บ่วงแค้นแสนรัก นิยาย บท 625

“ เอาล่ะ รอให้น้าได้ปรึกษาและคุยรายละเอียดเรื่องต่างๆกับแม่ของหนูก่อน น้าก็จะส่งหนูกลับไปทันที ”

เวินหนิงยิ้มแล้วลูบหัวของไป๋ซินหรานไปมา ถึงแม้ว่าเด็กคนนี้จะต้องส่งกลับไปก็จริง แต่เธอจะต้องทำอะไรบางอย่าง เพื่อให้คนเหล่านั้นรู้ว่ากลั่นแกล้งเด็กผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ มิฉะนั้น เด็กอายุแค่ห้าขวบ จะต้องตามไปใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวของพ่อเลี้ยง เธอกลัวว่าจะไปลำบากและถูกทำร้าย

" ค่ะ หนูเข้าใจแล้วค่ะ "

ไป๋ซินหรานเป็นเด็กที่มีสติสัมปชัญญะไม่น้อย เธอรู้ว่าที่เวินหนิงทำไปทุกอย่างก็เพื่อหวังดีกับตัวเอง เธอจึงพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

เมื่อลู่อันหรานเห็นเช่นนี้ถึงได้ถอนหายใจออกมา

เวินหนิงอดส่ายหัวไม่ได้เมื่อเห็นท่าทีของเขาเป็นแบบนี้ หลังจากนั้นไม่นาน เจียงซินเฉียวก็มาเยี่ยมหาไป๋ซินหรานอีกครั้ง เวินหนิงกับลู่อันหรานเดินออกไปเพื่อปล่อยให้สองแม่ลูกได้อยู่กันตามลำพัง

ตอนเดินออกไปลู่อันหรานไม่ได้พูดอะไร ได้แต่ก้มหน้าแล้วใช้เท้าแตะไปที่พื้นเป็นครั้งคราว

เวินหนิงเห็นเช่นนี้ รู้สึกหมดหนทางทำอะไรไม่ถูก

“ อันหราน ลูกเป็นอะไรหรือเปล่า อารมณ์ไม่ดีอีกแล้วเหรอ ลูกเดินแบบนี้ไม่กลัวจะล้มเหรอ”

“ คุณแม่ครับ ทำไมคุณแม่ถึงไปตอบตกลงรับปากซินหรานว่าจะให้เธอย้ายออกไปง่ายๆแบบนี้เหรอครับ ถ้าต่อจากนี้เธอยังถูกรังแกอีกจะทำอย่างไรดีครับ”

“ ซินหรานคิดถึงแม่ของเธอมาก ลูกเห็นไหมตอนที่เธอรู้ว่าแม่ของเธอมาเยี่ยม เธอมีความสุขแค่ไหน พวกเราไม่สามารถไปบังคับให้เธอทำในสิ่งที่เธอไม่อยากทำได้”

เวินหนิงรู้ว่าที่ลู่อันหรานมีอาการแบบนี้น่าจะเป็นเพราะเรื่องนี้ชัวน์ๆ จึงยื่นมือออกไปบีบแก้มขาวๆอ้วนๆของลู่อันหราน " นอกจากนั้น ไม่ใช่ว่าพวกเราจะหยุดการติดต่อกับเธอซะหน่อย ถ้าซินหรานถูกรังแกจริงๆ ลูกคิดว่าพวกเราจะนิ่งดูดายเหรอ "

“ งั้นโอเคครับ……”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลู่อันหรานถึงได้อารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย

หลังจากมองดูเวลาแล้ว พอดีว่าใกล้ถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว ลู่อันหรานคิดอยู่พักหนึ่ง " คุณแม่ครับ พวกเราไปหาคุณพ่อกันเถอะครับ ไม่รู้ว่าตอนนี้จะมีคนไปส่งอาหารให้คุณพ่อหรือยัง"

แม้ว่าฝั่งนู้นจะมีคนดูแลอยู่แล้วก็ตาม แต่เมื่อเวินหนิงได้ยินลู่อันหรานพูดแบบนี้ก็พยักหน้าตอบตกลง พอดีเลยว่ามีเรื่องอยากปรึกษากับเขาหน่อย

เมื่อเห็นว่าเวินหนิงไม่ได้ปฏิเสธลู่อันหรานรู้สึกมีความสุขเล็กน้อย ดูเหมือนว่าคุณพ่อกับคุณแม่พวกเขากลับมาคืนดีกันแล้วจริงๆ ซึ่งทำให้อารมณ์ที่หงุดหงิดของเขาเมื่อกี้ลดลงไม่น้อย

เวินหนิงกับลู่อันหรานให้คนไปส่งพวกเขาไปที่โรงพยาบาลที่ลู่จิ้นยวนอยู่

ทั้งสองคนไปซื้ออาหารของกินก่อนถึงได้ขึ้นไปชั้นบน

ลู่อันหรานกังวลว่าลู่จิ้นยวนอาจจะกำลังทำอะไรอยู่ แล้วจะบังเอิญจ๊ะเอ๋เข้า เลยจงใจพูดเสียงดังว่า " คุณแม่ครับ ไม่รู้ว่าคุณพ่อกำลังทำอะไรอยู่หนอ "

เมื่อเวินหนิงได้ยินเสียงที่ดังมากของลู่อันหราน สีหน้าของเธอดูจริงจังขึ้นมาทันที "อันหราน ที่นี่คือในโรงพยาบาล อย่าพูดเสียงดังขนาดนี้ เดียวมันจะเป็นการไปรบกวนคนอื่นเขา "

"คิก คิก แต่ชั้นนี้มีห้องผู้ป่วยของคุณพ่อเพียงห้องเดียว ผมไม่ได้ตั้งใจครับ ต่อไปนี้ผมจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วครับ "

เพราะลู่อันหรานเล่นกลอุบายนิดหน่อย ดังนั้นเขาจึงเชื่อฟังทันที

เวินหนิงเห็นเขายอมรับความผิดอย่างรวดเร็ว จึงไม่ได้พูดอะไรมาก

เดิมทีลู่จิ้นยวนที่กำลังดูเอกสารอยู่ เมื่อได้ยินเสียงของลู่อันหรานดังมาจากข้างนอก เขาจึงรีบเก็บของเอกสารที่อยู่ในมือลงทันที

ถ้าโดนเวินหนิงมาเห็นเข้า กลัวว่าเธอจะต้องโกรธมากแน่ๆ

เวินหนิงกับลู่อันหรานเดินเข้ามา เมื่อเห็นว่าลู่จิ้นยวนกำลังนั่งดูทีวีอยู่บนเตียง เวินหนิงได้แต่ยักไหล่ อืม ...

รู้สึกว่ามันน้อยมากเลยที่จะได้เห็นลู่จิ้นยวนแบบนี้ โดยปกติแล้วเธอไม่เคยได้เห็นว่าผู้ชายคนนี้จะมีความชอบอะไรเป็นพิเศษในเวลาว่าง

" ฉันพาอันหรานมาดูอาการคุณหน่อย "

เวินหนิงเดินเข้าไปแล้ววางอาหารเหล่านั้นลงบนโต๊ะที่อยู่ข้างๆเตียง จากนั้นจัดเก็บเอกสารที่วางไว้ข้างๆไปไว้อีกฝั่งหนึ่ง

เมื่อลู่อันหรานได้เห็นภาพนี้แล้วรู้สึกใจไม่ดียังไงไม่รู้ อย่างไรก็ตาม ที่ตอนนี้คุณแม่ของเขายอมอยู่ที่นี่ต่อก็เพราะคุณพ่อของเขาได้รับบาดเจ็บ ถ้าให้เธอรู้ความจริงแล้วล่ะก็ ...

ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น ... เฮ้อ ...

ในใจของลู่อันหรานเต็มไปด้วยครึ้มเครียด ดูเหมือนว่าผู้ใหญ่นั้นพูดถูก ถ้าพูดโกหกเรื่องหนึ่ง ต่อไปก็จะต้องพูดโกหกอีกเป็นร้อยเรื่องเพื่อปกปิดคำโกหกที่พูดไปให้สมบูรณ์แบบ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก