การจะตามหาใครสักคนในพระราชวังที่กว้างใหญ่เช่นนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าหากคุ้นเคยกับขันทีใหญ่ที่รับผิดชอบกรมวังฝ่ายใน ทั้งหมดนี้ก็ไม่ใช่ปัญหา
สิ่งที่บังเอิญคือ เสิ่นเทียนไม่สนิทคุ้นเคยกับกรมวังฝ่ายใน
ทว่านี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะทั้งพระราชวังยังไม่มีใครกล้าล่วงเกินเสิ่นเทียน
หลังจากทราบจุดประสงค์ของเสิ่นเทียน ขันทีใหญ่คัดตารางงานของขันทีทั้งหมดออกมาในเวลาไม่กี่นาที และบอกที่อยู่ของฉินเกาให้เสิ่นเทียนทราบ
จากนั้นก็ส่งเสิ่นเทียนออกจากกรมวังฝ่ายในด้วยความเคารพราวกับส่งเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่ง
ช่วยไม่ได้ เขากลัวว่ากรมวังฝ่ายในจะพังถล่มลงมาเหมือนสถานศึกษาหลวงนี่
……
สิ่งที่คู่ควรให้กล่าวถึงคือ ฉินเกาเป็นคนของตำหนักองค์ชายหก
องค์ชายหกเสิ่นเอ้าผู้นี้เป็นบุคคลที่มีพรสวรรค์ด้านการบําเพ็ญเซียนสูงสุดในบรรดาองค์ชายทั้งหมด
สามารถฝึกบำเพ็ญถึงระดับหลอมปราณขั้นเก้าในวัยเพียงสิบแปดปี และกำลังอยู่ในช่วงปูรากฐานวิถีเซียน เป็นอัจฉริยะที่ร้อยปีจะมีสักคนของอาณาจักรต้าเหยียน
กล่าวกันว่า ผู้อาวุโสผู้สูงศักดิ์สักคนจากแดนเทวาดาวประกายพรึกถูกใจเขาและรับไว้เป็นลูกศิษย์สืบทอดแล้ว
พึงรู้ก่อนว่า สำนักบำเพ็ญเซียนในดินแดนบูรพาถูกแบ่งออกเป็นสามสิบหกแดนเทวา เจ็ดสิบสองแดนผาสุก และแดนเทวาดาวประกายพรึกจัดอยู่ในสิบอันดับแรกของแดนเทวา
มีผู้สูงศักดิ์ของแดนเทวาดาวประกายพรึกถูกใจในฝีมือ นี่คือโชคลิขิตที่ประเสริฐอย่างยิ่ง
ถ้าหากไม่มีเหตุขัดข้องอะไร ผลสำเร็จต่ำสุดในอนาคตของเสิ่นเอ้าก็คือผู้จริงแท้ในระดับแก่นพลังทอง
หากโชคดีพบเจอโชคลิขิตครั้งใหญ่ ก็อาจถึงขั้นมีหวังจะทลายแก่นพลังทองก่อเป็นดวงจิตดรุณ กลายเป็นผู้สูงศักดิ์ที่ได้รับการยกย่องจากผู้คนนับหมื่นก่อนอายุห้าร้อยปี
เมื่อถึงเวลานั้น ต่อให้เป็นตำแหน่งของจักรพรรดิเหยียนก็เทียบอะไรไม่ได้แล้ว
ถึงอย่างไรผู้สูงศักดิ์วิถีเซียนที่อ่อนแอที่สุดก็มีอายุขัยมากกว่าหนึ่งพันปีขึ้นไป เพียงโบกมือก็ถล่มขุนเขาทลายผืนดิน ทำลายท้องนภา มหาสมุทรเดือดพล่าน
หากเปรียบกันแล้ว อำนาจจักรพรรดิในทางโลกช่างเปราะบางยิ่งนัก
และก็ด้วยเหตุนี้เช่นกัน ฐานะของเสิ่นเอ้าในพระราชวังอาณาจักรต้าเหยียนจึงอยู่เหนือสามัญ
แม้เขาจะได้รับความโปรดปรานจากจักรพรรดิเหยียนอีกมากเพียงใด ก็ไม่มีองค์ชายคนใดริษยาหรือคิดร้าย เพราะว่าไม่มีความจำเป็น
เสิ่นเอ้าถูกกำหนดให้เป็นเซียนที่แสวงหาความเป็นอมตะบนเส้นทางการบำเพ็ญเซียนอันยาวไกลไปทั้งชีวิต
เรื่องชิงบัลลังก์จักรพรรดิไม่อยู่ในสายตาเขาเลย
……
‘ไม่รู้ว่าวงรัศมีแห่งโชคที่อยู่เหนือศีรษะของพี่หกจะเป็นอย่างไร’
เสิ่นเทียนเดินตามเส้นทางสายเล็กในอุทยานหลวงไป ไม่นานก็มาถึงละแวกใกล้เคียงตำหนักขององค์ชายหก
ในตอนนั้นเอง เสียงกรีดร้องลอยเข้ามาในหูของเสิ่นเทียน และยังมีเสียงด่าทอที่ไร้ความปรานีดังตามหลังมา
“ตาเจ้าบอดหรือไร เจ้าทาสสมควรตาย!
เจ้ารู้หรือไม่ว่าหญ้าเซียนเก้าใบกระถางนั้นล้ำค่ามากแค่ไหน ถึงเจ้ามีเก้าชีวิตก็เทียบไม่ได้แม้กระทั่งรากเดียวของมัน!
คนอื่นจงดูให้ดี คราวหน้าถ้าใครไม่ตั้งใจตอนทำงาน นี่ก็คือสิ่งที่พวกเจ้าจะต้องเจอ!”
……
เสิ่นเทียนมองไปตามทิศทางของเสียง เห็นคนกลุ่มหนึ่งรายล้อมอยู่ข้างบ่อน้ำของอุทยานหลวง
มีไม้กางเขนตั้งอยู่กลางวงของคนกลุ่มนี้ ขันทีน้อยคนหนึ่งที่ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลโดนมัดอยู่ด้านบน ถ้าไม่ใช่ฉินเกาแล้วจะเป็นใครกันเล่า
จุดที่ควรกล่าวถึงคือ วงรัศมีเหนือศีรษะของฉินเกาในเวลานี้เปลี่ยนไปแล้ว
แม้ยังคงเป็นสีแดง แต่แสงหม่นลงกว่าก่อนหน้านี้เยอะมาก บางจุดถึงขั้นมีแสงสีเขียวจางๆ ปรากฏให้เห็น
สีที่มีจุดด่างพร้อย มองแล้วไม่ค่อยมีชีวิตชีวาเสียเท่าใด
‘ฉินเกาก็ประสบเหตุเภทภัยด้วย? เขาเป็นบุตรแห่งโชคชะตาไม่ใช่หรือ‘
ขณะมองฉินเกาที่ถูกแส้เฆี่ยนตี เสิ่นเทียนอึ้งไปเล็กน้อย
เช่นนี้ก็ถูกต้องแล้ว
นึกถึงหนังสือนิยายที่ตนเองเคยอ่านเมื่อภพก่อน ดูเหมือนว่าเส้นทางชีวิตของพระเอกก็ไม่ได้ราบรื่นไปเสียหมด บางครั้งพวกเขาก็ประสบเคราะห์ภัย หลังจากรอดพ้นมาได้ก็ย้อนกลับมาแก้แค้น…
เดี๋ยวก่อน!
รอดพ้นจากเภทภัย ย้อนกลับมาฆ่าคู่อาฆาต!
เสิ่นเทียนรู้สึกหนังศีรษะชาวาบโดยพลัน คู่อาฆาตของฉินเกาเป็นใคร เป็นขันทีที่รับผิดชอบเฆี่ยนตีเขา เสิ่นเอ้าเจ้านายที่อยู่เบื้องหลัง หรือว่า…
ทั้งราชวงศ์ของอาณาจักรต้าเหยียน?
เสิ่นเทียนยังจำได้ว่าสุดท้ายราชันมารสู่สุริยันที่กุ้ยกงกงเคยกล่าวถึงจัดการอาณาจักรต้าคุนอย่างไร
เพราะโดนเจ้านายในอาณาจักรต้าคุนข่มเหงรังแกมากเกินไป หลังจากจอมมารผู้นั้นกลายเป็นจอมมารสำเร็จ เขาก็สังหารหมู่ทั้งราชวงศ์ของอาณาจักรต้าคุน
วันนั้น ดอกทานตะวันสีแดงสดบานสะพรั่งทั่วทั้งพระราชวังอาณาจักรต้าคุน
ศพนอนเกลื่อนพื้น โลหิตไหลเป็นสายน้ำ!
……
‘เสิ่นเอ้า นี่เจ้ากำลังรนหาที่ตายอยู่นะ!’
มุมปากของเสิ่นเทียนกระตุก เขาลองคำนวณดูสักครู่ ถ้าหากตนเองไม่ได้แย่งโชคลิขิตของฉินเกามาก่อน เรื่องราวต่อจากนี้จะพัฒนาต่อไปในทิศทางใด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน