่าน
เขาไม่นึกเลยว่าสถานการณ์ที่ทำให้คนสิ้นหวังจะถูกแก้ด้วยเสิ่นเทียนคนเดียว
เขาตะโกนเสียงดัง “เหล่าพี่น้อง เซียนแท้วิญญาณร้ายถูกสหายเสิ่นหยวนสังหารแล้ว โอกาสโต้กลับของเรามาถึงแล้ว!”
“ฆ่าลูกวิญญาณร้ายพวกนี้ให้หมด ไล่พวกมันออกจากโลกนี้!”
“ห้าดินแดนต้องชนะ!”
ผู้บำเพ็ญห้าดินแดนขานรับ “ห้าดินแดนต้องชนะ!”
พวกเขาออกมือเต็มกำลัง ปิดล้อมเดรัจฉานวิญญาณร้ายไว้ไม่หยุด
ด้วยการเสริมพลังของยอดค่ายกลดาราครอบฟ้า โอรสสวรรค์ห้าดินแดนยิ่งสู้ยิ่งกล้าหาญ
แม้จะสู้กับเตรียมเซียนวิญญาณร้ายสองร้อยกว่าตนก็ยังได้เปรียบกว่า
โดยเฉพาะหลังเซียนแท้วิญญาณร้ายตายลง จิตใจของเผ่าวิญญาณร้ายสั่นคลอน ขวัญกำลังลดลงอย่างมาก
ดังนั้น โอรสสวรรค์ห้าดินแดนจึงทะลวงปราการป้องกันที่เผ่าวิญญาณร้ายสร้างขึ้น เริ่มปิดล้อมสังหารวิญญาณร้าย
…..
เอ๋าเลี่ยถือทวนเทพมังกรเก้าฉื่อ องอาจห้าวหาญ เกราะนักรบเทพมังกรรอบกายเปล่งแสงระยิบระยับ
ทวนนักรบกวัดแกว่งลงไป ห้วงอากาศแตกกระจายพันลี้ ทำลายล้างทุกอย่าง
เขาลากทวนพุ่งเข้าไปกลุ่มวิญญาณร้าย กวาดล้างสี่ทิศ ทำให้เตรียมเซียนมากมายสิ้นชีพลง
เจียงไท่อี่อาบประกายสายฟ้ารอบกาย สว่างจ้ายิ่ง
เขาคุมอัสนีเทพกำเนิดฟ้ากดลงมา ทำให้ที่นี่กลายเป็นนรกอัสนี
เซิ่งหยางซวีกับเซี่ยงฉงโหลวก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน พวกเขาพุ่งไปหน้าสุดของกองทัพ แสดงกำลังรบออกมาอย่างถึงที่สุด
เซี่ยงฉงโหลวเบิดดวงตาซ้อนทับ ลี้ลับยากจะคาดเดา
ประกบสองมือ ระเบิดพลังแห่งภัยพิบัติ
ปรากฏการณ์ดวงตาซ้อนทับข้างหลังสูงหมื่นจั้ง มาพร้อมพลังยิ่งใหญ่ล้างโลก ระบายออกไปไม่หยุด
เขากำลังสำแดงหมัดเทพล้างโลก มีพลานุภาพมหาศาล ทำลายภูผานทีได้ง่ายดาย
ทุกหมัดที่ชกลงไปจะทะลวงหน้าอกเตรียมเซียนวิญญาณร้าย กระอักเลือดพันลี้
เซิ่งหยางซวีถือกระจกโบราณสุญญะ ท่องไปในกองทัพวิญญาณร้ายเหมือนเทพเจ้า
ยอดอาวุธสูงสุดชิ้นนี้ ในที่สุดก็ได้เผยอานุภาพน่าสะพรึงในสนามรบ เห็นแค่กระจกโบราณยิงแสงเทพหมื่นจั้ง ลากพลังแห่งมิติมหาศาลแก้กฎเกณฑ์มิติของพื้นที่นี้
ทันใดนั้น มิติหมื่นลี้ทลายลง
กฎเกณฑ์มากมายรวมเป็นคมดาบมิติฟันใส่เตรียมเซียนวิญญาณร้าย โลหิตกระจายพันลี้ เศษแขนขากระจายเต็มพื้น
วิญญาณร้ายมากมายร้องโหยหวนกลางเทือกเขาอมตะ ส่งเสียงกรีดร้องแหลม ทว่าภายใต้พลังนี้ พวกมันไม่มีแรงต่อต้านใดๆ ได้แต่ถูกสังหาร
…..
เผ่าอสูรดินแดนทักษิณก็พุ่งออกมาจากส่วนในภูเขาอมตะเช่นกัน
เสียงคำรามสัตว์น่ากลัวสะท้านฟ้าดิน ทำให้วิญญาณร้ายมากมายหนาวสั่น
ก่อนหน้านี้เผ่าวิญญาณร้ายยังกำเริบเสิบสานที่นี่ แค่พริบตาเดียวกลับเป็นฝ่ายถูกล้างบาง
แต่ฉากนี้ ไม่มีใครเกิดความสงสาร
สงครามครั้งนี้ต้องใช้ชีวิตคนมากมายรวมออกมา หากไม่ได้เสิ่นเทียนออกมือ ฝ่ายที่ถูกฆ่าล้างจะเป็นพวกเขา
ดังนั้นทุกคนจึงไม่มีการออมมือ สังหารวิญญาณร้ายอย่างเต็มที่
…..
ตอนนี้เอง เสิ่นเทียนมองไปบนฟ้า
บรรพบุรุษเตรียมจักรพรรดิสามท่านกำลังสู้กับเซียนแท้วิญญาณร้าย
สองฝ่ายมีกำลังสูสีกัน การจะจบการต่อสู้ไม่ง่ายขนาดนั้น
ถึงอย่างไรเตรียมจักรพรรดิสามคนก็เป็นผู้บำเพ็ญห้าดินแดน เสิ่นเทียนย่อมต้องช่วย อีกทั้ง หากให้เซียนแท้วิญญาณร้ายสามตนหนีไปได้ จะเป็นปัญหาใหญ่
ดังนั้นเสิ่นเทียนจึงจะใช้โอกาสนี้จัดการพวกมันให้สิ้นซาก
เขาพุ่งขึ้นกลายเป็นแสงทองสว่างจ้า พุ่งขึ้นเส้นขอบฟ้า
เซียนแท้สามตนเห็นภาพนี้ก็ตับและถุงน้ำดีแทบแตก
พวกมันเห็นว่าพวกราชาภูตถูกเสิ่นเทียนสังหารอย่างง่ายดาย ไม่มีที่ให้ต่อต้านเลย
พอเห็นตัวการพุ่งมาทางพวกมัน เซียนแท้สามตนขนลุกขนชัน หนาวสั่นอย่างยิ่ง
“ไป รีบไปจากที่นี่!”
เซียนแท้คำรามด้วยความโกรธ พวกมันไม่มีใจสู้ต่อแล้ว อยากจะออกจากโลกนี้ให้เร็วที่สุด
ถึงอย่างไรเสิ่นเทียนก็สร้างแรงกดดันให้พวกมันยิ่งนัก
คนนี้ สังหารเซียนได้จริงๆ!
…..
ทว่า เตรียมจักรพรรดิสามท่านจะให้โอกาสพวกมันได้อย่างไร
“ขวางพวกมันไว้!”
เหล่าคุนเผิงคำรามเสียงดัง รอบกายแผ่พลังแห่งคุนเผิงมหาศาล
ร่างแสนจั้งพุ่งชนอากาศแตก กระแทกเซียนแท้ตนหนึ่งอย่างแรง
ปัง!
เซียนแท้ตนนั้นถูกกระแทกตกฟ้าเก้าชั้น พุ่งไปยังเขตไร้ผู้คน
บึ้ม!
เกิดเสียงดังสนั่นอีกครั้ง!
ดินแดนหมื่นลี้พลันสลายไปเป็นหลุมลึกยักษ์ น่าตื่นตกใจ
เหล่าคุนเผิงพุ่งขึ้น โจมตีใส่เซียนแท้วิญญาณร้ายต่อ ไม่ให้โอกาสพวกมันหนีไปเลย
อีกด้านหนึ่ง หวงอวี่กับเตรียมจักรพรรดิสุญญะระเบิดพลังอำนาจเช่นกัน
หวงอวี่แปลงเป็นหงส์เทพอมตะ สูงหมื่นจั้ง มาพร้อมกับเพลิงเทพร้อนแรงผลาญฟ้า ประกายไฟกลางนภาซ้อนทับกัน กดอัดท้องฟ้า แผ่พลังที่ทำให้ทุกสรรพสัตว์หวาดกลัว
หากเซียนแท้จะทะลวงออกจากท้องนภา จะต้องถูกเพลิงเทพหงส์เผา บาดเจ็บสาหัส
ทางด้านเตรียมจักรพรรดิสุญญะ เขาผนึกมิติแห่งนี้ไว้
เขาขยับสิบนิ้วมือไปมาในห้วงมิติ เหนี่ยวนำพลังต้นกำเนิดของกฎเกณฑ์มิติ ตรงปลายนิ้วเขาปล่อยโซ่ลำดับขนาดเล็กเหลือคนานับออกไป
ทันใดนั้น มิติเปลี่ยนไป
กฎเกณฑ์วนเวียน ลำดับตัดสลับกัน
ฟ้าดินเหมือนกลายเป็นพันธนาการยุบตัวลงมา
เซียนแท้วิญญาณร้ายสามตนถูกจองจำไว้ ไม่ว่าพวกมันจะโจมตีอย่างไรก็หนีไปไม่ได้
“สมควรตาย พวกเจ้าบังคับข้าเองนะ!”
เซียนแท้สามตนมีใบหน้ามืดทะมึน รู้ว่าครั้งนี้หนีไม่รอดแล้ว จึงจะสู้จนตัวตาย
พวกมันระเบิดปราณชั่วร้ายมหาศาลออกมา ทำให้ฟ้าดินถอดสี
หมอกชั่วร้ายลึกอย่างยิ่ง และยังมีพลังชั่วร้ายแปลกประหลาด เหมือนจะพลิกกลับโลกนี้
หมอกชั่วร้ายไหลเชี่ยว รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เหมือนคลื่นลูกใหญ่ถาโถมมา
ข้างหลังเซียนแท้สามตนปรากฏถ้ำแสงหนาทึบ ลำดับในนั้นตัดสลับกฎเกณฑ์บิดเบี้ยว
สามเซียนแท้นัยน์ตาเต็มไปด้วยความคลุ้มคลั่ง พูดด้วยความซื่อสัตย์ “ท่านวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพ! พวกเรายินดีถวายชีวิต ขอเชิญท่านมาเยือน สังหารมดปลวกพวกนี้!”
กายเนื้อเซียนแท้สามตนแห้งเหี่ยวลงด้วยความเร็วระดับสายตามองเห็น
พวกมันถูกสูบเลือดบริสุทธิ์ไปทั้งตัว ถวายในถ้ำแสงข้างหลัง
จากนั้นกายเนื้อเซียนแท้สามตนแตกกระจายเป็นผุยผง
ทว่าถ้ำแสงนั้นไม่หายไป แต่สว่างแสบตาขึ้นเรื่อยๆ และยังสั่นไหวอย่างรุนแรง
ในนั้นแผ่กลิ่นอายพลังชำเลืองตามองทุกสรรพสัตว์และมีข้าที่เป็นใหญ่ออกมา
กลิ่นอายพลังนี้ลุกลามไปในฟ้าดิน ทำให้ทุกชีวิตหน้าเปลี่ยนสี ตัวสั่นไม่หยุด
เตรียมจักรพรรดิสามคนตัวสั่นอย่างรุนแรง เหมือนรับแรงกดดันน่ากลัวยิ่ง จะทำลายกายเนื้อพวกเขา
พลังนี้น่ากลัวอย่างยิ่ง เป็นศัตรูด้วยไม่ได้ เป็นการคงอยู่เหนือกว่าเซียนแท้!
บึ้ม!
นิ้วมือดำสนิทพุ่งออกมาเหมือนเสาสวรรค์ ทำลายดินแดนหมื่นลี้
ขณะเดียวกันพลังที่ไม่อาจต่อต้านหมุนม้วนออกมา สั่นสะเทือนแปดทิศ
พรวด!
เตรียมจักรพรรดิสามคนกระอักเลือด พลันถูกกระแทกถอยไปหลายหมื่นลี้
“อะไรกัน”
“เผ่าวิญญาณร้ายยังมีกลอุบายอีกรึ”
พวกเขาเผยแววตาตื่นตกใจ จ้องนิ้วมือดำสนิทนั้น ในใจสั่นไหวไม่หยุด
ผู้บำเพ็ญต่ำกว่าเตรียมเซียนตกมาจากฟ้า กระแทกพื้นอย่างแรง
ผู้แข็งแกร่งระดับเตรียมเซียนตัวสั่นไปทั้งตัว นัยน์ตาฉายแววตื่นกลัว
เสิ่นเทียนหยุดชะงัก มีสีหน้าจริงจัง
แค่พลังนิ้วเดียวยังทำให้เตรียมจักรพรรดิถอยไปได้
พลังระดับนี้ น่ากลัวจริงๆ
“สหายน้อยระวัง นี่คือพลังระดับมหาจักรพรรดิ!”
เหล่าคุนเผิงยังมีเลือดไหลตรงมุมปาก จิตใจสั่นสะท้านยิ่ง
พวกเขาไม่นึกเลยว่าการใช้ชีวิตเซียนแท้สามตนสังเวย จะอัญเชิญมหาจักรพรรดิต่างแดนมาห้าดินแดนได้
ต้องรู้ว่าห้าดินแดนมีปราการฟ้าดินอยู่ วิชาชั่วร้ายเช่นนี้กลับทำให้มหาจักรพรรดิฝ่าปราการมาโลกนี้ได้
นี่มันน่ากลัวยิ่งนัก!
…….
ผู้เป็นจักรพรรดิเป็นการคงอยู่สูงสุดมาตลอด
ผู้แข็งแกร่งระดับเตรียมจักรพรรดิเตรียมเซียนอยู่ต่อหน้ามหาจักรพรรดิ แค่ดีดนิ้วทีเดียวก็ดับ!
แม้มหาจักรพรรดิจะไม่ได้มาเยือนด้วยตัวเอง แต่แค่พลังของนิ้วเดียวนี้ก็ไม่มีใครต้านได้
เวลานี้ ดินแดนทักษิณเข้าสู่วิกฤติอีกครั้ง
เสียงน่าเกรงขามยิ่งดังขึ้น ทำให้ท้องนภาสั่นสะเทือน
“พบข้าไม่คารวะ นั่นคือได้ตายไปแล้ว!”
ฟ้าดินกู่ร้อง สั่นสะเทือนจนฟ้าดินท้องฟ้าสั่นไหวอย่างรุนแรง
สิ่งมีชีวิตปกติได้ยินเสียงนี้จะหัวใจแตก สิ้นชีพลง
ผู้แข็งแกร่งระดับอริยะและเตรียมเซียนยังต้านพลังนี้ไม่ไหว พากันกระอักเลือด
เทือกเขาอมตะยิงลายมรรคสะท้านฟ้าขึ้น สร้างม่านแสงคุ้มกันโลกนี้
ไม่อย่างนั้น แค่เสียงเดียวก็สังหารสิ่งมีชีวิตได้มากมาย
เสิ่นเทียนขมวดคิ้วมุ่น นัยน์ตาฉายแววหวาดกลัวเสี้ยวหนึ่ง
เจ้านี่แข็งแกร่งมากจริงๆ กล่าวได้ว่าเป็นศัตรูที่แกร่งที่สุดที่เขาเคยพบมาเลย นี่ยังเป็นแค่นิ้วเดียว ไม่ใช่ร่างจริงมาเยือน
เสียงยังดังมาจากที่ห่างไกล แต่กลับมาพร้อมพลังยิ่งใหญ่ เหมือนจะทำให้จิตวิญญาณเขาแตกสลาย
หากมหาจักรพรรดิมาเยือนเองจะน่ากลัวเพียงใด
เสิ่นเทียนรู้สึกหนักใจเล็กน้อย ดูท่าระหว่างเขากับมหาจักรพรรดิคงจะห่างกันไม่น้อย
ดีที่แม้มหาจักรพรรดิจะมีอำนาจคุกคามมหาศาล แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นต่อต้านไม่ได้เลย
โดยเฉพาะลำดับมหามรรคยังจำกัดพลังมหาจักรพรรดิไปเรื่อยๆ หมายจะฟื้นฟูถ้ำแสง
เสิ่นเทียนพูดด้วยใบหน้าเฉยชา “กับแค่นิ้วจักรพรรดิ คู่ควรให้ข้าต้องตายรึ ลุย!”
เขาพุ่งขึ้น สำแดงหมัดเทพฟ้าขุ่นเข้าไป
แสงดารามากมายวนเวียนรอบหมัด กลิ่นอายพลังปกคลุมฟ้าดิน บ้าอำนาจยิ่ง
ลำแสงหมัดมากมายพุ่งตรงใส่นิ้วจักรพรรดิ
ทันใดนั้น ฟ้าดินถล่มทลาย
ห้วงอากาศแตกเป็นซากปรักหักพัง กระแสมิติสีดำไหลหลากพันลี้
แก๊ง!
ปราณชั่วร้ายแผ่กระจายไปรอบๆ ถ้ำแสงสั่นไหวอย่างรุนแรง เหมือนจะทลายลงด้วยหมัดนี้
“โอหัง ผู้ต่อต้านอำนาจจักรพรรดิ ตาย!”
เสียงตะโกนดังมาจากต่างแดน มาพร้อมกับความโกรธและจิตสังหาร
นิ้วจักรพรรดิขยับแล้ว เคลื่อนปราณชั่วร้ายมหาศาลปกคลุมลงมา
นิ้วนี้มหึมายิ่ง เหมือนขุนเขาเทพบรรพกาลกดลงมาจากฟ้า
นี่สร้างความตื่นตะลึงให้กับพวกเขามากจริงๆ
พวกเจียงไท่อี่แววตาเหม่อลอยยิ่งกว่า
ทุกคนพูดงึมงำ “สวรรค์ นี่ข้าเห็นอะไร
สหายเสิ่นเขา สังหารจักรพรรดิ!”
……
ตอนนี้เตรียมจักรพรรดิสามคนบินเข้ามา แววตาเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ
พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าเสิ่นเทียนจะมีกำลังรบน่าตกใจเช่นนี้
เตรียมจักรพรรดิสุญญะถามด้วยความเป็นห่วง “สหายน้อย ไม่เป็นไรนะ!”
เสิ่นเทียนส่ายหน้าช้าๆ สื่อว่าไม่เป็นไร
ดวงตาเขาลึกล้ำ ไม่ได้ดูสบายเหมือนคนอื่น
จนถึงตอนนี้ เสิ่นเทียนเพิ่งรู้ว่ามหาจักรพรรดิแข็งแกร่งเพียงใด
ครั้งนี้หากมหาจักรพรรดิมาด้วยตัวเอง เกรงว่าดินแดนนี้คงถูกทำลายล้าง
แต่เสิ่นเทียนก็ไม่ได้ท้อถอย เขากอดหัวใจไร้พ่าย จะกำราบศัตรูทั้งหมดในโลก
ต่อให้เป็นมหาจักรพรรดิก็ขวางไม่ได้!
พอคิดได้ดังนั้น แววตาเสิ่นเทียนเปลี่ยนเป็นแน่วแน่ยิ่ง
ตอนนี้เขามีรากฐานและศักยภาพแฝงไร้พ่าย ขาดเพียงพลังบำเพ็ญ
เมื่อพลังบำเพ็ญสูงขึ้น เขาจะไม่ต้องกลัวผู้ใด!
…….
หลังเห็นเสิ่นเทียนไม่เป็นไร เตรียมจักรพรรดิสามคนก็ถอนหายใจโล่งอก
เมื่อเซียนแท้สามตนสุดท้ายตายลง สงครามครั้งนี้ถือว่าปิดฉากลงอย่างสมบูรณ์แล้ว
เผ่าวิญญาณร้ายที่เหลือไม่อาจต้านการโต้กลับของผู้บำเพ็ญห้าดินแดนได้ ไม่นานก็ถูกกำราบลงทั้งหมด
และในตอนนี้เอง เสิ่นเทียนกับเตรียมจักรพรรดิสามคนลอยลงมาช้าๆ
เมื่อเห็นเสิ่นเทียนกลับมา เหล่าโอรสสวรรค์ต่างเฮโลกันเข้ามา
พวกเขามีใบหน้าตื่นเต้น ดีใจกันมาก
“สหายเสิ่น เจ้าแข็งแกร่งมากจริงๆ!”
“นั่นเซียนแท้เลยนะ และยังมีนิ้วของมหาจักรพรรดิ ยังถูกเจ้าฟันขาด!”
“สหายเสิ่น เป็นผู้พิทักษ์แดนทักษิณอย่างไม่ต้องละอายใจเลย”
เหล่าโอรสสวรรค์โห่ร้องกระโดดโลดเต้น ไม่ใช่แค่เพื่อฉลองหลังรอดจากหายนะ แต่โห่ร้องดีใจให้กับชัยชนะศึกครั้งนี้
ในมุมมองพวกเขา มีเสิ่นเทียนนำทัพ ห้าดินแดนจะต้องปราบหายนะครั้งนี้ได้อย่างแน่นอน
ตอนนี้เอง อวี้ซวีจื่อเดินเข้ามา ในดวงตาปรากฏลายมรรคไร้ขอบเขต
เขามองเสิ่นเทียนลึกๆ เหมือนคาดเดาอะไรบางอย่าง
เสิ่นเทียนถาม “สหายอวี้ มีอะไรรึ”
อวี้ซวีจื่อพูดด้วยความหวัง “สหายเสิ่น เจ้ามีคุณสมบัติกายสูงสุดนั้นในตำนานหรือไม่”
เสิ่นเทียนสงสัย “อะไรหรือ”
เขามีกายสูงสุดตั้งมากมาย ไม่รู้ว่าอวี้ซวีจื่อหมายถึงกายใด
อืม ดูโอ้อวดมาก~
อวี้ซวีจื่อเสียงสั่นเล็กน้อย และยังมีความจริงใจลึกๆ “กายราชันมนุษย์!”
เมื่อเอ่ยจบ ทุกคนมองมา
คนส่วนใหญ่ที่นี่รู้ว่ากายราชันมนุษย์หมายถึงอะไร
นี่คือกายที่สูงศักดิ์ที่สุด เป็นความศรัทธาของเผ่ามนุษย์
พวกเขากลั้นลมหายใจ มองเสิ่นเทียนนิ่งๆ นัยน์ตาเต็มไปด้วยการเฝ้ารอคอย
ถึงอย่างไรเสิ่นเทียนก็แสดงพรสวรรค์ออกมาได้น่ากลัวมากจริงๆ
และมีเพียงกายราชันมนุษย์ในตำนานเท่านั้นถึงจะทำถึงขนาดนี้ได้
เสิ่นเทียนพยักหน้า “ไม่ผิด ข้าเป็นกายราชันมนุษย์จริงๆ!”
ซี้ด!
ทันใดนั้น ทุกคนสูดลมหายใจเข้าลึก
พวกเขาดวงตาลุกวาว เปล่งประกายสว่างพร่างพราว
เตรียมจักรพรรดิสามคนมีสีหน้าตื่นตกใจเช่นกัน ภายในใจเกิดคลื่นยักษ์
พวกเขาไม่นึกเลยว่ากายในตำนานจะปรากฏขึ้นจริงๆ
จากนั้นโอรสสวรรค์ทุกคนมองตากัน จากนั้นพวกเขาโค้งตัวพร้อมกัน พูดแสดงความเคารพ “ขอคารวะราชันมนุษย์รุ่นสอง!”
ไม่ใช่แค่พวกเขา แม้แต่เตรียมจักรพรรดิสามคนกับเผ่าอสูรดินแดนทักษิณมากมายยังก้มศีรษะคารวะ
เพราะพวกเขาเคยมีบัญญัติบรรพชน
ผู้ปลุกตื่นกายราชันมนุษย์จะเป็นเจ้าปกครองใต้หล้า
อีกทั้ง พรสวรรค์และกำลังรบที่เสิ่นเทียนแสดงออกมายังทำให้ทุกคนยอมศิโรราบตั้งนานแล้ว
หากไม่ใช่เพราะเสิ่นเทียน พวกเขาคงต้องตายอยู่ที่นี่
ดังนั้นทุกคนจึงยินดีก้มศีรษะคารวะ เคารพเสิ่นเทียนเป็นราชันมนุษย์
…..
คำพูดแปลกๆ ของทุกคนทำให้เสิ่นเทียนตัวแข็งทื่อ
นัยน์ตาเขาฉายแววสับสน
อะไรกัน ราชันมนุษย์รุ่นสองรึ
ตามหลักต่อให้เป็นราชันมนุษย์ ก็ควรเป็นราชันมนุษย์รุ่นสามไม่ใช่รึ
รอเดี๋ยว~
หรือว่า…
ข้าจะไม่ได้ข้ามมาอนาคต
แต่ข้ามกลับไปอดีต และยังเป็นราชันมนุษย์รุ่นสอง!
บ้าจริง ซวยแล้ว~
……………….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน