บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 503

บทที่ 503 ไม่ใช่สามจักรพรรดิ เป็นห้าจักรพรรดิ!

เสิ่นเทียนจู่โจมมหาจักรพรรดิสามตนถอยไป ขวัญกำลังห้าดินแดนเพิ่มขึ้นมาก

พวกเขากล้าหาญยิ่งขึ้น จู่โจมรวดเร็วดุดันไร้พ่าย

วิชาสูงสุดต่างๆ ถูกสำแดง ส่องแสงสว่างจ้าถึงที่สุด

สมาชิกโถงสวรรค์กับบรรพบุรุษเตรียมจักรพรรดิจำนวนมากร่วมมือกันต้านการปิดล้อมโจมตีของเซียนแท้หลายร้อยตน

ทุกคนยิ่งสู้ยิ่งกล้าหาญ การโจมตีทรงพลัง

อาศัยพลังของค่ายกลสงคราม ทุกคนจึงกดดันเซียนแท้วิญญาณร้ายถอยไป ไม่ตกเป็นรอง

ทว่าทุกคนก็ยังจิตใจหนักหน่วง

เพราะกุญแจสำคัญในการชนะศึกนี้ไม่ใช่พวกเขา แต่เป็นเสิ่นเทียน!

มีเพียงเสิ่นเทียนเอาชนะมหาจักรพรรดิวิญญาณร้ายสามตนเท่านั้น ห้าดินแดนถึงปลอดภัย

นี่คือความหวังสุดท้ายของห้าดินแดน และเป็นโอกาสรอดเพียงหนึ่งเดียว

…..

สามจักรพรรดิวิญญาณร้ายจ้องเสิ่นเทียน จิตใจสั่นสะท้าน

พวกเขาไม่นึกเลยว่าสามจักรพรรดิร่วมมือกัน เสิ่นเทียนยังโต้กลับได้

ยังไม่บรรลุจักรพรรดิก็มีกำลังรบระดับจักรพรรดิ!

จะเก็บเจ้าเด็กนี่ไว้ไม่ได้!

สามจักรพรรดิเผยแววตาเย็นชา จิตสังหารน่าเกรงขาม

ไม่ว่าอย่างไร วันนี้พวกเขาก็ต้องสังหารราชันมนุษย์!

เสวี่ยตี้เผยแววตาเย็นชา “อีกเดี๋ยวข้าจะไม่ให้โอกาสเจ้าแล้ว ขุมนรกต่างหากคือที่พักสุดท้ายของเจ้า!”

แววตาเขาแดงเหมือนโลหิต จิตสังหารปะทุ หมุนม้วนฟ้าดิน

“ฆ่า!”

เสวี่ยตี้คำรามเสียงดัง แปลงกายเป็นลำแสงโลหิต

กระบวนท่าสังหารมากมายพุ่งทะเลเมฆ จู่โจมใส่เสิ่นเทียน

มหาจักรพรรดิระเบิดศักยภาพทั้งหมด สภาพการณ์น่ากลัวจนยากจะจินตนาการได้

หอกสีแดงกวัดแกว่ง ทะลวงท้องนภา เฉียบคมอย่างยิ่ง!

เยี่ยตี้กับถงตี้ด้านข้างเดินเข้ามา ใช้รูปแบบปิดล้อมโจมตีเสิ่นเทียน

อำนาจจักรพรรดิน่ากลัวกระตุ้นถึงขีดสุด พลิกกลับท้องนภา สั่นสะเทือนฟ้าดิน

ถึงอย่างไรก็เป็นมหาจักรพรรดิสามคน เป็นสิ่งมีชีวิตสูงส่งที่แท้จริง ศักยภาพน่ากลัวอย่างยิ่ง

สามคนร่วมมือกัน มากพอจะกวาดล้างศัตรูทั้งหมด

……

เสิ่นเทียนดวงตาวาววับ ตะโกนเสียงดัง “ฆ่า!”

การจะช่วยโลกนี้ต้องสังหารสามจักรพรรดิ

เขาออกมืออย่างเต็มที่ พลังในกายพุ่งมาเหมือนมหาสมุทร

สำแดงเปลี่ยนเทพสงครามกับวิชาลับโลหิตยุทธ์ผลาญฟ้าถึงขีดสุด กำลังรบเพิ่มขึ้นมาก

ขณะเดียวกันเสิ่นเทียนยังเปล่งแสงทั้งตัว ข้างหลังเกิดปรากฏการณ์น่ากลัว!

ปรากฏการณ์มังกรหงส์ ปรากฏการณ์คุนเผิง ปรากฏการณ์จักรพรรดิอัสนี ปรากฏการณ์กระบี่ฟ้า…

ปรากฏการณ์ทยอยกันปรากฏมา แสงเรืองรองส่องสว่าง กดอัดท้องนภา

ทุกปรากฏการณ์เป็นสัญลักษณ์ของวิชาสุดยอดอย่างหนึ่ง สำแดงถึงขีดสุด มีพลานุภาพไม่มีขอบเขต

แสงเทพวนเวียนรอบกายเหมือนเทพสงครามที่สุดแห่งยุค

เสิ่นเทียนเหยียบอากาศแตกกระจาย พุ่งไปยังสนามรบ

สองฝ่ายปะทะกัน ห้วงอากาศแตกไปแสนลี้

กระแสมิติปั่นป่วนสีดำหมุนม้วน ก่อกวนกฎเกณฑ์ฟ้าดิน ลำดับมหามรรคแตก

หมื่นกฎเกณฑ์ดับสลายเป็นความว่างเปล่า

…….

เยี่ยตี้แปลงเป็นราชันรัตติกาลนิรันดร์ คุมความมืด

กลืนกินแสงสว่างฟ้าดิน ท้องนภายุบลง

ปีกเงามิดข้างหลังสั่นไหว เหมือนดาบฟ้าตัดลงมา

นี่คือพลังแห่งความมืดสูงสุด แฝงความน่ากลัวอย่างยิ่ง

เสิ่นเทียนถือกระบี่ดาราฟ้าขุ่น สำแดงปราณกระบี่เซียนเหินฟ้าเข้าปะทะ

แสงกระบี่สีเงินพลันปะทุ ทะลวงฟ้าดิน

เงามืดพลันถูกฉีกเป็นสองส่วน ลำแสงกระบี่ทำลายล้างทุกอย่าง กระแทกใส่ตัวเยี่ยตี้

ฉึก!

โลหิตสาดพันลี้

เยี่ยตี้ถูกฉีกหน้าอก เกือบจะถูกแยกเป็นสองส่วน บาดแผลลึกเห็นกระดูก

“เอ่อ…อ๊าก!”

เยี่ยตี้แผดเสียงร้องแหลมเล็ก ฝืนง้างหมัดชกใส่กระบี่ดาราเบิกฟ้า กระแทกเสิ่นเทียนถอยไป

เขาแผ่ปราณชั่วร้ายทั้งตัว สภาพน่าเวทนาอย่างยิ่ง กระทั่งตรงบาดแผลยังเห็นกระดูกจักรพรรดิสีดำกับหัวใจ

การโจมตีนี้แทบจะปลิดชีพเขา

บึ้ม!

พลันมีร่างเงาสีเลือดพุ่งมาข้างหลังเสิ่นเทียน

เสวี่ยตี้เผยจิตสังหารรวดเร็วและดุดัน หอกแดงมาพร้อมอำนาจจักรพรรดิแทงใส่เสิ่นเทียน

เขาพบโอกาสได้อย่างแม่นยำ อาศัยจังหวะที่เสิ่นเทียนถูกกระแทกถอยไป ใช้โอกาสนี้ลอบโจมตี

พรวด!

เกิดเสียงดังสนั่น!

หอกนักรบแดงกระแทกหน้าอกเสิ่นเทียน ทำลายหัวใจเขาแตก

เสวี่ยตี้มีสีหน้าดีใจใหญ่ คิดว่าสังหารกายราชันมนุษย์ได้

ทันใดนั้น เขาหรี่ตาลง มีสีหน้าตื่นกลัว

ร่างเงาตรงหอกนักรบค่อยๆ หายไป กลายเป็นโลหิตบริสุทธิ์หยดหนึ่ง

“นี่มัน…ร่างแยกรึ”

เสวี่ยตี้มีสีหน้าตื่นตกใจ ภายในใจพลันรู้สึกถึงจิตสังหารดุดันหมุนม้วนฟ้าดิน ก่อนจะเห็นมิติข้างหลังเขาถูกฉีกขาดโดยพลัน

เสิ่นเทียนก้าวออกมาจากมิติ ควงเตาหลอมเทพสุริยะฟาดใส่ศีรษะเสวี่ยตี้

ตึง!

เสียงกระดูกแตกดังขึ้น

เตาหลอมเทพสุริยะฟาดศีรษะเสวี่ยตี้อย่างแรง ทุบมงกุฎจักรพรรดิสีเลือดแตก โลหิตสาดกระจาย ย้อมห้วงอากาศ

เสวี่ยตี้ร้องโอดครวญ กลายเป็นหมอกโลหิตถอยไป

เขาบาดเจ็บหนัก กระดูกถูกทุบแตก กระทั่งเห็นสมอง…

หากไม่ใช่เพราะตั้งตัวทัน การโจมตีนี้คงจะทุบศีรษะเขาเละเป็นโจ๊กเนื้อ!

เสวี่ยตี้กุมศีรษะ ฝืนหยุดอาการบาดเจ็บ

เขาเผยแววตาตกใจ เลือดลมเดือดไปทั้งตัว เพลิงโทสะพุ่งขึ้นฟ้า

ไม่นึกเลยว่าแค่ไม่ระวังเพียงนิดเดียวจะเกือบตายด้วยน้ำมือเสิ่นเทียน

…..

เสิ่นเทียนเผยแววตาเย็นชา เขาไม่สนใจเสวี่ยตี้ แต่หมุนตัวกลับ

ถงตี้พุ่งเข้ามา ขยับคทาเวทวิญญาณร้าย ร่ายคำสาปสูงสุด

ท้องฟ้าถูกพลังคำสาปปกคลุม

ไร้เงาไร้ร่าง พุ่งเป้าไปที่จิตวิญญาณ

เนตรมารฟ้าวิบัติสายเลือดนี้มีความพิเศษอย่างยิ่ง มีฐานะเหนือชั้นในเผ่าวิญญาณร้ายต่างแดน

วัดกันที่ระดับความแกร่งในการโจมตี อาจจะสู้เสวี่ยตี้ไม่ได้

แต่ระดับความอันตราย กระทั่งเหนือกว่าเสวี่ยตี้กับเยี่ยตี้

พลังคำสาปแก่กล้าปกคลุมลงมา เต็มไปด้วยความอัปมงคล

พลังนี้พัวพันไปถึงต้นกำเนิดฟ้าดิน ยากจะต่อต้านได้!

เวลานี้ พลังไร้พ่ายของเสิ่นเทียนถูกทำลาย แม้แต่กำลังรบยังถดถอยลง

ไม่ใช่แค่นั้น

พลังคำสาปฝังลึกลงจิตวิญญาณ หมายจะทำลายวิญญาณแท้

พลังเช่นนี้มีผลในด้านของมรรค สามารถต่อกรกับร่างแยกบุตรเทพโลหิต ทำให้เสิ่นเทียนยากจะคืนชีพได้อีก

เสิ่นเทียนหน้าไม่เปลี่ยนสีไป เขาระเบิดปราณหยินหยางกำเนิดมาจากในกาย

บัววาสนาวัฏจักรเปล่งแสงวาววับ ระเบิดพลังแห่งการรังสรรค์ ฝืนชิงต้นกำเนิดฟ้าดิน

แสงดำถอยไปทั้งหมด คำสาปถูกสลายไป เสิ่นเทียนกลับมาจุดสูงสุดอีกครั้ง

เขากำหมัดชกใส่ถงตี้!

บึ้ม!

หมอกมารแตกกระจาย ถงตี้กระเด็นไปหมื่นลี้ กายเนื้อแทบจะถูกทำลาย

เขาชำนาญวิชาเวทมนต์ กายเนื้อไม่ได้แข็งแกร่ง ไม่อาจปะทะกับเสิ่นเทียนตรงๆ ได้

…..

ตอนนี้เองเยี่ยตี้บุกมาอีกครั้ง

เขากระตุ้นเศษร่าง ชกหมัดเทพเงามืดออกไป

พลังแห่งความมืดปกคลุมแสงเทพบนตัวเสิ่นเทียน ทำให้เขาเหมือนตกไปในบ่อโคลน

เสิ่นเทียนดวงตาเย็นชา ลุกขึ้นต้านศัตรู

สองฝ่ายสู้อาบเลือดหมื่นลี้ สั่นสะเทือนดินแดนมากมาย

พรวด!

เกิดเสียงดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง

แขนเยี่ยตี้ถูกปราณกระบี่ตัดขาด เลือดนองพันลี้

เสิ่นเทียนจะไล่ตามไปสังหารคนหนึ่งก่อน ไม่อย่างนั้นขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป พละกำลังจะลดลงไปมากเกิน

ทว่าเสวี่ยตี้ไม่ให้โอกาสเลย เขาสำแดงวิชาชั่วร้ายพลิกฟ้า เหนี่ยวนำทะเลโลหิตกลืนกินผืนฟ้าดารา

ท้องนภาถูกแสงโลหิตมากมายปกคลุม พลังมืดหม่นและดุดันยิ่ง เต็มไปด้วยพลังกัดกร่อนรุนแรง

ทะเลโลหิตแห่งนี้กัดกร่อนกายจักรพรรดิได้ ทำลายกระดูกจักรพรรดิได้

เสิ่นเทียนเรียกเตาหลอมเทพสุริยะออกมาตัดท้องนภา

ไฟแท้สุริยะพุ่งทะลักออกมาพร้อมกับอำนาจเทพร้อนแรง เผาภูเขาต้มมหาสมุทร!

ซ่าๆๆ

ทะเลโลหิตระเหยทั้งหมดภายใต้ไฟแท้สุริยะ

ขณะเดียวกัน เสิ่นเทียนออกหัตถ์ปฐมกาลทลายเวหา พุ่งไปถึงหน้าเสวี่ยตี้

ฝ่ามือห้าสีตบลงทันที ทำให้หน้าอกเขายุบลง กระดูกจักรพรรดิแตก

ศึกนี้สู้กันจนฟ้าดินหนาวเหน็บ ทุกสรรพสัตว์สั่นกลัว

….

สามจักรพรรดิลอยอากาศ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความตื่นกลัว

พวกเขามีบาดแผลทั้งตัว กลิ่นอายพลังปั่นป่วน

หากไม่ใช่เพราะผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิมีพลังชีวิตแข็งแกร่งก็คงจะตายไปนานแล้ว จนถึงตอนนี้พวกเขาถึงได้รู้ถึงความน่ากลัวของเสิ่นเทียน

สามจักรพรรดิร่วมมือกันยังถูกเสิ่นเทียนกำราบ

เจ้าเด็กนี่เป็นปีศาจจริงๆ

“ถอยกลับไปต่างแดนก่อน แล้วค่อยหาทางฆ่าเดรัจฉานนี่!”

เสวี่ยตี้ตะโกนเสียงดังก่อนแปลงเป็นแสงโลหิต พุ่งไปในประตูมิติ

ขืนอยู่ที่นี่ต่อ เกรงว่าต้องถูกเสิ่นเทียนสังหาร

ถงตี้กับเยี่ยตี้กลายเป็นแสงดำหนีไปหมื่นลี้เช่นกัน

หัวใจไร้พ่ายของพวกเขาทลายลงแล้ว ไม่กล้าสู้อีก!

สามจักรพรรดิหนีไป จะอาศัยประตูมิติหนีกลับต่างแดน!

“จะไปไหน!”

เสิ่นเทียนคำรามเสียงดัง พุ่งตามไป

โอกาสดีเช่นนี้ เขาจะพลาดไปได้อย่างไร

เขากระตุ้นทองคำเซียนปีกปักษา กลายเป็นแสงสุดขั้วพุ่งไปประตูมิติ

เสิ่นเทียนจะสังหารก่อนที่สามจักรพรรดิจะหนีกลับต่างแดน

…..

ประตูมิติ

ที่นี่มีหมอกขมุกขมัว ห้วงอากาศขึ้นๆ ลงๆ

ธารน้ำยาวมิติไร้พรมแดน เชื่อมไปต่างแดน

การจะสังหารสามจักรพรรดิ นี่เป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว

หลังเสิ่นเทียนเข้าไปในประตูมิติ สามจักรพรรดิกลับหยุดลง

พวกเขาหมุนตัวกลับ แววตาเต็มไปด้วยการเย้าหยอก

“เจ้าเด็กอวดดี ไม่อยากเชื่อว่าจะยังกล้าเข้ามา วันนี้ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะรอดไปได้อย่างไรอีก”

เสวี่ยตี้เผยแววตาดุร้าย พูดอย่างน่ากลัว “กู่ตี้ หุนตี้ ออกมาเถอะ!”

อากาศไหลหลาก จักรพรรดิอีกสองคนเดินออกมาจากธารน้ำยาวมิติไร้พรมแดน

ในนั้นมีคนหนึ่งไม่มีเลือดเนื้อทั้งตัว ประกอบขึ้นจากกระดูกขาวใสแวววาวทั้งหมด

ตัวเขาเต็มไปด้วยอักขระชั่วร้าย กายเนื้อแข็งแกร่งทนทาน

กู่ตี้ยืนอยู่บนธารน้ำยาวมิติ ในดวงตาโบ๋ลึกมีไฟวิญญาณขุมนรกลอยอยู่ ซึมซาบถึงใจคนยิ่ง

เขามีกลิ่นอายพลังแกร่งมาก กระทั่งเหนือกว่าเสวี่ยตี้

ข้างกายกู่ตี้ยังมีมหาจักรพรรดิอีกคน

หุนตี้สวมชุดคลุมเทา ทั่วร่างปกคลุมด้วยแรงอาฆาตแก่กล้า

หมอกชั่วร้ายเอ่อล้นฟ้า วิญญาณร้ายล้านล้านตนส่งเสียงร้อง สั่นสะเทือนมิติไร้ขอบเขต กระทั่งในนั้นยังมีวิญญาณจักรพรรดิหลายตน

ตอนนี้กลับกลายเป็นจักรพรรดิภูตผี เสียสติปัญญาไปทั้งหมด

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการคงอยู่น่าสะพรึง กระทั่งเคยสังหารมหาจักรพรรดิมาแล้ว

ห้ามหาจักรพรรดิล้อมเสิ่นเทียน จิตสังหารท่วมท้นฟ้า

พวกเขาซุ่มอยู่ที่นี่มานาน เพื่อกันเหตุไม่คาดคิด

พวกเสวี่ยตี้เห็นท่าไม่ดีจึงล่อเสิ่นเทียนมาที่นี่

รวมพลังของห้าจักรพรรดิแล้ว ไม่เชื่อหรอกว่าจะฆ่ากายราชันมนุษย์ไม่ได้!

……..

เมื่อเห็นภาพนี้ เสิ่นเทียนมีแววตาจริงจัง

ไม่นึกเลยว่าข่าวกรองจะผิดพลาด

เผ่าวิญญาณร้ายไม่ได้ส่งสามมหาจักรพรรดิ แต่เป็นห้าจักรพรรดิ!

แต่ว่าเสิ่นเทียนปล่อยวางมาก

ถึงอย่างไรที่นี่ก็เป็นประตูมิติ ไม่มีใครส่องเห็น ดังนั้น ชนรุ่นหลังจึงไม่รู้ว่าเผ่าวิญญาณร้ายมีมหาจักรพรรดิกี่คนมาเยือน

กองกำลังเช่นนี้ เรียกได้ว่าน่ากลัวมาก

มหาจักรพรรดิห้าตนปิดล้อมคนที่ยังไม่บรรลุระดับจักรพรรดิอย่างเขาคนเดียว นี่ล้มล้างความเข้าใจจริงๆ

แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้ก็มีเพียงสู้

เสิ่นเทียนกอดหัวใจไร้พ่าย ต่อให้ห้าจักรพรรดิมาพร้อมกันก็ไม่กลัว

เขาดวงตาวาววับ จิตต่อสู้รวมกัน โค่นล้มท้องนภา

ถงตี้ดวงตามืดมน เสียงแหบแห้ง “น่าขำ เจ้าคิดว่าพวกข้าจะหนีไปจริงๆ รึ พลังของผู้เป็นจักรพรรดิเหนือเกินกว่าที่เจ้าจะจินตนาการได้ สหายทุกท่าน ช่วยกันสังหารกายราชันมนุษย์!”

ห้ามหาจักรพรรดิเคลื่อนไหวพร้อมกัน ก่อกวนหมื่นกฎเกณฑ์ของโลก

พวกเขาสำแดงวิชาชั่วร้ายสูงสุด ปลุกอาวุธน่าสะพรึงกลัวโจมตีใส่เสิ่นเทียน

“ฆ่า!”

เสิ่นเทียนตะโกนเสียงดัง เรียกเตาหลอมเทพสุริยะกับกระดานหมากฟ้าขุ่นออกมากันรอบทิศ

สองฝ่ายพลันปะทะกันอย่างดุเดือด พลานุภาพหมุนม้วนฟ้าดิน

เสิ่นเทียนถูกล้อมโจมตี สังหารจนฟ้าดินเปลี่ยนสี ตะวันจันทราแตกกระจาย

มหาจักรพรรดิพวกนี้คุมพลังสุดขั้ว น่ากลัวที่สุด

กู่ตี้เรียกตรากระดูก โค่นล้มฟ้าดิน กวาดล้างโลก

ตรากระดูกพุ่งออกไป ลากแสงชั่วร้ายสูงสุด ทำลายล้างทุกอย่าง

นี่ หลอมขึ้นจากกระดูกของยอดฝีมือสูงส่ง

มีพลังสังหารสุดยอด กำราบท้องนภาได้

ตรากระดูกพุ่งเข้าไป ทำลายกฎเกณฑ์ฟ้าดิน

เสิ่นเทียนรู้สึกเย็นแผ่นหลัง ตรากระดูกนี่น่ากลัวกว่าหอกแดงอีก

หากให้โดนตัว กายเนื้อจะแตกกระจาย

เสิ่นเทียนเรียกเตาหลอมเทพสุริยะ ยิงแสงดาราไร้ขอบเขต ปะทะกับตรากระดูก

สองฝ่ายพันพันกัน ระเบิดพลังเทพน่าสะพรึง

ดีที่ตรากระดูกถูกจำกัด ถูกเตาหลอมเทพสุริยะกำราบไว้

…..

ทว่า หุนตี้โจมตีเข้ามาอีก

ฟ้าดินปรากฏวิญญาณมารนับพันนับหมื่นตน ส่งเสียงคำรามดุร้าย

วิญญาณมารทุกตนมีพลังกลืนกินน่ากลัว ผู้เป็นจักรพรรดิยังจิตวิญญาณหนาวสั่น

หุนตี้ คือการคงอยู่สูงสุดในกลุ่มมหาจักรพรรดิ

เสิ่นเทียนพลันรู้สึกกดดันเหมือนภูเขา

เขาเรียกกระดานหมากฟ้าขุ่นออกมา วางยอดค่ายกลดาราครอบฟ้า ขังวิญญาณมารพวกนี้ไว้

แต่ว่ามหาจักรพรรดิอีกสามคนจู่โจมเข้ามาอีก

เสิ่นเทียนกัดฟัน เผชิญหน้ากับห้าจักรพรรดิด้วยตัวคนเดียว สภาพจวนตัวจริงๆ

จะต้องหาทางสังหารไปสองสามคนก่อน!

……

พอนึกถึงตรงนี้ เสิ่นเทียนระเบิดกำลังรบทั้งหมด

กลิ่นอายพลังทรงอำนาจแผ่มาจากในกาย กายเนื้อเขาเปล่งแสง ลายมรรคลอยขึ้นมา ส่องสะท้อนท้องนภา

ทวารมากมายพลันส่องแสงสว่างจ้า

เสิ่นเทียนง้างสองหมัดชกใส่ตัวเยี่ยตี้ ทุบกระดูกเขาแตกทั้งหมด

เยี่ยตี้กระอักเลือด แสงแห่งจิตต้นกำเนิดพุ่งเข้าไปในระหว่างคิ้วเสิ่นเทียน

เสิ่นเทียนมีสีหน้าเฉยชา นัยน์ตาเต็มไปด้วยความไร้ปรานี “จงดับ!”

พลังสูงสุดหมุนม้วนในฟ้าดิน ปราณตะวันจันทรากำเนิดกับปราณเบิกฟ้าไหลหลากออกไป อัดแน่นจักรวาล

พลังสุดขั้วทั้งสองไหลไปรวมเป็นกระบี่ยักษ์จิตต้นกำเนิด ทะลวงระหว่างคิ้วเยี่ยตี้

เยี่ยตี้พลันตะลึงงันอยู่กับที่ ทั่วร่างถูกปราณเบิกฟ้าทะลวง

บึ้ม!

เกิดเสียงดังสนั่นปานฟ้าถล่มดังขึ้น

ร่างเขาระเบิดกระจาย แม้แต่แสงแห่งจิตต้นกำเนิดยังถูกมอดดับ

ฝนโลหิตตกหนักจากฟ้า เกิดปรากฏการณ์เศร้าโศกร่วมกัน

มหาจักรพรรดิหนึ่งยุค สุดท้ายก็สิ้นชีพลง!

…..

สี่จักรพรรดิตื่นตกใจ ไม่นึกเลยว่าเสิ่นเทียนจะแข็งแกร่งขนาดนี้

ในสถานการณ์อับจนเช่นนี้ยังพลิกกลับไปสังหารหนึ่งจักรพรรดิ

แต่ว่าเยี่ยตี้บาดเจ็บสาหัสเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ต้นกำเนิดไม่เสถียรภาพ ประกอบกับยอดพลังวิเศษรังสรรค์สรรพสิ่งแข็งแกร่ง เสริมด้วยปราณหยินหยางกำเนิดกับปราณเบิกฟ้า

ร่างพิการอย่างเยี่ยตี้ย้อมไม่อาจต้านได้

“ออกมือเต็มที่ ฆ่าเดรัจฉานนี่!”

เสวี่ยตี้คำราม ก่อนควงหอกแดงจู่โจมเสิ่นเทียน

เสิ่นเทียนสำแดงวิชาคุนเผิงเข้ามิติ หลบการโจมตีถึงแก่ชีวิต แต่กระดูกสะบักยังถูกทะลวง โลหิตสาดกระจาย

เสิ่นเทียนมีใบหน้าเย็นชา พลังแห่งการรังสรรค์วนเวียนรอบกาย พลันฟื้นฟูอาการบาดเจ็บกลับมา ขณะเดียวกันเขายังจู่โจมเสวี่ยตี้

“ปรากฏการณ์ครอบจักรวาล!”

เสิ่นเทียนตะโกนเสียงดัง รอบกายปรากฏเป็นลายมรรคไม่มีสิ้นสุด

นี่คือการแสดงเจตจำนงมรรค แปลงเป็นพลังแห่งต้นกำเนิด

เสิ่นเทียนผสมเจตจำนงมรรคมากมาย เปลี่ยนเป็นดาบยักษ์เชื่อมฟ้า ทะลวงจักรวาล

กึก!

หอกแดงแตกหักในฉับพลัน

อานุภาพยังไม่หมดเท่านี้ ยังพุ่งใส่ระหว่างคิ้วเสวี่ยตี้

เสวี่ยตี้ยังไม่ทันร้องโอดครวญ แสงแห่งจิตต้นกำเนิดพลันถูกดับลง

มหาจักรพรรดิสิ้นชีพอีกคน ฝนโลหิตปกคลุมฟ้าดิน

……

ภาพนี้ทำให้สามจักรพรรดิที่เหลือหนาวสั่น

พวกเขาเผยแววตาหวาดกลัว มีสีหน้าจริงจังอย่างยิ่ง

ไม่นึกเลยว่าสถานการณ์ที่ชนะแน่ กลับถูกเสิ่นเทียนพลิกกลับมาสังหารไปสองมหาจักรพรรดิ

ตอนนี้ ในที่สุดกู่ตี้ก็ทลายเตาหลอมเทพสุริยะได้

ตรากระดูกยักษ์ลากพลังล้างโลกพุ่งใส่กลางหลังเสิ่นเทียน

เสิ่นเทียนหมุนตัวกลับ ฝ่ามือยิงแสงเทพไร้ขอบเขต

แสงทองสว่างจ้าหมุนม้วนไปพร้อมกับพลังมหาศาล

ท้องนภาสั่นไหว

พลังนี้น่ากลัวอย่างยิ่ง ทำให้มหาจักรพรรดิตัวสั่น

กู่ตี้เผยแววตาตกใจกลัว ตัวสั่นอย่างแรง หวาดผวาเกรงกลัว

ตรงกลางฝ่ามือเสิ่นเทียนเป็นตราโบราณสีทองลอยอยู่

“นี่มัน…ตราราชันมนุษย์รึ”

สามจักรพรรดิที่เหลือจิตใจแทบปริแตก ตัวสั่นไม่หยุด

ชื่อเสียงของตราราชันมนุษย์ฝังลึกลงในใจวิญญาณร้ายมานานแล้ว

นี่คือยอดอาวุธของราชันมนุษย์รุ่นหนึ่ง เคยสังหารวิญญาณร้ายมานับไม่ถ้วน กระทั่งแม้แต่ผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเซียนยังสิ้นใต้ตรานี้

สามจักรพรรดิไม่นึกเลยว่าเสิ่นเทียนจะไม่ใช่แค่ปลุกตื่นกายราชันมนุษย์ แต่ยังหาอาวุธราชันมนุษย์รุ่นหนึ่งพบ

เวลานี้สามจักรพรรดิหวาดกลัว กระทั่งเกิดความคิดถอย

…….

ทว่าเสิ่นเทียนไม่ให้โอกาสเลย!

เขาปลุกตราราชันมนุษย์ ก่อนจะกดดันใส่กู่ตี้

ตราสีทองเชื่อมฟ้า กดอัดลงมา เหมือนดาวนับล้านล้านดวงตกลงมา

กู่ตี้หน้าเปลี่ยนสีไปอย่างชัดเจน รีบเรียกตรากระดูกออกมา

ทว่าทันทีที่ตรากระดูกปะทะกับตราราชันมนุษย์ก็แตกกระจายทันที

แม้แต่ตัวกู่ตี้เองยังถูกตราราชันมนุษย์กดอัดผ่านไป

พริบตาเดียว กู่ตี้รวมถึงตราสลายเป็นผุยผง ไม่เหลือแม้แต่ซากศพ

สถานการณ์รบพลิกผัน สามจักรพรรดิสิ้นลง!

……

ภาพนี้ทำให้สองจักรพรรดิที่เหลือหางตาแทบปริแตก

นี่คือมหาจักรพรรดิ ทุกคนล้วนเป็นที่สุดแห่งยุค ยิ่งใหญ่ไร้พ่าย

ปรากฏว่าตายไปเช่นนี้

ตายในมือเสิ่นเทียนที่ยังไม่บรรลุจักรพรรดิ!

นี่จะไม่ทำให้คนตื่นกลัวได้อย่างไร จะไม่หนาวสั่นได้อย่างไร

สภาพเสิ่นเทียนก็ใช่ว่าจะดีอะไร ชุดคลุมขาวย้อมเป็นสีแดงเลือด

มีของศัตรูและของเขาเอง

การกระตุ้นยอดอาวุธอย่างตราราชันมนุษย์กินพลังมากเกินไป

เสิ่นเทียนไม่เกรงกลัว แววตาดั่งน้ำแข็ง กวาดสายตามองสองจักรพรรดิที่เหลือ

สายตาเย็นเยือกแทงกระดูก จิตสังหารเฉียบคม

สองจักรพรรดิหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย เกิดความกลัวในใจ

ถงตี้กัดฟันพูด “หุนตี้ ช่วยข้าขวางมันไว้! ข้าจะสำแดงวิชาลับในเผ่า ฆ่าเดรัจฉานนี่ วันนี้ กายราชันมนุษย์ต้องตาย!”

เมื่อพูดจบ ถงตี้ก็เรียกคทาเวทวิญญาณร้ายออกมา ปากบริกรรมคาถาชั่วร้ายเก่าแก่และน่ากลัว

เขากำลังสั่งสมพลัง จะสำแดงวิชาลับสูงสุด

…..

เสิ่นเทียนเพ่งตามองเล็กน้อย เขารู้สึกถึงความกลัว จึงพุ่งตรงไปหาถงตี้

หุนตี้พุ่งเข้ามาขวางเสิ่นเทียนไว้

เขาปลุกวิญญาณร้ายนับล้านๆ ตน กลืนกินไปทางเสิ่นเทียน

เสิ่นเทียนเคลื่อนพลังฤทธิ์ทั้งหมดไปรวมที่ฝ่ามือขวา รวมเป็นขวานยักษ์ด้ามหนึ่ง

กฎเกณฑ์เวียนวน แสงสว่างจ้า

ขวานยักษ์สร้างขึ้นจากอักขระมหามรรค สว่างจ้าแสบตา มาพร้อมกับพลังเบิกฟ้า

เสิ่นเทียนง้างขวานยักษ์ฟันลง สำแดงเบิกฟ้าผ่าปฐพี!

ทันใดนั้น ภูตผีร้ายนับล้านๆ ตนถูกสังหารลง

ฟ้าดินถูกแบ่งเป็นสองส่วน

พรวด!

หุนตี้กระอักเลือด ร่างบาดเจ็บสาหัส

เขาพุ่งถอยไป แววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

ทว่าเสิ่นเทียนเรียกตราราชันมนุษย์ พุ่งไปทางหุนตี้

ขณะเดียวกันเขาหันไปโจมตีใส่ทางถงตี้

ข้างหลังเกิดการระเบิดสะท้านฟ้า หุนตี้ถูกตราราชันมนุษย์บดแหลกเป็นเสี่ยงๆ

มหาจักรพรรดิสิ้นชีพลงอีกคน ฝนโลหิตปกคลุมท้องนภา

……

ตอนนี้ ในที่สุดถงตี้ก็รวมพลัง

ฟ้าดินถูกปกคลุมทั้งหมด มีเพียงดวงตาตั้งตรงลูกหนึ่ง ส่องสะท้อนฟ้าดิน

ดวงตายักษ์ลืมตาขึ้น พลังทำลายล้างมหาศาลแผ่มา

การโจมตีนี้เหมือนจะทำลายล้างฟ้าดิน!

เสิ่นเทียนเกิดความกลัวในใจ พลังนี้น่ากลัวยิ่งนัก

เขามีสีหน้าจริงจัง มือซ้ายยิงแสงเทพสว่างจ้า

ตำหนักแห่งหนึ่งลอยฟ้าเก้าชั้น ยิงพลังมหาศาล สั่นสะเทือนฟ้าดิน

สิ่งนี้คือตำหนักราชันมนุษย์!

ตำหนักมหึมาตกลงมาตรงหน้าเสิ่นเทียน

พลังทำลายล้างที่พุ่งมาจากดวงตาตั้งตรงนั้นพุ่งเข้าไปในตำหนักราชันมนุษย์แล้วพลันถูกกลืนกินไป

ถงตี้ถึงกับตะลึงค้างอยู่กับที่ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

“ตำหนักราชันมนุษย์!”

เขาเหมือนนึกถึงตำนานน่ากลัวบางอย่าง แววตาเผยความสิ้นหวัง

ตำหนักราชันมนุษย์มีอานุภาพไม่ด้อยไปกว่าตราราชันมนุษย์เลย

สองสิ่งรวมกัน จะน่ากลัวยิ่งกว่า!

ในอดีต ราชันมนุษย์รุ่นหนึ่งใช้ตราราชันมนุษย์กับตำหนักราชันมนุษย์เคยสังหารจักรพรรดิเซียนมาแล้ว

และตอนนี้เอง เสิ่นเทียนเคลื่อนไหวแล้ว

เขาใช้มือข้างหนึ่งถือตราราชันมนุษย์ อีกมือยกตำหนักราชันมนุษย์ พุ่งเข้าทับถงตี้

บึ้ม!

เสียงดังสนั่นจักรวาล!

ทันใดนั้น เนตรมารฟ้าวิบัติสลายเป็นผุยผง

ห้ามหาจักรพรรดิ สุดท้ายสิ้นชีพลงทั้งหมด

…….

การต่อสู้ปิดฉากลง เสิ่นเทียนพ่นลมหายใจยาว

การต่อสู้ครั้งนี้ดุเดือดยิ่งนัก หากไม่ระวังเพียงนิดเดียวก็อาจจะตายได้

ดีที่ทุกอย่างจบลงแล้ว!

………………….

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน