บทที่ 502 สามจักรพรรดิปรากฏกาย!
ท้องนภาดั่งน้ำหมึก ลึกล้ำไร้แสงสว่าง
ประตูมิติกดทับท้องนภา แผ่หมอกไม่มีสิ้นสุด บดบังฟ้าบังดวงตะวัน
เหล่ามารกลางหมอกก่อความวุ่นวาย ใบหน้าเหี้ยมเกรียม คำรามดังสนั่น
วิญญาณร้ายพวกนี้เหมือนผีร้ายจากนรก กลิ่นอายพลังดุร้ายยิ่ง เหมือนจะสังหารทุกชีวิต
…..
เมื่อเห็นภาพนี้ ทุกคนหน้าเปลี่ยนสีไป
ครั้งนี้เผ่าวิญญาณร้ายมีจำนวนมาก ในนั้นยังมีระดับเซียนแท้
พวกมันเคลื่อนตัวมาเหมือนทะเลสาบดำ โหมซัดสาดท้องฟ้า
กองกำลังเช่นนี้ ถึงขั้นเหนือกว่ายอดรวมเผ่าวิญญาณร้ายที่บุกมาเมื่อร้อยปีก่อน
มีคนหลุดเสียงด้วยความตื่นกลัว “เป็นมหาจักรพรรดิออกมือ ฉีกปราการห้าดินแดน ปล่อยกองทัพวิญญาณร้ายเข้ามา”
ห้าดินแดนมีปราการจำกัดการรุกรานของผู้แข็งแกร่งวิญญาณร้าย
ในอดีต แม้เซียนแท้วิญญาณร้ายจะเข้ามาในโลกนี้ได้ แต่ก็ไม่ได้มากขนาดนี้
ตอนนี้ แค่เซียนแท้วิญญาณร้ายก็มีหลายร้อยตน
เตรียมเซียนกับวิญญาณร้ายระดับอริยะยังมีนับไม่ถ้วน ใครเห็นเป็นต้องขนหัวลุก
กองกำลังเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าจะทำลายล้างห้าดินแดน!
….
เมื่อวิญญาณร้ายพวกนี้ปรากฏตัวก็ได้เผยคมเขี้ยวน่าสยดสยองและพุ่งเข้าใส่ทุกคน
เซียนแท้วิญญาณร้ายหลายร้อยเคลื่อนพลมาพร้อมกัน อำนาจคุกคามน่ากลัวถึงที่สุด
พวกมันพุ่งเข้ามาทำให้ท้องนภาพลิกกลับ สั่นสะเทือนภูเขานทีหมื่นลี้
ฟ้าดินยุบตัว กฎเกณฑ์ปั่นป่วน เหมือนจะเปลี่ยนที่นี่เป็นนรก
“ออกมือ ขวางพวกมันไว้!”
มีชายชราตะโกนด้วยความโกรธ สีหน้าตึงเครียด หากให้เซียนแท้วิญญาณร้ายพวกนี้บุกเข้าดินแดนกลางจะต้องกลายเป็นศพนอนเกลื่อนกลาด บาดเจ็บล้มตายอย่างหนักแน่นอน
พลังนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผู้บำเพ็ญห้าดินแดนจะต่อต้านได้
ร่างเงาหลายสิบร่างพุ่งขึ้นฟ้า ขวางห้วงอากาศ หมายจะต้านกองทัพวิญญาณร้าย
พวกนี้คือบรรพชนของทุกแดนศักดิ์สิทธิ์ พลังบำเพ็ญถึงเตรียมจักรพรรดิ ทว่าพลังนี้ก็ยังเล็กจ้อยยิ่งเมื่ออยู่ต่อหน้ากองทัพวิญญาณร้าย
คนจากสองฝ่ายมีจำนวนต่างกันเกินไป ไม่อาจเติมเต็มได้
“เกิดค่ายกลปัญจธาตุหยินหยาง!”
มีชายชราตะโกนเสียงดัง เตรียมจักรพรรดิหลายสิบตนเคลื่อนไหวพร้อมกัน
พวกเขาร่ายวิชาโบราณ เหนี่ยวนำพลังแห่งฟ้าดิน วางยอดค่ายกลสูงสุด
ม่านแสงสว่างจ้าลุกโชนขึ้น หมอกวนเวียนหนาทึบ บดบังฟ้าดินแห่งนี้ไว้
ตะวันและจันทราลุกโชตช่วง ต่างแบกคนละครึ่งฟ้า
หยินหยางประสานกัน รวมกันสร้างเป็นยอดค่ายกลสูงสุด
เตรียมจักรพรรดิหลายสิบท่านร่วมแรงร่วมใจกันเสริมพลังยอดค่ายกล
ตอนนี้เอง เซียนแท้วิญญาณร้ายหลายร้อยตนโจมตีลงมาแล้ว
พวกเขากระตุ้นปราณชั่วร้ายมหาศาล ทำลายดินแดนหมื่นลี้ พุ่งเข้าใส่ม่านแสง
พลานุภาพน่ากลัวสุดขีด ฟ้าดินพลิกกลับ
บึ้ม!
เสียงดังสนั่นปานสายฟ้า สั่นสะเทือนฟ้าดิน!
ม่านแสงเกิดคลื่นลูกใหญ่ พลานุภาพล้นฟ้า
เตรียมจักรพรรดิหลายสิบคนตัวสั่นอย่างรุนแรง รับแรงปะทะน่ากลัว
แต่ค่ายกลก็ยังไม่พัง ทุกคนต้านเอาไว้ได้
นี่คือค่ายกลที่สืบทอดมาจากยุคดึกดำบรรพ์ แฝงพลานุภาพมหาศาล
มีค่ายกลนี้เสริม เซียนแท้วิญญาณร้ายจะบุกเข้ามาก็ไม่ง่ายขนาดนั้น
…..
ตอนนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น
เห็นประตูมิติเปิดออก แสงสว่างหมื่นจั้ง
ร่างเงายิ่งใหญ่ก้าวมาจากต่างแดน กลิ่นอายพลังชำเลืองตามองทุกชีวิต มองท้องนภาอย่างโอหัง
คนนี้น่ากลัวอย่างยิ่ง ทั่วร่างดำสนิทเหมือนน้ำหมึก แม้แต่ดวงตายังขยับประกายสีดำ ไม่เห็นแสงสว่างเลยแม้แต่นิด เขายืนกลางฟ้าดิน เหมือนเงามืดปกคลุมมา ทำให้ฟ้าดินตกสู่หุบเหวลึกชั่วนิรันดร์
“ข้ามีนามว่าเยี่ยตี้!”
เมื่อเอ่ยขึ้น ผืนดาราหมื่นลี้พลันแตกกระจายเป็นผุยผง
เสียงนี้เต็มไปด้วยพลังกระชากจิตวิญญาณคน เหมือนจะกลืนกินวิญญาณ มอดดับวิญญาณแท้
ทุกคนได้ยินดังนั้นก็หน้าเปลี่ยนสีไป
นี่คือมหาจักรพรรดิแท้จริง เหนือกว่าการคงอยู่เตรียมจักรพรรดิ
ในยุคที่ห้าดินแดนไม่มีมหาจักรพรรดิ ใครจะไปต่อต้านได้
หรือว่าห้าดินแดนจะต้องล่มสลายจริงๆ แล้ว
…..
ตอนนี้เยี่ยตี้เคลื่อนไหวแล้ว!
เขายกมือขึ้นช้าๆ ตบไปยังม่านแสงค่ายกล
ทันใดนั้น ผืนอากาศพังทลายลง ห้วงอากาศดับสลาย ภูผานทีหลายหมื่นพังทลาย
ม่านแสงค่ายกลพลันแตกกระจาย
เตรียมจักรพรรดิหลายสิบคนเลือดนองพันลี้ กระแทกกับพื้นอย่างแรง
พวกเขาหน้าดำเป็นเถ้าถ่านมอดดับ จิตใจปริแตก
เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้เป็นจักรพรรดิแท้จริง ทุกอย่างล้วนเป็นเมฆลอย
เตรียมจักรพรรดิหลายสิบคนร่วมมือกันวางค่ายกล กลับถูกทำลายด้วยการโจมตีเดียว
พลังนี้ ไม่มีใครต้านได้!
เยี่ยตี้ดวงตามืดหม่น เหมือนถ้ำมืดมิดหุบเหวลึก กลืนกินหมื่นวิญญาณ
เขามองทอดไกล เหมือนมองข้ามมิติไร้ขอบเขต ตรงไปบางแห่งในดินแดนกลาง
เยี่ยตี้เอ่ยเนิบนาบมาพร้อมกับอำนาจจักรพรรดิไร้ที่สิ้นสุด
เสียงดังก้องฟ้าดิน “กองทัพวิญญาณร้าย ฆ่า!”
ฟ้าดินเกิดพายุคลั่งรวดเร็วและดุดันขึ้น พลานุภาพล้นฟ้า
ทันใดนั้น เซียนแท้หลายร้อยเคลื่อนพลพร้อมกัน บุกไปทางทุกคน
ข้างหลังพวกมันเป็นเซียนแท้และวิญญาณร้ายผู้อริยะนับไม่ถ้วนโรมรันเข้ามา พลิกกลับท้องนภาแห่งนี้!
“สู้!”
บรรพชนหลายสิบคนเคลื่อนไหวพร้อมกัน ต้านเซียนแท้วิญญาณร้าย
พวกเขาต่างสำแดงวิชาสูงสุด อาศัยยอดอาวุธที่สืบทอดมาจากบรรพชนรุ่นแรก ต่อต้านวิญญาณร้ายจำนวนมาก
หากพวกเขาไม่ออกมือ โลกนี้จะต้องล่มสลาย
แม้อีกฝ่ายจะมีมหาจักรพรรดิ ทุกคนก็ยังบุกเข้าไปอย่างไม่เกรงกลัวความตาย
ขณะเดียวกันยังมีคนกลุ่มหนึ่งพุ่งเข้ามา ร่วมกับบรรพชนทุกท่านต่อต้านเซียนแท้วิญญาณร้าย
พวกเขาแบกธง ‘โถงสวรรค์’ ศักยภาพแข็งแกร่งยิ่ง
คนพวกนี้คือกลุ่มโถงสวรรค์
ในเวลาร้อยปี เหล่าโอรสสวรรค์เพิ่มศักยภาพอย่างมาก สู้เซียนแท้วิญญาณร้ายได้แล้ว
สองฝ่ายสู้กันอย่างดุเดือด สถานการณ์รบรุนแรงอย่างยิ่ง
แม้จะมีผู้แข็งแกร่งเผ่าวิญญาณร้ายจำนวนมาก แต่การจะทำลายห้าดินแดนราบเป็นหน้ากลองก็ไม่ง่ายขนาดนั้น
ขณะเดียวกันผู้บำเพ็ญห้าดินแดนต่างอาบเลือดสู้อย่างดุเดือด
ไม่มีใครถอย ต่างสู้อย่างเต็มที่
สงครามครั้งนี้พัวพันไปถึงความเป็นตายของห้าดินแดน ไม่มีใครรอดไปได้
….
เยี่ยตี้ชำเลืองตามอง ก่อนพูดเหยียดหยาม “พวกดื้อด้าน!”
เขาเคลื่อนพลัง เตรียมจัดการมนุษย์พวกนี้
ตอนนี้เองมีร่างเงาหนึ่งทะยานเข้ามา
ชุดคลุมขาวเหนือธรรมดา ท่วงท่าสง่างามเป็นที่สุด
เขายืนอยู่หน้าเยี่ยตี้ ขวางอำนาจคุกคามทั้งหมด
เยี่ยตี้มีสีหน้าเย็นชา ทำเสียงขึ้นจมูก “ที่แท้ก็เป็นเจ้า!”
เขาจำเสิ่นเทียนได้ กลิ่นอายพลังพลันบ้าคลั่งยิ่ง
เสิ่นเทียนพูดเย้าหยอก “กองทัพใต้บัญชาแตกพ่ายไปแล้ว ยังกล้าอวดดีเช่นนี้อีกรึ”
เยี่ยตี้!
เป็นมหาจักรพรรดิที่ตอนนั้นเซียนแท้วิญญาณร้ายอัญเชิญมาในดินแดนทักษิณ
ตอนนั้นเสิ่นเทียนทำลายนิ้วจักรพรรดิเขา ทำให้เขาบาดเจ็บ
ไม่นึกเลยว่าร้อยปีต่อมา เขาจะบุกมาโลกนี้
เยี่ยตี้หรี่ตาลงเล็กน้อย เผยประกายอันตราย
เขาย่างก้าวมา สั่นสะเทือนอากาศไร้ขอบเขต “เจ้าหนู ช่างกล้าทำร้ายกายจักรพรรดิของข้า! จงดับ!”
เยี่ยตี้ออกมือ ง้างฝ่ามือ
ท้องนภาพลันพลิกกลับ กดทับใส่เสิ่นเทียน
นี่คือพลังของมหาจักรพรรดิแท้จริง พลังอำนาจน่ากลัวจนยากจะจินตนาการได้
ทันใดนั้นห้วงอากาศถูกฉีกขาด
กระแสมิติสีดำไหลหลากหมื่นลี้ น่ากลัวถึงที่สุด
ท้องนภาพลันปรากฏมือใหญ่สะท้านฟ้า บดบังฟ้าตะวัน หนักหมื่นชั่ง
พลังนี้มากพอจะสังหารทุกสรรพสัตว์ต่ำกว่าระดับจักรพรรดิ
เสิ่นเทียนหน้าไม่เปลี่ยนสีไป นัยน์ตาเผยประกายแสงสว่างจ้า
แสงดารามากมายวนเวียนรอบกาย สว่างจ้าแสบตา
เขาพุ่งทะยานขึ้นไปพร้อมกับแสงดาราไร้ขอบเขต ทะลวงท้องนภา
“หมัดเทพฟ้าขุ่น!”
เสิ่นเทียนง้างหมัด เหนี่ยวนำพลังแห่งดาราไร้ที่สิ้นสุด
เหมือนดาวตกพุ่งลงมา ไม่อาจต้านทาน!
บึ้ม!
สองฝ่ายปะทะกัน อานุภาพสั่นสะเทือนฟ้าดิน ห้วงอากาศแตกกระจาย
เยี่ยตี้ตัวสั่นไหวเบาๆ นัยน์ตาฉายแววตกใจ
เวลาร้อยปี ไม่อยากเชื่อว่าเสิ่นเทียนจะยกระดับศักยภาพเร็วขนาดนี้ ตอนนั้นเสิ่นเทียนต้านพลังของนิ้วมหาจักรพรรดิก็ต้องเผยไพ่ตายทั้งหมด
ถึงตอนนี้ กลับสั่นคลอนการโจมตีของผู้เป็นจักรพรรดิได้รึ
พรสวรรค์เช่นนี้เป็นปีศาจจริงๆ
“เจ้าเด็กนี่เป็นภัย เก็บไว้ไม่ได้!”
เยี่ยตี้แผ่พลังชั่วร้ายดำมืดทั้งตัว ไหลหลากไม่ขาดสาย รวมเป็นตะวันเงามืด
แสงดำขยับวูบวาบ มาพร้อมความชั่วร้ายเฉียบคม เหมือนจะลากคนเข้าสู่หุบเหวเงามืด
เสิ่นเทียนเปล่งแสงหมื่นจั้งข้างหลัง เงามายาคุนเผิงยักษ์รวมออกมา
เขากำลังสำแดงวิชาคุนเผิง แปลงเป็นแสงสุดขั้วพุ่งเข้าไปกลางดวงตะวันเงามืด
“รนหาที่ตาย!”
เยี่ยตี้แค่นเสียงขึ้นจมูก ก่อนคว้าอากาศ
ดวงตะวันเงามืดพลันแตกกระจาย เปลวเพลิงชั่วร้ายดำมืดหมุนม้วนรอบฟ้า เผาผลาญกฎเกณฑ์
ห้วงอากาศพลันแตกเป็นหลุมลึกยักษ์ กฎเกณฑ์ดับสลาย ลำดับปั่นป่วน เหมือนแดนหมื่นวิญญาณดับสลาย
แสงสุดขั้วสว่างจ้าพลันพุ่งทะลวงหมอกดำ บุกไปทางเยี่ยตี้ตรงๆ
พลังเลือดลมปะทุมาจากในกายเสิ่นเทียน ไหลหลากไม่ขาดสาย สั่นสะเทือนท้องนภาเหมือนเตาหลอม!
ข้างหลังเกิดเป็นปรากฏการณ์มังกรหงส์ สองฝ่ายตัดสลับกัน!
เสิ่นเทียนกำสองหมัด มือข้างหนึ่งแปลงเป็นมังกรแท้ คำรามสั่นสะเทือนฟ้าดิน
อานุภาพหมัดมังกรแท้ทลายทุกสิ่งอย่าง พลังยิ่งใหญ่สูงสุดกดลงมาอย่างฉับพลัน
มืออีกข้างแปลงเป็นหงส์เทพ ประกายไฟส่องฟ้า เหนี่ยวนำเพลิงเทพร้อนแรงเผาผลาญฟ้าดิน
สองหมัดพุ่งตรงไปพร้อมกัน อัดหน้าอกเยี่ยตี้อย่างแรง
กระแทกเขาขึ้นฟ้าเก้าชั้น เมฆสิบทิศแตกกระจาย
แค่กๆ!
พลังเลือดลมปั่นป่วนไปทั้งตัวเยี่ยตี้ นัยน์ตาเผยประกายตื่นกลัว
เขาไม่นึกเลยว่าเสิ่นเทียนจะมีกำลังรบน่ากลัวขนาดนี้
ไม่ทันสังเกตก็เกือบจะเสียเปรียบหนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน