เห็นกุ้ยกงกงที่โดนจางอวิ๋นซีปล่อยสายฟ้าเทพเพิ่มจนสิ้นสติไปแล้ว เสิ่นเทียนเองก็จนปัญญาเล็กน้อย
‘ท่านลุงกุ้ย!
ปกติเจ้าพูดแบบนี้ก็ไม่อะไรหรอก แต่ท่านนี้คือสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์
วงรัศมีนักสู้ทองคำเหนือศีรษะใหญ่ระดับบอส!
เจ้ากลับกล้าปลุกปั่นชื่อเสียงนางต่อหน้านาง
เฮ้อ รนหาที่ตายแบบไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ เลย!’
พอนึกถึงตรงนี้ เสิ่นเทียนก็พูดด้วยความจำใจ “คือว่า ท่านเซียนอวิ๋นซี ลุงกุ้ยเขาไม่ได้มีเจตนาร้ายหรอก”
จางอวิ๋นซีพยักหน้าอย่างเย็นชา “ข้าก็ไม่มีเจตนาร้ายเหมือนกัน สายฟ้าพวกนั้นไม่ทำอันตรายเขา ตาแก่นี่ฝึกฝนคัมภีร์มารสู่สุริยัน ละโมบความก้าวหน้า ทำลายแก่นพลังสำคัญไปไม่น้อยแล้ว
เมื่อครู่ข้าใช้อัสนีเทพธาตุไม้ในเคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ โดนสายฟ้าข้าผ่าไปหลายครั้ง ไม่ได้ส่งผลเสียอะไรกับตาแก่นี่หรอก”
เอ่ยจบ จางอวิ๋นซีก็เติมสายฟ้าไปอีกที
ใบหน้ากุ้ยกงกงดำยิ่งกว่าเดิม
……
จางอวิ๋นซีเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุใดตนเองต้องอธิบาย ด้วยนิสัยอารมณ์ฉุนเฉียวของนางในอดีตแล้ว ไม่นึกว่าตาแก่นี่จะกล้าลงมือกับนาง
เหตุใดนางถึงไม่ใช้อัสนีเทพธาตุทองพยัคฆ์ขาวที่ตนชำนาญที่สุด ก่อนจะใช้อัสนีเทพธาตุไฟหงส์แดงที่ชำนาญเป็นลำดับสอง ผ่าให้ตาแก่นี่กรอบนอกนุ่มในไปเลย ให้เขาได้รู้ว่าไม่ควรดูหมิ่นสตรีศักดิ์สิทธิ์!
ทว่าจางอวิ๋นซีมักจะรู้สึกว่าวันนี้ตนแปลกๆ ไป เห็นทีคงจะเป็นเพราะเห็นตาแก่นี่มีใจอารักขานาย จึงใจอ่อนกระมัง!
“คุยกับสหายมาตั้งนาน สหายยังไม่ได้บอกนามของเจ้ากับข้าเลย!”
ทันใดนั้น จางอวิ๋นซีเหมือนนึกอะไรออกจึงจ้องเสิ่นเทียน
เสิ่นเทียนชะงักไป ก่อนจะตอบว่า “ข้าอยู่เขานามวสันต์…”
เขายังไม่ทันเอ่ยจบก็ถูกขัดเสียก่อน
จางอวิ๋นซีกล่าวอย่างเย็นชา “อย่าใช้คำพูดอุบายนั้นมาหลอกข้า ก่อนข้าจะมาสวนหมื่นวิญญาณได้ตรวจสอบอย่างละเอียดมาก่อนแล้ว ในสำนักพรรคฝ่ายที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงทั้งแดนบูรพา ไม่มีชื่อของถ้ำหุบเหวเดียวดายเขานามวสันต์เลย”
พูดถึงตรงนี้ จางอวิ๋นซีหน้ามืดทะมึนลงเล็กน้อย “ไม่อยากเชื่อว่าเจ้าจะกล้าหลอกข้า!”
เสิ่นเทียนเห็นร่างเงาพยัคฆ์ขาวสายฟ้าลอยขึ้นมาจากข้างหลังจางอวิ๋นซีอีกครั้ง ก็รู้สึกเย็นวาบข้างหลัง “ข้าแซ่เสิ่นนามเทียน ชื่อเล่นเอ้าเทียน นามทางธรรมคือผู้แสวงหาวาสนา…”
จางอวิ๋นซีพยักหน้าเล็กน้อย “อืม เท่านี้ก็พอแล้ว ที่เหลือไม่ต้องพูดแล้ว”
นางหยัดกายขึ้นเนิบๆ จากนั้นนำลูกประคำมารดาภูตผีเก้าโอรสข้างๆ มาวางในมือ
“โอรสสวรรค์ทุกท่านในแดนบูรพาต่างมีความลับของตนเอง ถ้าจะฟังเจ้าสร้างเรื่อง สู้ไม่ฟังเสียดีกว่า รู้ว่าเจ้าชื่อเสิ่นเทียนก็พอแล้ว”
……
สบายใจ!
คุยกับแม่เสือท่านนี้แล้วสบายใจ
แค่กๆ พูดผิด
คุยกับสตรีศักดิ์สิทธิ์ท่านนี้แล้วสบายใจ
เสิ่นเทียนแสดงให้เห็นว่าหญิงแกร่งแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ท่านนี้ถูกใจตนมาก ถ้าไม่ใช่เพราะตอนนี้ขอบเขตพลังตนต่ำกว่าอีกฝ่ายมากเกินไปละก็ เสิ่นเทียนก็ว่าจะถามนางอยู่ว่าจะยินดี…
เชือดไก่เหลืองเผากระดาษทอง ผูกมิตรเป็นสหายต่อกัน
สาบานเป็นพี่น้องต่างเพศกับเขาหรือไม่!
…….
“การโปรดสัตว์โอรสภูตผีเหล่านี้ต้องใช้เวลาหน่อย”
จางอวิ๋นซีถือลูกประคำในมือพลางกล่าว “ในช่วงเวลานี้ เจ้าต้องคุ้มกันให้ข้า”
ขณะพูดอยู่นั้น ดวงตาจางอวิ๋นซีขยับประกายแสงวาววับ แม้แต่ตอนนี้นางก็ยังไม่เชื่อเสิ่นเทียนทั้งหมด
แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เป็นหนึ่งในขุมอำนาจสิบสองแดนศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่สูงสุดแห่งแดนบูรพา เป็นปราการต่อต้านที่สร้างแรงกดดันที่มากที่สุดให้กับขุมอำนาจวิถีมารอย่างลัทธิวิญญาณร้าย
ผู้สืบทอดแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ทุกรุ่นล้วนมีภาระหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ปราบมาร ปกติเวลาประมือกับผู้บำเพ็ญลัทธิวิญญาณร้ายจะต้องเจอกับเล่ห์เพทุบายอย่างเลี่ยงได้ยาก
ถึงจางอวิ๋นซีจะยังสาว ทว่าเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์สูงศักดิ์ย่อมไม่ใช่กระถางดอกไม้ เป็นโอกาสดีที่จะได้ใช้โอกาสโปรดสัตว์โอรสภูตผีทดสอบว่าเสิ่นเทียนใช่สาวกลัทธิวิญญาณร้ายหรือไม่พอดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน